จักรพรรดิมังกร - บทที่ 610 หายสาบสูญ
“ไม่ใช่ค่ะ พ่อฉันเอง เขาโทรหาคุณไม่ติด เลยโทรหาฉัน เขาบอกมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
ใช่สิ……เขามัวแต่สนใจเรื่องเหล่ากัว จนเกือบลืมฟางฉีไปเลย
หลี่โม่จึงรับมือถือมาคุย
“ฮัลโหล ประธานฟาง ขอโทษด้วยครับ ช่วงนี้ต้องจัดการเรื่องยุ่งๆ นิดหน่อย ขอโทษด้วยครับ…..”
เสียงหัวเราะของฟางฉี ดังออกมาจากมือถือ
“ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไร ผมจะโทรมาแจ้ง เรื่องที่คุณอยากลงทุนในวงการโบราณวัตถุ ผมติดต่อให้คุณ ได้พอสมควรแล้ว”
หลี่โม่หัวเราะแล้วพูดว่า “ขอบคุณประธานฟางมาก ถ้ามีโอกาสจะเลี้ยงข้าวคุณ”
พูดจบ ทั้งสองคุยกันนิดหน่อย จากนั้นจึงวางสาย
ฟางรั่วเสว่เห็นหลี่โม่ยิ้ม จึงถามว่า
“คุณหลี่ มีข่าวดีอะไรเหรอ”
หลี่โม่ยิ้มและโบกมือไปมา จากนั้นจึงบอกให้ฟางรั่วเสว่ขับรถกลับโรงแรม
เมื่อมาถึงโรงแรม ทั้งสองทานอาหารเช้า และแยกย้ายกลับห้องของตัวเอง
หลี่โม่อาบน้ำ และนั่งบนโซฟาอย่างสดชื่น เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ และคิดเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในหัว
เรื่องเหล่ากัว เรื่องหยกเลือด ตอนนี้ยังคงเป็นปริศนา
เขาคิดไม่ออกจริงๆ หลังจากที่รับสายฟางฉี เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกมั่นใจและมีอิสระ หรือเขาจะเชื่อใจฟางฉีมากเกินไป……
ราชินีของสำนักหลงเหมินกำลังวางแผนอะไรอยู่หรือเปล่า
ราชินีของสำนักหลงเหมิน รู้เรื่องที่เขาจะลงทุนในวงการโบราณวัตถุแล้วงั้นเหรอ
“โอ๊ย!”
หลี่โม่กำลังจมอยู่กับความคิด บุหรี่ในมือไหม้จนเถ้าบุหรี่หล่นใส่ขาเขา เขาจึงหลุดออกจากความคิด
เขาโยนก้นบุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่ หลี่โม่ตัดสินใจ เรื่องอะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับชีวิตตัวเอง!
คิดไปคิดมา จู่ๆ หลี่โม่ก็คิดถึงใครคนหนึ่ง!
ช่างปลอมโบราณวัตถุฝีมือดีในเมืองฮ่าน จางเสี่ยวหง ลูกสาวของจางเหมิน!
เพราะช่วงนี้หลี่โม่รู้เรื่องจางเหมิน แต่ก่อนจางเหมินเคยทำเรื่องไว้กับสำนักหลงเหมิน
นี่เป็นคำตอบที่ได้ หลังจากที่หลี่โม่โทรไปถามท่านแปดเมื่อวาน
ในเมื่อติดต่อจางเหมินไม่ได้ งั้นต้องเข้าทางลูกสาวของเขา ไม่แน่อาจจะได้รู้ความลับของโบราณวัตถุในเมืองฮ่านก็ได้
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลี่โม่รีบออกมาเรียกแท็กซี่นอกโรงแรม และมาที่มหาวิทยาลัยเมืองฮ่าน
จากข้อมูลที่ท่านแปดให้มา หลี่โม่รู้ว่าจางเสี่ยวหงเรียนอยู่ที่นี่ ส่วนเรียนชั้นปีไหน สาขาอะไร พักอยู่ที่ไหน หลี่โม่ไม่รู้อะไรเลย
เขาเกาหัวอย่างร้อนใจ หลี่โม่นึกถึงเกาหนิงขึ้นมาได้
ในข้อมูลเกาหนิงเป็นเพื่อนของจางเสี่ยวหง แถมยังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับจางเสี่ยวหงด้วย!
ดังนั้น เขาจึงถามนักเรียนที่เดินผ่านไปมา เขารู้ว่าชมรมนักเรียนอยู่ตรงไหน หลี่โม่จึงรีบไปทันที
เป็นห้องที่อยู่ในตึกเรียนชั้นสองของมหาวิทยาลัยเมืองฮ่าน ด้านขวาของประตูมีป้ายยาวขนาดใหญ่ เขียนว่า “ชมรมนักเรียน”
หลี่โม่มาถึงหน้าประตู เขาดูป้ายเพื่อความแน่ใจ จากนั้นจึงเดินเข้าไป
ในชมรมนักเรียน มีนักเรียนกำลังจัดของอยู่สองสามคน หลี่โม่มองไปรอบๆ ไม่เห็นเกาหนิงกับจางเสี่ยวหง
ขณะนั้นมีนักเรียนชายคนหนึ่ง เดินเข้ามาหาหลี่โม่ เขาถามอย่างสุภาพว่า
“สวัสดีครับ คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
“เอ่อ……ผมมาหาจางเสี่ยวหงกับเกาหนิง เขาอยู่ที่ไหนครับ”
“ขอโทษด้วยครับ ผมไม่รู้ครับ พวกเขาสองคนลาออกจากชมรมไปแล้ว”
“อะไรนะ!”
ชมรมนักเรียนมหาวิทยาลัยเมืองฮ่าน
หลี่โม่ตามหาเกาหนิงกับจางเสี่ยวหงไปทั่ว แต่กลับได้ยินว่าทั้งสองลาออกจากชมรมไปแล้ว
“อะไรนะ!”
น้ำเสียงของหลี่โม่ดูมีน้ำโห
“งั้นนายรู้ไหมว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน จางเสี่ยวหงหรือเกาหนิงก็ได้ ผมมีเรื่องด่วนต้องเจอเขา!”
นักเรียนคนนั้นตกใจมาก เขาอ้ำๆ อึ้งๆ พูดอะไรไม่ออก
ขณะนั้นมีนักเรียนชายรูปร่างสูงเดินเข้ามา และพูดว่า
“เกาหนิงเป็นรูมเมทของผม ตอนนี้เขาเรียนอยู่ สองสามวันก่อนหน้า จางเสี่ยวหงพักการเรียนไปแล้ว พวกเราไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ไหน”
คำพูดนี้เหมือนสายฟ้าฟาดใส่หลี่โม่ มันทำลายความหวังลมๆ แล้งๆ ของเขา
หลี่โม่ทำเป็นเข้มแข็ง และพูดกับนักเรียนชายตัวสูงว่า
“ผมเข้าใจแล้ว……งั้นนายช่วยพาผมไปหาเกาหนิงได้ไหม”
“อืม ได้ครับ เดี๋ยวเขาเลิกเรียน แล้วผมจะพาไป”
หลี่โม่ยืนรออยู่หน้าชมรมนักเรียนอยู่อย่างนั้น……
หลังจากผ่านไปประมาณสามสิบนาที เสียงออดหมดคาบดังขึ้น
นักเรียนตัวสูงพาหลี่โม่มาถึงใต้ตึกเรียน
เกาหนิงถือหนังสือรอพวกเขาอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง
หลี่โม่เดินตามนักเรียนตัวสูงไป
“เกาหนิง! คุณคนนี้เขามาหานาย บอกว่ามีเรื่องสำคัญ”
เกาหนิงมองหลี่โม่ และเอ่ยถาม
“คุณ……คือหลี่โม่ใช่ไหม มาหาผม มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
“ใช่ ผมเอง ผมได้ยินว่าจางเสี่ยวหงพักการเรียน นายรู้หรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ใช่ครับ สองสามวันก่อนหน้านี้ เธอพักการเรียน เพื่อนของเธอบอกว่า เธอเหมือนจะย้ายบ้าน”
สิ่งที่เกาหนิงพูดไม่ค่อยต่างจากสิ่งที่หลี่โม่จินตนาการเอาไว้
ย้ายบ้าน อาจจะโดนสำนักหลงเหมินกดดัน
“งั้นนายรู้ไหมว่าเธอย้ายไปไหน”
“อืม……ว่ากันว่าย้ายไปที่อื่นนะครับ คงไม่ได้อยู่ในเมืองฮ่านแล้ว ส่วนย้ายไปที่ไหน ผมไม่รู้จริงๆ ขอโทษด้วยครับ”
ที่อื่นอย่างนั้นเหรอ
หาคนในเมืองฮ่านว่ายากแล้ว ถ้าย้ายออกไปจริงๆ แทบจะไม่มีทางหาเจอเลย…..