จักรพรรดิมังกร - บทที่ 596 การแข่งขันแกะสลักหยก
ใช่สิ ได้ยินมาว่าตระกูลฟางจะเข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักหยกในครั้งนี้ด้วย นายว่าคนใหญ่คนโตที่เขารอกันจะใช่คุณหนูตระกูลฟางรึเปล่า?”
ในตอนนี้มีคนหนึ่งในกลุ่มผู้คน เอียงคอไปคุยกับคนด้านข้างของเขาอย่างสงสัย
แต่ว่า บังเอิญมั้ยละ คำพูดพวกนี้ถูกฟางรั่วเสว่ได้ยินแล้ว มุมปากของเธอจึงยกยิ้มขึ้นในทันใด
“ว่าไปแล้วคนใหญ่คนโตที่พวกเขารอเป็นใครกันแน่นะ?”
ในตอนนี้เองหลี่โม่ก็อดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา เขาใช้มือข้างหนึ่งลูบคางตัวเองไว้ ในสายตาเต็มไปด้วยความสงสัย
“เป็นที่รู้จักกันดีว่าสปอนเซอร์ใหญ่ของการแข่งขันแกะสลักหยกทุกๆปีนั้นเป็นตระกูลฟางของพวกเรา ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะกำลังรอคนตระกูลฟางของพวกฉันละมั้ง แต่ว่าด้านหน้าฉันมีคนเยอะขนาดนี้ ฉันจะข้ามผ่านไปจากกลุ่มผู้คนนี้ยังไงกันละ? ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นการให้คนพวกนี้รอภายใต้แสงแดดร้อนแรงนี้ฟรีๆนะสิ”
ฟางรั่วเสว่พูดด้วยสีหน้ามั่นใจ
แต่ว่าหลี่โม่กลับกวาดสายตามองฟางรั่วเสว่เล็กน้อย เขาไม่คิดว่าคนพวกนี้กำลังรอคนของตระกูลฟาง แต่ว่าเขาก็ไม่สะดวกที่จะฉีกหน้าของฟางรั่วเสว่
และในตอนนี้เอง คนด้านข้างคนหนึ่งพูดขึ้นจู่ๆก็สาดน้ำเย็นใส่ฟางรั่วเสว่
“จะเป็นคุณหนูตระกูลฟางได้ยังไงกัน? ฉันได้ยินมาว่า เหมือนว่าครั้งนี้จะมีคนใหญ่คนโตที่สุดยอดคนหนึ่งมาเข้าร่วมการแข่งกันแกะสลักหยกในครั้งนี้”
“อ้อ ที่นายพูดเป็นความจริงงั้นหรอ? งั้นสรุปแล้วเป็นคนใหญ่คนโตแบบไหนกันนะ?”
คนรอบข้างต่างก็ถูกคนเมื่อกี้ที่พูดขึ้นทำให้รู้สึกสนใจ พวกเขารีบขยับเข้าไปหาคนๆนั้น ถามด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น
คนๆนั้นเคลียร์ลำคอ จากนั้นเขาก็เริ่มทำการพูดกับคนอื่นไม่หยุด
“ฉันมีญาติคนหนึ่งทำงานที่นี่แหละ ได้ยินมาจากเขาว่า เหมือนว่าจะมีปรมาจารย์ที่กลับมาจากเมืองนอกจะเข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักหยกครั้งนี้ด้วย”
“อะไรนะ นายโกหกมั้ง? ในเมื่อนายพูดว่าเขาเป็นปรมาจารย์ที่กลับมาจากเมืองนอก ถ้าอย่างนั้นเขาจะมาเข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักหยกเล็กๆนี่ได้ยังไง? ญาติคนนั้นของนายฟังมาผิดรึเปล่า?”
ได้ยินคำพูดของคนๆนั้น คนรอบข้างก็เริ่มถามขึ้นมาทันที
แต่ว่าคนๆนั้นกลับรีบส่ายหัว “เป็นไปไม่ได้ นี่เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน แล้วฉันยังได้ยินมาว่าปรมาจารย์คนนั้นกลับมาที่หวาเซี่ยเป็นครั้งแรก ฉันเองก็ไม่รู้ ในฐานะของเขาแล้วทำไมต้องมาเข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักหยกเล็กๆนี่ด้วย?”
“ฟังนายพูดเป็นเรื่องเป็นราวเชียว ไม่เหมือนกับว่ากำลังพูดโกหก ช่างเถอะ ยังไงซะเดี๋ยวก็ได้เห็นแล้วว่าคนพวกนี้กำลังรอใคร ถึงตอนนั้นนายจริงพูดเล่นก็จะได้รู้แน่ชัดกันเอง”
คนอื่นๆพยักหน้าอย่างเห็นด้วยในทันที
หลี่โม่ได้ยินคำพูดที่คนพวกนี้คุยกัน ก็นึกคิดในทันที เขาค่อยๆก้มหน้าลง และสงสัยในเป้าหมายที่ปรมาจารย์ท่านนั้นเข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักหยกอย่างอดไม่ได้ ในตอนนี้เขาหันหน้าไปเล็กน้อย ถึงได้เห็นว่าสีหน้าอารมณ์บนใบหน้าของฟางรั่วเสว่นั้นกำลังนึกคิดอย่างรอบคอบอยู่
หลี่โม่เคลียร์ลำคอ จากนั้นก็จิ้มแขนของฟางรั่วเสว่เบาๆ “คุณหนูฟาง ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไร คนพวกนี้ไม่ได้รอเธออยู่ก็ไม่เป็นไร ยังไงซะอำนาจของตระกูลฟางทุกคนต่างก็รู้กันอยู่ดี”
ฟางรั่วเสว่เงียบไปอยู่นาน กำลังนึกคิด
“ที่พวกเขาทำเรื่องใหญ่โตแบบนี้ในการไปต้อนรับปรมาจารย์คนนั้นที่กลับมาหวาเซี่ย นั่นก็เพียงเพราะอยากทำหน้าที่เจ้าของถิ่นให้ดีก็เท่านั้น คุณหนูฟางอย่าได้ใส่ใจนักเลย”
หลังจากที่หลี่โม่พูดคำพูดนี้เสร็จ เขาก็แอบดีใจอยู่สักพัก เขาคิดว่าหลังจากที่ตัวเองพูดคำพูดจบแล้ว ฟางรั่วเสว่จะรู้สึกขอบคุณตัวเขาสักหน่อย
แต่ว่าเขานึกไม่ถึงเลยว่า จู่ๆฟางรั่วเสว่จะถลึงตาใส่เขาอย่างแรง “หลี่โม่ นายคิดมากไปแล้ว คนพวกนี้กำลังรอคนตระกูลฟางของฉันอยู่มั้ย นี่มันไม่สำคัญ ที่สำคัญคือครั้งนี้พวกเราจะต้องได้อันดับหนึ่งจากการแข่งขันแกะสลักหยก ห้ามทำให้ตระกูลฟางของพวกฉันอับอายเด็ดขาด”
หลี่โม่พยักหน้าช้าๆ “ครับๆๆ คุณหนูฟางพูดถูก”
ทันใดนั้น ฟางรั่วเสว่ก็เหมือนกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคนในทันที คิ้วขอเธอขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “หลี่โม่ สามารถทำให้คนจำนวนมากมารอต้อนรับเขาได้ คาดว่าคนๆนี้คงมีอำนาจไม่น้อย ดังนั้น ครั้งนี้นายจะต้องระวังไว้ คนๆนี้ อาจจะเป็นคู่แข่งที่เก่งที่สุดในงานการแข่งขันแกะสลักหยกของนาย นายห้ามประมาทเด็ดขาด”
พูดจบ ฟางรั่วเสว่ก็มองหลี่โม่อย่างคิดมาก เพราะยังไงซะเธอก็รู้จักหลี่โม่มาสักพักแล้ว หลี่โม่คนนี้หยิ่งผยองอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าเขาจะจิตใจเมตตา แต่ก็เพราะนิสัยใจร้อนของเขา ทำให้ก่อนหน้านี้มีเรื่องมาไม่น้อย
แต่ว่าหลี่โม่กลับยิ้มอย่างดูถูก จากนั้นเขาก็สองมือกอดอก ตอบกลับอย่างมั่นใจมากว่า “คุณหนูฟาง คุณกังวลมากเกินไปแล้ว ถึงแม้จะเป็นปรมาจารย์ที่กลับมาจากเมืองนอก แล้วยังไงครับ? ก็เพียงแค่พูดภาษาอังกฤษได้มากกว่าผมนิดหน่อยก็เท่านั้นแหละครับ”
“หลี่โม่ นายจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด คุณหนูฟางพูดถูก คนๆนี้มีอำนาจไม่น้อย”
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่กู้หยุนหลันมาปรากฏตัวที่ข้างกายของฟางรั่วเสว่และหลี่โม่ เขาส่ายหัว และตอบกลับอย่างจริงจังว่า
“หยุนหลัน เธอมาตอนไหนกัน?”
ได้ยินเสียงนี้ หลี่โม่ก็รีบหันหลังกลับไปทันที ถึงได้พบว่ากู้หยุนหลันเบียดตัวเองมาถึงข้างกายของเขาแล้ว “หยุนหลัน วันนี้เธอไม่อยู่บริษัทหรอ?”
หยุนหลันกลับยิ้มให้กับฟางรั่วเสว่และหลี่โม่ “วันนี้เป็นถึงวันสมัครลงทะเบียนของการแข่งขันแกะสลักหยก เป็นถึงงานใหญ่ของที่นี่ ฉันจะต้องมาดูอยู่แล้ว”
ฟางรั่วเสว่พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นเธอก็จ้องกู้หยุนหลันอย่างสงสัยเล็กน้อย “ใช่สิ พี่สาวคะ เมื่อกี้ฟังคำพูดดูมีลับลมคมใน เหมือนว่าจะรู้ที่มาของคนใหญ่คนโตคนนี้ คุณสามารถบอกกับเราหน่อยได้มั้ยคะ?”
“เรื่องนี้นะหรอ ได้ยินมาว่าคนๆนี้เป็นศิษย์ของบุคคลในตำนานของหวาเซี่ย แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อหลายสิบปีก่อนถึงได้ไปที่เมืองนอก นี่ดูเหมือนจะเป็นการกลับประเทศครั้งแรกของเขา ดังนั้นเป้าหมายที่เขากลับมาในครั้งนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน”
พูดจบกู้หยุนหลันก็หันหน้าไปมองหลี่โม่ จากนั้นก็ตบบ่าของเขา “ดังนั้น หลี่โม่ นายจะต้องระวังไว้หน่อย ฉันได้ยินมาว่าคนๆนี้ไม่เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป เขาเป็นคนรอบคอบอย่างมาก ในแวดวงหยกแก้วมีตำนานเกี่ยวกับเขาไม่น้อยเลย”
แต่ว่าจู่ๆหลี่โม่กลับส่ายหัว เขาตอบกลับอย่างไม่เห็น “หยุนหลัน เธอวางใจเถอะ ถึงแม้ว่าคนๆนี้จะมีที่มาใหญ่โตมากขนาดไหน ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉัน เธอไม่ได้จะบอกว่าที่คนๆนี้กลับประเทศมาก็เพราะฉันหรอกนะ ฉันไม่มีผลกระทบใหญ่โตอะไรขนาดนั้น”
“พอเถอะ หลี่โม่ นายอย่ามาทำเป็นคนดีแถวนี้เลย พี่สาวพูดแบบนี้ก็เพื่อหวังดีกับนาย อีกอย่าง ครั้งนี้นายเป็นตัวแทนของตระกูลฟางที่มาเข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักหยก นายควบคุมตัวเองหน่อย อย่าได้ก่อเรื่องแล้ว ตระกูลฟางของเราไม่อยากจะคอยช่วยนายตามเก็บกวาดเรื่องเละเทะแล้ว”
ฟางรั่วเสว่สองแขนกอดอก กวาดสายตามองหลี่โม่ด้วยสีหน้าไม่พอใจ