จักรพรรดิมังกร - บทที่ 603 ซาบซึ้ง
พูดจบ ชุยเซิ่งจุนกับหลี่โม่ก็มองตากันอย่างซาบซึ้ง และหัวเราะออกมา พวกเขารู้กลอุบายของการจัดงานประมูลครั้งนี้แล้ว……
“สินค้าชิ้นสุดท้ายใกล้จะเริ่มประมูลแล้ว เชิญแขกทุกท่านกลับมานั่งที่ของตัวเอง……”
เมื่อได้ยินเสียงประกาศ ชุยเซิ่งจุนรีบกลับเข้าไปในงานก่อน
แต่เมื่อหลี่โม่มาถึงหน้าประตูงานประมูล มือถือของเขาก็ดังขึ้น
เขาหยิบมือถือขึ้นมาดู เป็นเบอร์ของบริษัทตระกูลฟาง……
ทำไมถึงโทรมาตอนนี้ล่ะ
หลี่โม่กดปุ่มรับสายอย่างไม่สบอารมณ์
เป็นเสียงของพนักงานต้อนรับหญิงหน้าเคาน์เตอร์ดังออกมา
“ฮัลโหล สวัสดีค่ะคุณหลี่ ประธานของเราบอกว่ามีเรื่องด่วน ให้คุณมาที่บริษัทเดี๋ยวนี้”
“ตอนนี้เหรอ พอบอกคร่าวๆ ได้ไหม”
“ขอโทษด้วย ประธานของเราไม่ได้บอกอะไร เขาบอกว่ามีเรื่องด่วน ให้รีบติดต่อคุณ ถ้าคุณมีเวลาให้รีบมาค่ะ”
“เหรอ……ได้ ผมเข้าใจแล้ว”
เมื่อคุยจบ หลี่โม่พูดพลางเดินออกจากศูนย์กีฬา และโทรหาฟางรั่วเสว่ให้ออกมาขับรถ เขารู้สึกเสียดายที่ต้องออกไป
ไม่นาน ก็มาถึงบริษัทตระกูลฟาง
หลี่โม่เดินเข้ามาในบริษัท เลขาพาเขามาถึงห้องทำงานของฟางฉี
เมื่อผลักประตูเข้ามา ฟางฉีรีบพูดว่า
“โอ้ มาแล้วเหรอหลี่โม่ รีบมานั่งสิ”
หลี่โม่ก้มหัวทักทายเขา และนั่งลงตรงข้ามฟางฉี จากนั้นจึงถามว่า
“ประธานฟาง ทำไมถึงให้คนรีบเรียกผมมาเร็วขนาดนี้ล่ะครับ หรือเรื่องที่ผมให้ประธานฟางสอบถาม มีวี่แววอะไรหรือเปล่า”
“ฮ่าๆ ใช่ครับ วัยรุ่นนี่รู้เร็วจริงๆ”
เมื่อเห็นสีหน้าฟางฉีตอบอย่างหนักแน่น หลี่โม่ถอนหายใจออกมา
“ว่ามาเลยครับ พวกที่ทำเกี่ยวกับโบราณวัตถุ คิดยังไงบ้าง”
ฟางฉีคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดว่า “หลานหลี่ ผมไม่ใช่คนที่ทำอะไรไม่แจ้งล่วงหน้า ถ้าคุณอยากอยู่ในธุรกิจด้านโบราณวัตถุ มันค่อนข้างยาก พวกตระกูลใหญ่ๆ ไม่ค่อยต้อนรับคุณ โดยเฉพาะเรื่องของตระกูลเหอ เมื่อครั้งก่อน มันวุ่นวายจนโด่งดังไปทั่ว ทุกคนเลยหวาดระแวงคุณ”
หลี่โม่แสยะยิ้ม และพูดว่า “อย่าบอกนะว่า ผมไม่สามารถลงทุนได้”
ฟางฉียิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “จากข่าวที่ผมสอบถามมา พวกเขาไม่ต้องการให้คุณอยู่ในธุรกิจด้านโบราณวัตถุ”
หลี่โม่ขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน
พวกเฒ่าในวงการโบราณวัตถุ ไม่อยากเห็นเขาขนาดนี้เลยเหรอ
ฟางฉีเห็นหลี่โม่เงียบ เขาจึงหัวเราะและพูดว่า “แต่หลานหลี่วางใจเถอะ มีผมอยู่ ผมจะพยายามช่วยติดต่อให้หลานหลี่เอง”
“งั้นรบกวนประธานฟางด้วย” หลี่โม่ยิ้มและเอ่ยขึ้น
ฟางฉีครุ่นคิด และเอ่ยขึ้นอีกว่า “แต่หลานหลี่ สิ่งที่ผมไม่เข้าใจอย่างยิ่งก็คือ ชื่อเสียงของคุณในเมืองฮ่าน น่าจะไม่ค่อยดีเท่าไร ตระกูลกู้ก็ไม่ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับโบราณวัตถุ ทำไมคุณหลี่ถึงดึงดันจะเข้าวงการนี้ล่ะครับ หรือว่าคุณทำเพื่อตระกูลกู้เหรอ”
หลี่โม่ยิ้มและเอ่ยว่า “ประธานฟางทายผิดแล้ว ผมทำเพื่อตัวเอง”
เมื่อฟางฉีได้ยินก็อึ้งไป
เขาเคยสอบถามประวัติของหลี่โม่มา หลี่โม่เป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิง
แต่มุมมองและความสามารถในการดูโบราณวัตถุของหลี่โม่ ทำให้ฟางฉีนับถือมาก
ควรทำความรู้จักกับคนหนุ่มเช่นนี้
“ถ้าไม่มีอะไร งั้นผมขอตัวก่อน”
หลี่โม่พูดจบก็ลุกขึ้น และพูดว่า “ประธานฟาง เรื่องที่ผมอยากเข้าวงการโบราณวัตถุ คุณอย่าไปบอกตระกูลกู้และภรรยาของผม”
ประธานฟางเข้าใจ จากนั้นจึงหัวเราะ “ได้เลยครับ”
แต่เมื่อหลี่โม่หันหลังไป เขาก็พูดว่า
“หลี่โม่ อย่าลืมเรื่องที่นัดกับข้าล่ะ”
หลี่โม่ไม่ได้คิดอะไรเยอะ เขาตอบกลับว่า “ได้” จากนั้นจึงเดินออกไป
เขารีบเดินออกจากบริษัท และขึ้นมาบนรถ
การประมูลวันนี้ได้จบลงแล้ว หลี่โม่ไม่มีอะไรทำ จึงกลับไปนอน
สองสามวันนี้กู้หยุนหลันยุ่งเรื่องที่บริษัท ดังนั้นหลี่โม่จึงมาพักที่โรงแรมชั่วคราว และเรียนรู้เรื่องโบราณวัตถุ
เมื่อถึงเที่ยงคืน ขณะที่เขากำลังเล่นมือถือ จู่ๆ ก็มีข้อความเด้งขึ้นมาบนหน้าจอ
“ยังไม่นอนเหรอ วันนี้ประมูลได้ครึ่งทาง นายออกไปไหน”
ชุยเซิ่งจุนเป็นคนส่งมา
เหอะ คิดไม่ถึงว่าเด็กน้อยอย่างนายจะโต้รุ่ง หลี่โม่เห็นข้อความก็คิดในใจ ดึกขนาดนี้ ในที่สุดก็มีคนคุยเป็นเพื่อน
เขากดเข้าไปในหน้าต่างสนทนา และตอบกลับ
“ยังไม่นอน วันนี้ผมมีเรื่องต้องทำกะทันหัน เลยไม่ได้อยู่ต่อ”
จากนั้นเขาจึงส่งไปอีกข้อความ
“นายน้อยชุยของเรา เหมือนจะยุ่งมาก ดึกขนาดนี้ยังทำงานอยู่ที่โรงรับจำนำจู้ติ่งเหรอครับ”
คิดไม่ถึงว่าชุยเซิ่งจุนจะส่งภาพเซลฟี่ตัวเองกับแมวมาให้ แถมยังแลบลิ้นปลิ้นตาอีกด้วย
ถึงจะรู้ว่าชุยเซิ่งจุนส่งรูปมา เพื่อบ่งบอกว่าตัวเองไม่ได้ทำงาน แต่เมื่อหลี่โม่เห็นภาพ ก็ถึงกับพูดไม่ออก เขาคิดในใจว่าพูดมาตรงๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องหลงตัวเองเลย……
ขณะนั้นชุยเซิ่งจุนก็ส่งมาอีกรูป แถมข้อความมาด้วย
“นายทายสิ ว่านี่คืออะไร”
หลี่โม่กดเปิดรูปใหญ่ จู่ๆ เขาก็อุทานออกมา
นี่มันน่าทึ่งมาก
สิ่งที่หลี่โม่ได้เห็นก็คือรูปปั้นพระแม่กวนอิมมังกรสีแดง
แค่เห็นมังกรตัวใหญ่สีแดงที่ลอยอยู่เหนือหินสีน้ำตาลเข้ม และมีพระแม่กวนอิมยืนตระหง่านอยู่บนหลังมังกรอย่างน่าเกรงขาม
ทันใดนั้นหลี่โม่ก็ยอมรับกับความน่าเกรงขามของรูปปั้นนี้ เขารีบให้ชุยเซิ่งจุนส่งรูปอย่างละเอียดมาให้ดูเพิ่ม
ดังนั้นชุยเซิ่งจุนจึงส่งรูปที่ถ่ายพระแม่กวนอิมกับมังกรระยะใกล้มาให้ เขาถ่ายได้ชัดมาก