จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 533
เฉินเสี่ยวถงหลับตาและทำปากจู๋ เธอค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ปากของหลี่โม่ เพื่อที่จะขโมยจูบหลี่โม่
แต่เมื่อยืดคอจนสุด ตัวของเธอเริ่มเอียงไปข้างหน้า เฉินเสี่ยวถงยังไม่ทันได้จูบหลี่โม่
เฉินเสี่ยวถงรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง เธอจึงลืมตาขึ้น ตรงหน้ามีเพียงความว่างเปล่า ไม่มีร่องรอยของหลี่โม่เลย
“หา?”
เฉินเสี่ยวถงอุทานออกมาเบาๆ ใจของเธอวูบโหวง ในหัวของเธอมีเรื่องผีเต็มไปหมด
“ดึกขนาดนี้แล้วยังไม่นอน เธอละเมอหรือไง”
เสียงทุ้มของหลี่โม่ ดังขึ้นข้างหลังเฉินเสี่ยวถง
เฉินเสี่ยวถงตกใจจนยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดปาก เพื่อไม่ให้เสียงกรี๊ดดังออกมา
เธอค่อยๆ หันไปมองหลี่โม่ที่ยืนอยู่ข้างหลัง เฉินเสี่ยวถงนั่งลงกับพื้น
“หัวใจจะวาย! พี่หลี่โม่ใจร้าย!”
เฉินเสี่ยวถงเอามือตบหน้าอกตัวเอง แล้วพูดขึ้น
“เหอะๆ รีบกลับไปนอนเถอะ อย่าเอาแต่คิดไร้สาระ”
เมื่อเห็นหน้าตาไร้อารมณ์ของหลี่โม่ เฉินเสี่ยวถงย่นปากยู่ “ทำไมพี่ถึงรังเกียจขนาดนี้ ไม่คู่ควรกับฉันสักนิด ยอมเสนอตัวก็ไม่เอา”
“ถ้าทำอะไรเธอก็มีแต่เสียเปรียบ”
น้ำเสียงของหลี่โม่พูดเหมือนผ่านอะไรมาโชกโชน
เฉินเสี่ยวถงพูดอะไรไม่ออก เธอจ้องหลี่โม่และเดินฟึดฟัดกลับไปที่ห้อง
หลี่โม่ส่ายหัว และเอนตัวนอนลงบนโซฟาอีกครั้ง เขารู้สึกลำบากใจ ถ้ากู้หยุนหลันเป็นฝ่ายเริ่มก่อนแบบนี้บ้าง จะดีแค่ไหนกันนะ
เมื่อคิดถึงกู้หยุนหลัน ในใจของหลี่โม่ก็รุ่มร้อนขึ้นมา
เขาสะลึมสะลือและหลับไป จนฟ้าสว่าง
หลี่โม่บิดขี้เกียจและเดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ เจอกับเฉินเสี่ยวถงที่กำลังล้างหน้าอยู่พอดี
เฉินเสี่ยวถงย่นจมูกและถลึงตาใส่หลี่โม่
“รีบล้างหน้าสิ จะมาจ้องฉันทำไม”
หลี่โม่จงใจถามออกไปอย่างนั้น
“เชอะๆๆ เชอะ!”
เฉินเสี่ยวถงส่งเสียงฟึดฟัดออกมา และหลีกทางให้
“ฉันอยากกินขาหมูตุ๋น เห็ดตุ๋นไก่ เป็ดตุ๋นแปดอย่าง ลูกชิ้นหมูนึ่ง……”
เฉินเสี่ยวถงร่ายออกมาเป็นอย่างๆ เหมือนวันนี้จะทำให้หลี่โม่ลำบาก
คนที่กำลังแปรงฟันอย่างหลี่โม่ เอียงคอมองเฉินเสี่ยวถงอย่างประหลาดใจ
“เธอซ้อมอ่านรายการอาหารแต่เช้าหรือไง”
หลี่โม่พูด ทั้งๆ ที่ยังมีฟองยาสีฟันเต็มปาก
“นี่คืออาหารที่ฉันจะกินวันนี้ พี่พูดแล้วว่าจะทำอาหารให้ฉันกิน นี่ฉันยังพูดไม่จบนะ”
เฉินเสี่ยวถงทำเหมือนคุณหนูวายร้าย
หลี่โม่ไม่รู้จะพูดอะไรดี เหมือนเมื่อคืนจะรับปากเฉินเสี่ยวถงไปแล้ว ว่าจะทำอาหารให้กิน
แต่ยัยนี่สั่งอาหารเยอะเกินไปไหม!
“อย่าให้มาก เธอคนเดียวจะกินเยอะสักแค่ไหน ถ้าเธอกินหมด ฉันจะทำให้กิน แต่ถ้าเธอกินไม่หมด จะทำยังไง”
“กินไม่หมดก็เก็บไว้ในตู้เย็นสิ ไม่งั้นก็ห่อแล้วเอาไปให้คนอื่นก็ได้ ไม่ว่ายังไงฉันก็จะกิน”
เฉินเสี่ยวถงทุ่มสุดตัว เมื่อวานขโมยจูบหลี่โม่ไม่ได้ ทำให้เธอนอนไม่หลับทั้งคืน
“พี่ดูสิ ฉันโมโหจนนอนไม่หลับทั้งคืน ขอบตาดำหมดแล้ว!”
“เอ่อ จริงจังหน่อยได้ไหม ถ้าเธอยังไม่มีเหตุผลอีก ฉันจะให้คางเหวินซิงมาพาเธอไป”
หลี่โม่ใช้ไม้ตาย
เฉินเสี่ยวถงกลัวขึ้นมา เธอแบะปากมองหลี่โม่อย่างน้อยใจ
“พี่เอาแต่ขู่ฉัน ฉันไปหาพี่หยุนหลันดีกว่า เมื่อคืนเราคุยกันว่าจะไปวัด ไม่พาพี่ไปด้วยหรอก”
เฉินเสี่ยวถงพูดจบ ก็แลบลิ้นปลิ้นตาใส่หลี่โม่ และหันหลังวิ่งออกจากห้องน้ำ
หลี่โม่ส่ายหน้า ไม่ได้สนใจคำพูดของเฉินเสี่ยวถง
หลังจากที่ล้างหน้าล้างตาเสร็จ หลี่โม่เดินกลับมาที่ห้องรับแขก เห็นกู้หยุนหลันกำลังซุบซิบกับเฉินเสี่ยวถง
“คุณสามี เดี๋ยวฉันจะไปไหว้พระที่วัดหลิงซานกับเสี่ยวถง ได้ยินว่าที่นั่นศักดิ์สิทธิ์มาก ฉันจะไปอธิษฐานให้ครอบครัวเรา”
กู้หยุนหลันพูดอย่างจริงจัง
หลี่โม่เกาหัว เรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลี่โม่ไม่ได้เลื่อมใสอะไร และไม่เชื่อแม้แต่น้อย
แต่ว่ากู้หยุนหลันจะไป เขาจึงไม่อยากทำลายความตั้งใจของเธอ
“ทำไมจู่ๆ ถึงอยากไปไหว้พระล่ะ ไปด้วยกันสิ ผมไม่มีอะไรทำด้วย”
“ก็เพราะช่วงนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย แถมยังเป็นเรื่องดีอีกด้วย ฉันรู้สึกไม่สบายใจ เลยอยากไปไหว้พระสักหน่อย”
กู้หยุนหลันรู้สึกว่าทำอะไรก็สมปรารถนา ไม่แน่ช่วงนี้อาจจะดวงดีเกินไป ต่อไปอาจจะเจอภัยพิบัติก็ได้ ไปจุดธูปไหว้พระ อย่างน้อยก็ทำให้สบายใจ
เฉินเสี่ยวถงย่นจมูกแล้วพูดว่า “ฉันไปกับพี่หยุนหลัน ไม่พาพี่ไปด้วยหรอก พี่อยู่ทำกับข้าวให้เราที่บ้านก็พอ”
“นายอยู่บ้าน พักผ่อนเถอะ ฉันไปวัดกับเสี่ยวถงได้”
กู้หยุนหลันยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น
หลี่โม่พยักหน้าเบาๆ “ก็ได้ งั้นระวังด้วย มีเรื่องอะไรให้รีบโทรหาผม”
“วางใจเถอะ ไม่มีเรื่องอะไรหรอก พี่อยู่บ้านทำกับข้าวเถอะ ฉันอยากกินลูกชิ้นสี่มงคล ปลากระรอกทอดเปรี้ยวหวาน เนื้อผัดผักชี ส่วนอาหารจานผักอื่นๆ พี่ก็เอามาอีกสักสองสามอย่างละกัน พี่ไม่มีอะไรจะพูดแล้วใช่ไหม”
เฉินเสี่ยวถงเชิดหน้าอย่างได้ใจ และหันไปแลบลิ้น ท่าทางของเธอน่ารักมาก
หลี่โม่เลิกคิ้วขึ้น จากนั้นจึงยิ้มแล้วพูดว่า “ได้ ในเมื่อเธอสั่งมาแล้ว งั้นฉันจะทำอาหารที่เธอสั่ง รอพวกเธอกลับมาทานตอนเที่ยง”
“อืม ลำบากคุณสามีแล้ว งั้นพวกเราไปก่อนนะ เจอกันตอนเที่ยง”
กู้หยุนหลันโบกมือให้หลี่โม่ และควงแขนเฉินเสี่ยวถงออกจากบ้าน
หลี่โม่มองทั้งสองคนเดินออกไป เขาหรี่ตาลง “ไปกับเฉินเสี่ยวถง จะให้ไปกันสองคนได้ไง”
หลี่โม่ยิ่งคิดยิ่งไม่สบายใจ เพราะเฉินเสี่ยวถงไม่ใช่คนธรรมดา ถึงเธอจะแสดงออกว่าอยู่ข้างหลี่โม่ แต่ใครจะไปรู้ว่าเธอแสร้งทำหรือเปล่า
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลี่โม่หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาคางเหวินซิง และให้คางเหวินซิงขับรถมารับเขา
เมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จ หลี่โม่รีบออกจากบ้าน และยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างทาง เขาครุ่นคิดถึงบทบาทที่เฉินเสี่ยวถงแสดงออกมา
ขณะที่หลี่โม่กำลังคิด มือถือของเขาสั่นขึ้น หลี่โม่หยิบมือถือขึ้นมาดูข้อความที่เฉินเสี่ยวถงส่งมา
เฉินเสี่ยวถง: ไม่ต้องกังวลนะพี่หลี่โม่ ที่ไม่พาพี่มาวัดหลิงซาน เป็นความคิดของพี่หยุนหลัน ฉันไม่ได้คะยั้นคะยอให้พี่หยุนหลันไปวัดหลิงซาน พี่ไม่ต้องสงสัยฉันนะ
หลี่โม่อ่านจบก็ลังเลเล็กน้อย เขาพิมพ์ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
หลี่โม่: ทำไมจู่ๆ หยุนหลันถึงไปวัดหลิงซาน อย่าบอกว่าเธอไม่รู้
เฉินเสี่ยวถง: ฉันไม่แน่ใจ เหมือนเพื่อนของพี่หยุนหลัน แนะนำปรมาจารย์ท่านหนึ่งให้ ปรมาจารย์ท่านนั้นเป็นพระที่วัดหลิงซาน วันนี้พี่หยุนหลันนัดกับพระท่านนั้นเอาไว้
หลี่โม่ยิ่งอ่านยิ่งสงสัย ทำไมจู่ๆ ถึงพูดเรื่องพระที่วัดหลิงซานขึ้นมาล่ะ
แถมหลี่โม่ยังรู้สึกรางๆ ว่ามีกลิ่นสมคบคิดอยู่ในเรื่องนี้