จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 531
ดวงจันทร์ลอยอยู่บนฟ้า ตอนตีสองก่อนรุ่งสาง ไอ้โจรหลิวเปิดประตูลงจากรถ MPV
เขาเดินย่องเบาๆ เหมือนแมวดาวที่กำลังสำรวจ และพุ่งตัวไปที่ประตูอาคารอย่างรวดเร็ว
เขาหยิบการ์ดสารพัดประโยชน์ที่ได้เตรียมเอาไว้ออกมา ไอ้โจรหลิวใช้สองนิ้วจับการ์ด และรูดมันลงบนประตูเบาๆ
ติ๊ด
เสียงสัญญาณประตูดังขึ้นหนึ่งครั้ง ประตูถูกเปิดออก ไอ้โจรหลิวเข้าไปในอาคารอย่างรวดเร็ว
อาหู่มองไอ้โจรหลิวเข้าไปในอาคารผ่านกระจกรถยนต์ เขาหรี่ตาและพูดว่า “ฝีมือของไอ้โจรนั่นไม่เลวเลย แต่ไม่ว่ายังไง พวกเราต้องเตรียมรับมือเอาไว้ด้วย ขืนมันทำพลาดขึ้นมา เราอาจจะต้องทำภารกิจให้สำเร็จแทนมัน”
“เฮียหู่ สั่งมาได้เลย เฮียว่ายังไง พวกเราก็ทำตามนั้น”
“หน่วยหนึ่ง หน่วยสอง ไปดูลาดเลาข้างหน้าและหลังอาคาร หน่วยสี่อยู่บนรถ หน่วยสามตามฉันเข้าไปในอาคาร ถ้าไอ้โจรหลิวทำพลาด ฉันจะพาหน่วยสามบุกเข้าไปทันที”
“ครับ!”
หน่วยรบแยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ ตามคำสั่งของอาหู่
อาหู่พาหน่วยสามทั้งสี่คน เดินเข้าไปในอาคารอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน ไอ้โจรหลิวใช้กุญแจมาสเตอร์คีย์ไขเข้าไปในห้อง เขาผลักประตูเข้าไปอย่างเบามือ
ประตูถูกแง้มออกเป็นช่อง พอให้ไอ้โจรหลิวสามารถสอดตัวเข้าไปได้ ไอ้โจรหลิวเอียงตัวผ่านประตูเข้ามาในห้อง จากนั้นจึงปิดประตูลงอย่างเบามือ
ไอ้โจรหลิวหลับตาลงสามวินาที จากนั้นจึงลืมตาขึ้น เขาปรับดวงตาให้เข้ากับแสงภายในห้อง
ภายในห้องมืดมาก แสงจันทร์ไม่สามารถส่องเข้ามาได้ เพราะถูกผ้าม่านบดบังเอาไว้ จึงทำให้ในห้องมืดมาก
ไอ้โจรหลิวเปิดไฟฉาย จากนั้นจึงส่องไปตรงทางเดิน สายตาของเขามองไปยังประตูห้องสุดท้าย
ขณะที่ไอ้โจรหลิวกำลังจะย่องเข้าไป เขารู้สึกถึงอะไรผิดปกติที่เท้า
เขารู้สึกถึงความเหนียวหนืดตรงเท้า ลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นในใจของเขา
เขาก้มหน้าและใช้ไฟฉายส่องไปที่เท้า เขาเห็นเมือกเหลวสีเกือบจะใส ใต้เท้าของตัวเอง
เขายกเท้าขวาขึ้นเบาๆ พื้นรองเท้าข้างขวามีของเหลวยืดขึ้นมาเป็นสาย มันคือสารคอลลอยด์ แค่เหยียบลงไปมันก็จะติดพื้นรองเท้า
ถ้ายืนอยู่กับที่โดยไม่ขยับไปไหน ผ่านไปสิบหรือยี่สิบกว่านาที พื้นรองเท้าจะติดกับสารที่อยู่บนพื้น
“ไอ้ฉิบหาย!”
ไอ้โจรหลิวสบถออกมา เขารีบถอดรองเท้า เหลือแต่ถุงเท้าและรีบเดินถอยหลัง
เป็นการซุ่มโจมตี!
ต้องเป็นการซุ่มโจมตีแน่!
บ้านคนปกติ จะมีอะไรแบบนี้ได้ยังไง เป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายรู้ว่าจะมีโจรมา จึงใช้ของแบบนี้มาป้องกันไว้
ไอ้โจรหลิวมองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง เขารู้สึกถึงความน่ากลัวที่แผ่ซ่านอยู่ในห้องรับแขก
เขาหยิบไฟฉายส่องซ้ายส่องขวา แต่ในห้องรับแขกไม่มีใครสักคน ไม่มีใครซุ่มโจมตีอยู่เลย
หรือว่าเขาคิดผิดไปเอง
ไอ้โจรหลิวสงสัยตัวเอง สุดท้ายเขาคิดว่าตัวเองไม่ได้คิดผิด
เป็นโจรมาหลายปี สัญชาตญาณของเขาเฉียบคม ไม่เคยผิดพลาด
ขณะที่ไอ้โจรหลิวกำลังสงสัย หลี่โม่โผล่เข้ามาข้างหลังไอ้โจรหลิวราวกับผีอย่างไรอย่างนั้น
“แกกำลังหาฉันอยู่เหรอ”
น้ำเสียงของหลี่โม่ดูยืดยาน มันฟังดูประหลาดเมื่ออยู่ท่ามกลางความมืด
ไอ้โจรหลิวขนลุกไปทั้งตัว เขาไม่ได้หันหลังไปมองทันที แต่ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว และหันหลังมามองจุดที่เขายืนเมื่อครู่
นี่เป็นประสบการณ์หลายปีของไอ้โจรหลิว ตอนที่มีเสียงประหลาดดังขึ้นข้างหลัง ถ้ารีบหันไปทันที ต้องเกิดเรื่องที่คาดไม่ถึงอย่างแน่นอน
แต่การที่ก้าวขึ้นไปข้างหน้า เพื่อเว้นระยะห่างแล้วค่อยหันหลังไปมอง คือวิธีที่ดีกว่า
ไอ้โจรหลิวหันหลังมามองหลี่โม่ เขารู้สึกขนลุกไปทั้งตัวและหนาวเหน็บไปถึงกระดูก หนาววาบตั้งแต่กระดูกสันหลังจนถึงหัว
ไอ้โจรหลิวสาบานได้เลย ว่าหลังจากที่เข้ามา เขาไม่เห็นใครอยู่ในห้องรับแขกเลย
แต่ทว่าตอนนี้ คนที่ราวกับผี มาโผล่อยู่ข้างหลังเขาได้อย่างไร
ไอ้โจรหลิว ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา “นาย นายเป็นผีหรือเปล่า”
“แกคิดว่าไงล่ะ”
หลี่โม่พูดยืดยาน จากนั้นเขาก็พุ่งเข้ามาข้างหน้าเหมือนผี พริบตาเดียวก็มาอยู่ตรงหน้าไอ้โจรหลิวแล้ว
ไอ้โจรหลิวตื่นตระหนก เขาทรุดฮวบลงตรงหน้าหลี่โม่
ในอดีต ไอ้โจรหลิวได้ยินเรื่องประหลาดมาไม่น้อย อีกทั้งเขายังเคยเจอเรื่องประหลาดด้วย
เมื่อเจอเรื่องที่ยากจะอธิบายเช่นนี้ ไอ้โจรหลิวคิดว่าการยอมแพ้คือทางออกที่ดี
“ไว้ชีวิตผมเถอะครับท่านเทพเจ้า!”
ไอ้โจรหลิวพูดเสียงต่ำ
การที่สามารถรู้ก่อนว่าตัวเองจะมา แถมยังจัดการเขาได้ง่ายขนาดนี้ ไอ้โจรหลิวคิดว่าหลี่โม่ ต้องเป็นท่านเทพเจ้าที่อยู่ในตำนานอย่างแน่นอน
ซีกแก้มของหลี่โม่กระตุก คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะโดนเรียกว่าท่านเทพเจ้า เดิมทีแค่อยากจะทำให้ไอ้โจรหลิวตกใจ แต่โจรเฒ่าที่อยู่ตรงหน้าเหมือนจะหวาดกลัวเกินไป
“ใครส่งแกมา มันส่งแกมาขโมยหยกมังกรใช่ไหม”
หลี่โม่พูดตามบทที่คิดเอาไว้
ไอ้โจรหลิวพยักหน้าอย่างตื่นกลัว “เอ่อ จางเต๋ออู่ส่งผมมา เขาต้องการให้ผมขโมยหยกมังกร คิดไม่ถึงว่าท่านเทพเจ้าจะรู้ด้วย”
“หึๆ ข้ารู้แล้วว่าจะเป็นแบบนี้ เลยให้โอกาสแกในคืนนี้”
หลี่โม่พูดจบ ตัวของเขาก็ลอยออกไป
ไอ้โจรหลิวมองร่างของหลี่โม่อย่างตกตะลึง เขามองตัวของหลี่โม่ที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ไปที่ห้องสุดท้าย จากนั้นร่างของหลี่โม่ก็หายไปตรงหน้าประตู แต่ทว่าประตูห้องนั้นกลับปิดสนิท
“โอ้ เป็นท่านเทพเจ้าจริงๆ!”
ไอ้โจรหลิวอุทานออกมา คิดว่าหลี่โม่น่าจะใช้กลพิเศษอะไรสักอย่าง เพื่อหายตัวเข้าไปในห้อง
ไอ้โจรหลิวหันไปทางที่หลี่โม่หายตัวไป และใช้หัวโขกพื้น ปากก็เอาแต่พูดให้หลี่โม่ไว้ชีวิตตัวเอง
“ท่านเทพเจ้าไว้ชีวิตผมเถอะครับ ผมผิดไปแล้ว แต่ผมจนปัญญาจริงๆ จางเต๋ออู่ให้ข้าวให้น้ำผม ผมจะไม่รับใช้เขาก็ไม่ได้ ดังนั้นคุณไว้ชีวิตผมด้วยเถอะครับ”
ขณะที่ไอ้โจรหลิวพูดไม่หยุด ร่างของหลี่โม่มาปรากฏตรงหน้าไอ้โจรหลิวอีกครั้ง
เมื่อเห็นหลี่โม่มาปรากฏตัวตรงหน้า ไอ้โจรหลิวยิ่งรู้สึกผิดบาปเข้าไปใหญ่
“ท่านเทพเจ้า ผมผิดไปแล้ว ได้โปรดให้อภัยผมด้วย ไว้ชีวิตไอ้หลิวคนนี้ด้วยเถอะ ผมจะไม่กลับมาอีก และจะไม่กลับไปหาจางเต๋ออู่ด้วย ท่านเทพเจ้าไว้ชีวิตผมเถอะครับ”
หลี่โม่ยกยิ้มมุมปากเบาๆ คิดไม่ถึงว่าแผนที่เขาคิดเอาไว้จะได้ผล จนทำให้ไอ้โจรหลิวกลัวได้ถึงขนาดนี้
“ฉันปล่อยแกไปแน่ แต่แกต้องกลับไปหาจางเต๋ออู่ เพราะฉันต้องการให้แกเอาหยกมังกรไปให้เขา ฉันต้องการทำเรื่องอะไรบางอย่างโดยผ่านเขา”
หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก