จักรพรรดิมังกร - บทที่ 591 นายมันเก่ง!
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
กู้หยุนหลันที่ยุ่งมาทั้งวันบิดขี้เกียจ สองแขนยกขึ้นยืดสูง แสดงให้เห็นถึงรูปร่างหุ่นที่ดีของกู้หยุนหลัน
หลี่โม่อดไม่ได้จึงเดินเข้าไปกอดกู้หยุนหลันไว้ ให้กู้หยุนหลันเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน
กู้หยุนหลันซบหน้าอกของหลี่โม่ไว้ เงยหน้าขึ้นมองหลี่โม่ พูดอย่างยิ้มๆว่า “รอจนเบื่อเลยใช่มั้ย ไม่ก็เย็นนี้เราไปเดินเล่นกันเถอะ”
“ได้สิ เธออยากไปที่ไหน? ได้ยินมาว่าคืนนี้มีงานแสดงวัตถุโบราณ พวกเราไปดูกันเถอะ ซื้อวัตถุโบราณให้ห้องทำงานของเธอเป็นของตกแต่ง”
ในตอนนี้กู้หยุนหลันเองก็เป็นถึงประธานที่ปกครองดูแลบริษัทมูลค่าหลายพันล้านแล้ว ในห้องทำงานก็ต้องมีของตกแต่งที่มีมูลค่าบ้าง และอักษรภาพวาดโบราณก็เหมาะสมที่สุดแล้ว
กู้หยุนหลันพยักหน้า “เอาสิ ฉันเองก็รู้สึกว่าห้องทำงานโล่งไปหน่อย อยากหาของมาตกแต่งพอดีเลย แต่ว่าฉันไม่รู้จักพวกโบราณวัตถุ นายต้องช่วยฉันตรวจสอบดูให้ดีนะ”
ดูท่าทางซุกซนของกู้หยุนหลันที่เหมือนกับเด็กสาวแล้ว หลี่โม่อดไม่ได้ที่จะก้มตัวลง แล้วจูบเข้าที่ริมฝีปากของกู้หยุนหลัน
ทั้งสองจูบกันไปสักพักก็ค่อยๆแยกออก กู้หยุนหลันหอบหายใจแล้วกลอกตาใส่หลี่โม่
“เกือบจะหายใจไม่ทันแล้วนะ”
กู้หยุนหลันพูดอย่างต่อว่า
“หึๆ”
หลี่โม่หัวเราะ ยื่นแขนไปดึงกู้หยุนหลันไว้ “พวกเราไปกันเถอะ ด้วยสายตาเฉียบคมของฉัน จะต้องเลือกตัวที่ดีที่สุดมาให้เธอเป็นของตกแต่งแน่นอน”
“เชื่อนายอยู่แล้ว จะชวนคางเหวินซิงและเสี่ยวถงด้วยมั้ย?”
หลี่โม่ส่ายหัวอย่างแรง “ไม่ชวนพวกเขา พวกเขาสองคนเป็นก้างขวางคอสุดๆเลย”
“ฮ่าๆ”
กู้หยุนหลันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา แล้วก็จับมือเดินออกไปข้างนอกกับหลี่โม่
หลังจากที่ทั้งสองคนออกมาจากหยุนจงหลันกรุ๊ป ก็หาร้านอาหารฝรั่งเศสกินข้าวก่อน จากนั้นก็เดินไปยังโรงเจียหยู้ถังที่ทำการจัดงานแสดงวัตถุโบราณ
โรงเจียหยู้ถังแห่งนี้ของเมืองฮ่านเพิ่งเปิดกิจการไม่นาน เป็นสาขาย่อยของโรงเจียหยู้ถังที่มีอายุนับร้อยปีของเมืองหลวง
หลังจากที่โรงเจียหยู้ถังสาขาย่อยแห่งนี้เปิดกิจการ ก็ดึงดูดคนดังมากมายของเมืองฮ่านเข้ามาไม่น้อย
ยังไงซะก็มีเรื่องราวนับร้อยปีเป็นเบื้องหลัง บวกกับโรงเจียหยู้ถังนำเอาวัตถุที่หาได้ยากมากมาได้ไม่น้อย ดังนั้นคนดังของเมืองฮ่านต่างก็พากันมาสนับสนุน จึงทำให้เป็นสิ่งที่โด่งดังมากในวงการวัตถุโบราณของเมืองฮ่าน
แต่ว่าโรงเจียหยู้ถังเองไม่ได้ก้มหน้าหาเงินเองเท่านั้น ยังนึกถึงสายงานเดียวกันในพื้นที่ด้วย ทุกอาทิตย์จึงทำการจัดงานแสดงวัตถุโบราณ ให้พื้นที่เวทีของโรงเจียหยู้ถัง เพื่อให้สายงานเดียวกันของพื้นที่ได้ทำการรวมตัวแลกเปลี่ยนกัน และรวดทำการขายวัตถุที่มีอยู่ด้วย
และในขณะที่ทำการรวมตัวแลกเปลี่ยน เจ้าของร้านโรงเจียหยู้ถังเองก็ให้บริการการประเมินค่าฟรีอีกด้วย จึงทำให้โรงเจียหยู้ถังขึ้นเป็นผู้มีอำนาจของวงการวัตถุโบราณในเมืองฮ่าน
เมื่อเดินไปถึงหน้าประตูใหญ่ที่ทำการตกแต่งเรียบง่ายของโรงเจียหยู้ถัง กู้หยุนหลันก็พูดขึ้นอย่างตกใจนิดหน่อยว่า “โรงเจียหยู้ถังนี่นา เดี๋ยวนี้ได้ยินมาไม่น้อยเลย”
“เดี๋ยวนี้สายงานโบราณวัตถุที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากก็คือที่นี่แหละ วันนี้เป็นงานรวมตัวแลกเปลี่ยน ลองไปดูกันว่าจะได้เจอกับของดีอะไรมั้ย”
หลี่โม่จับมือกู้หยุนหลันไว้ ทั้งสองเดินเข้าโรงเจียหยู้ถังพร้อมกัน
ด้านในของโรงเจียหยู้ถังมีคนรวมตัวอยู่เต็มไปหมดแล้ว คนส่วนมากต่างก็ใส่เสื้อสูทรองเท้าหนังกัน ดูแล้วเหมือนกับนักธุรกิจ
คนที่ใส่เสื้อสูทพวกนี้ ไม่เพียงแค่มาดูวัตถุโบราณ แต่ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือการมาสร้างขยายความสัมพันธ์
หลังจากตั้งแต่ที่มีพวกคนดังไม่น้อยชอบมาโรงเจียหยู้ถัง ก็มีพวกนักธุรกิจที่เล็งหาแต่กำไรบางคน ก็ได้มาเข้าร่วม เตรียมที่จะหารือกับพวกคนดังที่เกี่ยวข้องกับวัตถุโบราณ เพื่อดูว่าจะมีโอกาสทางด้านธุรกิจใหม่อะไรมั้ย
หลังจากที่หลี่โม่และกู้หยุนหลันเดินเข้าห้องโถง ก็ดึงดูดสายตาของผู้คนมากมายให้สนใจในทันที
หนุ่มหล่อสาวสวยมักจะดึงดูดความสนใจอย่างง่ายดายเสมอ โดยเฉพาะกู้หยุนหลันที่สวยเหมือนกับนางฟ้า
ถูกสายตาของผู้คนจ้องมอง ทำให้กู้หยุนหลันรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ถูกผู้คนจ้องมองแบบนี้ความรู้สึกไม่ดีเลย
หลี่โม่ก้าวข้างหน้าก้าวหนึ่งแล้วบังกู้หยุนหลันไว้ถึงครึ่งตัว และขวางสายตาพวกนั้นที่มองมาทางกู้หยุนหลันไว้
ผู้คนรอบต่างก็ถอนหายใจอย่างพร้อมเพรียง ต่างก็เสียดายที่หลี่โม่มาบังความเพลิดเพลินจากการมองสาวสวยของพวกเขา
“เพื่อสาวสวย หวังอู่คนนี้ก็ต้องเข้าไปทำความรู้จักกับคุณผู้ชายคนนั้นดีๆสักหน่อยแล้ว”
หวังอู่พึมพำ บนใบหน้ายิ้มโรคจิต แล้วก็ก้าวเดินไปทางหลี่โม่
ยังห่างอยู่ไม่กี่ก้าว หวังอู่ก็ยื่นมือขวาออกมา ทำท่าทางจะจับมือด้วย
“น้องชายดูแล้วไม่คุ้นหน้าเลย คาดว่าคงจะมาโรงเจียหยู้ถังครั้งแรกสินะ ให้หวังอู่คนนี้แนะนำให้กับทั้งสองดีมั้ย” หวังอู่ทำตัวสนิทและพูด
หลี่โม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ในสายตามีความไม่พอใจแวบเข้ามา
“ไม่จำเป็น คุณไปยุ่งของคุณเถอะ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหวังอู่แข็งทื่อทันที หลังจากที่ด่าแม่มึงเอ้ยในใจไปทีหนึ่งแล้ว ก็พูดอย่างเขินอายว่า “น้องชาย ให้เกียรติกันหน่อยเถอะ คนมองอยู่มากขนาดนี้ นายคงจะให้เกียรติฉันอยู่หรอกใช่มั้ย”
“ทำไมต้องให้เกียรตินาย? นายมีเกียรติหรอ? ฉันให้นายมางั้นหรอ?”
หลี่โม่ถามออกไปด้วยสีหน้าเย็นชา
หวังอู่อารมณ์แปรปรวนในทันที สีหน้ากระตุกอย่างแรกไปทีหนึ่ง รู้สึกว่าตัวเองผิดไปแล้วจริงๆ
“ได้ น้องชาย นายมันเก่ง ไม่ให้เกียรติหวังอู่คนนี้ใช่มั้ย? งั้นรามาดูกัน”
หวังอู่ทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่ง แล้วหันหลังเดินไปทางฝั่งด้านหลัง
กู้หยุนหลันพูดเสียงเบา “จะไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย? เห็นว่าเขาเดินไปทางฝั่งด้านหลังแล้ว คงจะไม่ใช่ไปเรียกคนมาหรอกนะ”
“พวกเราเป็นคนขี้กลัวงั้นหรอ? ฉันไม่หาเรื่องก็ไม่กลัวมีเรื่อง ถ้าเขากล้าหาคนมา ฉันเองก็จะให้พวกเขาได้ลองดูสักหน่อยเอง”
หลี่โม่ไม่สนใจ เมืองฮ่านในวันนี้ล้วนเป็นถิ่นของเขาทั้งหมด ใครมันไม่มีตา นั่นก็คงเป็นการหาเรื่องใส่ตัว
กู้หยุนหลันปิดปากกลั้นขำไว้ พูดเสียงหวานว่า “นายเก่งที่สุดโอเคยัง”
“ในเมื่อคุณภรรยาพูดแบบนี้ งั้นผมก็ไม่ถ่อมตนแล้ว ที่นี่ผมเก่งที่สุดจริงๆ ไปเถอะ ไปดูกันว่าวันนี้มีของดีอะไรมั้ย”
หลี่โม่ยิ้มแล้วกอดกู้หยุนหลันไว้ ทั้งสองคนเดินไปยังแท่นโชว์ที่วางแสดงไว้รอบด้าน
แท่นโชว์รอบด้านแสดงวัตถุโบราณต่างๆไว้ มีพวกเครื่องทองสัมฤทธิ์ เครื่องลายคราม และเครื่องหยกเป็นหลัก ด้านในสุดของห้องโถงเป็นพวกอักษรภาพวาด วัตถุโบราณต่างๆที่เป็นกระแสต่างก็เห็นได้ในที่นี้
“เครื่องทองสัมฤทธิ์พวกนี้ดูแล้วมีรอยด่างเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าใช่ของจริงมั้ย ได้ยินมาว่าเครื่องทองสัมฤทธิ์มีของปลอมเยอะแยะเลย” กู้หยุนหลันมองดูแท่นโชว์ที่วางแสดงเครื่องทองสัมฤทธิ์ไว้ แล้วก็เอียงหัวถามหลี่โม่เสียงเบา
เจ้าของที่ยืนอยู่ข้างๆก็ยิ้มขึ้นมา “ของผมล้วนเป็นของแท้ทั้งนั้น ในตอนนี้เครื่องทองสัมฤทธิ์มีของปลอมมากมายก็จริง แต่ที่ผมขายนั้นไม่เหมือนกัน รับประกันความแท้หมื่นปีเลยครับ!”
“นายรับประกันว่าเป็นของแท้ได้ยังไงกันละ?”
หลี่โม่ถามด้วยรอยยิ้ม
เจ้าของทุบหน้าอกอย่างแรง ใบหน้าแสดงออกว่าฉันเป็นคนซื่อสัตย์อย่างมาก
“ชื่อเสียงของเจ้าเจ็ดจางคนนี้ใครไม่รู้จักบ้าง เป็นถึงอันดับหนึ่งของเมืองฮ่านในเรื่องเครื่องทองสัมฤทธิ์เลยนะ ของพวกนี้ล้วนเป็นของที่คว่ำมาจากกรวยตัวผมเองทั้งนั้น”