จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 539
“ค่อยว่ากันเรื่องแข่งรถ รอดูว่าจะว่างหรือเปล่า ถ้าว่างก็ไปแข่งได้”
หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
คางเหวินซิงดีใจเป็นอย่างมาก นี่เป็นการตอบตกลงกลายๆ สำหรับเรื่องเวลาว่าง นั่นเป็นเรื่องที่เราต้องจัดการ ถ้าหลี่โม่มีเรื่องอะไร คางเหวินซิงคิดว่าตัวเองจะรับผิดชอบทำเอง
“ครับ ยังเหลือเวลาอีกสักพัก ไม่รีบครับๆ”
คางเหวินซิงขับรถอย่างมีความสุข ความเร็วของรถพุ่งทะยานอย่างไม่รู้ตัว
เสียงมือถือดังขึ้น หลี่โม่หยิบมือถือขึ้นมาดู จากนั้นจึงกดรับสาย
“คุณหลี่ ผมเลือกสถานที่เรียบร้อยแล้ว ที่ภูเขาเซียนถายแถวชานเมือง ไปแลกตัวกับพวกเขา สองทุ่มคืนนี้”
ฉู่จงเทียนพูดเสียงสูง
เรื่องเกี่ยวกับชีวิตของฉู่ฟางเฉิง ลูกชายของฉู่จงเทียน ทำให้ฉู่จงเทียนกังวล จนพูดเสียงสูงออกมา
หลี่โม่พูดเนิบๆ “อืม เข้าใจแล้ว คืนนี้ฉันจะไปที่ ภูเขาเซียนถาย ส่วนนายก็เตรียมตัวได้ อย่าประมาท”
“วางใจได้เลยครับคุณหลี่ ผมจะไม่ประมาทอย่างแน่นอน ผมส่งคนไปจัดการที่ ภูเขาเซียนถายแล้ว คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่สามารถเข้าไปได้ครับ”
“งั้นก็ดี นายตรวจสอบกับอีกฝ่ายให้แน่ใจก็โอเคแล้ว คืนนี้เจอกัน”
เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณวางสายจากอีกฝ่าย ฉู่จงเทียนพรูลมหายใจออกมา
มีอำนาจของหลี่โม่อยู่ ฉู่จงเทียนจึงเบาใจลงมาก
เพราะต้องเผชิญกับคนมีอำนาจในต่างแดน งานแข่งมวยดำสากลแค่หมากตัวหนึ่งของพวกมัน เมื่อเทียบกับยักษ์ใหญ่เช่นนั้น อำนาจที่ฉู่จงเทียนมีอยู่ยังเทียบกับหมัดตัวเล็กไม่ได้เลย
เมื่อสั่งการให้รอบคอบกับฝ่ายตรงข้าม ฉู่จงเทียนโบกมือไปมา ให้ลูกน้องแยกย้าย
หลังจากลูกน้องรับคำสั่ง ต่างพากันแยกย้ายไปทำตามคำสั่งของฉู่จงเทียน
ฉู่จงเทียนเดินเข้าไปหาทอมป์สัน เขาพูดด้วยสีหน้าเยือกเย็นว่า “คืนนี้จะทำการแลกตัว นายโทรบอกสถานที่กับฝั่งนั้นได้”
ลูกน้องเอามือถือของทอมป์สันมา ฉู่จงเทียนยื่นมือถือให้ทอมป์สัน “ฉันหวังว่านายจะไม่เล่นตุกติก”
“ฉันจะเล่นตุกติกได้ยังไง นี่มันเกี่ยวกับชีวิตของฉัน ฉันจะติดต่อลอดรูว์เหมือนเดิม นายวางใจได้เลย”
ทอมป์สันพูดจบ ก็กดโทรหาลอดรูว์
“ฮัลโหล ลอดรูว์ พวกนายเตรียมตัวเดินทางหรือยัง เขานัดสถานที่แล้ว จะแลกตัวกันบนภูเขาเซียนถายนอกชานเมืองฮ่าน”
“ภูเขาเซียนถาย โอเค ฉันจำได้แล้ว อีกเดี๋ยวเราจะออกเดินทาง หน่วยหลักให้ฉันใช้เครื่องบิน Gulfstream ลำใหม่ล่าสุด เพื่อไปแลกตัวนาย”
ลอดรูว์พูดอย่างลุกลี้ลุกลน เขามองเหตุการณ์ข้างในห้อง ผ่านหน้าต่างทรงกลมที่อยู่ข้างหน้า
ภายในห้องตกแต่งอย่างอบอุ่น เต็มไปด้วยความรู้สึกของครอบครัว
ตอนนี้ฉู่ฟางเฉิงกำลังนั่งเอนอยู่บนเก้าอี้นวดแบบชั้น First Class เขาหลับตา คิ้วขมวดเล็กน้อย มือทั้งสองข้างกำที่วางแขนบนเก้าอี้เอาไว้แน่น
ตอนนี้เหมือนฉู่ฟางเฉิงกำลังฝันร้าย ราวกับเขากำลังเคร่งเครียด
ชายแก่ผิวขาว ยืนอยู่ข้างฉู่ฟางเฉิงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ปากก็เอาแต่พูดพึมพำไม่หยุด
“ นายคือโอรสสวรรค์ นายต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพระเจ้า พระเจ้าจะอยู่ในใจของนาย ท่านจะคอยเตือนนาย หลี่โม่คือปีศาจที่ซาตานส่งมาสร้างความวุ่นวายบนโลกมนุษย์ นายต้องแฝงตัวอยู่ข้างกายของเขา เพื่อเตรียมการให้พระเจ้ากำจัดเขา”
มือของฉู่ฟางเฉิงทั้งสองข้างจิกลงไปบนโซฟา เล็บของเขาขูดกับหนังบนเก้าอี้ จนเป็นรอยลึก
เมื่อเห็นสีหน้าของฉู่ฟางเฉิงโหดเหี้ยมขึ้นมา ชายแก่ผิวขาวยิ้มอย่างพอใจ
การสะกดจิตให้ทำตามประสบความสำเร็จ ในจิตใต้สำนึกของฉู่ฟางเฉิง เขาคือโอรสสวรรค์ที่พระเจ้าส่งมายังโลกมนุษย์ เพื่อกำจัดปีศาจร้ายอย่างหลี่โม่
ต่อไปสามารถใช้ผู้ส่งสารของพระเจ้าเป็นสัญญาณลับ เพื่อเปิดจิตใต้สำนึกของฉู่ฟางเฉิง และควบคุมเขาให้ทำตามคำสั่ง
ก่อนที่จิตใต้สำนึกยังไม่ถูกเปิดออก ฉู่ฟางเฉิงยังคงเหมือนคนปกติ โดยไม่มีพิรุธอะไรแม้แต่น้อย
เมื่อทำสำเร็จ ชายแก่ผิวขาวยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบ รอให้สีหน้าของฉู่ฟางเฉิงสงบลง ชายแก่ผิวขาวยิ้มและดีดนิ้ว
เสียงดีดนิ้วปลุกฉู่ฟางเฉิงให้ตื่นขึ้นมา
ฉู่ฟางเฉิงดีดตัวขึ้นนั่ง เขามองไปรอบๆ ด้วยสายตาหวาดกลัว
เมื่อเห็นว่ารอบๆ เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่น ฉู่ฟางเฉิงจึงเอนตัวพิงเก้าอี้อย่างช้าๆ เขายกมือขวาขึ้นมานวดหัวคิ้ว
“นายเป็นคนดี ช่วงนี้นายได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ฉันหวังว่านายจะฟื้นฟูจิตใจได้ ความมืดผ่านพ้นไปแล้ว แสงสว่างกำลังรอนายอยู่ ชายแก่ผิวขาวเริ่มพูดให้กำลังใจฉู่ฟางเฉิง”
ฉู่ฟางเฉิงเอามือที่นวดหัวคิ้วลง เขาพยายามยิ้ม “ผมจะพยายาม ขอบคุณคุณหมอที่ช่วย ผมคิดว่า ผมคิดว่าขนาดจะนอน ยังรู้สึกไม่สบายใจ”
“ฮ่าๆๆ”
ชายแก่ผิวขาวยื่นมือมาจับผมฉู่ฟางเฉิง
“โอเค มันผ่านไปแล้ว เรามาดูอนาคตกันดีกว่า ลอดรูว์สัญญากับฉันว่าวันนี้จะส่งนายกลับไป คืนนี้นายจะได้กลับบ้าน กลับไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับพ่อของนาย”
ฉู่ฟางเฉิงซาบซึ้งใจ ช่วงที่ผ่านมา เขาโดนกักตัวจนรู้สึกหวาดกลัว วันนี้ถือว่าได้ฟังข่าวดีแล้ว
“ขอบคุณครับหมอ ผมคิดถึงบ้านมาก อยากกลับไปเจอพ่อมาก ผมอยากเจอเขา คืนนี้ผมจะได้เจอเขาจริงๆ ใช่ไหม ผมหมายถึงเจอตัวเป็นๆ ไม่ได้เจอในฝัน”
ฉู่ฟางเฉิงดูเหมือนยังไม่เชื่อคำพูดของชายแก่ผิวขาว เพราะเขาโดนกักตัวเป็นเวลานาน
ในระยะเวลานั้น ฉู่ฟางเฉิงลองใช้สารพัดวิธี ในการหลบหนีออกมา แต่เขาไม่เคยทำสำเร็จ
จู่ๆ ก็มีข่าวดี ทำให้เขารู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
“ฮ่าๆ ดูเหมือนนายยังมีแผลในใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันจะเบาบางลง เมื่อกลับไป นายจะดีขึ้น ฉันรับรองว่าพวกเขาจะส่งนายกลับไป”
“ขอบคุณจริงๆ ครับ”
ฉู่ฟางเฉิงพูดไป น้ำตาก็ไหลออกมาเป็นทาง
“โอเค นี่เวลาก็พอสมควรแล้ว นายควรไปกับลอดรูว์แล้ว นั่งเครื่องบินกลับไปที่บ้านเกิดของนาย”
ชายแก่ผิวขาวพูดจบ ก็ชี้ไปทางประตู เพื่อบอกให้ฉู่ฟางเฉิงออกไปได้
ฉู่ฟางเฉิงเช็ดน้ำตาตรงหางตา เขาตั้งสติ จากนั้นจึงยืนขึ้นและเดินออกไป
เมื่อออกมา ฉู่ฟางเฉิงมองลอดรูว์อย่างหวาดกลัว
“หมอบอกว่าคุณจะส่งผมกลับเมืองฮ่าน จริงหรือเปล่าครับ”
“จริงสิ จะเลี้ยงนายไว้ทำไมกันล่ะ”