จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 554
“ความสัมพันธ์ของผมกับเฉียนฝูไม่จำเป็นต้องพูดมากกับพวกคุณ พูดมากแล้วพวกคุณก็ไม่เชื่อ พวกคุณรู้เพียงว่าเขาเชื่อฟังคำพูดของผมก็พอแล้ว!”
หลี่โม่เอาไพล่หลังแล้วเชิดหน้าขึ้น ท่าทางดูหมิ่น
เมื่อเห็นท่าทางจองหองของหลี่โม่ กู้เจี้ยนกั๋วและกู้เจี้ยนเจียงก็โกรธจนอกจะแตกตายแล้ว รู้สึกว่าท่าทางในขณะนี้ของหลี่โม่ทำให้คนโกรธมากเกินไปแล้ว
“อย่าพูดจาเหลวไหล! เฉียนฝูจะเชื่อฟังแกได้อย่างไร แกคิดว่าแกเป็นใคร!”
กู้เจี้ยนเจียงพูดอย่างอดไม่ได้
หลี่โม่ไม่สนใจกู้เจี้ยนเจียง เพียงแค่มองไปที่คุณปู่กู้อย่างไม่แยแส
คุณปู่กู้ถอนหายใจอย่างหนัก พูดด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจว่า “โทรถามดู ดูว่าผู้ซื้อเหล่านั้น ใช่เฉียนฝูยุยงส่งเสริมให้มาจริงหรือเปล่า”
“พ่อ! ยังต้องถามอีกเหรอ! ไอ้หมอนี่เพียงแค่พูดเพ้อเจ้อเพียงอย่างเดียวเท่านั้นเอง! ไม่จำเป็นต้องเชื่อด้วยซ้ำ!”
“ให้ถามแกก็ถาม พูดจาไร้สาระมากมายทำไม!”
คุณปู่กู้สีหน้าท่าทางก็ยิ่งไม่พอใจขึ้นมา
กู้เจี้ยนกั๋วไม่กล้าโต้แย้ง ทำได้หยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างช่วยไม่ได้ และเริ่มค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ของอดีตผู้ซื้อเพื่อติดต่อ
กู้เจี้ยนหมินฉวยโอกาสดึงหลี่โม่ไว้ และพูดกระซิบว่า “นายบอกความจริงกับฉันมา นายมีความสัมพันธ์อะไรกับเฉียนฝูกันแน่?”
“บอกกับพ่อแล้วไม่ใช่เหรอ ผมเคยช่วยชีวิตหลานชายของเขา ตอนนั้นในตระกูลทำให้หยุนหลันลำบากใจ ผมก็ขอความช่วยเหลือจากเฉียนฝู”
ดวงตาของกู้เจี้ยนหมินกลอกตาไปมาสองครั้ง มองไปที่หลี่โม่อย่างลึกซึ้ง และพยักหน้าเล็กน้อย
อยู่ในใจของกู้เจี้ยนหมิน และไม่ได้เชื่อคำอธิบายของหลี่โม่ทั้งหมด แต่ว่ากู้เจี้ยนหมินเชื่อว่าเฉียนฝูคงจะเชื่อฟังหลี่โม่อย่างแน่นอน
ฉากในวันเกิดครบรอบของคุณท่านตระกูลหวางก่อนหน้านี้ ปรากฏขึ้นในสมองของกู้เจี้ยนหมิน เมื่อนึกถึงฉากนั้นที่เฉียนฝูขับรถมารับหลี่โม่ กู้เจี้ยนหมินก็ยิ่งเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างหลี่โม่และเฉียนฝูไม่ธรรมดา
ในเวลานี้กู้เจี้ยนหมินไม่คิดสืบหาความจริงต่อไป แต่กลับแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นฉากที่กู้เจี้ยนกั๋วและกู้เจี้ยนเจียงเสียหน้า
หลายปีมานี้ กู้เจี้ยนหมินถูกกู้เจี้ยนกั๋วและกู้เจี้ยนเจียงกดขี่มาหลากหลายอย่าง ได้รับความทุกข์ทรมานมามากมาย ในขณะนี้สามารถเห็นพวกเขาถูกบีบให้ยอมรับความพ่ายแพ้ ก็ย่อมเป็นเรื่องที่ทำให้คนมีความสุขเป็นธรรมดา
อีกฝ่ายก็รับสายที่กู้เจี้ยนกั๋วโทรออกไปแล้ว ไม่รอให้อีกฝ่ายพูด กู้เจี้ยนกั๋วพูดอย่างกระตือรือร้นขึ้นมา “พี่จางครับ ผมเจี้ยนกั๋ว กู้เจี้ยนกั๋ว”
“อ๋อ เจี้ยนกั๋ว ฉันยังมีประชุมอีก ไม่สามารถพูดคุยกับคุณได้มากนัก สินค้าของตระกูลกู้ของพวกคุณทางของฉันนำเข้ามาไม่ได้จริงๆ พวกเราไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะ”
“พี่จางพี่อย่าเพิ่งวางสาย ผมไม่ได้มาคุยเรื่องการสั่งซื้อสินค้ากับพี่”
กู้เจี้ยนกั๋วพูดอย่างกลัดกลุ้มใจ
“งั้นคุณจะพูดอะไร?”
“ผมได้ยินคนบอกว่า ตอนนั้นพวกพี่มาสั่งสินค้าที่ตระกูลกู้ของพวกเรา ทั้งหมดได้รับยุยงส่งเสริมจากเฉียนฝูเหรอครับ?”
“แฮะ คุณก็ได้ยินแล้วเหรอ เป็นเรื่องจริง หลายวันก่อนเฉียนฝูก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องสั่งสินค้าเข้าอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นพวกเราจึงหยุดทันที สั่งสินค้าอื่นมาอย่างมากก็ขาดทุนเล็กน้อยก็ขายออกไปได้ สั่งสินค้าของพวกคุณ ต้องขาดทุนย่อยยับถึงจะสามารถขายออกไปได้ เอาชีวิตของพวกเราชัดๆ!”
ใบหน้าชราของกู้เจี้ยนกั๋วก็แดง รู้สึกว่าการโทรนี้ ก็เหมือนกับการเสียงตบดังก้อง ตบลงไปที่บนใบหน้าของตัวเองอย่างรุนแรง
“ไม่ได้โอเวอร์ขนาดนั้นมั้ง คุณภาพของสินค้าของพวกเรายังมีการรับประกัน”
กู้เจี้ยนกั๋วโต้แย้ง
“ฮ่าๆ คุณไปสอบถามในตลาดด้วยตัวเองเถอะ ฉันไม่พูดมากแล้ว ยังมีธุระ วางสายก่อนแล้ว”
กู้เจี้ยนกั๋ววางโทรศัพท์ลงอย่างช่วยไม่ได้ พูดอย่างค่อนข้างตื่นตระหนกว่า “เอ่อ เป็นแบบนั้นจริงๆ”
ในใจคุณปู่กู้ไม่ได้แปลกใจแม้แต่น้อย แต่มองไปที่หลี่โม่ด้วยสายตาที่เป็นประกาย เหมือนราวกับค้นพบภูเขาทองลูกหนึ่ง
“หลี่โม่ นายมา มานั่งข้างๆฉัน”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคุณปู่กู้
เปลือกตาของกู้เจี้ยนกั๋วกระตุก และรีบเอนตัวไปที่ข้างหูของคุณปู่กู้แล้วพูดว่า “พ่อ กับเศษสวะคนนี้…..”
“เหอะ!”
ไม่รอกู้เจี้ยนกั๋วพูดจบ คุณปู่กู้ส่งเสียงเย็นชา จ้องมองไปที่กู้เจี้ยนกั๋วด้วยท่าทางเคร่งขรึมราวกับการกินเนื้อคน
“แกต่างหากที่เป็นเศษสวะ! หลังจากที่ส่งมอบกิจการในตระกูลให้แก แกดูสิว่าแกจัดการบริหารได้เป็นแบบไหน!”
“พ่อ ผม ผมพยายามเต็มที่แล้วนะ”
“พยายามมีประโยชน์อะไร! แกดูหลี่โม่ แอบช่วยเหลือทางตระกูล ช่วยเหลือรักษาการพัฒนาของกิจการของพวกเรา แบบนี้แหละถึงจะเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อในตระกูล”
ขณะที่คุณปู่กู้พูดไปด้วย ก็ส่งสายตาเจ็บแค้นให้กู้เจี้ยนกั๋ว
ในเมื่อการสั่งซื้อสินค้าทั้งหมดมาจากหลี่โม่ ถ้าอย่างนั้นก็ย่อมกลับมาได้อีกเพราะหลี่โม่!
ในเวลานี้ตราบใดที่พูดดีๆสองคำควบคุมหลี่โม่ไว้ ก็สามารถทำให้การสั่งซื้อสินค้าที่สูญเสียไปกลับมาทั้งหมด ทำให้กิจการของตระกูลกู้ได้รับโอกาสในการยืดชีวิต
กู้เจี้ยนกั๋วเข้าใจความหมายในสายตาของคุณปู่กู้ และทันใดนั้นก็รู้ตัว
“ใช่ๆๆๆ หลี่โม่ นายรีบมานั่งลงที่ข้างๆคุณปู่ของนาย ลุงจะยกเก้าอี้มาให้นายเอง”
กู้เจี้ยนกั๋วหันหลังกลับยกเก้าอี้มาวางไว้ที่ข้างๆเก้าอี้เอนกายของคุณปู่กู้ ท่าทางต่อหน้าทำเป็นรักใคร่แต่ใจจริงกลับมุ่งร้ายเป็นอย่างมาก
หลี่โม่ยิ้มแล้วเดินเข้าไป แต่ไม่ได้นั่งลงบนเก้าอี้
“เก้าอี้ที่ลุงใหญ่ยกมาให้ ผมไม่กล้านั่ง ความหมายของคุณปู่ผมเข้าใจ แต่สิ่งที่ผมจะพูดก็คือ รับผลิตภัณฑ์ของตระกูลกู้ไว้ ทางด้านของเฉียนฝูก็ต้องออกเงินสมทบเข้าไปด้วย ผมก็ไม่สามารถให้เฉียนฝูขาดทุนสนับสนุนพวกเราไปได้ตลอด”
สีหน้าของคุณปู่กู้เปลี่ยนไปเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าคำพูดที่ดักหน้าของหลี่โม่ จะหยุดยั้งคำพูดที่เขากำลังจะพูดออกมา
ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนสองครั้ง คุณปู่กู้หรี่ตาพูดว่า “จะให้เฉียนฝูขาดทุนสนับสนุนได้อย่างไร เขามีกิจกรรมอันยิ่งใหญ่สิ่งที่มีก็คือเงิน”
“เฉียนฝูมีเงิน แต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องขาดทุนช่วยเหลือผมตลอดไม่ใช่เหรอ ก่อนหน้านี้ที่ช่วยผมก็เห็นแก่น้ำใจของมนุษย์ด้วยกัน แต่ตอนนี้เวลาที่เราตกลงกันไว้หมดแล้ว คนอื่นเขาถอนตัวไปก็สมควรแล้ว”
หลี่โม่แข็งใจไม่ช่วยคนของตระกูลกู้ เมื่อมาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้แล้ว พวกเขาไม่เพียงไม่ยอมรับผิด แต่กลับยังใช้ความคิดที่ฉลาดอย่างใจร้อน สิ่งนี้ทำให้หลี่โม่ตัดความคิดที่จะช่วยเหลือพวกเขาออกไป
ถ้าหากกู้เจี้ยนกั๋วมาถึงก็ยอมรับความผิด บางทีหลี่โม่อาจจะสามารถช่วยเหลือได้ เนื่องจากกิจการของตระกูลกู้ก็เล็กขนาดนั้น หลี่โม่แค่ในมือรั่วไหลออกไปเล็กน้อย ก็เพียงพอที่ทำเงินเป็นจำนวนมากให้กับคนของตระกูลกู้
แต่ในขณะนี้ กู้เจี้ยนกั๋วรวมทั้งคุณปู่กู้ก็เตรียมพร้อมที่จะหลอกหลี่โม่เหมือนคนโง่ หลี่โม่ก็ย่อมไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาทำอะไรได้ราบรื่นเป็นธรรมดา
ใบหน้าของกู้เจี้ยนกั๋วเย็นชา ตอนแรกยังเตรียมที่จะเล่นละคร ชื่นชมหลี่โม่สักหน่อย ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นแล้ว
“หลี่โม่ แกใจแข็งไม่ช่วยตระกูลใช่มั้ย? รู้ไว้ด้วยว่าหลายปีมานี้แกที่ดื่มกิน เป็นของตระกูลกู้ของพวกเราทั้งนั้น!”
กู้เจี้ยนกั๋วพูดด้วยความเกลียดชัง
คุณปู่กู้โบกมือใส่กู้เจี้ยนกั๋ว และหยุดคำพูดของกู้เจี้ยนกั๋ว
กู้เจี้ยนกั๋วระงับความโกรธในใจไว้ ถอยหลังไปสองก้าว และยืมกลัดกลุ้มใจอยู่ด้านหลังเก้าอี้โยกของคุณปู่กู้
“ลูกเขยแต่งเข้าก็คือไม่มีความรู้ใจกัน ดูเหมือนว่าฉันต้องไปพูดกับหลานสาวที่ว่านอนสอนง่ายของฉันแล้ว”