จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 530
ถึงจะใช้มือทั้งสองข้างปิดหน้า แต่ทว่าร่องนิ้วมือของเธอไม่ได้ชิดกัน เธอมองกู้หยุนหลันกับหลี่โม่ผ่านร่องนิ้วมือด้วยความอิจฉา
ถ้าคนที่อยู่บนเตียงกับพี่หลี่โม่เป็นเธอ จะดีแค่ไหนกันนะ น่าเสียดายที่เธอทำได้เพียงยืนมอง
เฉินเสี่ยวถงรู้สึกหดหู่ใจ เธอรู้สึกว่าตัวเองโชคไม่ดี ถ้าเจอพี่หลี่โม่ก่อนหน้านี้สักสองสามปี จะดีแค่ไหนกันนะ
หลี่โม่จ้องเฉินเสี่ยวถง เขาคิดว่าเธอจงใจเข้ามาทำลายบรรยากาศแน่ๆ!
กู้หยุนหลันอายจนหน้าแดง เธอผลักหลี่โม่ออกเต็มแรง และรีบลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างลุกลี้ลุกลน
“เอ่อ เมื่อกี้ เมื่อกี้พวกเราไม่ได้ทำอะไรกันนะ”
กู้หยุนหลันยิ่งพูดก็ยิ่งอาย เธอหันขวับไปมองหลี่โม่อย่างอดไม่ได้
หลี่โม่เอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้มอย่างจนปัญญา เขาแทบอยากจะผลักเฉินเสี่ยวถงออกไปข้างนอก
“เธอมีอะไร”
น้ำเสียงของหลี่โม่ฟังดูหงุดหงิด
เฉินเสี่ยวถงมองหลี่โม่อย่างน้อยใจ เธอเดินเข้าไปยืนข้างกู้หยุนหลัน เธอดึงแขนกู้หยุนหลันแล้วพูดว่า “พี่หยุนหลัน พี่หลี่โม่ดุฉัน”
หลี่โม่มองเฉินเสี่ยวถงที่ทำเป็นน่าสงสารอย่างพูดไม่ออก “เธอไม่ต้องมาแกล้งทำ คนที่เสียเปรียบคือฉันไม่ใช่เหรอ เธอจะทำเป็นน้อยใจอะไรขนาดนั้น”
“ฉันมารายงานข่าวให้พี่รู้ แต่พี่กลับดุฉัน ฮือๆๆๆ”
เฉินเสี่ยวถงโผเข้าหากู้หยุนหลัน และทำเป็นร้องห่มร้องไห้
กู้หยุนหลันตบหลังเฉินเสี่ยวถงเบาๆ เธอส่งสายตาให้หลี่โม่ เพื่อให้เขาพูดจาดีๆ
“หลี่โม่ อย่าดุเสี่ยวถงขนาดนั้นสิ เสี่ยวถงเข้ามาก็เพราะมีเรื่องจะบอกนายนี่นา”
“ผมว่าจงใจมาก่อกวนมากกว่า”
หลี่โม่พูดจบก็แบะปาก เขาไม่เชื่อว่าเฉินเสี่ยวถงจะมาบอกข่าวอะไร
“ฉันมาบอกข่าวจริงๆ ไม่เชื่อพี่ดูนี่สิ นี่คือบันทึกสนทนาตอนที่จางเต๋ออู่โทรหาฉัน เขาบอกว่าจะส่งราชาแห่งโจรมาขโมยของ แถมยังให้ฉันร่วมมือกับราชาแห่งโจรนั่นอีก ฉันไม่ใช่คนที่ลืมบุญคุณ พอได้ข่าวก็รีบมาบอกพี่เลย”
เฉินเสี่ยวถงพูดจบก็หยิบมือถือออกมา เธอให้หลี่โม่ดูบันทึกสนทนาอย่างละเอียด
เมื่อหลี่โม่ดูจบ เขาคิดไม่ถึงว่าเฉินเสี่ยวถงจะพูดความจริง เขาเข้าใจเธอผิดไปจริงๆ
หลี่โม่ไม่พูดอะไร เฉินเสี่ยวถงเชิดหน้าขึ้นอย่างได้ใจ “ว่าไงล่ะ ว่าไงล่ะ รู้หรือยังว่าฉันเป็นคนจิตใจดี”
“โอเค นับว่าเธอเป็นคนดี ว่ามาสิ พวกเธอคุยอะไรกัน”
เฉินเสี่ยวถงย่นปากยู่ และพูดอย่างไม่พอใจ “เรื่องที่พี่เข้าใจผิด ฉันจะไม่พูดแล้ว แต่ฉันช่วยพี่ขนาดนี้ พี่ต้องให้รางวัลฉันไม่ใช่เหรอ ไม่งั้นต่อไป ฉันจะไม่มีแรงขับเคลื่อนนะ”
“เธออยากได้อะไร หรือจะให้พี่หยุนหลันพาเธอไปชอปปิงพรุ่งนี้ ฉันจะจ่ายให้ทุกอย่าง”
หลี่โม่ยิ้มและเอ่ยขึ้น
เฉินเสี่ยวถงกลอกตามองบน หลี่โม่ไม่จริงใจเลยสักนิด
“ฉันไม่อยากชอปปิง หรือว่าพรุ่งนี้พี่จะโชว์ฝีมือทำอาหารให้ฉันกับพี่หยุนหลันทาน ยังไม่เคยทานอาหารฝีมือพี่เลย” เฉินเสี่ยวถงกลอกตาแล้วเอ่ยขึ้น
หลี่โม่พยักหน้าอย่างจนปัญญา “ไม่มีปัญหา พรุ่งนี้จะทำอาหารมื้อใหญ่ให้ทาน หมูเห็ดเป็ดไก่ เลือกได้เลยว่าจะทานอะไร ฉันจะทำให้เธอทาน”
“อิอิ เอาอย่างนี้แล้วกัน งั้นพรุ่งนี้เช้า เราไปตลาดกันนะ”
เฉินเสี่ยวถงดีใจจนหัวเราะออกมา จากนั้นจึงพูดว่า “ฉันบอกเขาว่าหยกมังกร วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งของพี่หยุนหลัน คืนนี้ราชาแห่งโจรจะต้องเข้ามาขโมยอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นพี่หลี่โม่ต้องปกป้องพวกเรา”
กู้หยุนหลันขมวดคิ้ว จากนั้นจึงพูดอย่างกังวลว่า “จะปล่อยไปแบบนี้เหรอ คืนนี้จะไม่เกิดเรื่องอะไรใช่ไหม”
“มีผมอยู่ ไม่มีอะไรแน่นอน พวกเธอสองคนนอนอยู่ในห้องตามปกติก็พอ”
หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“งั้นคืนนี้พี่ไม่มาอยู่ในห้องกับเราเหรอ ถ้าโจรนั่นเข้ามาเจอพวกเรา แล้วเกิดคิดบ้าๆ ขึ้นมา ฉันกับพี่หยุนหลันจะทำยังไงล่ะ”
เฉินเสี่ยวถงก็กังวลเป็นอย่างมาก เพราะการที่มีโจรเข้ามาตอนกลางคืน ถ้าเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ แน่นอนว่าต้องเป็นความทรงจำที่ไม่ดีอย่างแน่นอน
หลี่โม่หัวเราะแล้วพูดว่า “มันเข้ามาในห้องของพวกเธอไม่ได้หรอก พวกเธอวางใจได้เลย งั้นฉันออกไปก่อน”
หลี่โม่โบกมือสองที จากนั้นจึงหันหลังเดินออกไปจากห้อง
ความคิดที่อยากจะทำอะไรกับกู้หยุนหลันสิ้นสุดลงทันที ขืนอยู่ในห้องต่อไป ก็ทำให้หลี่โม่อยู่ไม่เป็นสุข ออกไปทำจิตใจให้สงบเสียยังจะดีกว่า
เมื่อเดินมาถึงหน้าต่างริมระเบียง หลี่โม่จุดบุหรี่ เขามองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นรถยนต์ MPV สองคันจอดอยู่ข้างล่างอาคาร
หลี่โม่เลิกคิ้วขึ้นและยกยิ้มมุมปาก
“ดูเหมือนว่าจะเป็นพวกมัน พาคนมาไม่น้อยเลยนี่ ดูสิว่าคืนนี้พวกแกจะมาไม้ไหน”
หลี่โม่พูดพึมพำ
ในขณะเดียวกัน หลิวเหล่าเจ๋ยมองประตูอาคารที่อยู่ไม่ไกลผ่านหน้าต่างรถยนต์
“ประตูเสียบการ์ดธรรมดาๆ ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับฉัน มีรูปบ้านของหลี่โม่ไหม”
อาหู่มองสมาชิกหน่วยรบที่อยู่ข้างๆ สมาชิกหน่วยรบหยิบมือถือออกมา เขาเปิดรูปแผนผังอาคาร
“มาร์คสีแดงคือที่อยู่ของหลี่โม่ เป็นโครงสร้างบ้านธรรมดาๆ”
หลิวเหล่าเจ๋ยเอามือถือมาดูอย่างละเอียด เขาซูมรูปแผนผังอาคารและดูลาดเลาทางเข้าออก
นี่เป็นนิสัยที่อยู่กับหลิวเหล่าเจ๋ยมาหลายปี เป็นคติประจำใจที่จะต้องดูทางเข้าออกก่อนที่จะขโมยอะไร นี่คือเหตุผลที่หลายปีมานี้หลิวเหล่าเจ๋ยไม่เคยโดนจับ
ช่วงเวลาคับขันหลายครั้งต่อหลายครั้ง หลิวเหล่าเจ๋ยมักจะหลบหนีออกมาได้ เพราะทางหนีทีไล่ที่เขาได้เตรียมมา
หลิวเหล่าเจ๋ยครุ่นคิด เขามีแผนอยู่ในใจ จากนั้นจึงคืนมือถือให้สมาชิกหน่วยรบ
“ไม่ค่อยยากเท่าไร เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ที่จะทำสำเร็จ ฉันว่าลงมือช่วงตีสองน่าจะเหมาะ อาหู่ นายว่าเราจะรอที่นี่ หรือจะออกไปหาอะไรทาน”
“รออยู่ที่นี่สิ ให้คนซื้ออาหารมาให้กินก็ได้ ถ้าเกิดหลี่โม่เอาของหนีไป ตอนที่เราออกไปหาอะไรกิน งานก็ล้มเหลวสิ”
อาหู่พูดจบก็เหลือบมองหลิวเหล่าเจ๋ย เขารู้สึกว่าหลิวเหล่าเจ๋ยไม่เป็นมืออาชีพเอาเสียเลย
หลิวเหล่าเจ๋ยหัวเราะอย่างกระอักกระอ่วน เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้ที่ปาก “เหอะๆ ฉันเป็นโจรจนเคยตัวน่ะ ไม่ได้จริงจังเหมือนอาหู่ วันนี้ถือว่าได้เปิดหูเปิดตา”
“หึหึ ต่อไปต้องใส่ใจกับระเบียบวินัยของหน่วย อย่าคิดว่าตัวเองเป็นโจรย่องเบาเหมือนแต่ก่อน มายืนยันเวลากันก่อน เริ่มลงมือตอนตีสอง”
อาหู่พูดอย่างจริงจัง
หลิวเหล่าเจ๋ยฝืนยิ้มออกมา เขาคิดว่าอาหู่ชอบทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ “โอเค ทำตามที่อาหู่บอก”