จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 552
กู้เจี้ยนกั๋วและกู้เจี้ยนเจียงพึมพำด้วยเสียงต่ำ ต่อจากนั้นตัดสินใจไปหาคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ ก็รอในช่วงเวลาที่สำคัญของการอยู่รอดไปตลอดหรือว่าล่มสลาย จำเป็นต้องให้คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ออกหน้าเองแล้ว
หลังจากที่ทั้งสองคนปรึกษาหารือกัน ก็เร่งรีบไปที่พักอาศัยของคุณปู่กู้
คุณปู่กู้ที่กำลังนอนอยู่บนเก้าอี้โยก ฟังการเล่าเรื่องของวิทยุที่อุ้มอยู่ เมื่อเห็นลูกชายสองคนของตัวเองเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ และตระหนักในทันทีว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
“เจี้ยนกั๋ว เจี้ยนเจียง พวกลูกมาพ่อมีเรื่องอะไรใช่มั้ย? มีเรื่องอะไรก็พูดตรงๆ”
สีหน้าท่าทางของคุณปู่กู้คือฉันมองพวกแกออกแล้ว
กู้เจี้ยนกั๋วยิ้มแห้งๆสองครั้ง “แฮะๆ เป็นพ่อที่รู้ใจลูกจริงๆ พ่อครับพ่อพูดถูกจริงๆ พวกเรามีปัญหายากที่แก้ไขไม่ได้จริงๆ ต้องเชิญผู้ใหญ่อย่างพ่อออกหน้าเองถึงจะได้”
“เชิญฉันออกหน้าเองเหรอ? ฉันก็ทำได้เพียงแค่จัดการดูแลเรื่องราวในบ้านเท่านั้นเอง เรื่องจัดการบริหารฉันจัดการไม่ได้นะ”
คุณปู่กู้หลับตาลง
“ก็เป็นเรื่องในบ้าน ก่อนหน้านี้ ก่อนหน้านี้บ้านพี่รองถอนตัวออกจากบริษัทในตระกูลไม่ใช่เหรอ ผมและเจ้าสามใช้เงินหนึ่งล้านซื้อหุ้นในมือของพวกเขากลับคืนมาแล้ว ต่อจากนั้นกู้หยุนหลันก็ลาออกจากบริษัท เรื่องราวเหล่านี้ พ่อก็รู้ทั้งหมดแล้ว”
“อือ ฉันรู้จริงๆ เรื่องนี้พวกแกทำได้ไม่ผิด สามารถให้บ้านพี่รองหนึ่งล้าน ถือได้ว่าทำดีที่สุดแล้วสำหรับทั้งครอบครัวของเจี้ยนหมินพวกเขา”
คุณปู่กู้รู้สึกไม่พอใจต่อทั้งครอบครัวของกู้เจี้ยนหมินมานานแล้ว ก็ย่อมมีความสุขเป็นธรรมดาที่เห็นพวกเขาถอนตัวออกจากกิจการของตระกูลกู้
กู้เจี้ยนกั๋วมองไปที่กู้เจี้ยนเจียงอย่างลำบากใจแวบหนึ่ง บุ้ยปาก ส่งสัญญาณให้กู้เจี้ยนเจียงพูดต่อ
“พ่อครับ เรื่องงานที่กู้หยุนหลันเคยรับผิดชอบเมื่อก่อนนี้ หลังจากที่เธอลาออก ผู้ซื้อเดิมเหล่านั้น ก็ทยอยยกเลิกการสั่งซื้อสินค้า ตอนนี้สถานการณ์การจัดการบริหารบริษัทยิ่งอยู่ยิ่งเลวร้ายลงทุกที และกู้หยุนหลันกลับวิ่งไปเป็นประธานของหยุนจงหลันกรุ๊ปแล้ว!”
ดวงตาที่ปิดอยู่ของคุณปู่กู้ก็ลืมตาขึ้นอย่างกระทะหัน รัศมีความแปลกใจก็ประกายผ่านในแววตา
“แกว่าอะไรนะ! กู้หยุนหลันไปเป็นประธานของบริษัทไหนนะ? นี่พูดซี้ซั้วไม่มีหลักฐานไม่ใช่เหรอ เธอเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง จะเป็นประธานได้อย่างไร”
“นี่เป็นเรื่องจริง เมื่อกี้นี้ในโทรทัศน์ก็ถ่ายทอดสด เจ้าขุนมูลนายในเมืองก็ไปร่วมงานตัดริบบิ้นด้วย นังเด็กกู้หยุนหลันคงจะต้องมีข้อตกลงที่มีลับลมคมในกับเจ้านายเบื้องหลัง ถึงได้สามารถเป็นประธานของหยุนจงหลันกรุ๊ป”
“อะแฮ่ม”
เมื่อเห็นว่ากู้เจี้ยนเจียงพูดนอกลู่ทางแล้ว กู้เจี้ยนกั๋วก็กระแอมอย่างแรงสองครั้ง “สิ่งนี้ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือตราบใดที่หยุนหลันพูดอะไรบ้าง ให้หยุนจงหลันกรุ๊ปให้การสั่งซื้อสินค้ากับพวกเรา กิจจาการของพวกเราก็จะผ่านความยากลำบากไปได้”
คุณปู่กู้จัดการกับความคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน และได้เข้าใจจุดประสงค์ของการมาของลูกชายทั้งสองแล้ว
“จะให้ฉันพูดอะไรกับหยุนหลันใช่มั้ย?”
“ใช่ พวกเราพูดกลัวว่าเธอจะไม่ฟัง ดังนั้นทำได้เพียงให้พ่อออกหน้าเองแล้ว พ่อพูดกู้หยุนหลันคงจะฟังอย่างแน่นอน”
กู้เจี้ยนเจียงพูดอย่างคล้อยตามว่า “มีคำกล่าวว่าเงินทองไม่รั่วไหลออกนอก กู้หยุนหลันก็ได้รับการปลูกฝังออกมาจากตระกูลของพวกเรา ต้องทำให้เธอจำไว้ว่าจะต้องกตเวทิตาถึงจะถูก”
หลังจากที่คุณปู่กู้พูดจบก็ถอนหายใจ
เมื่อมองดูลูกชายสองที่กำลังแกล้งทำเป็นน่าสงสาร คุณปู่กู้ค่อยๆพยักหน้า รู้สึกลูกชายสองคนพูดได้ไม่มีผิด
ไม่ว่ากู้หยุนหลันจะพูดอย่างไร ต่างก็มีสายเลือดของตระกูลกู้อยู่ แม้ว่าจะตัดขาดกันก็ยังมีความผูกพันที่ตัดกันไม่ขาด เพียงแค่ให้เธอดูแลกิจการเท่านั้นเอง ก็ไม่ได้ละเมิดกฎหมายและศีลธรรม
“เรียกเจ้ารองมาก่อน”
คุณปู่กู้พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
กู้เจี้ยนกั๋วและกู้เจี้ยนเจียงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง รีบโทรศัพท์เรียกกู้เจี้ยนหมินมา
ในขณะนี้กู้เจี้ยนหมินกำลังตัดริบบิ้นที่ในงานของหยุนจงหลันกรุ๊ป แน่ใจว่าหลังจากที่เข้าสู่พิธีตัดริบบิ้น หลี่โม่ก็ส่งคนไปรับกู้เจี้ยนหมินและหวังฟางมา
ช่วงเวลาสำคัญของกู้หยุนหลัน จำเป็นต้องให้พ่อตาแม่ยายมาเป็นพยานด้วยกัน
กู้เจี้ยนหมินและหวังฟางกำลังนั่งอยู่บนโซฟาด้วยความตื่นเต้นอย่างยิ่ง นักธุรกิจจำนวนมากที่ไม่สามารถพูดคุยกับกู้หยุนหลันได้ หลังจากที่รู้ฐานะของกู้เจี้ยนหมินคู่สามีภรรยา ต่างก็ทยอยล้อมอยู่ข้างกายทั้งสองคน และประจบประแจงทั้งสองคน
กู้เจี้ยนหมินคู่สามีภรรยาเคยเห็นรูปแบบนี้มาก่อน ก็ถูกทุกคนประจบประแจงจนมึนงงในทันที เพียงแค่เผยให้เห็นรอยยิ้มแหย
ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของกู้เจี้ยนหมินก็ดังขึ้นมา ตอนที่กู้เจี้ยนหมินหยิบโทรศัพท์ออกมา ทุกคนที่มาที่ประจบประแจงก็เงียบลงในทันที
กู้เจี้ยนหมินรู้เพลิดเพลินกับความรู้สึกแบบนี้เป็นอย่างมาก คลับคล้ายคิดว่าตัวเองมีความรู้สึกเหมือนเป็นจักรพรรดิ
นั่งไขว่ห้างสั่นไหวอย่างได้ใจ กู้เจี้ยนหมินเชิดหน้าขึ้นพูดว่า “ฮัลโหล นั่นใครนะ?”
“ใครกะผีแกสิ! ฉันกู้เจี้ยนกั๋วเป็นพี่ชายของแก!”
กู้เจี้ยนกั๋วพูดอย่างโกรธเคือง
กู้เจี้ยนหมินหยิบโทรศัพท์ข้างหูลงมา มองดูโทรศัพท์ที่แสดงเบอร์โทร เป็นเบอร์โทรของกู้เจี้ยนกั๋วจริงๆ
ในวันดีแบบนี้ พี่ใหญ่ของตัวเองโทรมา สิ่งนี้ทำให้กู้เจี้ยนหมินรู้สึกถูกราดน้ำเย็นตรงกบาล (ราดน้ำเย็นตรงกบาลในที่นี้หมายความว่าบั่นทอนกำลังใจ)
“อ๋อ ฉันกำลังยุ่งอยู่ข้างนอก ตอนที่รับสายไม่ได้ดูว่าใครโทรมา พี่ใหญ่ พี่หาฉันเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่ว่าฉันมีเรื่องหานาย แต่เป็นพ่อของเราจะหาแก แกรีบกลับมาหน่อย”
กู้เจี้ยนกั๋วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“พ่อเราเหรอ? เกิดอะไรขึ้นกับพ่อของเรา หรือว่าสุขภาพ….”
“หุบปาก! สุขภาพของพ่อแข็งแรงดี ให้แกกลับมาก็รีบกลับมาเดี๋ยวนี้!”
กู้เจี้ยนหมินถึงได้สบายใจขึ้นมา ยังคิดว่าสุขภาพของคุณปู่กู้แย่แล้ว
แต่ในเวลานี้คุณปู่กู้ให้ตัวเองกลับไป คิดยังไงก็ทำให้กู้เจี้ยนหมินรู้สึกว่ามีปัญหาอย่างนั้น
“ก็ได้ ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้”
หลังจากที่วางสาย กู้เจี้ยนหมินก็ลังเลตัดสินใจไม่ได้อยู่ครู่หนึ่ง และรีบเดินไปหาหลี่โม่อย่างรวดเร็ว
ในขณะนี้กู้หยุนหลันกำลังอยู่กับเจ้าขุนมูลนายของในเมืองอยู่ ยังมีพวกนักธุรกิจชนชั้นสูงเหล่านั้น กู้เจี้ยนหมินรู้สึกว่าไม่สะดวกที่จะหาลูกสาวของตัวเอง ทำได้เพียงจำต้องฝืนไปหาหลี่โม่แล้ว
“หลี่โม่ เมื่อกี้นี้ที่บ้านโทรศัพท์มา ให้ฉันกลับไปพบคุณปู่”
กู้เจี้ยนหมินพูดอย่างตรงไปตรงมา
หลี่โม่เลิกคิ้ว คาดเดาบางสิ่งในใจอย่างคลุมเครือเล็กน้อย “งั้นผมส่งพ่อกลับไป ถือโอกาสเยี่ยมคุณปู่ด้วย”
“เอ่อนี่ก็….”
กู้เจี้ยนหมินลังเลแล้วลังเลอีก สุดท้ายรู้สึกว่าหลี่โม่ตามไปด้วยก็ดี มีหลี่โม่ตามไปด้วย สามารถที่จะแบกรับปัญหาได้มากมายอย่างแน่นอน
“ก็ได้ งั้นพวกเราก็ไปกันเดี๋ยวนี้”
“ได้ครับ”
หลี่โม่กลับไปพร้อมกับกู้เจี้ยนหมิน ขับรถไปทางที่พักอาศัยของคุณปู่กู้
ในไม่ช้าทั้งสองคนก็มาถึงที่พักของคุณปู่กู้ หลังจากที่เข้ามาก็เห็นแววตาที่เยือกเย็นของคุณปู่กู้พวกเขาทั้งสามคน หัวใจของกู้เจี้ยนหมินก็กระตุกทีหนึ่ง
ฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อย กู้เจี้ยนหมินถือผลไม้และอาหารเสริมบำรุงร่างกายที่เพิ่งซื้อมาจากข้างนอก และเดินไปถึงตรงหน้าคุณปู่กู้อย่างรวดเร็ว
“พ่อ ผมมาแล้ว”
“เหอะ! แกยังรู้ว่าจะกลับมาหาฉันอีกเหรอ?”
คุณปู่กู้พูดด้วยใบหน้าเย็นชา
“เอ่อผม…..”
“เอ่อนั้นเอ่อนี่อะไร! ได้ยินมาว่าลูกสาวของแกไปเป็นประธานแล้ว ดูเหมือนว่าตระกูลกู้จะมีลูกสาวที่ยิ่งใหญ่โตของแกอยู่ไม่ได้แล้ว”
บนหน้าผากของกู้เจี้ยนหมินก็มีเหงื่อเย็นผุดออกมาในทันที