จักรพรรดิมังกร - บทที่ 574 ร่วมมือถึงจะมีโอกาส
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ถ้ามีข่าวอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายบอกฉันได้”
เสือผีพูดจบก็วางสาย แววตาของเขาวูบไหวเล็กน้อย ในใจของเขาคิดถึงเรื่องที่จะเป็นไปได้
ถ้าเขาลงมือในงานขึ้นบ้านใหม่ น่าจะมีโอกาสเป็นไปได้
แต่เสือผีรู้สึกว่าถ้าตัวเองลงมือ ต้องทำให้เป็นความลับสุดยอด ถึงขนาดที่ไม่ให้กู้เจี้ยนกั๋วรู้
เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ให้คำตอบที่แน่ชัดกับกู้เจี้ยนกั๋ว และวางสายไป
เสือผีที่วางสายลง มองรถเบนซ์ที่อยู่ไม่ไกล ผ่านหน้าต่างรถยนต์
รถเบนซ์คือรถของเฉิงซืออู่ เสือผีสะกดรอยตามหลี่โม่มาระยะหนึ่ง เขาจึงรู้ว่าหลี่โม่กับเฉิงซืออู่พัวพันอะไรกัน
ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้ว่าลามะที่อยู่ข้างกายเฉิงซืออู่ โดนหลี่โม่ทำร้ายจนเข้าโรงพยาบาล
เขาคิดถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ที่ลามะทั้งสามคนเข้าไปในที่พักของหลี่โม่ เสือผียกยิ้มมุมปาก
“เหมือนจะมีพันธมิตรหลายคนนะ ถ้าเฉิงซืออู่สามารถพาอาจารย์ของพวกลามะมาได้ ไม่แน่อาจจะร่วมมือกันจัดการหลี่โม่ ในงานขึ้นบ้านใหม่ก็ได้”
ความคิดของเสือผีลื่นไหล เขาคิดว่าจะทำยังไงถึงจะร่วมมือกับเฉิงซืออู่และลามะได้
ขณะที่เสือผีกำลังครุ่นคิด พวกจาโช่คลานออกมาจากตึก
จาโช่ได้รับบาดเจ็บภายใน ส่วนรุ่นน้องสองคนเข่าหัก นอกจากการคลาน ทั้งสามคนก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว
เมื่อทั้งสามคลานออกมา แววตาของเฉิงซืออู่เป็นประกาย
เมื่อเห็นรุ่นน้องสองคนของจาโช่ไม่ได้บาดเจ็บสาหัส แววตาของเฉิงซืออู่ก็นิ่งลง
“พวกนายไปช่วยพวกมันหน่อย เตรียมยาเอาไว้แล้ว เอาไปฉีดให้พวกมันตายๆ ไป”
“ครับ”
บอดี้การ์ดหยิบเข็มฉีดยาออกจากกล่องที่ได้เตรียมไว้แล้ว หลังจากที่หยิบยาออกมา ก็รีบเดินไปหาพวกจาโช่ทันที
เมื่อพวกจาโช่เห็นบอดี้การ์ดของเฉิงซืออู่เดินเข้ามา พวกเขายิ้มเหมือนกำลังจะได้รับความช่วยเหลือ
“พวกนายมาแล้วเหรอ รีบพาพวกเราไปส่งโรงพยาบาลหน่อย”
จาโช่พูดเสียงดัง
“ฉันจะพาพวกนายไปส่งโรงพยาบาล พวกนายอย่าเอะอะโวยวาย”
บอดี้การ์ดหกคนคุกเข่าลง ทำเหมือนจะช่วยประคองพวกจาโช่
พวกจาโช่ไม่ได้ป้องกันอะไร ขณะที่พวกเขาคิดว่าบอดี้การ์ดจะช่วย จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรปักลงมาบนตัว
เขาหันมามอง เห็นเข็มปักอยู่ตรงกลางหลังของตัวเอง จาโช่ชาวาบไปทั้งตัว
“พวกนายทำอะไร!”
“เห็นสภาพนายไม่ค่อยดี เลยฉีดอะดรีนาลีนให้”
บอดี้การ์ดยิ้มและเอ่ยออกมา
รุ่นน้องของจาโช่อีกสองคน ก็โดนเข็มปักตรงกลางหลังเช่นกัน ทั้งสองสะบัดแขนและชกบอดี้การ์ดท่ามกลางความตื่นตระหนก
หลังจากที่บอดี้การ์ดฉีดยาเรียบร้อย ก็เดินถอยหลัง การโจมตีของพวกจาโช่ไม่ได้ผลอะไร
กลับกันการที่พวกเขาโจมตีมา ก็ยิ่งทำให้เลือดไหลเวียนเร็วยิ่งขึ้น จนทำให้ประสิทธิภาพของยาทำงานได้ดี
เพียงพริบตา ทั้งสามก็น้ำลายฟูมปากและร่างกายกระตุก
ผ่านไปครู่หนึ่ง พวกจาโช่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ทั้งสามสิ้นใจแล้ว
พวกบอดี้การ์ดไม่พูดอะไร และเข้าไปยกศพของพวกจาโช่ใส่รถ MPV
หัวหน้าบอดี้การ์ดเดินไปข้างรถเบนซ์ “จัดการเรียบร้อยแล้วครับบอส”
“อืม ไปห้องดับจิตที่โรงพยาบาล เอาพวกมันไปไว้ในห้องดับจิตก่อน”
“ครับ”
รถเบนซ์กับรถยนต์ MPV ติดเครื่องขึ้นพร้อมกัน และมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล
เสือผีมองเหตุการณ์ทั้งหมด เขาไม่ได้กลัวอะไร เพราะเขาเจอวิธีการที่โหดเหี้ยมแบบนี้มานับไม่ถ้วน จึงไม่ได้แปลกใจอะไร
อีกอย่างการที่ร่วมมือกับคนโหดเหี้ยมแบบนี้ ถึงจะทำให้เขาบรรลุเป้าหมายของตัวเอง
เสือผีสตาร์ทรถตามไป เขาต้องการดูว่าเฉิงซืออู่จะทำยังไงต่อไป
พวกเฉิงซืออู่มาถึงโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว พวกเขาใช้เงินซื้อห้องดับจิตไว้เรียบร้อยแล้ว ศพของพวกจาโช่ถูกส่งเข้าไปในห้องดับจิตอย่างราบรื่น
หลังจากที่เอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปทั้งสามคน เฉิงซืออู่เอารูปรวมถึงวิดีโอที่ถ่ายให้ว่างจี๋ ส่งให้ท่านทะไลลามะ
เมื่อเห็นเฉิงซืออู่จัดการเสร็จเรียบร้อย ผู้ช่วยสวยเก๋พูดอย่างออดอ้อน “แผนของท่านช่างไร้ที่ติ ครั้งนี้ท่านทะไลลามะสูญเสียศิษย์รักทั้งสาม เขาคงออกจากหุบเขาอย่างแน่นอน”
“หึๆ หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น ถึงเขาไม่ออกมา ก็ไม่เป็นไร ขอแค่ส่งคนมีฝีมือมาจัดการหลี่โม่ก็พอ”
“คนมีฝีมือทั่วไปไม่ได้หรอก”
เสียงของเสือผีดังขึ้นในห้องดับจิต
ผู้ช่วยสวยเก๋กรีดร้องด้วยความตกใจ เธอโผเข้าไปในอ้อมอกของเฉิงซืออู่
“ท่านคะ นี่มันอะไรกัน คงไม่ใช่ผีหรอกนะ”
“จะเป็นผีได้ยังไง นี่มันสมัยไหนแล้ว ใครจะมาทำอะไรลับๆ ล่อๆ ถ้ากล้าก็ออกมา”
เฉิงซืออู่พูดเสียงดัง
เฉิงซืออู่แอบกลัวในใจ แต่ทว่าตอนนี้เขาต้องทำเป็นใจดีสู้เสือ
บอดี้การ์ดทั้งหกค่อยๆ ถอยหลัง และคุ้มกันเฉิงซืออู่ทั้งซ้ายขวาหน้าหลัง พวกเขามองไปรอบๆ เพื่อต้องการหาต้นตอเสียงที่ดังขึ้น
เสือผีเดินออกมาจากข้างห้องเย็น ร่างกายของเขาถูกห่อหุ้มด้วยชุดดำ ตั้งแต่หัวจรดเท้า เห็นเพียงดวงตาสองดวงเท่านั้น
“เจ้านายเฉิงยังมีความกล้า ผมนึกว่าคุณจะตกใจจนฉี่ราดซะแล้ว”
“หึ! คนอย่างเฉิงซืออู่ไม่ตกใจอะไรง่ายๆ หรอก ไม่ทราบว่าท่านคือใคร บอกชื่อได้หรือไม่”
เสือผีส่ายหน้า “ผมคือคนที่ลอยชายไปมา เจ้านายเฉิงคงไม่เคยได้ยินชื่อผม เรามาคุยเรื่องจัดการหลี่โม่กันดีกว่า”
“คุณก็เป็นศัตรูของหลี่โม่เหรอ”
“ใช่ ศิษย์หลานของผม ตายคามือหลี่โม่ ผมต้องแก้แค้น อีกทั้งผมยังรู้ถึงฝีมือของหลี่โม่เป็นอย่างดี จะพึ่งฝีมือของคนมีฝีมือจากวัดจาหลุน แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ ต้องเชิญท่านทะไลลามะโตหลุนที่มีฝีมือมาร่วมมือกับผม ถึงจะมีโอกาสชนะ”
เฉิงซืออู่ได้ยินก็รู้สึกตกใจ
ท่านทะไลลามะโตหลุนเป็นอาจารย์ของว่างจี๋ และเป็นท่านทะไลลามะของเฉิงซืออู่ อีกทั้งยังเป็นพระยอดฝีมือและผู้มีฝีมือบนที่ราบสูง
คนตรงหน้าต้องการร่วมมือกับท่านทะไลลามะโตหลุน ถึงจะมีโอกาสชนะหลี่โม่ งั้นหลี่โม่มีความสามารถมากแค่ไหนกัน
เฉิงซืออู่รู้สึกตื่นตระหนก เขาแอบคิดว่าตัวเองควรถอยตอนนี้ดีหรือเปล่า ขืนทำให้เรื่องใหญ่ไปกว่านี้ เขากลัวว่าจะควบคุมไม่ได้
แต่เมื่อคิดถึงคนที่คอยสั่งการเขาอยู่เบื้องหลัง เฉิงซืออู่รีบสลัดความคิดที่จะถอยทันที ถ้าเขาถอย จุดจบของเขาไม่สวยแน่
“ผมไม่แน่ใจว่าจะเชิญท่านทะไลลามะโตหลุนมาได้หรือไม่ แต่จากที่ฟังคุณพูด คุณน่าจะรู้จักท่านทะไลลามะโตหลุนสินะ ถ้างั้นคุณลองติดต่อเขาดูสิ”
เฉิงซืออู่ยิ้มและเอ่ยขึ้น
“หึหึ”
เสือผียิ้มอย่างมีเลศนัย เขาหันหลังและพูดว่า “สุดสัปดาห์หน้า หลี่โม่จะจัดงานขึ้นบ้านใหม่ ถ้าท่านทะไลลามะโตหลุนมา ฉันจะแวะมาอีก”