จักรพรรดิมังกร - บทที่ 604 ได้อกได้ใจ
เมื่อได้ดูภาพอย่างละเอียด หลี่โม่เห็นรูปปั้นพระแม่กวนอิมมังกรสีแดง ทำมาจากพลอยปะการัง โดยไม่มีร่องรอยการต่ออะไรเลย
พลอยปะการังชิ้นใหญ่ขนาดนี้ องค์ประกอบต่างๆ มันเป็นของหายาก แถมช่างยังแกะสลักได้อย่างประณีต จนกลายเป็นผลงานที่มีความยิ่งใหญ่หนึ่งชิ้น
หลี่โม่ถูกรูปปั้นพระแม่กวนอิมดึงดูด จนไม่สามารถถอนตัวได้ เขาลืมไปเลยว่าชุยเซิ่งจุนอยู่ด้วย
จนกระทั่งผ่านไปสองสามนาที ชุยเซิ่งจุนจึงโทรมา เขาจึงตั้งสติได้
เมื่อรับสาย ชุยเซิ่งจุนพูดอย่างได้อกได้ใจ
“ฮ่าๆ เป็นไงหลี่โม่ ทึ่งกับของล้ำค่าของฉันสินะ”
“คุณพูดถูก ผมทึ่งมาก นี่เป็นผลงานหายากชิ้นหนึ่งเลย คุณไปหามาจากไหนเหรอ”
“ก็งานประมูลวันนี้ไง รูปปั้นนี้เป็นสินค้าที่ประมูลชิ้นสุดท้าย ฉันเลยถามว่าทำไมตอนประมูลครั้งสุดท้าย ถึงไม่เห็นนาย นายนี่ไปผิดเวลาจริงๆ!”
อะไรนะ นี่เป็นของชิ้นสุดท้ายที่เอามาประมูลวันนี้เหรอ หลี่โม่คิดในใจ คิดไม่ถึงว่าของล้ำค่าจะอยู่ในมือเซียวเลี่ย แถมยังเอาออกมาประมูลอย่างไม่เสียดายด้วย
“เฮ้อ น่าเสียดายชะมัด แต่เห็นภาพที่คุณส่งมา รูปปั้นนี้คงอยู่ในมือคุณแล้วสินะ”
“แน่นอน ของล้ำค่าชิ้นนี้เตะตาฉันตั้งแต่ออกมา แต่กว่าจะประมูลมาได้ มันไม่ง่ายเลย เสียเงินไปตั้งเยอะ”
“หา? เท่าไรเหรอ”
ขนาดคุณชายรวยๆ อย่างชุยเซิ่งจุนยังบ่น หลี่โม่ยิ่งสงสัยราคาของรูปปั้นนี่เข้าไปใหญ่
“พูดไปก็กลัวนายจะตกใจน่ะสิ ราคาต่ำสุดของรูปปั้นนี่คือยี่สิบล้าน สุดท้ายฉันเสียเงินไปหกสิบกว่าล้าน ถึงจะประมูลมาได้!”
ชุยเซิ่งจุนพูดออกมา หลี่โม่ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาพูดติดตลกว่า
“ฮ่าๆ นายน้อยชุยคงปวดใจมาก เห็นแก่ความเป็นเพื่อน คุณซื้อมันเท่าไร ผมจะรับมันมาเท่านั้น!”
“เหอะๆ……ฝันไปเถอะ ฉันจะบอกให้นะ รูปปั้นนี้ราคายังไม่ถึง 9 หลัก ฉันไม่ขายหรอก……”
หลี่โม่คุยกับชุยเซิ่งจุน ทั้งสองรู้สึกเสียดายที่รู้จักกันช้าไป……
หลี่โม่กับชุยเซิ่งจุนคุยเกี่ยวกับรูปปั้นพระแม่กวนอิมอยู่นาน
ฟ้าค่อยๆ สว่างโดยไม่รู้ตัว
ชุยเซิ่งจุนนัดหลี่โม่ให้มาชมโบราณวัตถุที่บ้าน เมื่อมีเวลาว่าง จากนั้นจึงวางสายลง
หลี่โม่บิดขี้เกียจ เขาถอนหายใจ สุดท้ายคืนหนึ่งก็ผ่านไปแล้ว
หลังจากที่อาบน้ำล้างหน้า เขาหิ้วกระเป๋าสะพายมาทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
นมและขนมปังปิ้งอาหารเช้าตามแบบฉบับ หลี่โม่กินพลาง วางแผนสิ่งที่จะทำวันนี้
เมื่อคิดครู่หนึ่ง จู่ๆ เขานึกถึงรูปปั้นพระแม่กวนอิมที่น่าเกรงขามองค์นั้น
ในเมื่อว่างอยู่ ทำไมถึงไม่ไปดูของล้ำค่าชิ้นนั้น ด้วยตาตัวเองล่ะ
หลี่โม่โทรหาชุยเซิ่งจุน รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่โรงรับจำนำจู้ติ่ง ดังนั้นจึงให้ฟางรั่วเสว่ขับรถ ทั้งสองไปที่โรงรับจำนำ
เมื่อถึงโรงรับจำนำจู้ติ่ง พนักงานพาหลี่โม่กับฟางรั่วเสว่มาที่ลอบบี้
เมื่อเข้ามาถึง เห็นชุยเซิ่งจุนพิงโซฟานอน
โฮะ……ไอ้หนุ่มนี่ไม่ทำงานหรือไง เดี๋ยวนี้เป็นทายาทธุรกิจมันสบายขนาดนี้เลยเหรอ
หลี่โม่คิดและเดินเข้าไปปลุกชุยเซิ่งจุน
ชุยเซิ่งจุนสะลึมสะลือมองหลี่โม่ เขาพูดอย่างเนือยๆ ว่า
“มาแล้วเหรอ……”
“คุณชายอย่างคุณนี่สบายจริงๆ มานอนในเวลางานอย่างนี้เหรอ”
ชุยเซิ่งจุนหาวยกใหญ่ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น
“ก็เพราะนายไง……เมื่อคืนชวนฉันคุยจนเช้า สภาพเลยเป็นแบบนี้ไง”
หลังจากที่ทั้งสองแซะกัน หลี่โม่จึงพูดเรื่องรูปปั้นพระแม่กวนอิมมังกร
ชุยเซิ่งจุนพูดออกมาว่ารูปปั้นอยู่ที่บ้านของตัวเอง แถมยังชวนหลี่โม่กับฟางรั่วเสว่ไปทานข้าวที่บ้านเขา
หลังจากที่จัดการเรื่องที่โรงรับจำนำจู้ติ่งเสร็จ ชุยเซิ่งจุนพาทั้งสองคนมาที่บ้านของตัวเอง
ชุยเซิ่งจุนเพิ่งเข้ามา ก็มีบริกรเข้ามาต้อนรับ
หลี่โม่จำคนนี้ได้ เป็นผู้รับใช้ของชุยเซิ่งจุน แต่สีหน้าของเขาดูซีดเล็กน้อย
ชุยเซิ่งจุนเห็นชายวัยกลางคนก็พูดออกมา
“เหล่ากัว ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ สุขภาพของนายไม่ค่อยดี ช่วงนี้ก็พักก่อน จะมาทำงานทำไม รอให้สุขภาพของนายดีขึ้นก่อน แล้วค่อยกลับมาทำงานที่โรงรับจำนำจู้ติ่ง ช่วงนี้ฉันยุ่งจนแทบกระอัก”
เหล่ากัวไอสองที จากนั้นจึงพูดช้าๆ
“ผมมาช่วยงานบ้านนิดหน่อย ขอโทษด้วยที่สร้างความวุ่นวายให้คุณ”
“โอ๊ย นายนี่จริงๆ เลย……โอเคๆ คืนนี้ฉันมีเพื่อนมาสองคน นายเตรียมอาหารเย็นให้เราหน่อยละกัน เสร็จแล้วก็ไปพักซะ”
เหล่ากัวรับคำและเดินออกไป ส่วนชุยเซิ่งจุนพาหลี่โม่กับฟางรั่วเสว่มานั่งบนโซฟา ในห้องรับแขก
รูปปั้นพระแม่กวนอิมมังกรสีแดง วางอยู่บนโต๊ะชาหินอ่อนขนาดใหญ่ ที่อยู่ข้างหน้าทั้งสามคน
เมื่อเห็นของจริง แววตาของหลี่โม่ถูกสะกดเอาไว้
ความแวววาวที่ใสราวคริสตัลนี้ เป็นงานแกะสลักธรรมชาติ สวยกว่าในรูปเป็นสิบเป็นร้อยเท่า
ขนาดคนที่อยู่นอกวงการอย่างฟางรั่วเสว่ยังต้องอึ้งเหมือนกัน
“ฉันไม่เคยเห็นของใหญ่ขนาดนี้ พลอยถูกแกะสลักอย่างประณีต น่าทึ่งจริงๆ!”
เมื่อได้ยินคำชมของฟางรั่วเสว่ และเห็นหลี่โม่มองรูปปั้นอยู่อย่างนั้น ชุยเซิ่งจุนพูดอย่างได้ใจ
“เฮ้อ หลังจากได้ของชิ้นนี้มา ฉันก็ไม่รู้จะวางตรงไหน เลยวางไว้ตรงนี้ อย่างน้อยก็พอเป็นหน้าเป็นตาให้ฉันได้ ฮ่าๆ”
ชุยเซิ่งจุนชอบคุยโม้ จนหลี่โม่ชินแล้ว จึงไม่สนใจเขา และมองรูปปั้นนั้นเงียบๆ……
หลี่โม่กับฟางรั่วเสว่ถูกชุยเซิ่งจุนเชิญมาที่บ้าน
ทั้งสามกำลังชมรูปปั้นพระแม่กวนอิมมังกร
หลี่โม่ดูอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า
“รูปปั้นนี้ไม่เหมือนของในประเทศ ผมว่าน่าจะมาจากฝูซาง”
เมื่อชุยเซิ่งจุนได้ยิน ก็ดีดนิ้วทันที