จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 57
บทที่ 57 ขอบคุณนะหลี่โม่
หลี่โม่หันหน้ากลับมา พยักหน้าอย่างจริงจังแล้วพูดว่า “แน่นอน ใช้เวลาไม่นานหรอก”
ได้ยินคำนี้ หวังฟางก็มองหลี่โม่อย่างรังเกียจ ถามด้วยเสียงเย็นชา “เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับแก ทำไม การกระทำวันนี้ของกู้หยุนหลันแกเป็นคนสั่ง?”
เมื่อคิดถึงจุดนี้ หวังฟางหันไปมองกู้หยุนหลันอย่างร้อนรน แล้วถาม “กู้หยุนหลัน พูดความจริงกับแม่ เรื่องนี้ไอ้ขยะหลี่โม่มันเป็นคนสั่งให้แกทำอย่างนี้ใช่มั้ย?แค่เพียงแกบอก ฝั่งคุณปู่ฉันก็จัดการได้ง่ายแล้ว ถึงเวลาให้มันไปขอโทษก็พอแล้ว”
“แม่คะ พอได้แล้ว เลิกมารบกวนหนูได้แล้ว ตอนนี้ในใจหนูยุ่งเหยิงมาก แม่ให้หนูอยู่เงียบๆหน่อยได้มั้ย?”กู้หยุนหลันพูดอย่างไม่พอใจ
“นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังจะมาขออยู่เงียบๆอีก ฉันดูแล้วแกคงถูกไอ้ขยะนี่ใส่ยาเสน่ห์นั่นแหละ คำพูดของมันเชื่อได้หรอ?กู้หยุนหลัน ฉันดูแล้วแกต้องบ้าแล้วแน่ๆ”หวังฟางชี้หน้ากู้หยุนหลันอย่างโมโห และขณะเดียวกันก็ฟาดมือลงไปตบบนหน้าเธอ
เธอเสียใจมาก ที่ให้ลูกสาวของตัวเองแต่งงานกับขยะแบบนี้
ตอนนี้ดีแล้ว บ้านก็กำลังจะตายกันหมด
ฝ่ามือนี้ ตีจนกู้หยุนหลันเองก็ตกใจ น้ำตาคลอเบ้า ใบหน้าของหลี่โม่นิ่งขรึมมาก เขาพุ่งเข้ามาแล้วจับมือของหวังฟางที่ยกขึ้นอีกรอบ พูดอย่างดุดันว่า “ห้ามตีหยุนหลัน เรื่องเป็นอย่างนี้ตอนนี้ยังไม่มีผลสรุป แล้วทำไมคุณถึงไม่เชื่อในตัวเธอ?”
หวังฟางโกรธมาก ถึงเวลาที่ไอ้ขยะนี้พูดได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
“แกยังกล้าห้ามฉัน?ฉันดูแล้วที่หยุนหลันเป็นแบบนี้กว่าครึ่งหนึ่งก็เพราะแก!แกหลีกไปเดี๋ยวนี้ฉันสั่งสอนลูกสาวของฉัน เกี่ยวอะไรกับแก?!”หวังฟางพูดอย่างโมโห
หลี่โม่มองหวังฟางอย่างเย็นชา ไม่หลีกแล้วบังอยู่ข้างหน้ากู้หยุนหลัน
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาแสดงออกถึงความแข็งแกร่งขณะที่อยู่ในบ้านหลังนี้ ต่อหน้าหวังฟาง
มองดูสีหน้าเย็นชาของหลี่โม่ หวังฟางเองก็รู้สึกกลัวขึ้นมา
สายตาแบบนั้นช่างน่ากลัวเหลือเกิน เหมือนกับปีศาจที่กำลังจ้องตัวเธอ
กู้เจี้ยนหมินเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีก็รีบเข้ามาพูด “พวกเธออย่าทะเลาะกันแล้ว ตอนนี้เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ทะเลาะกันแล้วจะได้อะไร ตอนนี้ต้องคิดหาวิธีว่าจะให้คุณปู่อภัยให้หยุนหลันยังไง”
ตอนนี้หลี่โม่ถึงได้ปล่อยมือหวังฟาง แล้วหันหลังไปพูดกับกู้หยุนหลัน “เธอเข้าไปพักผ่อนเถอะ”
กู้หยุนหลันลุกขึ้น ดวงตาแดงก่ำ หันหลังแล้วก็เข้าห้องนอนไป
หลี่โม่มองดูแผ่นหลังของเธอแล้วเงียบไม่พูดอะไร
แต่หวังฟางนั้นไม่ปล่อยเขาไว้แน่ เพราะงั้นเธอจึงปัดน้ำในกะละมังที่หลี่โม่ถืออยู่ปัดลงพื้น ชี้ไปที่หน้าเขาอย่างโมโห “หลี่โม่ ฉันขอเตือนแกไว้ อย่ามาสอนเรื่องไม่ดีกับลูกสาวฉัน!ยังไงพวกแกก็ต้องหย่ากัน ลูกสาวฉันยังมีโอกาสดีๆอีกเยอะ เธอต้องไม่มาจมอยู่กับคนอย่างแก!”
หลี่โม่ไม่พูดอะไร แต่ไปเอาไม้ถูพื้นมาถูพื้นเงียบๆ
หวังฟางโมโหจนกระแทกเท้า แล้วด่าว่า “แกมันขยะไร้อนาคต ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไล่แกออกจากบ้านพวกเราให้ได้!”
รอจนเกือบจะถึงเวลาข้าวเที่ยง หลี่โม่ถึงจะเข้าไปในห้องนอน เห็นว่ากู้หยุนหลันกอดเข่าตัวเองแล้วร้องไห้เบาๆ
“เป็นอะไร?”หลี่โม่ลองถามดู
กู้หยุนหลันหันกลับไป เช็ดน้ำตา แล้วพูดอย่างปากแข็ง “ไม่….ไม่มีอะไร”
หลี่โม่ยิ้มเล็กน้อย แม้แต่ตอนร้องไห้เธอยังสวยขนาดนี้
“สบายใจได้แล้ว กู้ซิงเว๋ยและคุณปู่เขาจะต้องมาขอโทษและขอร้องเธอแน่นอน”
กู้หยุนหลันเงยหน้า มองไปที่หลี่โม่อย่างสงสัย “ทำไมนายถึงพูดอย่างนี้?นายไปรู้อะไรมาใช่มั้ย?”
หลี่โม่พยักหน้า “สองสามวันนี้ฉันลองไปดูบริษัทที่บริษัทวินเซิงทำธุรกิจด้วย ดูเหมือนว่าผลประโยชน์จะไม่ค่อยดี บางที่หุ้นตกหนักมาก ดูแล้วน่าจะยกเลิกสัญญาธุรกิจกับหลายบริษัท”
พอได้ยินคำนี้ กู้หยุนหลันก็ร้อนรน “เป็นไปได้ยังไง?”
พูดแล้วเธอก็รีบเปิดโน้ตบุ๊ค เปิดดูบริษัทและธุรกิจที่บริษัทวินเซิงร่วมธุรกิจด้วย พบว่า ส่วนใหญ่ช่วงนี้ผลประโยชน์ไม่ดีจริงๆ หลายที่เริ่มปลดพนักงานจำนวนมากตั้งแต่เมื่อวาน
และดูตลาดหุ้นอีกที แย่มาก ถึงขีดจำกัดแล้ว!
ในที่สุดในใจของกู้หยุนหลันก็สับสนไปหมด นี่ไม่ได้เกี่ยวแค่กับตัวเธอเท่านั้น แต่มันเกี่ยวกับทั้งบริษัทวินเซิง
“หลี่โม่ งั้น….งั้นตอนนี้พวกเราควรทำยังไงดี?”ในใจกู้หยุนหลันสับสน และตกใจ
เธอเองก็รู้ ว่าดูจากสถานการณ์ตอนนี้ สัญญาระหว่างบริษัทรุงคางในมือตัวเองตอนนี้หมายถึงอะไร
ถ้าหากบริษัทวินเซิงถูกบริษัทที่ร่วมธุรกิจด้วยพวกนี้ทอดทิ้ง ถ้าอย่างนั้น บริษัทวินเซิงก็จะเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่มีออร์เดอร์เข้ามา ไม่มีการส่งออกสินค้า ผลกำไรลดลง ลดจำนวนพนักงาน และสุดท้ายก็ล้มละลาย….
ถึงตอนนั้น สัญญาของบริษัทรุงคางก็จะเป็นหนทางที่จะช่วยเหลือบริษัทวินเซิงได้ และก็เป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้น!
นี่ก็คือสิ่งที่หลี่โม่พูดว่าพวกคุณปู่เขาจะต้องมาขอร้องเธอแน่ๆงั้นหรอ?
“รอ”
หลี่โม่ยืนพิงประตูแล้วพูดคำนี้ออกมานิ่งๆ
กู้หยุนหลันรีบเงยหน้ามองไปที่หลี่โม่ ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นมีส่วนที่ดูเขาไม่ออก
หลี่โม่เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน ดูลึกลับและฉลาดมาก
“หลี่โม่ นายมีเรื่องอะไรปิดบังฉันใช่มั้ย?ทำไมนายถึงได้มาสนใจพวกนี้?”
อยู่ๆกู้หยุนหลันก็ถามขึ้น
หลี่โม่ยิ้ม แล้วก็ลูบๆต้นคอ พูดว่า “เธอเป็นภรรยาของฉัน ฉันสนใจการทำงานของเธอนั่นเป็นสิ่งที่ควรอยู่แล้ว ยังไงซะทั้งบ้านก็ยังต้องพึ่งเธอ ฉันก็ต้องคอยสนใจรายรับของภรรยาตัวเองตลอดอยู่แล้ว”
ประโยคนี้พูดออกมาอย่างชัดเจน เป็นแมงดาที่ชัดเจนดี
กู้หยุนหลันกลอกตาใส่เขา พูดด้วยความโกรธว่า “นายก็พูดมั่วไปเถอะ”
เธอยังมีเรื่องที่กังวลอีกเรื่อง “สิ่งนี้…..มันได้ผลจริงใช่มั้ย?”
หลี่โม่มองตากู้หยุนหลันอย่างจริงจัง แล้วถามว่า “เธออยากทำแบบนี้มั้ย?”
กู้หยุนหลันเงียบ เธออยากมั้ย?
วันนี้ในห้องประชุม มีคนมากมายหัวเราะเยาะเย้ยเธอ ซ้ำเติมเธอ
แม้แต่คุณปู่ที่เมื่อก่อนเอ็นดูเธอที่สุด ก็เริ่มสงสัยในตัวเธอ แม้กระทั่งเรื่องสัญญาของบริษัทรุงคางที่เอาให้กู้ซิงเว๋ยรับผิดชอบก็ไม่เคยบอกเธอก่อน
ในสายตาของท่าน ตัวเธอมันไม่สำคัญขนาดนั้นเลยหรอ?
ในสายตาของคุณปู่ ความเสียสละของเธอเองนั้นสู้กับกู้ซิงเว๋ยจอมเจ้าชู้นั่นไม่ได้หรอ?
เธอไม่ยอม!
“ฉัน ฉันกลัวว่าคุณปู่กับกู้ซิงเว๋ยพวกเขาจะ…..”ในใจกู้หยุนหลันยังคงสับสน
หลี่โม่ตัดบทคำพูดเธอ “ไม่ต้องกังวล เรื่องนี้ เธอสามารถเชื่อฉันได้ ปล่อยให้ฉันจัดการ”
กู้หยุนหลันเงยหน้ามองหลี่โม่ ไม่เคยรู้สึกถึงความปลอดภัยอย่างครั้งนี้มาก่อน
ที่แท้ เธอเองก็สามารถเชื่อใจหลี่โม่ได้
ที่แท้ ข้างหลังของตัวเธอ ยังมีผู้ชายคนนี้คอยสนับสนุนเธออยู่เงียบๆ
“ขอโทษนะหลี่โม่ หลายปีที่ผ่านมานี้ฉันเข้าใจนายผิดไป”น้ำตาของกู้หยุนหลันไหลออกมาทั้งสองข้าง ที่แท้ เขาก็รักตัวเธอมากมาโดยตลอด
หลี่โม่ยิ้มโดยไม่ได้พูดอะไร
หลังจากกินข้าวเที่ยง ตอนนี้หลี่โม่กำลังล้างจาน โทรศัพท์เขาก็ได้รับข้อความหนึ่ง เฉียนฝูเป็นคนส่งมา ข้อความสั้นๆ : นายน้อยครับ จัดการเรียบร้อยแล้ว บริษัทที่ร่วมธุรกิจกับบริษัทวินเซิงกำลังทยอยยกเลิกสัญญาครับ
“ดี”หลี่โม่ตอบกลับไปคำเดียว
หนี้ที่ต้องคืน ถึงเวลาที่ต้องทวงแล้ว
“นายส่งข้อความให้ใครอีกแล้ว?”
ทันใดนั้นก็มีเสียงของกู้หยุนหลันดังมาจากข้างหลัง