จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 570
“ปรมาจารย์เชิญกันได้ง่ายๆที่ไหน ต่อให้ใช้เงินก็ใช่ว่าจะเชิญมาได้”
เฉิงซืออู่ก็ย่อมอยากจะเชิญปรมาจารย์มาด้วยเช่นกัน แต่ปรมาจารย์เป็นเจ้าอาวาสวัดจาหลุน คงจะไม่ยอมออกจากวัดจาหลุนง่ายๆหรอก
ครั้งล่าสุดที่ปรมาจารย์ออกจากวัดจาหลุน คืองานสนทนาธรรมเมื่อสิบปีก่อน ถ้าไม่ใช่งานสนทนาธรรมที่สำคัญ ปรมาจารย์คงไม่ออกจากวัดจาหลุนแม้แต่ก้าวเดียว
“ว่างจี๋โดนตีถึงขนาดนี้ ปรมาจารย์น่าจะออกมาปกป้องลูกศิษย์บ้าง ฉันอ่านนิยายกำลังภายใน พวกยอดฝีมือมักจะปกป้องลูกศิษย์ลูกหา”
ผู้ช่วยสาวใส่ไฟอยู่ข้างๆ
ผู้ช่วยสาวเกลียดหลี่โม่เข้ากระดูกดำ จนแทบอยากจะให้ปรมาจารย์เอาหลี่โม่ให้ตาย ไม่งั้นคงจะคับอกคับใจ
เฉิงซืออู่ยิ่งน้อยใจ แต่เขารู้สึกอัปยศอดสูเหลือแสน
“ก็จริงนะ ลองติดต่อปรมาจารย์ดู ถ้าปรมาจารย์มา ย่อมดีที่สุด ถ้าไม่มาก็ส่งยอดฝีมือมาสักสองสามคน แต่แค้นนี้ต้องชำระแน่นอน!”
“คุณท่านพูดถูกค่ะ แค้นนี้ต้องเอาคืน หลี่โม่นั่นโอหังเกินไป จะปล่อยให้ยโสแบบนี้ไม่ได้ ต้องให้มันรู้ถึงความเก่งกาจของคุณท่าน”
เฉิงซืออู่หรี่ตา พูดหนักแน่น“บอกลูกศิษย์สามคนของว่างจี๋ไปโรงพยาบาล แล้วถ่ายคลิปสถานการณ์ว่างจี๋ให้ปรมาจารย์”
“ค่ะ”
ผู้ช่วยสาวกำลังเดินออกไปแบบเอวเรียว รถพยาบาลมาถึงพอดี บุคลากรทางการแพทย์คนช่วยกันหามว่างจี๋ขึ้นรถ
รถพยาบาลขับมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล เฉิงซืออู่พาเลขากับลูกศิษย์สามคนของว่างจี๋ตามไป
บนรถนั้น จาโช่ที่ความสัมพันธ์ดีหน่อยกับว่างจี๋เบิ่งตาโพลงตะโกน“เจ้านายเฉิง!นี่เกิดอะไรขึ้น ศิษย์พี่ทำไมบาดเจ็บขนาดนี้”
จาโช่รู้ถึงความสามารถของว่างจี๋ดี เขาเป็นบุรุษที่ตีรันฟันแทงไม่เข้า แล้วมาเดี้ยงจนเข้าโรงพยาบาลแบบนี้ได้ไง!
เฉิงซืออู่แววตาไม่สบอารมณ์ แต่สุดท้ายก็ข่มความไม่พอใจไว้ ยิ้มอ่อนพูด“ว่างจี๋ไปเจอยอดฝีมือเข้า แน่นอน ผมมีส่วนรับผิดชอบ ผมจะไม่ปัดความรับผิดชอบหรอกนะ จะช่วยเหลือว่างจี๋อย่างเต็มกำลัง”
“ยอดฝีมือที่ไหน ที่ทำร้ายศิษย์พี่ผม ผมจะไปล้างแค้น!”
จาโช่คำรามอย่างโมโห
“จาโช่ อย่าวู่วามไป หรือนายจะเก่งไปกว่าว่างจี๋ศิษย์พี่ ว่างจี๋บาดเจ็บขนาดนี้ฉันก็ลำบากใจมากแล้ว ถ้านายมาเจ็บไปอีกคน ฉันจะบอกปรมาจารย์ยังไง”
เฉิงซืออู่พูดนัยน์ตากลอกไปมา รู้สึกว่าต้องหลอกใช้จาโช่สักหน่อย ถ้าพวกจาโช่สามคนโดนหลี่โม่ทำร้ายจนบาดเจ็บหรือตาย ปรมาจารย์คงจะโกรธจนระเบิดราวอัสุนีแน่
ถ้าปรมาจารย์ระเบิดราวอัสุนี ไม่แน่อาจจะมาจัดการหลี่โม่ด้วยตนเอง!
“ไม่ช่วยว่างจี๋ศิษย์พี่แก้แค้น พวกเราสิไม่มีหน้ากลับไปพบปรมาจารย์ พวกนายสองคนว่าไง!”
จาโช่มองไปทางลูกศิษย์อีกสอง เพื่อขอความเห็นจากพวกเขา
ลูกศิษย์อีกสองพยักหน้าตาม สีหน้าฉายแววแค้นเคือง
“จาโช่พูดได้ไม่ผิด เราต้องแก้แค้นให้ว่างจี๋ศิษย์พี่!ขอให้เจ้านายเฉิงบอกทีว่าใครกัน พวกเราจะไปแก้แค้นให้ศิษย์พี่!”
เฉิงซืออู่จงใจทำหน้าลำบากใจ“ถ้าพวกนายบาดเจ็บไปด้วยจะทำไง ฉันจะบอกปรมาจารย์ยังไง”
“พวกเราจะบาดเจ็บหรือไม่ไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องเก็บไปคิด ขอเจ้านายเฉิงช่วยบอกทีว่ามันเป็นใครกัน!”
จาโช่ร้อนใจจนแทบจะกระชากคอเสื้อเฉิงซืออู่
ในสายตาจาโช่ ไม่ได้เห็นว่าเฉิงซืออู่สูงส่งเท่าไหร่นัก และเฉิงซืออู่เองก็เกรงใจพวกเขาตลอดมา
เฉิงซืออู่เห็นไฟแค้นได้สุมจนสุกงอม จึงทอดถอนหายใจยาวพูดขึ้น“งั้นก็ดี จะบอกให้ก็ได้ว่าใคร มันชื่อหลี่โม่”
เฉิงซืออู่พูดจบ ผู้ช่วยสาวจึงหยิบข้อมูลหลี่โม่ออกมา ยื่นให้จาโช่
“นี่เป็นข้อมูลของเขา สถานที่ติดต่อเบอร์โทรทุกอย่างอยู่ข้างบน”
จาโช่ฉวยแย่งข้อมูลมา ก้มหน้าแววตาทั้งสองพูดออกมาอย่างเกลียดชัง“จัดรถส่งพวกเราไปที!คืนนี้พวกเราต้องฆ่ามันให้ได้!”
“เอาล่ะ คนรถจอด”
เฉิงซืออู่กำชับแล้ว คนรถจอดรถทันที จากนันเฉิงซืออู่สั่งให้คนรถพาพวกจาโช่สามคนไปหาหลี่โม่ มองดูรถของพวกจาโช่จากไป เฉิงซืออู่ยักมุมปากเบาๆ ฉายแววรอยยิ้มชั่วร้าย
“พวกกักขฬะ ก็ให้ไปตายซะ ถ้าพวกมันตายด้วยน้ำมือหลี่โม่ ปรมาจารย์ต้องออกโรงแน่นอน”
“คุณท่านช่างฉลาดปราดเปรื่องจริงๆ ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณท่านต้องมีวิธีที่ดี”
ผู้ช่วยสาวไม่ยอมเสียโอกาสในการประจบประแจงเฉิงซืออู่
เฉิงซืออู่หัวเราะเสียงดังลำพอง ความเซ็งเมื่อครู่หายปลิดทิ้ง ยื่นมือไปโอบผู้ช่วยสาวเข้าไว้
“ไปโรงพยาบาลกับคุณท่านหน่อย ไปดูว่างจี๋กัน”
เฉิงซืออู่กับผู้ช่วยสาวไปถึงโรงพยาบาลในเวลาไม่นานนัก หลังจากที่สอบถามแล้วรู้ว่าว่างจี๋ต้องเข้าห้องผ่าตัด จึงรออยู่หน้าห้องผ่าตัดครึ่งชั่วโมง คาดว่าพวกจาโช่น่าจะไปถึงบ้านหลี่โม่แล้วกระมัง
“รอข่าวพวกเขาจริงๆ หวังว่าคงจะออกแรงหน่อยนะ ให้มันตายคามือหลี่โม่ให้หมด”
ในตอนที่เฉิงซืออู่กำลังพึมพำ ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก จาโช่โดนพยาบาลเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด
เฉิงซืออู่จึงรีบกุลีกุจอเข้าถาม“คุณหมอครับ เพื่อนผมเป็นไงบ้าง”
“เพื่อนคุณฝึกกังฟูใช่ไหม เนื้อผ่ายากมาก มีดผ่าตัดหักไปหลายเล่ม”
หมอผ่าตัดบ่นออกมาคำหนึ่ง แล้วพูดต่อ“กระดูกหักเก้าท่อน เข้าเฝือกแล้ว ปอดกับตับโดนกระดูกทิ่มทะลุ เป็นเพราะฝึกกังฟูนี่แหละถึงทนได้ถึงตอนนี้ ต่อไปก็อย่าหาทำนักล่ะ”
“งั้นก็พ้นขีดอันตรายใช่ไหมครับ”
เฉิงซืออู่ไล่ถาม
“ไม่แน่หรอกนะ เพราะดูเหมือนกระดูกสันหลังมีปัญหา แต่วินิจฉัยจากกระดูกที่หัก เลยไม่ได้แตะกระดูกสันหลัง ไปหาหมอที่ต่างประเทศเถอะ หมอนรองกระดูกอาจทับเส้นประสาท ทำให้อัมพฤกษ์”
เฉิงซืออู่สูดลมหายใจเข้า เป็นอัมพฤกษ์ไม่ใช่เรื่องดีอะไร
ถ้าท่อนล่างอัมพฤกษ์ คิดว่าคงอยากตายแล้วล่ะ หาทางตายดีกว่ามานอนเป็นผักอยู่แบบนี้ เดินตามเข้าห้องผู้ป่วย เฉิงซืออู่เห็นว่างจี๋ที่เพิ่งตื่น จึงถอนหายใจเบาๆ
ว่างจี๋แววตาเหม่อลอย หลังจากลืมตาก็เห็นบรรยากาศแปลกหน้า จึงหลับตาทวนความทรงจำ
นึกได้ว่าตัวเองถูกหลี่โม่ซ้อมกระเด็น ว่างจี๋ลืมตาขึ้นกระทันหัน
“เจ้านายเฉิง อยู่ไหม คุณอยู่ไหม”