จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 68
บทที่ 68 ผลของความไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง
เมื่อหลินชิงหานได้ยินคำพูดนี้ ใบหน้าของเธอก็บึ้งตึงทันที น้ำเสียงของเธอก็เย็นชาตะโกนขึ้นว่า “เจี่ยงอันหัว ใครให้คุณบุกเข้ามา ออกไปเดี๋ยวนี้!”
เธอไม่ชอบเจี่ยงอันหัว ชายวัยกลางคนที่กะล่อนปลิ้นปล้อน เพราะอีกฝ่ายมักจะปรารถนาความงามของเธอ และยังตามรังควานเธอไม่ใช่แค่วันสองวัน
พอมีเวลาว่าง ไอ้บ้านี่ก็วิ่งเข้ามายิ้มเขิน ๆ และอยากจะชวนเธอไปกินข้าว
แต่ว่ายิ่งไปกว่านั้นมือเท้าของเจี่ยงอันหัวไม่สะอาด เขาเคยชินกับการลักเล็กขโมยน้อย เดิมทีเขาได้รับเชิญจากสังคม เขายังเคยสร้างปัญหาข้างนอก ยังชวนพวกญาติๆป้าๆ เข้ามาทำงานในVienna Concert Hall
อย่างเช่น ซุนเสี่ยวหย่า ก็คือเจี่ยงอันหัวนี่แหละที่พาเข้ามา และยังสนับสนุนให้ได้เลื่อนตำแหน่ง
“หลินชิงหาน นี่คุณหมายความว่าไง? ยังไงซะผมเจี่ยงอันหัวก็เป็นหัวหน้างานในVienna Concert Hall เข้ามานั่งในนี้ไม่ได้หรอ? ”
เจี่ยงอันหัวนั่งลงบนโซฟาอย่างไม่ใส่ใจ พร้อมกับกางมือทั้งสองข้างออก และนั่งไขว้ขา แววตาที่เต็มไปด้วยความเจ้าชู้ ได้กวาดสายตาไปทั่วเรือนร่างของหลิงชิงหาน!
“ตอนนี้ฉันไม่มีเวลาเถียงกับคุณ เชิญออกไป!” หลินชิงหานชี้ไปที่ประตู และตะโกนด้วยน้ำเสียงเย็นชา
คุณหลี่ก็อยู่ตรงหน้าเขา เจี่ยงอันหัวคนโง่ ถึงกับกล้าทำตามอำเภอใจ!
เจี่ยงอันหัวส่งเสียงหัวเราะออกมาสองครั้ง เหลือบมองไปหลี่โม่ที่ยืนอยู่ข้างๆ มุมปากแสดงท่าทีที่ตลกขบขันยิ้มเยาะเย้ยแล้วพูดว่า “โอ้ เก่งนี่หลินชิงหาน แม้แต่คนงานอย่างนี้ยังหามาได้ คุณคงหิวโหยมากเลยสินะ? ”
หลินชิงหานขมวดคิ้ว และตำหนิไปว่า “เจี่ยงอันหัว คุณกำลังพูดถึงอะไร!”
ไอ้หมอนี่ น่ารังเกียจ!
“เหอเหอ คุณก็เข้าใจสิ่งที่ผมพูด และผมไม่ต้องการพูดเรื่องไร้สาระกับคุณ ซุนเสี่ยวหย่าเป็นคนของผม คุณไม่สามารถไล่เธอออกได้” เจี่ยงอันหัวพูดแบบเปิดเผย
ซุนเสี่ยวหย่าที่อยู่ข้างๆเขา เวลานี้ ใบหน้าที่กำลังหัวเราะเยาะเย้ยมองไปที่หลินชิงหานและหลี่โม่ ในใจของเธอยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยาม
หลินชิงหาน คุณบ้าคลั่งมากไม่ใช่เหรอ อยู่ต่อหน้าแฟนของฉัน คุณกลับไม่กล้าพูดแม้แต่คำเดียว!
“ฮึ!”
หลินชิงหานส่งเสียงอย่างเย็นชาและตะโกนว่า “เจี่ยงอันหัวคุณอย่าลืมว่าฉันต่างหากที่เป็นผู้จัดการของ Vienna Concert Hall ฉันมีสิทธิ์ที่จะไล่ใครก็ได้ และคุณไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่ง!”
“ไอ้xxx!หลินชิงหานฉันไว้หน้าเธอแล้วนะ แต่เธอยังหน้าด้านอีก พี่เจี่ยงของฉันพูดคำไหนคำนั้น เขาไม่กลัวตำแหน่งผู้จัดการที่เธอใช้ร่างกายแลกมาหรอก”
ซุนเสี่ยวหย่ากอดอก จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความดูถูกและพูดว่า “อีกอย่าง ตัวเธอก็ไม่ได้สะอาดยังพาขยะแบบนี้เข้ามาอีก ส่วนตัวเธอก็ละเมิดกฎของที่นี่อยู่แล้ว ถ้ามันไปถึงหูของเถ้าแก่ ฉันจะดูว่าเธอจะอธิบายยังไง! ”
หลังจากพูดจบเธอก็นั่งลงบนตักของเจี่ยงอันหัว โอบที่คอของเขาและทั้งสองก็เอนตัวเข้าหากันอย่างสนิทสนม
“หลินชิงหาน ผมขอเตือนให้คุณคิดดีๆ เพื่อคนงานบ้านนอกที่ไม่เป็นอะไรเลยแล้วมาทำให้ผมโกรธ คุ้มค่าหรอ? ”
เจี่ยงอันหัวยิ้มพูดอย่างข่มขู่ด้วยดวงตาที่ร้อนแรงหยุดล้อมรอบอยู่ที่ร่างกายของหลินชิงหานแทบอยากจะกลืนกินเธอทั้งตัว
เขาอยากที่จะได้ร่างกายของหลินชิงหานมานานแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่วันสองวัน
แต่ผู้หญิงคนนี้หยิ่งยโส ดูถูกตัวเขาและเมินเฉยต่อตัวเขามาโดยตลอด
โดยปกติ เขาแสร้งทำเป็นว่าตัวเองเป็นคนบริสุทธิ์และเย็นชา คิดไม่ถึงว่าส่วนตัวแล้วจะเป็นคนคึกคะนองขนาดนี้
ถ้าไม่ใช่ว่าวันนี้ซุนเสี่ยวหย่ามาหาเขา เจี่ยงอันหัวยังไม่รู้เลยว่า หลินชิงหานพาคนงานเข้ามาในห้องรับรอง
นี่คือแอบพบรักกัน?
พอคิดถึงตรงนี้ เจี่ยงอันหัวก็ยิ่งโกรธหลี่โม่ที่ยืนอยู่ข้างๆ
ไอ้ทึ่มคนนี้ มันมีสิทธิ์อะไรที่ได้ผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบอย่างหลินชิงหานไปครอบครอง?
“แล้วคุณคิดจะทำอะไร? ” หลินชิงหานถามอย่างเย็นชา
เธอคอยสังเกตสีหน้าของหลี่โม่ที่อยู่ข้างๆโดยตลอด พบว่าอีกฝ่ายดูนิ่งเฉยอยู่อย่างนั้น
เธอเข้าใจว่าคุณลี่ไม่ต้องการที่จะเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเรื่องนี้
เมื่อเจี่ยงอันหัวได้ยินคำพูดนี้ เขาก็เลียริมฝีปากของเขา คำตาหวานจ้องไปที่ขาอันเรียวยาวที่สวยงามของหลินชิงหาน และพูดด้วยรอยยิ้ม “ง่ายนิดเดียว คืนนี้คุณไปทานข้าวเป็นเพื่อนผม”
“พี่เจี่ยง คุณพูดอะไร?” เมื่อซุนเสี่ยวหย่าที่อยู่ด้านข้างได้ยินคำพูดนี้ เธอก็ระเบิดออกมาราวกับแมวที่ถูกเหยียบหางจนขนตั้ง จ้องไปที่เจี่ยงอันหัวด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง
เจี่ยงอันหัวรีบอธิบายทันที “โอ้ย ที่รักผมก็แค่พูดเล่น ในใจผมมีแต่คุณเท่านั้น งั้นพูดว่ามา คุณต้องการให้ทำยังไง? ”
ในเวลานี้ซุนเสี่ยวหย่ารีบอาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่ง ชี้ไปที่หลี่โม่อย่างหยิ่งผยอง หัวเราะเยาะแล้วพูดว่า “ฉันต้องการให้เขาคุกเข่าลงและก้มหัวขอโทษฉัน!”
ซุนเสี่ยวหย่าเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่เธอรู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้หลินชิงหานขอโทษ
เพราะฉะนั้นเหยียดหย่ามคนนี้แทน เพื่อคืนความสะใจให้กับตัวเองที่ถูกตบ!
ยิ่งไปกว่านั้น ดูๆแล้วคนงานบ้านนอกคนนี้ ต้องเป็นคนรักที่หลินชิงหานแอบเลี้ยงไว้แน่นอน
ไม่อย่างนั้นทำไมเธอถึงปกป้องเขาขนาดนี้!
หลี่โม่ผงะเล็กน้อย ไฟนี้กำลังลามมาถึงตัวเองแล้ว?
หลินชิงหานก็ตกใจเช่นกัน จากนั้นก็จ้องไปที่ซุนเสี่ยวหย่าด้วยความโกรธและตะโกนว่า “ซุนเสี่ยวหย่าคุณไม่มีสิทธิ์จะมาพูดอะไรที่นี่ หุบปากเน่าๆของเธอซะ!”
อยากให้คุณหลี่คุกเข่าขอโทษ?
ทำไมเธอไม่เอาหัวโขกตายตั้งแต่ตอนนี้?
แม้แต่ท่านเฉียวก็ยังต้องเคารพเมื่อเห็นคุณหลี่ ซุนเสี่ยวหย่าเธอถือว่าเธอเป็นตัวอะไร!
“หลินชิงหาน ฉันไม่ให้เธอขอโทษก็ดีเท่าไหร่แล้ว กับแค่คนงานขยะคนหนึ่ง เธอจำเป็นต้องปกป้องเขาขนาดนี้เชียวหรอ หรือว่าเป็นอย่างที่ฉันเดา เขาเป็นคนรักที่เธอแอบเลี้ยงไว้เงียบๆ? รสนิยมของเธอนี่ต่ำจริงๆนะ” ซุนเสี่ยวหย่าพูดด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
“หุบปาก! เธอรู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใคร? เธอกล้าขอให้เขาขอโทษ แสดงว่าเธอเบื่อชีวิตเต็มทีแล้วใช่ไหม!” หลินชิงหานพูดอย่างโกรธสุดขีด
“เหอเหอ เขาแค่คนงานบ้านนอกไม่ใช่หรอ ทำไม หรือว่าเป็นคนลึกลับที่จะมีตรวจสอบVienna Concert Hall ของพวกเรา? ” ซุนเสี่ยวหย่ายิ้มเยาะพูดเรื่อยเปื่อยไปงั้นๆ
เธอก็รู้ว่าคนลึกลับคนนั้นมีสถานะที่ไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ที่เถ้าแก่มอบหมายงานให้หลินชิงหาน เธอก็ได้ยินหมดแล้ว
เป็นบุคคลที่ยากจะจินตนาการจริงๆ แม้แต่เถ้าแก่ ที่เป็นวีรบุรุษหนึ่งในสี่อย่างท่านเฉียว ก็ยังต้อนรับเคารพอย่างนับถือ
ทำไม คำพูดหลินชิงหานในเวลานี้ หมายความว่าไง?
หรือว่าไอ้คนรักบ้านนอกที่หลินชิงหานเลี้ยงไว้คนนี้จะไม่ธรรมดา?
มีสถานะพิเศษ?
คงไม่ใช่เรื่องตลกนะ!
แต่ว่า ในขณะนี้หลี่โม่ค่อยๆเอ่ยปากพูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน “คุณแน่ใจหรือว่าต้องการให้ผมคุกเข่าขอโทษคุณ? ”
“ใช่! นายรีบคุกเข่าลงและขอโทษฉันซะ!” ซุนเสี่ยวหย่าไม่ได้คิดอะไรมาก ตอบทันทีด้วยสีหน้าที่หยิ่งผยอง
ทั้งตัวทุกรูขุมขนมีกลิ่นอายของความโอหังอวดดีและกำเริบเสิบสาน
“ไม่ใช่แค่คุกเข่า ยังต้องคลานไปหาเธอ ขอความเมตตาเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง” เจี่ยงอันหัวพูดเสริมอย่างดูถูก
การจัดการกับคนงานบ้านนอก ไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยตัวเองด้วยซ้ำ
ตำแหน่งของเขาก็คืออาวุธที่ดีที่สุด
“นายชื่อเจี่ยงอันหัว เป็นหัวหน้าของที่นี่หรอ? ”
ในทางตรงกันข้าม ลี่โม่ไม่ได้โกรธมาก แต่ถามอย่างมีวาทศิลป์ด้วยรอยยิ้ม
“ถือว่าไอ้หนุ่มนี่ฉลาด ใช่แล้ว ผมคือหัวหน้าของVienna Concert Hall ท่านเฉียวเป็นคนหามาด้วยตัวเอง เดี๋ยวนี้รู้จักกลัวแล้วสิ? งั้นก็รีบคุกเข่าขอโทษแฟนของผมซะ!”
เจี่ยงอันหัว นั่งบนโซฟา โดยไขว้ขาขึ้น ด้วยท่าทางที่เย่อหยิ่ง
หลี่โม่ยิ้มจาง ๆ จากนั้นมองกลับไปที่หลินชิงหาน ด้วยใบหน้าที่เย็นชาและพูดว่า “ไล่ทั้งคู่ออกซะ ตรวจสอบด้วยว่าพวกเขาได้ทุจริตอะไรรึเปล่า ได้ใช้อำนาจในทางที่ผิดหรือไม่ ผมหวังว่าจะจัดการทันที หากทำไม่ได้ก็ให้เถ้าแก่พวกคุณมาพบผม