จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 540
ฉู่ฟางเฉิงดีใจจนกระโดดโลดเต้น คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะมาถึง
“ผม ผมไม่อยู่ให้คุณเลี้ยงหรอกครับ ผมจะกลับบ้าน ผมคิดถึงบ้านเหลือเกิน ต่อไปผมจะไม่มาที่นี่อีก!”
ลอดรูว์เลิกคิ้วขึ้น เขายิ้มแล้วพูดว่า “นายมันเด็กอ่อนต่อโลก ที่นี่ดีมาก ทันสมัยกว่าที่นายอยู่ตั้งเยอะ ช่างเถอะ ขี้เกียจพูดไร้สาระกับนายแล้ว เราควรไปสนามบินแล้ว”
“ครับๆ แต่ผมยังไม่ได้เก็บของที่นั่นเลย”
“มีของอะไรต้องเก็บ ของเน่าๆ พวกนั้นโดนเผาหมดแล้ว หรือนายจะไม่กลับไปก็ได้นะ”
ลอดรูว์มองฉู่ฟางเฉิงด้วยสายตาเย็นชา
ฉู่ฟางเฉิงขนลุก เขารีบโบกมือพัลวัน “ไม่ครับๆ ผมไม่เอาของพวกนั้นแล้ว ผมจะกลับบ้าน!”
ลอดรูว์ตบลงบนบ่าของฉู่ฟางเฉิง จนตัวของฉู่ฟางเฉิงสั่นไปหมด
“นี่สิถึงจะถูก รีบไปกับฉันเถอะ ไม่งั้นจะไม่ทันนะ”
ลอดรูว์ลากฉู่ฟางเฉิงออกมา จากนั้นจึงขึ้นรถ มุ่งหน้าไปยังสนามบิน
ต้องถึงเมืองฮ่านก่อนหนึ่งทุ่ม บินข้ามประเทศโดยไม่พักเครื่อง
ถึงจะนั่งเครื่องบิน Gulfstream ที่เร็วกว่าเสียง ยังไงก็ต้องใช้เวลาหกชั่วโมงกว่า ลอดรูว์จึงคิดว่าต้องทำเวลา
หน่วยรบที่ 11 รวมตัวอยู่ที่สนามบินแล้ว เมื่อเห็นลอดรูว์ หัวหน้าหน่วยรบอย่างวอลเลซ เดินเข้ามาจับมือกับลอดรูว์
“ผมวอลเลซ หัวหน้าหน่วยรบที่ 11 ตามคำแนะนำข้างต้น เราได้รับมอบหมายให้คุณเป็นผู้บังคับบัญชาชั่วคราว แต่ผมหวังว่าคุณจะไม่ใช่ผู้บัญชาการที่ไม่มีสมอง หากคุณทำผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ผมจะกีดกันคำสั่งของคุณ”
วอลเลซพูดอย่างไร้ความเกรงใจ วอลเลซคิดว่าลอดรูว์ ไม่มีความสามารถในการควบคุมการต่อสู้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อใจลอดรูว์สักนิด
ลอดรูว์ยักไหล่ เขายิ้มและพูดว่า “คำสั่งในการต่อสู้หลักๆ ผมจะไม่เข้าไปก้าวก่าย ผมจะบอกว่าคุณควรจัดการใครตอนไหน เรื่องที่จะทำอย่างไร เป็นเรื่องของพวกคุณ”
“ดี หวังว่าจะเป็นอย่างที่คุณพูด”
วอลเลซพูดจบก็หันหลังเดินไป เขาโบกมือให้เหล่าลูกน้องที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาต สมาชิกหน่วยรบที่ 11 เดินขึ้นเครื่องบินอย่างเป็นระเบียบ
ฉู่ฟางเฉิงยืนมองอยู่อีกด้าน ด้วยความหวาดกลัว ขาของเขาสั่น “จะส่งผมกลับไปไม่ใช่เหรอ ทำไมมีหน่วยรบพร้อมอาวุธครบมือด้วยล่ะ”
“ส่งนายกลับไปแค่ทางผ่าน นายคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ จนสามารถนั่งเครื่องบินส่วนตัวได้เชียวหรือ” ลอดรูว์พูดเยาะเย้ย
“อ๋อ ดีแล้วที่ผมไม่เกี่ยว”
ฉู่ฟางเฉิงตกใจมาก เขาหวาดกลัวสิ่งที่ต้องเผชิญในอนาคต
“ขึ้นเครื่องบินได้แล้ว ยืนอึ้งอะไรอยู่ จะให้ฉันอุ้มขึ้นไปไหม”
ฉู่ฟางเฉิงหลุดออกจากภวังค์ และรีบเดินไปที่บันไดขึ้นเครื่องบิน
ลอดรูว์เดินตามขึ้นไป ไม่นานเครื่องบิน Gulfstream ลำใหม่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า มุ่งหน้าผ่านมหาสมุทรไปยังเมืองฮ่าน
……
หัวหน้าจางยกกาแฟขึ้นจิบ เขาอดหลับอดนอน เพื่อหาตัวคนที่แอบอ้างเป็นพนักงานซ่อมบำรุงที่ชื่อหยางเซิน
ขอบตาของเขาคล้ำและบวมเป่ง หัวหน้าจางที่อดหลับอดนอน มองลูกน้องที่กำลังหัวหมุน “ยังไม่ได้เรื่องเหรอ”
“เริ่มได้เรื่องแล้วครับ จากที่เราเดินเท้าสำรวจ เรื่องเกิดขึ้นช่วงเที่ยง คนที่แอบอ้างเป็นหยางเซิน กลับไปยังที่พัก คนข้างห้องบอกว่า เห็นหยางเซินกลับมาที่ห้อง ไม่นานก็เห็นคนในชุดดำ สวมหมวกแก๊ป ออกมาจากห้องของหยางเซิน”
“เราไปตรวจดูกล้องวงจรปิดจากเบาะแสที่ได้ ในกล้องวงจรปิดเห็นคนชุดดำเข้าไปในตัวเมืองเป็นครั้งสุดท้าย และหายตัวไปในคลับแห่งหนึ่งที่อยู่ในตัวเมือง ตอนนี้กำลังให้คนไปตรวจสอบคลับแห่งนั้นอย่างละเอียด”
หัวหน้าจางขมวดคิ้ว เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ “ได้เทียบลักษณะภายนอก ของคนที่ออกมาจากห้องของหยางเซินหรือเปล่า”
“เลือกเปรียบเทียบแล้วครับ คนในชุดดำกับคนที่แอบอ้างเป็นหยางเซิน ลักษณะแตกต่างกันมาก ส่วนเรื่องใบหน้า กล้องวงจรปิดไม่สามารถจับภาพใบหน้าของเขาได้ เราสันนิษฐานว่า อีกฝ่ายพรางตัวมาอย่างดี อีกทั้งยังเชี่ยวชาญเรื่องการสอดแนม”
หัวหน้าจางได้ฟังก็ยิ่งใจหาย นี่มันคนมีฝีมือชัดๆ ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน เมื่อเอาเรื่องมาปะติดปะต่อกัน อีกฝ่ายน่าจะไม่ใช่คนแค่คนสนับสนุนธรรมดา น่าจะแบกรับภารกิจสำคัญเอาไว้ด้วย
หลังจากที่เผยพิรุธเอาไว้ อีกฝ่ายไม่เพียงแต่จะไม่หนี แถมยังกลับไปในตัวเมือง นี่ทำให้หัวหน้าจางคิดว่า ไม่แน่อีกฝ่ายอาจจะรีบไปหาหลี่โม่!
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หัวหน้าจางหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาหลี่โม่ เขาคิดว่าควรรายงานเรื่องนี้กับหลี่โม่
“คุณหลี่ ผมหัวหน้าจาง”
“อืม สวัสดีหัวหน้าจาง มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
หัวหน้าจางพูดด้วยเสียงทุ้ม “มีเรื่องนิดหน่อยครับ คนที่แอบอ้างเป็นพนักงานซ่อมบำรุง หนีกลับไปในตัวเมือง เขาหายตัวไปในคลับแห่งหนึ่งบริเวณตัวเมือง”
“ผมคิดว่าเขาอาจจะแบกรับภารกิจสำคัญ อาจจะพุ่งเป้าไปที่คุณ เพราะฉะนั้นผมอยากส่งคนไปคุ้มกันคุณ เพื่อป้องกันเหตุร้าย”
หลี่โม่หัวเราะ “ขอบคุณความหวังดีของหัวหน้าจาง แต่ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหรอก ผมจะระวังตัว”
คืนนี้ต้องไปแลกตัวลูกชายของฉู่จงเทียนกลับมา จะให้สายตรวจตามไปที่นั่นได้อย่างไร ดังนั้นหลี่โม่จึงปฏิเสธหัวหน้าจาง
หัวหน้าจางเกาหัว “ถ้าคุณรู้สึกว่าการคุ้มกันอย่างใกล้ชิด ทำให้คุณไม่สะดวก ผมจะสั่งให้คนคอยตามอยู่ห่างๆ ถ้าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมา จะได้มีคนคอยรับมือ ลดความเสี่ยงที่คุณต้องเจอ”
“ไม่ต้องหรอก ผมจะจัดการเอง ถ้าเขากล้ามา ก็เท่ากับเข้ามาในกับดัก”
หลี่โม่พูดจบ ก็ครุ่นคิดคำพูดของหัวหน้าจาง เขาคิดว่าบางทีค่อยถามทอมป์สัน ก่อนที่จะแลกตัวประกัน น่าจะรู้ว่าอีกฝ่ายมีแผนอะไร
เมื่อเห็นว่าหลี่โม่ไม่เป็นเดือดเป็นร้อน หัวหน้าจางจึงยอมแพ้ เขาวางสาย หลังจากที่กำชับให้หลี่โม่ระวังตัว
หลี่โม่หยิบมือถือขึ้นมาอ่านข้อความในวีแชท
เฉินเสี่ยวถง: พี่หลี่โม่ไปไหน ทำไมถึงไม่ทำกับข้าวอยู่ที่บ้าน ฉันหิวจนท้องร้องไปหมดแล้ว!
หลี่โม่กุมขมับ เขาเพิ่งนึกได้ว่าต้องทำกับข้าว เขายิ้มแห้ง และส่งข้อความเสียงตอบกลับเฉินเสี่ยวถง
“มีเรื่องเข้ามากะทันหัน วันนี้คงทำอาหารไม่ได้แล้ว เดี๋ยวฉันจะซื้ออาหารกลับไปให้พวกเธอ”
หลังจากที่ส่งข้อความเสร็จ หลี่โม่ส่งสัญญาณมือให้คางเหวินซิงวนรถกลับ “ขับกลับไปสั่งอาหารที่กวนเหลินกัง”