จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 96
บทที่ 96 เหมือนกับหลี่โม่มั้ย
ทุกคนได้ยินคำนี้ ต่างก็ตกใจ
อะไรที่เรียกว่าเห็นแก่หน้าของนาย?
ศักดิ์ศรีนายมีค่าถึงสี่ล้าน?
จ้าวไห่ขมวดคิ้ว เห็นว่าตอนนี้หลี่โม่เสนอหน้าออกมา ในใจรู้สึกไม่พอใจ “หลี่โม่ นายปัญญาอ่อนหรอ?นายไม่ได้ยินเขาพูดรึไง สี่ขวดสี่ล้าน ศักดิ์ศรีนายเยอะขนาดนี้เชียว มีค่าถึงสี่ล้าน?”
ไอ้หลี่โม่คนนี้จะต้องอยากออกมาอวดเบ่งแน่ๆ!
อย่างนั้นก็ดูว่ามันจะทำยังไงแล้วกัน
ซูหย่าเองก็เต็มไปด้วยความโมโหและรำคาญ ไอ้หลี่โม่คนนี้ คอยแต่จะอยากเสนอหน้าอวดเก่ง สุดท้ายคนที่ขายหน้าไม่เพียงแต่เขา ยังมีตัวซูหย่าเองอีก
“หลี่โม่ แกไปให้ไกลเลยนะ!ที่นี่ไม่มีเรื่องของแก!”ซูหย่าตะโกนอย่างโมโหทั้งน้ำตา
เธอโมโหมากจริงๆ
เวลานี้แล้ว ไอ้ขยะหลี่โม่ยังอยากจะมาอวดเก่งอีก
หลี่โม่ส่ายหัวหัวเราะอย่างเอือมระอา มองไปยังพนักงานคนนั้น “สี่ล้าน ฉันชดใช้เอง”
ถึงแม้ว่าซูหย่าและจ้าวไห่จะไม่เชื่อเขา แต่หลี่โม่ก็จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ยังไงซะก็เพื่อนร่วมงานเก่ากัน
หาเรื่องใส่ตัวมั้ย?
ก็เหมือนจะใช่
พนักงานหญิงคนนั้นขมวดคิ้ว มองหลี่โม่หัวจรดเท้า แล้วก็ดูถูกอย่างชัดเจนว่า “คุณชดใช้?คุณลูกค้าท่านนี้คะ รบกวนคุณกรุณาฟังให้ดี Lafite ของปี 1787 สี่ขวดราคาสามล้านแปดแสนสี่หมื่น!คุณมีปัญญาชดใช้คืนหรอคะ?”
ไม่ใช่ว่าพนักงานหญิงดูถูกเขา แต่ว่าอีกฝ่ายใส่ได้ธรรมดาเกินไป ท่าทางดูจน
อีกอย่าง เพื่อนของเขายังดูถูกเขาอย่างนั้นแล้ว เขากลับยังมีความกล้าที่จะเสนอหน้าออกมาอีก
ไอ้คนนี้ สมองคงไม่ได้ถูกประตูหนีบแล้วใช่มั้ย?
คนรอบข้าง ตอนนี้ต่างก็ประชดต่างๆ ต่อว่าหลี่โม่ต่างๆนานา แสดงออกถึงความดูถูก
“เหอะๆ ไอ้คนนี้ปัญญาอ่อนจริงๆ!”
“ไม่เคยเจอคนหน้าด้านขนาดนี้มาก่อน จะต้องออกมาอวดเก่งให้ได้ นั่งรอโดนดูถูกได้เลย”
“เฮ้อ ก็นะ ผู้ชายนี้เป็นคนที่ใช้ส่วนล่างคิดจริงๆ เห็นว่าผู้หญิงเขาหน้าตาสวยหน่อย ก็ไม่เอาแม้แต่ศักดิ์แล้ว”
เผชิญหน้ากับคำดูถูกและหัวเราะเยาะของผู้คน หลี่โม่ไม่ได้รู้สึกอะไร เขาพูด “ไม่แน่ฉันอาจจะมีปัญญาจ่ายละ?”
พนักงานหญิงหัวเราะเยาะ ขณะที่กำลังเตรียมจะด่ากลับ ฟางโจวที่อยู่ข้างๆก็หันหลังกลับมา มองไปที่หลี่โม่ ตอนนั้น สายตาถึงกับหดตัวลง!
“คุณผู้ชายท่านนี้คะ รบกวนคุณอย่ามาทำให้วุ่นวายได้มั้ยคะ?สภาพอย่างคุณ จะมีเงินมาชดใช้ได้?”พนักงานหญิงพูดประชด
แต่ว่า ทันใดนั้น!
เพี๊ยะ!
เสียงตบดังก้อง ต่อหน้าสายตาทั้งหลาย ฟาดลงไปบนใบหน้าของพนักงานหญิงคนนั้นอย่างหนัก
“ผู้จัดการฟาง……ผู้จัดการฟาง คุณตบฉันทำไมคะ?”พนักงานหญิงงุนงง จับหน้าของเธอไว้ ดวงหน้ามีน้ำตาคลอและมีความน้อยใจ
ภาพนี้ทำให้ผู้คนตกใจ
เหี้ยเอ้ย!
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
จากนั้น ต่อมา ผู้คนก็ตะลึงหนักกว่าเดิม!
เห็นเพียงฟางโจวคนนั้นรีบเดินมาตรงหน้าหลี่โม่ โค้งตัว 90 องศา อย่างเคารพ “คุณหลี่ ต้องขออภัยครับ หล่อนมาใหม่ ไม่รู้จักคุณ หวังว่าคุณจะให้อภัย อย่าคิดแค้นนะครับ”
คุณหลี่?
ทุกคนถึงกับหายใจติดขัด ต่างก็มองกันและกันอย่างไม่เข้าใจ
ไอ้หนุ่มที่ดูท่าทางจนแบบนี้ กลับเป็นประธานอะไรสักอย่าง?
ล้อเล่นใช่มั้ย!
จ้าวไห่ขมวดคิ้ว ในใจไม่พอใจมาก พูดอย่างเย็นชาว่า “ผู้จัดการฟาง ไม่ใช่คุณเองก็โง่ไปด้วยหรอกนะ ไอ้หลี่โม่นี้ก็เป็นแค่ขยะ ถือเป็นคุณหลี่อะไรกัน”
เขาไม่พอใจ ไม่คิดเลยว่าผู้จัดการฟางคนนั้นจะเคารพหลี่โม่ขนาดนั้น
แต่ว่า ฟางโจวหันหลังไป ถลึงตาใส่จ้าวไห่อย่างโมโห “นายหุบปากเดี๋ยวนี้!นายจะไปรู้อะไร คุณหลี่นั้นเป็น…..”
คำพูดถูกตัดบทเพียงเท่านี้!
หลี่โม่ตัดบทคำพูดของฟางโจว พูดนิ่งๆว่า “พอแล้วผู้จัดการฟาง เรื่องนี้ก็ให้จบได้แล้ว?”
ฟางโจวรีบพยักหน้าอย่างเร็ว “ได้ครับ ฟังคุณหลี่ทั้งหมดครับ”
เพี๊ยะ!
เสียงตบที่ไม่มีตัวตน ตบลงไปยังใบหน้าของผู้คน
ไอ้การหน้าแหกนี้ มาเร็วเกินไป!
หลี่โม่ แค่เพียงหลี่โม่เท่านั้น สี่ล้านนี้ก็จบแบบนี้แล้ว?!
ทุกคนตะลึง แสดงออกถึงท่าทางที่ไม่น่าเชื่อ
ซูหย่ายิ่งถึงกับหยุดสะอื้น สายตาจ้องมองไปที่หลี่โม่ จากนั้นก็มองไปที่ฟางโจว แล้วถามว่า “จริง…..จบแบบนี้เลยจริงหรอ?”
ฟางโจวคนนั้นท่าทางไม่พอใจ ผู้หญิงคนนี้ ยังไม่เชื่อคำพูดของตัวเขาอีก ดังนั้นจึงพูดอย่างหนักแน่นอีกครั้งว่า “ใช่ เธอไม่ต้องชดใช้แล้ว”
“ขอบคุณ ขอบคุณ!”
ซูหย่าได้ยิน ก็โค้งตัวขอบคุณไม่หยุด
ฟางโจวพูดว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ คนที่คุณควรจะขอบคุณคือคุณหลี่”
หลี่โม่?
ซูหย่าขมวดคิ้ว มองไปที่หลี่โม่ที่กำลังเล่นโทรศัพท์อย่างสงบ ในใจมีแต่ความไม่เข้าใจ
คิดแล้วก็คิด เธอก็หันไปขอบคุณหลี่โม่ “หลี่โม่ ครั้งนี้ขอบคุณนายนะ ถ้านายว่าง พวกเรา……พวกเราสามารถ……”
จะทำยังไงได้ ซูหย่าแค่เพียงอยากจะถวายตัวชดใช้
หรือว่าหลี่โม่ช่วยเขาโดยไม่มีเหตุผล?
ไอ้โรคจิตนี้ จะต้องอยากได้ตัวเธอแน่
แต่ว่า ในใจซูหย่าก็กำลังลังเล อีกด้านก็จ้าวไห่ อีกด้านก็หลี่โม่
รู้ที่มาที่ไปของจ้าวไห่ แต่ว่ากับหลี่โม่ ซูหย่าไม่รู้อะไรเลย
ตัวตนเขาคืออะไร?
เขาจ่ายเงินสี่สิบล้านซื้อร้านเสริมสวยสปาBeautiful Lady จริงๆ?ไม่ได้โกหก?
หลี่โม่กลับตอบกลับนิ่งๆว่า “ไม่เป็นไร เพื่อนร่วมงานเก่ากันทั้งนั้น แค่เรื่องเล็กน้อย”
พูดจบ เขาไม่รอทุกคน ก็เอาโทรศัพท์แล้วไปรับสายอีกฝั่ง
อีกฝั่งผู้คนก็แยกย้าย จ้าวไห่ก็พาพรรคพวกกลับอย่างไม่พอใจมาก
ซูหย่ากับซ่งเหวินเหวินกลับยืนอยู่ที่เดิมรอหลี่โม่
“พี่หย่าหย่า หลี่โม่นั้นฉันดูแล้วไม่ธรรมดานี่ นั่นมันสี่บ้านเชียวนะ บอกไม่ต้องชดใช้ก็ไม่ต้องชดใช้ ไม่จริงมั้ง?”ซ่งเหวินเหวินเต็มไปด้วยความสงสัย
ในใจซูหย่าตอนนี้ก็สับสนเช่นกัน ท่าทางเป็นไอ้ขี้แพ้อย่างหลี่โม่ กับท่าทางที่มีอำนาจอย่างเมื่อกี้ มันซับซ้อนมากจริงๆ
พอดีกับที่ตอนนี้หลี่โม่เดินมา
ซูหย่ารีบขยับตัวเข้าหา ท่าทางอ่อย ถามว่า “หลี่โม่ สี่ล้านนั่น นายไม่ต้องให้ฉันคืนนายจริงๆ?”
หลี่โม่พยักหน้า “สบายใจเถอะ ฉันรู้จักกับเถ้าแก่ที่นี่ ไม่เป็นไรหรอก”
ซูหย่าตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง “นายรู้จักกับเถ้าแก่ของกวนเหลินกัง?”
หลี่โม่พยักหน้า “ใช่แล้ว เพื่อนเก่าของฉัน”
ถ้าบอกเธอไป ว่าฉันนั่นแหละเป็นเถ้าแก่ เธอคงจะตกใจฉี่ราดใช่มั้ย?
อย่างนั้นในใจซูหย่าที่ลังเลก็สงบลงมาได้
ที่แท้ หลี่โม่ก็แค่รู้จักเถ้าแก่ของกวนเหลินกัง ก็คิดว่าเขาจะมีอะไรดีซะอีก
ชิ!
ก็เป็นไอ้ขี้แพ้เหมือนเดิม!
ชั่วพริบตา สีหน้าของซูหย่าก็เปลี่ยนไป พูดขอบคุณอย่างไม่เต็มใจ แล้วก็หันหลังพาซ่งเหวินเหวินจากไป
ด้านหลี่โม่ก็เต็มไปด้วยความเอือมระอา ซูหย่าคนนี้เปลี่ยนหน้าไวไปแล้วมั้ง
อย่างน้อยตัวเขาก็ช่วยเหลือเธอนะ
แต่ว่า เพิ่งเดินไปไม่กี่ก้าว ซูหย่าก็หันหลับมา ล้วงโทรศัพท์ออกมา “เอ่อหลี่โม่ เขาเบอร์เพื่อนของนายคนนั้นมาให้ฉัน ฉันจะต้องขอบคุณเขาด้วยตัวเอง”
อยู่ๆซูหย่าก็คิดขึ้นได้ เถ้าแก่ของกวนเหลินกัง เธอจะต้องเจอสักหน่อย ถ้าเป็นไปได้ ตัวเธอจะต้องอ่อยจนได้มา
หลี่โม่เงียบสักพัก แล้วก็ถามกลับ “ทำไมเธอไม่ขอบคุณฉัน?”
ซูหย่าสะดุ้ง พูดกลับอย่างไม่พอใจ “เมื่อกี้ก็ขอบคุณแล้วไม่ใช่หรอ?”
หลี่โม่เอือมระอา คิดแล้วก็คิด แล้วบอกเบอร์อีกเบอร์หนึ่งของเขาให้ซูหย่า
ซูหย่าได้เบอร์มาก็ดีใจมาก “โอเค รอจัดการเรียบร้อยแล้ว ฉันเลี้ยงข้าวนาย”
จัดการเรียบร้อย?
เรื่องอะไร?
หลี่โม่มีแต่ความสงสัย แล้วก็มองซูหย่าจากไปอย่างมีความสุข
ผู้หญิงคนนี้ กำลังคิดจะทำอะไร
อีกด้าน หลี่โม่เตรียมตัวจะกลับ เพิ่งออกมาจากหน้าประตูร้านเหล้า อู๋เต้าเหวินก็วิ่งมาจากอีกฝั่ง มาส่งหลี่โม่ด้วยตัวเอง แล้วก็คุยกับหลี่โม่ไม่กี่คำอย่างเคารพนอบน้อม
โทรศัพท์หลี่โม่ดังขึ้น เขาล้วงโทรศัพท์อีกเครื่องออกมา ก็ได้รับข้อความหนึ่งฉบับ
ซูหย่าเป็นคนส่งมา
“พี่ชายคะ เรื่องของคืนนี้ ขอบคุณนะคะ พี่ว่างมั้ย?ฉันเลี้ยงข้าวพี่(เขินอาย)”
หลี่โม่เงียบไป ที่แท้ซูหย่าก็คิดจะทำอย่างนี้นี่เอง
เขาหัวเราะอย่างเอือมๆ แล้วก็ไม่ตอบ
แต่ว่า ข้อความเข้าไม่หยุด ซูหย่าเป็นคนส่งมาทั้งนั้น
คำอ่อยต่างๆนานา
หลี่โม่ตอบกลับอย่างเบื่อหน่าย “ไม่เป็นไร กินข้างก็ไม่จำเป็นแล้ว”
ตอบเสร็จ หลี่โม่ก็ไม่สนใจอีก
อีกด้าน ซูหย่าและซ่งเหวินเหวินเดินเล่นในลานจอดรถ เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบข้อความของตัวเองแล้ว เธอถึงได้แสดงสีหน้าอย่างเซ็งๆ
“ไปเถอะ ดูปล้วจะต้องใช้เวลาในการจับเหยื่อตัวใหญ่แล้ว”ซูหย่าพูด
แต่ว่า ตอนนี้เอง เธอหันไปมองก็ไปเจอกับแผ่นหลังที่คุ้นเคย เข้าไปนั่งในรถBentley Flying Spur รุ่นใหม่
ซูหย่าใบหน้าตกใจและสงสัย หันไปถามซ่งเหวินเหวินที่อยู่ด้านข้าง “เหวินเหวิน เธอดูคนๆนั้น เหมือนหลี่โม่มากใช่มั้ย?”
ซ่งเหวินเหวินยีตา “เหมือนจะใช่นะ หรือไม่ก็เข้าไปดู?”
ซูหย่าขมวดคิ้ว แล้วก็ลุกขึ้น “ไป ไปดูกัน”