จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 78
บทที่ 78 หมายหัว
หัวหน้าตระกูลหวางกับลูกชายและลูกสาวออกจากบ้านแล้ว
เรื่องนี้ จุดชนวนจากกลุ่มเล็กๆกลายเป็นประเด็นสนทนาไปทั่วเมืองฮ่านในพริบตา
ถึงยังไง ในเมืองฮ่านแห่งนี้ตระกูลหวางก็ถือเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยในระดับรองลงมาเท่านั้นแล้ว ในเมืองฮ่านนี่เมื่อเทียบกับตำแหน่งของตระกูลกู้ก็สูงกว่าเป็นไหนๆ
แต่หัวข้อสนทนาเรื่องที่หวางห้านเชาถูกคนกระหน่ำชกที่บริษัทวินเซิงกับหวางเมิ่งเหยาถูกกู้หยุนหลันตบหน้านั้น ก็ถูกกระจายข่าวไปสู่คนทุกระดับในเมืองฮ่านอย่างรวดเร็ว
ทุกคนต่างก็นิ่งอึ้งไป เมื่อได้ดูวิดีโอของกล้องที่ถูกถ่ายอย่างสั่นๆในฟีดข่าว ก่อนจะพูดไม่ออกไปเป็นเวลานาน
“ให้ตายสิ! ไอ้หลี่โม่นี่ก็ห้าวหาญมากอยู่นะ ไม่เหมือนกับเป็นคนไร้ประโยชน์อะไรนั่นเลย ขนาดผู้หญิงที่ดุแบบหวางเมิ่งเหยาเขายังกล้าหาเรื่องเลย”
“เหอๆ ก็แค่เศษสวะคนหนึ่งเท่านั้นล่ะ จะทำเรื่องดีๆอะไรออกมาได้ ตอนนี้ ตระกูลหวางทั้งตระกูลก็ไปพูดคุยถึงบริษัทวินเซิงแล้ว”
“นั่นสินะ กู้หยุนหลันนั่นครั้งนี้โชคร้ายเสียจริงนะ ได้ไปแต่งงานกับสามีไร้สมองแบบนั้นน่ะ”
ฝูงชนกำลังต่างคนต่างส่งความแสดงความเห็นลงในกลุ่มวีแชท คำพูดต่างๆพวกนั้นล้วนแฝงไปด้วยความดูถูกกับสมเพชในความโชคร้ายของคนอื่น
คนแทบทุกคนต่างก็มั่นใจว่า ครั้งนี้ผู้นำตระกูลหวางพาลูกชายกับลูกสาวมาพูดคุยเรื่องนี้แน่
ส่วนทางนี้ เมื่อสิบกว่านาทีก่อน กู้ซิงเว๋ยเพิ่งจะกลับออกจากร้านกาแฟชั้นลงเข้าสู่ห้องทำงาน มาถึงเขาก็เห็นกลุ่มคนแยกตัวออกแล้ว มุมปากของเขาอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหาสักคนมาถามว่า “รองประธานกู้กับประธานหวางล่ะ?”
พนักงานคนนั้นรีบตอบอ้ำๆอึ้งๆด้วยความกลัว “รองประธานกู้ออกไปแล้วค่ะ ประธานหวางเองก็ด้วย”
กู้ซิงเว๋ยขมวดคิ้วมองไปที่ท่าทางหลบเลี่ยงของทุกคน ใจของเขารู้ได้ถึงความผิดปกติ เขาจึงรีบถามไปว่า “มีเรื่องอะไรกันเหรอ?”
พนักงานคนนั้นถึงได้เล่าเรื่องที่ผ่านมาให้เขาฟัง
หลังจากฟังจบ กู้ซิงเว๋ยทั้งตกใจทั้งโกรธจัด “อะไรนะ? หวางห้านเชาถูกทำร้าย? กู้หยุนหลันยังตบหวางเมิ่งเหยาอีก!”
แม่เจ้าเว้ย!
กู้หยุนหลัน เธอจบเห่แน่ งานนี้ตายสถานเดียว!
แทบจะไม่ต้องคิด กู้ซิงเว่ยก็รู้ว่า โอกาสของเขามาถึงแล้ว
กู้หยุนหลันกล้าทำร้ายผู้ร่วมลงทุน งั้นเธอก็รนหาที่ตายน่ะสิ
คิดแล้ว เขาก็รีบหมุนตัวออกจากบริษัทไปทันที ก่อนจะขับรถไปยังบ้านใหญ่ของตระกูลกู้ เมื่อมาถึงเขาก็ตะโกนเสียงดัง “คุณปู่ เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องแล้วครับ!”
คุณปู่ที่กำลังรดน้ำดอกไม้และเดินดูนกในสวนอยู่ในเวลานี้ เมื่อเห็นกู้ซิงเว๋ยรีบร้อนเดินเข้ามา เขาก็ทำสีหน้าเย็นชา แล้วตำหนิขึ้นมาว่า “ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ เมื่อไรแกจะสุขุมได้สักทีฮะ!”
กู้ซิงเว๋ยกลืนน้ำลายลงคอไปหลายครั้งพร้อมทั้งหอบหายใจ แล้วพูดขึ้นว่า “คุณปู่ เรื่องด่วน เรื่องด่วนมากเลยครับ กู้หยุนหลันตบหน้าหวางเมิ่งเหยา อีกอย่างระหว่างทางผมยังได้ยินมาว่า คุณลุงหวางพาหวางห้านเชากับหวางเมิ่งเหยามาที่บริษัทวินเซิงของเราครับ”
ปึง!
กาน้ำในมือของคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ร่วงลงบนพื้น เขามึนงงไปหมด ก่อนจะถามว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? กู้หยุนหลันไปตบหวางเมิ่งเหยาได้ยังไง?”
ต่อจากนั้น กู้ซิงเว๋ยก็เติมสีใส่ไข่ให้กับเรื่องที่เพิ่งได้ยินจากบริษัทเมื่อกี้ ว่ากู้หยุนหลันทั้งหยิ่งผยองทั้งใช้อำนาจบาตรใหญ่ แล้วก็บอกอีกว่าหลี่โม่เข้ามาทุบตีหวางเมิ่งเหยาอย่างรุนแรง ผ่านการอธิบายนั่นมันเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก
แน่นอนว่า เรื่องที่เฉียวเจิ้งหลงมาในตอนหลังนั้น กู้ซิงเว๋ยไม่ได้เล่า
เพราะว่าตัวเขาเองก็สงสัย ว่าท่านเฉียวไม่ได้มาช่วยหวางห้านเชา
“กำเริบเสิบสาน! เจ้ากู้หยุนหลันนี่ช่างกล้านัก! แม้แต่คุณหนูตระกูลหวางยังกล้าทำร้าย!”
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้โกรธจนหอบหายใจ สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ยังมีไอ้หลี่โม่นั่นอีก มันคิดจะทำอะไรฮะ? นี่มันหาเรื่องหายนะให้ตระกูลกู้ของเราเลยนะ! แกรีบโทรบอกให้ทั้งสองคนไปรอปู่ที่บริษัท!”
“ได้ครับ คุณปู่”
กู้ซิงเว๋ยแสดงสีหน้าเหมือนทั้งร้อนรนใจทั้งกังวลใจมาก แต่จริงๆในใจเขากำลังหัวเราะเยาะ
ฮ่าฮ่า!
เยี่ยมเลย ครั้งนี้ขอดูหน่อย ว่ากู้หยุนหลันกับหลี่โม่จะหนีไปทางไหนกัน!
ตำแหน่งรองประธานของกู้หยุนหลันนั่น เกรงว่าคงไม่มั่นคงแล้วล่ะนะ
ไม่กี่นาทีต่อมา ทางฝั่งของกู้หยุนหลันที่อยู่ ณ โรงพยาบาลก็ได้รับสายของกู้ซิงเว๋ย ภายในสายนั้นก็มีเสียงดังตะคอกขึ้นทันที “กู้หยุนหลัน เธอกับหลี่โม่รับไสหัวกลับเข้ามาในบริษัทเดี๋ยวนี้!”
เมื่อกู้หยุนหลันได้ยินเสียงของกู้ซิงเว๋ย ก็ตอบกลับอย่างเย็นชาไปทันทีว่า “ขอโทษด้วยนะ ตอนนี้ไม่ว่าง”
“เธอกล้ามากเลยนะ คุณปู่เป็นคนให้โทรมาบอก!” กู้ซิงเว๋ยเสียงดัง ส่วนคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ที่อยู่ด้านข้างนั้นมีสีหน้าลึกล้ำ เขาเอ่ยว่า “กู้หยุนหลัน พาหลี่โม่มาคุกเข่าที่หน้าประตูรอปู่!”
พูดจบคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็ยันไม้เท้า แล้วรีบออกจากบ้านไปในทันที
ส่วนทางด้านของกู้ซิงเว๋ยนั้นกำลังหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังอยู่กับโทรศัพท์ “กู้หยุนหลัน ครั้งนี้เธอตายแน่ ผมจะเล่นงานเธอให้ตายเลย”
ป้าบ!
สายโทรศัพท์วางไปแล้ว กู้หยุนหลันมองโทรศัพท์ด้วยสีหน้าสงสัยสุดขีด
หลี่โม่เดินเข้ามาพอดี เขาเห็นกู้หยุนหลันสีหน้าแย่มาก จึงถามขึ้นว่า “เป้นอะไรไปถึงได้สีหน้าแย่ขนาดนั้น?”
“กู้ซิงเว๋ยโทรมา ให้ฉันไปที่บริษัทเดี๋ยวนี้ คุณปู่อยากเจอฉัน เห็นบอกว่าหัวหน้าตระกูลหวางพาหวางห้านเชากับหวางเมิ่งเหยามาเอาเรื่องน่ะ”
กู้หยุนหลันขมวดคิ้วมองหลี่โม่ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “ทำยังไงดีหลี่โม่ ครั้งนี้ฉันทำหายนะครั้งใหญ่เลยล่ะ”
ใจของเธอร้อนรน กู้ซิงเว๋ยจะต้องใส่ไฟเธอให้คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ฟังแน่ ไม่อย่างนั้นเมื่อกี้คุณปู่คงจะไม่โกรธขนาดนั้น
อีกอย่าง ผู้นำตระกูลหวางอย่างหวางฉางเห้อ ก็ขึ้นชื่อเรื่องถือหางมาก ครั้งนี้ตัวเธอกับหลี่โม่ลงมือทำร้ายหวางเมิ่งเหยา เอาตามนิสัยของหวางฉางเห้อแล้ว จะต้องไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆแน่
หลี่โม่เห็นสีหน้าร้อนรนของกู้หยุนหลันก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ไปก็ไปสิ ถึงแล้วก็ดูสถานการณ์ก่อนค่อยว่ากัน ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นพวกเขามาขอโทษเรานะครับ”
กึกๆ
เมื่อได้ยินแบบนั้น กู้หยุนหลันก็ใจกระตุก คิ้วของเธอบิดจนขมวด เธอมองหน้าหลี่โม่ที่กำลังมีสีหน้ายิ้มสนุก แล้วมองค้อนเขาไปหนึ่งที “เวลานี้แล้วนะ นายยังมีกะจิตกะใจล้อเล่นอยู่อีก!”
พูดจบ เธอก็หยิบกระเป๋า แล้วพูดกับซีซีสองสามประโยค ก่อนจะหมุนตัวจากออกไป
เมื่อเห็นว่าหลี่โม่ตามมา กู้หยุนหลันก็รีบหันหน้าไปพูดอย่างเย็นชาว่า “นายอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนซีซี ฉันจะไปเอง”
หลี่โม่สั่นสะท้าน มองดูแววตาที่เปล่งประกายนั่นของกู้หยุนหลันเขาก็เข้าใจ
ว่าเธอคิดจะแบกรับมันไว้คนเดียว
ยังเป็นห่วงเขามากขนาดนั้น
“คุณเป็นภรรยาของผมน่ะ ผมจะให้คุณไปเผชิญอันตรายคนเดียวได้ยังไงกัน” หลี่โม่พูดขึ้น “สบายใจเถอะครับ ไม่มีเรื่องอะไรหรอก ถ้าเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ ผมจะรับมันไว้เอง”
“นาย…” กู้หยุนหลันยังอยากพูดอะไรอีกหน่อย แต่หลี่โม่ก็เดินตรงออกไปแล้ว
เธอก้าวเดินฉับๆและจ้องมองไปที่ด้านหลังของหลี่โม่ ในใจก็คิดว่า เขานี่ช่างหลักการชายเป็นใหญ่ซะจริง
จริงๆเลยนะ คิดจะไปอวดดีให้ได้เลย
“นายรอฉันก่อนสิ” กู้หยุนหลันตะโกน แล้วตามออกไป
กลับมาทางด้านของคุณชายใหญ่ตระกูลกู้ ตอนนี้เขานั่งรถของกู้ซิงเว๋ยมาถึงบริษัทแล้ว
บริษัทวินเซิงในเวลานี้ ราวกับศัตรูตัวฉกาจกำลังใกล้เข้ามา ผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดรวมตัวกันในห้องประชุม แล้วสนทนากันไม่หยุด
“คุณดูสิ กู้หยุนหลันคนนี้น่ะทำหายนะครั้งใหญ่เลยนะ!”
“ไม่ใช่รึไง อยู่กับไอ้สวะหลี่โม่นั่น จะไปเรียนรู้อะไรดีๆได้ยังไงกัน?”
“เลิกคิดได้แล้ว ถึงเวลาก็ส่งตัวกู้หยุนหลันกับหลี่โม่ออกไปสิ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับบริษัทวินเซิงของเราเลยนะ!”
ผู้คนพากันออกความคิดเห็นคนละเล็กละน้อย ส่วนใหญ่พากันโยนความรับผิดชอบให้กู้หยุนหลันกับหลี่โม่
พวกเขาทั้งคู่ในเวลานี้ กลายเป็นศัตรูสาธารณะหมายเลขหนึ่งของบริษัทวินเซิง ที่ทุกคนเรียกให้ตี
เฉียนเสี่ยวเหวินทนดูไม่ได้อีกต่อไป เธอโมโหจนลุกขึ้นยืนพร้อมตะโกนว่า “พวกคุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ เรื่องนี้มันเป็นความผิดของหวางเมิ่งเหยาแท้ๆ เธอเริ่มลงมือทำร้ายรองประธานกู้ก่อนนะ ทำไมตอนนี้พวกคุณกลับมาวิพากษ์วิจารณ์รองประธานกู้กันล่ะ”
เธอยืนตะโกนอยู่ที่มุมนั้นตัวคนเดียว ชัดเจนว่าไร้ผล
ผู้คนรอบๆต่างก็มองตรงไปทางเธอ แล้วชี้นิ้วพูดว่า “คนนี้ใครกัน เวลานี้แล้วยังจะกล้าพูดแบบนั้นอีกเหรอ?”
“เหอๆ ผู้ช่วยของกู้หยุนหลันน่ะ จนถึงตอนนี้ยังจะช่วยพูดแทนกู้หยุนหลันอีก”
เมื่อเจอกับความเมินเฉยจากผู้คน เฉียนเสี่ยวเหวินก็ร้อนรนเหมือนมดบนหม้อไฟ
เธอยังอยากพูดอะไรต่ออีก แต่ก็ถูกเพื่อนร่วมงานสองสามคนดึงตัวไว้ แล้วส่งสัญญาณว่าอย่าต่อ
เฉียนเสี่ยวเหวินโกรธจนกัดฟัน แล้วแอบหยิบโทรศัพท์ที่เพิ่งซื้อออกมาส่งข้อความหากู้หยุนหลัน : พี่หยุนหลันอย่ามาที่บริษัทเด็ดขาดเลยนะคะ! ห้ามมาเลยเด็ดขาดเลยนะคะ!
ในตอนนั้นเอง คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้กับกู้ซิงเว๋ยก็เดินเข้ามาในห้องทำงาน
ทุกคนต่างก็ดูออกว่าคุณชายใหญ่ตระกูลกู้ตอนนี้ก็เป็นราวกับใจกลางมรสุมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธ จังหวะก้าวเดินนั่นเร็วกว่าปกติตั้งไม่รู้กี่เท่า
กู้ซิงเว๋ยเดินตามมาด้านหลัง ก่อนจะพูดเสียงดังว่า “ทุกคนเงียบ”
ห้องทั้งห้องเงียบลงในพริบตา
กู้ซิงเว๋ยมองจ้องไปยังเฉียนเสี่ยวเหวินที่กำลังใช้โทรศัพท์อยู่ตรงมุมนั้น เขาโมโหขึ้นมาในทันที ก่อนจะเดินตรงไปข้างหน้า แล้วพูดว่า “ทำอะไรน่ะ? ยังจะเล่นโทรศัพท์อีก เธอเห็นที่นี่เป็นงานเลี้ยงน้ำชารึไงฮะ!?”
กู้ซิงเว๋ยฉวยโทรศัพท์จากมือของเฉียนเสี่ยวเหวินโดยพลการ เขามองดูไปแวบหนึ่งก็เห็นเข้ากับข้อความที่กำลังจะส่งพอดี
“ดีนี่เธอ! ยังจะกล้าส่งข้อความแจ้งกู้หยุนหลันอีกเหรอ?!”
กู้ซิงเว๋ยพูดด้วยความโมโห เขายกมือขึ้นแล้วตบลงบนหน้าของเฉียนเสี่ยวเหวินอย่างแรง
เฉียนเสี่ยวเหวินรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เธอใช้มือกุมใบหน้าพร้อมมองกู้ซิงเว๋ยทั้งน้ำตา
กู้ซิงเว๋ยชี้ไปทางประตูแล้วพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “เธอโดนไล่ออกแล้ว ตอนนี้ไสหัวออกไปซะ!”
พูดจบ เขาก็ไม่สนใจกู้ซิงเว๋ยอีกต่อไป แต่กลับเดินไปยืนข้างคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ไม่ได้ดูการกระทำที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย แต่กลับยิ้มอย่างเย็นชาแล้วกล่าวว่า “ที่พาทุกคนมารวมตัวกันนี้ ก็เพื่อจะหาทางจัดการเรื่องของตระกูลหวาง อย่างแรก ถอดตำแหน่งรองประธานของกู้หยุนหลันซะ อย่างที่สอง ส่งตัวกู้หยุนหลันกับหลี่โม่ให้ตระกูลหวาง ทุกคนเชิญโหวตเถอะครับ”