จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 89
บทที่ 89 เปิดร้านร้านหนึ่ง
5 แสนเยอะมากหรอ?
ประโยคนี้ทำเอาซูหย่าและซ่งเหวินเหวินตกใจไปสักพัก
หลี่โม่นี่ช่างกล้าพูดเกินไปแล้วมั้ง!
ซูหย่าขมวดคิ้ว มีความไม่กล้าเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นิดหน่อยรวมถึงคำพูดเมื่อกี้ของหลี่โม่ด้ว
ไอ้คนนี้มันใช้ชีวิตอยู่ได้แย่มากไม่ใช่หรอ? อยู่บ้านตระกูลกู้ก็ไม่มีตำแหน่งอะไร เขาเอาเงินเยอะแยะมากจากไหน?
“เหอะๆ ฉันรู้แล้ว นายคงไม่ได้ใช้เงินของเมียนายหรอกใช่มั้ย”ซูหย่ายักคิ้ว แล้วก็เยาะเย้ยด้วยใบหน้าได้ใจ
จะต้องเป็นแบบนี้แน่ ไม่อย่างนั้น ไอ้ขยะนี่จะเอา 5 แสนมาจากไหนมาเหมาร้านอาหารฮัวกู่?
ซ่งเหวินเหวินก็พยักหน้าตาม พูดเสริมไปว่า “พี่หย่าหย่า พี่พูดถูก จะต้องเป็นอย่างนี้แน่ ไม่คิดเลย เป็นผู้ชายแล้วเป็นผู้ชายแบบนี้ ช่างน่าอับอายจริงๆ”
แต่แล้ว
หลี่โม่ก็หัวเราะนิ่งๆ ส่ายหัวแล้วพูด “ไม่ใช่เมียฉัน ฉันเปิดร้านเอง”
ไม่มีทางเลือก คงไม่สามารถปล่อยให้คนมาเยาะเย้ยได้ตลอดหรอกมั้ง แค่เปิดเผยว่ามีเงินสักหน่อยก็พอได้
ได้ยินอย่างนั้น ซ่งเหวินเหวินก็ลุกขึ้นอย่างตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกาย จ้องมองไปที่หลี่โม่ ถามอย่างตกใจ “นายเปิดร้าน?จริงหรอ?!”
ซ่งเหวินเหวินตื่นเต้นมาก หลี่โม่คนนี้ดูแล้วอ่อนแอไร้ประโยชน์ แต่กลับเปิดร้านอยู่ร้านหนึ่ง อย่างนั้นก็ต้องมีเงินแล้วสิ
ไม่สนใจพึ่งเมียรึเปล่า แต่ก็ถือว่ามีเงินแล้ว
ถ้าอย่างนั้นก็ใช้ความสวยของตัวเองสักหน่อย ขี้แพ้แบบนี้ มักจะแพ้ให้กับใต้กระโปรงของเธอได้อย่างง่ายดาย
คิดแล้ว ซ่งเหวินเหวินก็รีบเอากระเป๋าแล้วบอกว่าขอตัวไปห้องน้ำ แต่จริงๆแล้วไปเติมเครื่องสำอาง
ซูหย่าที่อยู่ข้างๆก็มีความตกใจนิดหน่อย ถามหลี่โม่อย่างตื่นเต้น “หลี่โม่ นายเปิดร้านอยู่ร้านหนึ่งจริงๆหรอ?”
ในใจซูหย่ามีความสงสัย เมื่อก่อนเธอเป็นเพื่อนร่วมงานกับหลี่โม่ เธอรู้เบื้องลึกของหลี่โม่ดี
ขี้แพ้จนๆอย่างนี้ จะเปิดร้านเป็นเถ้าแก่ได้ยังไงกัน
หรือว่า กู้หยุนกลันดีกับเขาขนาดนี้เชียว?
ไม่ใช่สิ
ถึงแม้ว่าในใจจะไม่เข้าใจ แต่ว่าซูหย่าก็ยังให้เกียรติ พูดยิ้มๆ “ใช้ได้หนิหลี่โม่ ไม่เจอ 2 ปี ใช้ชีวิตได้ดีหนิ ได้เลื่อนตำแหน่งในบ้านตระกูลกู้แล้ว?”
หลี่โม่ยิ้มมุมปากนิดหน่อย ไม่ได้พูดอะไร
เขารู้ดีว่าถ้าเขายังบอกว่าทำงานอยู่ที่ร้านสปาเหมือนเดิม จะต้องถูกซูหย่าประชดเยาะเย้ยแน่นอน
อย่างนั้นก็บอกไปดีกว่า ยังไงซะต่อไปก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรให้ข้องเกี่ยวกัน ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร
ซูหย่าพูดยิ้มๆ “ดูเหมือนข่าวจากพวกจ้าวไห่เขาจะไม่ตรงนี่ คิดว่านายจะมีชีวิตอยู่ได้แย่ซะอีก ไม่คิดเลยว่าตอนนี้จะได้ดิบได้ดีแล้ว”
ตอนนี้ซ่งเหวินเหวินเดินกลับมา แต่งหน้ามาจริงๆด้วย ดูสวยขึ้นกว่าเดิมอีก
ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ส่งสายตาให้หลี่โม่ไม่หยุด ตอนที่นั่งลง นั่งจงใจทำท่าทางอ่อยๆด้วย “คนหล่อ มีโอกาสก็พอพวกเราไปดูร้านของนายบ้างสิ ช่วงนี้ฉันไม่มีอะไรทำพอดี นายชวนฉันออกไปเที่ยวก็ได้นะ”
ประโยคนี้ถึงกับทำให้หลี่โม่ตกใจ
ผู้คนนี้ แสดงออกเปิดเผยขนาดนี้เลยหรอ?
นี่มันแสดงออกว่าอ่อยตัวเขาอยู่ชัดๆ
ซูหย่าหัวเราะหึ แล้วพูดประชด “หลี่โม่ ก่อนหน้านั้นมีงานเลี้ยงรวมพนักงานเก่า นายไม่มานี่ ถึงแม้ว่าทุกคนจะลาออกมาจากร้านเสริมสวยแล้ว แต่ยังไงก็เคยทำงานด้วยกัน ครั้งนี้ ไม่ว่ายังไงนายก็ต้องมา พอดีเลย พวกจ้าวไห่จองห้องในร้านกวนเหลินกัง นายห้ามปฏิเสธอีกแล้วนะ”
หลี่โม่ประหลาดใจนิดหน่อย “วันนี้?”
ซูหย่าพยักหน้า “ใช่แล้ว พวกจ้าวไห่เขาไม่ได้แจ้งนายหรอ?”
งานเลี้ยงพนักงานเก่าก่อนหน้านั้นสองครั้งหลี่โม่ได้รับการแจ้งมาแล้ว แต่ว่าปฏิเสธไปหมด
ยังไงซะเขาอยู่ในตระกูลกู้ตำแหน่งต่ำต้อยมาก อีกอย่างเขาและพวกจ้าวไห่ก็ไม่ค่อยถูกกัน ไปก็มีแต่อึดอัด
จ้าวไห่เมื่อก่อนนั้นเป็นหัวหน้าในร้านเสริมสวยสปาBeautiful lady เมื่อก่อนความสัมพันธ์กับหลี่โม่ก็ถือว่าไม่เลว แต่ว่าหลังจากนั้น ทะเลาะกันเพราะว่ามีเรื่องอยู่นิดหน่อย
ดังนั้น ครั้งนี้ พวกเขาไม่ได้แจ้งหลี่โม่มาด้วยซ้ำ
ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะเจอ
ยอมรับว่าเกินกว่าที่คิดไว้จริงๆ
ซูหย่าเห็นว่าหลี่โม่ลังเล จึงรีบพูด “ในเมื่อทุกคนได้เจอกันทั้งที ก็ไปพร้อมกันเถอะ ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว ยังไงซะก็เพื่อนเก่ากันแล้ว ได้รวมตัวกันหน่อยก็ดีนะ”
จริงๆแล้วในใจของซูหย่ากำลังเอาแต่วางแผนว่าจะใช้โอกาสในครั้งนี้ ทำให้เธอกับหลี่โม่สนิทกันมากขึ้น
ยังไงซะตอนนี้หลี่โม่ก็เปิดร้านแล้ว ใช้ทีก็ 5 แสน ดูแล้วคงจะมีเงินไม่น้อย
หลี่โม่ลูบๆจมูก คิดๆแล้วก็พูดว่า “โอเคก็ได้”
ยังไงซะเดี๋ยวเขาก็ไม่มีธุระอะไร และอาหารค่ำใต้แสงเทียนที่จองไว้ให้กู้หยุนหลันก็คืนพรุ่งนี้ ไม่รีบ
นั่งในร้านกาแฟสักพัก ซูหย่าและซ่งเหวินเหวินถึงได้พาเขาไปคาราโอเกะที่ห้างใกล้ๆ
“พวกจ้าวไห่เขาร้องคาราโอเกะอยู่ที่นี่ ร้องเสร็จถึงจะไปกวนเหลินกัง “ซูหย่าพูดด้วยรอยยิ้ม แล้วยังไปควงแขนของหลี่โม่ด้วย พูดกระซิบว่า “หลี่โม่ นายรู้รึเปล่า ช่วงนี้จ้าวไห่ก็เปิดร้านอยู่ร้านหนึ่ง ก็เป็นพวกเสริมสวยสปาเหมือนกัน ได้ยินว่า ครึ่งปีก็ได้กำไรมา5ล้านแล้ว กำลังเตรียมจะเปิดอีก 3 ร้านในเมืองฮ่าน! งานเลี้ยงรวมพนักงานเก่าครั้งนี้ก็เขาเป็นคนจัดนั่นแหละ”
หลี่โม่ไม่ชอบใจที่ซูหย่าควงแขนตัวเองแบบนี้ ผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ เขารู้แน่นอนอยู่แล้ว
หลี่โม่ดึงแขนของซูหย่าออกอย่างมีมารยาท แล้วส่ายหัว “จ้าวไห่…..ก็เปิดร้าน?พวกเราไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว”
ซูหย่ามองดูหลี่โม่ดึงแขนของตัวเองออก สีหน้าไม่พอใจนิดหน่อย ไม่คิดเลยว่า หลี่โม่นี่จะไม่รู้จักรักษาของดีแบบนี้
หรือว่า ตัวเธอไม่สวยพอ หรือว่าไม่แรดพอ
ดังนั้น ใบหน้าของซูหย่าจึงไม่พอใจ น้ำเสียงก็เย็นชาขึ้น สองมือกอดอกเบียดหน้าอกใหญ่ออกมา “เมื่อก่อนพวกนายออกจะดีกันไม่ใช่หรอ ทำไม ทะเลาะกัน?ดูแล้ว ข่าวลือพวกนั้นจะไม่ผิดนี่”
ซูหย่ารู้นะ ตอนที่อยู่ร้านเสริมสวยสปากับพวกจ้าวไห่และหวังชวน พวกเขาออกจะสนิทกัน ถูกเรียกว่าแก๊งสามเกลอด้วยซ้ำเพราะตัวติดกันตลอด
ตอนนี้ พวกเขาไม่ได้ติดต่อกันแล้ว เป็นเพราะทะเลาะกันเรื่องนั้นของกู้หยุนหลันแน่นอน
ข่าวลือว่าจ้าวไห่ชอบกู้หยุนหลัน หลังจากนั้นจ้าวไห่กับหลี่โม่ก็เลิกคบกัน ส่วนเหตุผลหลักคนอื่นๆก็ไม่อยากรู้แล้ว
เหอะๆ นังมารยากู้หยุนหลัน เป็นตัวนำโชคร้ายจริงๆ
ตอนนี้ ซ่งเหวินเหวินเองก็เข้ามาร่วมด้วย อยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก
“นี่ จ้าวไห่ที่พวกพี่พูดถึงคือใครหรอ?ร้านที่เปิดทำกำไร 5 ล้าน?”ซ่งเหวินเหวินสั่นหัวแสดงออกถึงความตื่นเต้นมาก
หลี่โม่ส่ายหัวและถอนหายใจ “ไม่รู้สิ ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว”
ซูหย่าเองก็ไม่พูดอะไรแล้วส่ายๆหัวเหมือนกัน
“เอ๊ะ ใช่สิ นายกับหวังชวนตอนนี้ยังติดต่อกันมั้ย?และยังมีเสิ่นหยาง พวกนายก็ไม่ได้ติดต่อกันหรอ?”ซูหย่าถามอย่างประหลาดใจ
เมื่อซ่งเหวินเหวินได้ฟังก็ขมวดคิ้ว บ่นนิดหน่อย “หลี่โม่ ทำไมรู้สึกว่านายคบกับใครไม่ได้เลย ตัวนายคงไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกใช่มั้ย?”
“เหอะๆ ฉันยังติดต่อกับหวังชวนอยู่ แต่เสิ่นหยางไม่ได้ติดต่อ จริงๆแล้วฉันไม่ค่อยชอบสร้างสัมพันธ์กับคนอื่นเท่าไหร่ มีเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้สักคนสองคนก็พอแล้ว”หลี่โม่อธิบาย
หวังชวนเป็นเพียงคนเดียวที่ทำดีเหมือนกับพี่น้องแท้ๆเลย
รอบก่อนยืมเงิน ก็เป็นเขาที่เอาให้ถึง 2 แสน
ถึงแม้ตอนหลังจะถูกจ้าวชิวหย่าแฟนของเขาห้ามไว้ แต่ว่าในใจหลี่โม่ยังจำความหวังดีนี้ไว้
ไว้ค่อยหาเวลาคุยกับหวังชวนดูว่าความฝันเขาคือเป็นอะไร
พวกเขาเดินไม่นานก็มาถึงห้องคาราโอเกะแล้ว อยู่ข้างนอกก็สามารถได้ยินถึงเสียงตะโกนที่เหมือนกับเสียงหมูร้อง
แต่ว่าเสียงที่ตามมากลับเป็นเสียงเชียร์ ฟังอยู่ข้างนอกนั้นอึดอัดจริงๆ
“ฮ่าๆ เสียงของเถ้าแก่จ้าวนี่สามารถไปประกวดเสียงดีได้เลยนะเนี่ย!”
“ใช่ครับ เหมือนเสียงต้นฉบับเลย ข้าน้อยขอคารวะ!”
“ไม่คิดเลยว่าเถ้าแก่จ้าวของพวกเราจะทั้งมีเงินและความสามารถและยังเป็นหนุ่มหล่ออีกด้วย เป็นพวกสูงรวยหล่อชัดๆเลย!”
……………
กลุ่มคนกำลังประจบประแจง หลี่โม่ฟังแล้วก็รู้สึกอึดอัดสุดๆ เพียงแค่หัวเราะเหอะเท่านั้น
ซูหย่านั้นเปิดประตูเข้าไปก่อน แล้วก็บอกกับคนในห้องว่า “ทุกคน วันนี้มีเพื่อนเก่าคนหนึ่งมาด้วย”
ทั้งห้องเงียบลงทันที ไฟแสงสีกะพริบรัว สายตาของถูกคนมองไปยังหลี่โม่ที่อยู่ข้างหลังซูหย่า
เย็นชา
เงียบงัน
ดูถูก
มีคนประปรายนั้นที่ยิ้มอย่างเยาะเย้ยแล้วพูด “ว้าว!ฉันก็คิดว่าใคร ที่แท้ก็ลูกเขยที่ดีของตระกูลกู้ หลี่โม่นี่เอง”
“เหอะๆ ทำไมไอ้ขยะนี่ถึงมาอยู่นี่ได้?ยังลูกเขยที่ดีของตระกูลกู้อีก เทียบกับหมายังไม่ได้เลย”
“หลี่โม่ นายนี่มันใช้ไม่ได้เลย ครั้งก่อนๆไม่เห็นมา ทำไมอยู่ๆครั้งนี้ถึงมาละ ชีวิตตกต่ำแล้วเลยมาหาพวกพี่ๆช่วยอย่างนั้นหรอ?”
เยาะเย้ย ประชด เรื่อยๆตั้งแต่ตอนนี้ไม่มีหยุด