จักรพรรดิมังกร - บทที่ 575 พาขึ้นรถ
เมื่อเห็นเสือผีออกไป เหล่าบอดี้การ์ดของเฉิงซืออู่ถึงกับถอนหายใจ พวกเขาตกใจกับการปรากฏตัวแบบกะทันหันของเสือผี
“ท่านคะ ฉันตกใจแทบแย่ ทำไมคนนั้นเหมือนผีเลย แปลกประหลาดจริงๆ”
ผู้ช่วยสวยเก๋พูดขึ้น
เฉิงซืออู่ยิ้มอย่างมีเลศนัย เขาโอบผู้ช่วยสวยเก๋ และพูดว่า “นี่แสดงว่าเขามีความสามารถไง ร่วมมือกับคนมีความสามารถ ถึงจะประสบความสำเร็จ”
“แต่เขาบอกว่า เขาคนเดียวไม่สามารถสู้หลี่โม่ได้ นี่ไม่น่าจะมีความสามารถนะคะ”
“เหอะๆ จะมีหรือไม่มีความสามารถ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำพูดของเธอ ฉันคิดว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ เขาบอกว่าต้องร่วมมือกับท่านทะไลลามะโตหลุนถึงจะมีโอกาส งั้นก็คงจะไม่ผิด”
เฉิงซืออู่เชื่อคำพูดของเสือผี อีกอย่างศิษย์ของว่างจี๋ทั้งสี่คน ทำให้เฉิงซืออู่ตัดสินความสามารถของหลี่โม่ใหม่ทั้งหมด
ผู้ช่วยสวยเก๋ไม่ได้พูดอะไร เฉิงซืออู่หยิบมือถือขึ้นมาโทรออก
ไม่นาน ท่านทะไลลามะโตหลุนรับสาย “เจ้านายเฉิง มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ท่านทะไลลามะ มีเรื่องไม่ดีที่จะแจ้งคุณ ผมรู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้มาก”
เฉิงซืออู่พูดเสียงเบาอย่างเจ็บปวด
“เรื่องอะไรครับ อย่าบอกนะว่าพวกว่างจี๋……”
“ครับ เพราะเรื่องธุรกิจ ผมเลยขัดแย้งกับคน ว่างจี๋โดนทำร้ายสาหัส เพื่อปกป้องผม พวกจาโช่ไปแก้แค้นหลี่โม่แทนว่างจี๋ สุดท้ายพวกเขาโดนหลี่โม่ฆ่าตาย”
เมื่อท่านทะไลลามะโตหลุนได้ยิน ก็อึ้งไป เขาคิดไม่ถึงว่าศิษย์ทั้งสี่จะเสียชีวิต
“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้! หลี่โม่คือใคร”
“หลี่โม่เขา อีกเดี๋ยวผมจะส่งประวัติคร่าวๆ ไปให้ท่านทะไลลามะ ว่างจี๋บอกว่าต้องให้ท่านทะไลลามะมาด้วยตัวเอง ถึงจะล้างแค้นให้พวกเขาได้”
“ส่งข้อมูลมาให้ผมก่อน ผมจะพาคนไปแก้แค้นอย่างแน่นอน”
ท่านทะไลลามะโตหลุนสงบสติ น้ำเสียงของเขาเย็นยะเยือกมาก
“ครับ ผมจะรีบส่งข้อมูลไปให้ อีกอย่าง หลี่โม่กำลังจะขึ้นบ้านใหม่ในสุดสัปดาห์หน้า ผมคิดว่านั่นเป็นโอกาสที่จะจัดการมัน”
“เข้าใจแล้ว คุณรอข่าวจากผมก็พอ”
เมื่อวางสายลง เฉิงซืออู่ส่งข้อมูลไปให้ท่านทะไลลามะโตหลุน จากนั้นจึงเดินโอบผู้ช่วยสวยเก๋ ออกจากห้องดับจิต
……
หลี่โม่ไม่รู้ว่าแผนการที่พุ่งเป้ามายังตัวเอง กำลังจะเริ่มขึ้น ตอนนี้หลี่โม่เพิ่งวางโทรศัพท์ เขาพูดกับกู้หยุนหลันอย่างเบื่อหน่าย “คุณภรรยา ผมต้องไปสอนคางเหวินซิงขับรถ”
แววตาของเฉินเสี่ยวถงเป็นประกาย เธอเด้งตัวลุกจากโซฟา “ฉันไปด้วยสิ”
“งั้นก็ไปสิ อยู่ข้างนอกก็ระวังหน่อย อย่าไปก่อเรื่องอะไร”
กู้หยุนหลันไม่มีท่าทีคัดค้านอะไร
หลี่โม่ถลึงตาใส่เฉินเสี่ยวถง “เธอรอที่บ้านเถอะ พาเธอไป รถคงเคลื่อนตัวไม่ไหว”
“พี่พูดอะไรไร้สาระ ฉันยังหนักไม่ถึงห้าสิบกิโลเลย ทำไมรถจะเคลื่อนตัวไม่ได้”
เฉินเสี่ยวถงถลึงตาใส่หลี่โม่อย่างโมโห
หลี่โม่ยักไหล่ และหันหลังเดินออกไป
เฉินเสี่ยวถงโกรธจนจะไม่ไป แต่ก่อนหน้านี้หลี่โม่อ้างแบบนี้ และก็มีเรื่องอันตรายเกิดขึ้นไม่น้อย ถ้าครั้งนี้ไม่ตามไป ก็จะอยากรู้อยู่อย่างนั้น
เมื่อเห็นหลี่โม่เปิดประตูออกไป เฉินเสี่ยวถงรีบวิ่งตามออกไปด้วย
“รอฉันด้วย ฉันจะไปจับตามองพี่แทนพี่หยุนหลัน พี่จะได้ไม่ไปเจ้าชู้กับสาวๆ ข้างนอก”
หลี่โม่ออกจากบ้าน และกลอกตามองบนใส่เฉินเสี่ยวถง
“แบร่ๆๆๆ” เฉินเสี่ยวถงแลบลิ้นปลิ้นตาใส่หลี่โม่ เธอพูดอย่างหงุดหงิดว่า “เมื่อกี้พี่ทำฉันโกรธจริงๆ”
“เธอโกรธง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ผู้หญิงนี่ช่างจิตใจคับแคบจริงๆ”
หลี่โม่พูดจบ ก็เอามือไพล่หลังและเดินออกไป เฉินเสี่ยวถงตามไป และควงแขนหลี่โม่เอาไว้
หลี่โม่สะบัดแขน เพื่อจะให้หลุดจากการเกาะกุมของเฉินเสี่ยวถง แต่เฉินเสี่ยวถงเกาะอยู่อย่างนั้น ทำให้เขาไม่สามารถสะบัดได้
“ปล่อยมือ เธอทำอะไรน่ะ ยังมาพูดว่าจะจับตามองแทนภรรยาฉัน ฉันว่าเธอจะขโมยเป็นของตัวเองมากกว่า”
“ฉันต้องจับตามอง ไม่ให้พี่ไปใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่น แต่ฉันสามารถใกล้ชิดกับพี่ได้อย่างไม่มีปัญหา อย่าให้ฉันทำงานโดยไม่รับค่าตอบแทนสิ”
เฉินเสี่ยวถงทำเป็นพูดมีเหตุผล เธอทำท่าทางเหมือนมันควรเป็นเช่นนี้
หลี่โม่พูดไม่ออก เขาทำได้เพียงตามใจเฉินเสี่ยวถง ให้เธอควงแขนต่อไป พูดเหตุผลกับผู้หญิง ยังไงก็พูดไม่รู้เรื่อง
เมื่อออกจากตึก รถเบนซ์ของคางเหวินซิงจอดอยู่ข้างทาง
เมื่อเห็นหลี่โม่กับเฉินเสี่ยวถงออกมา คางเหวินซิงรีบเดินเข้าไป เขาขยับปากเหมือนจะพูดอะไร แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา
เห็นคางเหวินซิงกระอักกระอ่วน หลี่โม่จึงถามขึ้น “นายเป็นอะไร มีเรื่องอะไรก็พูดมาตรงๆ อย่ามาอึกๆ อักๆ”
“อาจารย์ ผมเพิ่งปล่อยข่าวเรื่องที่จะทำราซิ่งคลับออกไป มีคนมาท้าประลองแล้ว ผมคิดไปคิดมา รู้สึกว่าตัวเองไม่น่าจะสู้ได้ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้คงต้องให้อาจารย์ออกโรง”
คางเหวินซิงพูดจบก็เกาหัว สีหน้าของเขาใสซื่อและจนปัญญา
หลี่โม่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เฉินเสี่ยวถงปรบมืออย่างตื่นเต้น “ดีเลย ฟังดูไม่เลวนี่ ยังไม่เคยเห็นพี่หลี่โม่แข่งรถเลย เคยได้ยินพวกนายพูดว่าพี่หลี่โม่ขับรถเก่งมาก”
“คุณไม่เคยเห็น ตอนนั้นอาจารย์ขับรถได้เท่มาก มันสุดยอดมาก ขับเบนซ์ g-class เร็วกว่ารถ Bugatti Veyron อีก ตอนนั้นผมตกใจจนแทบจะตายอยู่ในสนาม”
คางเหวินซิงบรรยายเรื่องตอนที่หลี่โม่แข่งรถ ให้เฉินเสี่ยวถงฟัง พร้อมท่าทางประกอบ
เฉินเสี่ยวถงได้ฟังก็ตาเป็นประกาย เธอมองหลี่โม่ด้วยสายตาที่แปลกไป
แต่เมื่อฟังจบ เฉินเสี่ยวถงนึกถึงเรื่องที่หลี่โม่ว่าเธอ เธอเชิดหน้าและพูดว่า “นายคุยโม้แทนเขาหรือเปล่า ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเขาเก่ง มีความสามารถ ก็แสดงให้เห็นสิ”
หลี่โม่ไม่ได้สนใจคำพูดของเฉินเสี่ยวถง เขาเดินไปตรงข้างคนขับ
เฉินเสี่ยวถงกระทืบเท้า และเดินตามไปขึ้นรถ เธอยื่นมือไปทิ่มแขนหลี่โม่
“นี่ ฉันคุยกับพี่อยู่นะ ทำไมเมินฉันล่ะ”
“ทำไมฉันต้องแสดงให้เธอเห็นล่ะ เธอจะเชื่อหรือไม่ มันสำคัญด้วยหรือไง”
หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“พี่จงใจทำให้ฉันโมโหเหรอ วันนี้พี่เป็นอะไร ถ้าพี่ทำแบบนี้ ฉันจะร้องให้ดูเลย ไม่ว่าจะร้องตรงนี้ หรือจะกลับไปร้อง พี่หยุนหลันต้องถามว่าร้องทำไม ฉันจะบอกว่าพี่แกล้งฉัน”
สีหน้าเย็นชาของหลี่โม่เริ่มสลด เขายอมแพ้ให้เฉินเสี่ยวถง “เธอชนะแล้ว แต่วันนี้คงจะโชว์ให้เธอดูไม่ได้ วันนี้ต้องสอนเหวินซิงขับรถ”
คางเหวินซิงยิ้มแหย “อาจารย์ เรื่องเมื่อกี้ยังพูดไม่จบเลย”