จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 60
บทที่ 60 นายเป็นคนทำเองกับมือ
คำพูดนี้ของกู้ชิงหลินดึงดูดความสนใจของทุกคน
สายตาทุกคนหันไปมองที่กู้ชิงหลิน เธอพูดเสียงเบาอย่ากลัวๆ “ฉัน….ฉันพูดผิดหรอ?”
“ไม่ผิด ไม่ผิด!”
สายตาของคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น พูดอย่างดีใจ “ใช่ๆๆ บริษัทรุงคาง เพียงแค่บริษัทวินเซิงของฉันร่วมธุรกิจกับบริษัทรุงคาง ก็สามารถเยียวยาสถานการณ์ตอนนี้ได้ อีกอย่าง ถ้าทำธุรกิจกับบริษัทรุงคางชื่อเสียงของพวกเราก็ดีขึ้น พวกบริษัทที่ยกเลิกสัญญาอาจจะกลับมาทำสัญญากับพวกเราอีกครั้งก็ได้”
เพียงครู่เดียว ตระกูลกู้ก็กลับมาพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น
ถ้าเราไม่ล้มก็จะมีฟ้าหลังฝนเสมอ!
ใบหน้าของกู้เจี้ยนกั๋วก็มีรอยยิ้มผุดขึ้น “คุณพ่อครับ ท่านพูดถูก ตอนนี้ เราเพียงแค่รับมือกับสำนักงานคณะกรรมการยาก็พอแล้ว!”
แต่ว่า อยู่ๆก็มีเสียงเย็นชาเสียงหนึ่งมาทำลายความตื่นเต้นและดีใจของทุกคน
“แต่พวกเธออย่าลืมนะว่าสัญญาฉบับนั้นตอนนี้อยู่ในมือกู้หยุนหลัน”
กู้ซิงเว๋ยพูดบอกทุกคน ทุกคนถึงกับเงียบ
ใบหน้าของคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้แสดงถึงความไม่เข้าใจ พูดเสียงเข้มว่า “ตอนนี้เป็นเวลาที่ตัดสินว่าบริษัทวินเซิงจะอยู่หรือไป กู้หยุนหลันยังจะมีแผนอะไรอีกอย่างนั้นหรอ?!เจี้ยนกั๋ว ซิงเว๋ย พวกเธอไปบ้านรอง ไปเอาสัญญาฉบับนั้นมา ให้กู้หยุนหลันเซ็นลายเซ็นซะ!”
กู้ซิงเว๋ยก็ยังมีความกังวลนิดหน่อย “คุณปู่ ท่านอย่าลืมคำพูดที่เธอพูดในที่ประชุมตอนเช้า เธอต้องการให้พวกเราทุกคนขอโทษ”
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ทำหน้าเคร่งขรึม แล้วสั่งว่า “โทรศัพท์ไป โทรศัพท์ไปหาเธอก่อน”
กู้ซิงเว๋ยฟัง รีบค้นหาโทรศัพท์ โทรออกหาเบอร์มือถือของกู้หยุนหลัน
ยังไงซะตอนนี้เรื่องนี้ก็ไม่สามารถช้าได้ จำเป็นต้องรีบจัดการ ไม่อย่างนั้น ช้าเพียงแค่นาทีเดียวก็อันตรายต่อบริษัทวินเซิง
ในตอนนี้กู้หยุนหลันกำลังดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น เป็นเพราะเรื่องเอาเงินให้หลี่โม่ไปกินเลี้ยง ก็ทะเลาะกับแม่ของตัวเอง
ทันใดนั้น!
เสียงแจ้งเตือนดังทั่วห้องนั่งเล่น ทำให้กู้หยุนหลันที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาสะดุ้ง
เธอมองดูโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะชา กู้ซิงเว๋ยเป็นคนโทรมา
เธอกำลังจะหยิบขึ้นมา หลี่โม่ที่อยู่ข้างๆก็พุ่งเข้ามา แล้วหยิบโทรศัพท์ไป
“กู้ซิงเว๋ยโทรมา น่าจะมีเรื่องขอร้องเธอ”หลี่โม่มองกู้หยุนหลันแล้วพูด
กู้หยุนหลันตื่นตระหนก แล้วถามอย่างไม่เข้าใจ “เขาจะข้อร้องอะไรฉัน?”
หลี่โม่ไม่ได้พูดอะไร แต่กดรับสายแล้วก็เปิดลำโพง
ทันใดนั้น ปลายสายก็มีเสียงที่ร้อนรนของกู้ซิงเว๋ยดังออกมา “กู้หยุนหลัน เธอรีบมาบ้านใหญ่ อ้อ แล้วก็เอาสัญญาบริษัทรุงคางฉบับนั้นมาด้วย!”
น้ำเสียงเอาแต่ใจ และแฝงไปด้วยคำสั่ง
นี่ทำให้กู้หยุนหลันไม่พอใจ กู้ซิงเว๋ยคนนี้ช่างคิดว่าตัวเองเหนือกว่าจริงๆ
เธอมองไปที่หลี่โม่ ความหมายก็คือถามว่าจะทำยังไงดี?
หลี่โม่หัวเราะเหอะๆ บอกให้กู้หยุนหลันไม่ต้องตอบ
“หยุนหลันไม่อยู่บ้าน ออกไปท่องเที่ยวกับจินซ่านน่าเพื่อนสนิทของเธอแล้ว”หลี่โม่พูด
เมื่อได้ยินเสียงหลี่โม่ กู้ซิงเว๋ยที่อยู่ปลายสายก็หันไปมองคุณปู่และกู้เจี้ยนกั๋วที่อยู่ข้างๆ แล้วก็ตะคอกกลับไปอย่างรำคาญ “หลี่โม่? มึงอย่ามาเสียเวลากู เอาให้กู้หยุนหลันรับสาย!”
“เหอะๆ”
หลี่โม่หัวเราะเบาๆแล้วก็ตัดสาย จากนั้นก็ปิดเครื่องแล้วโยนไปอีกที่
ปลายสาย กู้ซิงเว๋ยได้ยินเสียงตู๊ดๆ ก็พูดอย่างโมโหว่า “คุณปู่ ท่านดูหลี่โม่นี่สิ นี่มันทำอะไรของมัน?มันช่างกล้าวางสายของผม!ไม่ได้ ผมจะโทรอีกครั้ง!”
แต่ว่า เมื่อโทรไปอีกครั้ง ปลายสายได้ปิดเครื่องไปแล้ว
“แม่ง!แถมยังปิดเครื่องด้วย?”
กู้ซิงเว๋ยโมโหหนัก บ่นว่า “ออกไปท่องเที่ยวบ้าอะไร ทำไมไม่พกโทรศัพท์?ข้ออ้างทั้งนั้น!”
สีหน้าของคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ตอนนี้ก็มืดมนเช่นกัน มองไปที่กู้เจี้ยนกั๋วและกู้ซิงเว๋ย “เรื่องนี้จะชักช้าไม่ได้ พวกเธอรีบแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด”
“แต่ว่า คุณปู่ครับ ดูก็รู้ว่ากู้หยุนหลันไม่อยากส่งสัญญามาให้”กู้ซิงเว๋ยพูด
“นั่นมันเรื่องของนาย หล่อนไม่ส่งมา แล้วแกไปเอาเองไม่เป็นหรอ?”คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ร้อนรน จ้องไปที่กู้ซิงเว๋ย พูดกับพ่อลูกสองคนนี้ว่า “เรื่องนี้ พวกแกต้องแก้ปัญหาให้ได้ แก้ไม่ได้ พวกแกก็ดูแล้วกันว่าจะทำยังไง!”
พูดจบคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็นอนหันข้างแล้วโบกมือไล่ทุกคนออกไป
ผู้คนตระกูลกู้ก็ต่างก็ออกจากห้องพยาบาล
จากนั้นคุณปู่ถึงได้หันไปมองประตูอย่างรู้สึกผิด
เขาจะไปยอมไปบ้านรองเพื่อขอร้องกู้หยุนหลัน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็ทำได้เพียงแค่ให้กู้ซิงเว๋ยพวกเขาไปจัดการแล้ว
นอกห้อง สีหน้ากู้ซิงเว๋ยไม่ดีนัก กำหมัดแน่นแล้วหันไปพูดกับพ่อตัวเองว่า “พ่อ พวกเราจะทำยังไงดี?”
กู้เจี้ยนกั๋วถอนหายใจ สีหน้าค่อยๆเย็นชาขึ้น มือไขว้หลัง แล้วพูดว่า “ไปหากู้หยุนหลัน แย่งก็ต้องแย่งมาให้ได้!”
ภาพตัดมาที่ด้านหลี่โม่ เห็นหลี่โม่ปิดเครื่อง กู้หยุนหลันร้อนรน เท้าเล็กๆถีบไปที่หลี่โม่ “นายทำอะไรเนี่ย?”
หลี่โม่จับเท้าเล็กๆนุ่มๆของกู้หยุนหลันไว้ แล้ววางกลับ “กู้ซิงเว๋ยน่าจะมาขอร้องเธอ ดูเหมือนว่าบริษัทวินเซิงจะเจออันตรายเข้าแล้ว พวกเขาอยากร่วมธุรกิจกับบริษัทรุงคางเพื่อให้ผ่านสถานการณ์นี้ได้”
กู้หยุนหลันตกใจ มองไปหาหลี่โม่ที่จับเท้าของตัวเองไว้ “นายมั่นใจได้ยังไง?”
หลี่โม่ยิ้มแล้วพูด “เมื่อกี้เห็นข่าว บริษัทวินเซิงเสียบริษัทที่ร่วมธุรกิจด้วยทั้งหมด บริษัทยายักษ์ใหญ่ของเมืองฮ่านก็ประกาศยกเลิกสัญญากับบริษัทวินเซิง อีกอย่าง ตอนนี้บริษัทวินเซิงยังเจอกับเงินชดเชยที่ต้องจ่ายจำนวนสามพันกว่าล้าน และยังถูกสำนักงานคณะกรรมการยาเล็งไว้ด้วย”
“อะไรนะ?”กู้หลุนหลันร้อนรน เด้งตัวขึ้นจากโซฟา ดึงตัวหลี่โม่จะออกไป “อย่างนั้นพวกเราก็รีบไปส่งสัญญาให้สิ ตอนนี้ก็มีเพียงแค่บริษัทรุงคางเท่านั้นที่จะช่วยบริษัทวินเซิงได้”
แต่ว่า หลี่โม่ก็ยังนั่งอยู่บนโซฟาเหมือนเดิม แล้วดึงกู้หยุนหลันกลับมา มองตาเธออย่างจริงจัง “เธออยากช่วยพวกเขาจริงๆหรอ?อย่าลืมนะ เมื่อวานพวกเขาทำยังไงกับเธอ อย่าลืม ว่าวันนี้คุณปู่ทำยังไงกับการที่แย่งสัญญาจากเธอไปให้กู้ซิงเว๋ย ตอนนี้ พวกเขาร้อนรนแล้ว รู้ว่ามีเพียงแค่เธอที่จะสามารถช่วยบริษัทวินเซิงได้ แต่ว่าเมื่อกี้ละ?ท่าทางของกู้ซิงเว๋ยเป็นยังไง เธอฟังไม่ออกหรอ?”
กู้หยุนหลันมองหลี่โม่ตาปริบๆอย่างไม่เข้าใจ ตอนนี้บริษัทวินเซิงเจอกับวิกฤติแบบนี้ มีแค่เพียงเธอ กู้หยุนหลันที่จะสามารถพาตระกูลกู้พ้นจากสถานการณ์นี้ได้ ถ้าเธอไป ก็สามารถช่วยเหลือได้อย่างมากต่อหน้าคุณปู่ ยกระดับที่นั่งของตัวเอง
อีกอย่าง ถ้าไม่ช่วย บริษัทวินเซิงล้มละลาย บ้านตระกูลกู้ก็จบเห่ แล้วเธอเก็บสัญญานี้ไว้จะมีประโยชน์อะไร?
“แล้วนายหมายความว่าไง?ฉันต้องทำยังไง?”กู้หยุนหลันถาม จากสายตาของหลี่โม่เธอเห็นนัยน์ตาของความแข็งแกร่งที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
“รอ รอให้กู้ซิงเว๋ยมาขอร้องเธอ นี่เป็นโอกาสที่เธอจะแก้แค้นเขาได้ และก็เป็นโอกาสที่ทำให้ที่นั่งเธอมั่นคงในบริษัท”หลี่โม่ยิ้มอ่อนๆ
“แต่ว่า ถ้าหาก….”
“ไม่มีถ้าหาก เรื่องนี้ฉันจัดการเสร็จแล้ว เพียงแค่เธอฟังฉัน กู้ซิงเว๋ยจะต้องมาขอร้องเธอแน่นอน ไม่แน่ ถึงตอนนั้นคุณปู่เองก็อาจจะมาขอโทษเธอถึงที่ด้วยเหมือนกัน”หลี่โม่พูด
กู้หยุนหลันถึงได้เข้าใจความหมายของหลี่โม่ ดวงตาใหญ่สวยงามจ้องไปที่หลี่โม่ แล้วก็กลับไปนั่งที่โซฟาอีกครั้ง มองเขาด้วยใบหน้าสงสัย “ทำไมนายถึงแน่ใจขนาดนี้?หรือว่า วิกฤตของบริษัทวินเซิง นายเป็นคนทำมันเองกับมือ?