จักรพรรดิมังกร - บทที่ 617 ตระกูลที่ปลีกตัวจากโลก
หลังจากหลี่โม่พูดจบ ร่างของเขาพุ่งเข้าไปหาคนพวกนั้นอย่างรวดเร็ว
“พลั่ก!”
มีดในมือหลี่โม่ฟันลงไปที่ท้ายทอยของคนหนึ่ง คนนั้นสลบลงไป มีดหลุดออกจากมือทันที
เมื่อคนที่เหลือเห็นเหตุการณ์ ก็ตกใจมาก แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีเวลามาคิดอะไร คนพวกนั้นพุ่งเข้ามาหาหลี่โม่ พร้อมมีดในมือ
“ไอ้เด็กเปรต ตายซะเถอะ!”
หนึ่งในนั้นสบถออกมาอย่างโมโห และกำลังจะแทงไปที่อกของหลี่โม่
หลี่โม่ย่อตัวลง และกวาดเท้าเตะ จนคนพวกนั้นกระเด็นออกไป
หลี่โม่ลุกขึ้นมา และเหยียบลงบนข้อมือของพวกที่ถือมีด อย่างไร้ความเมตตา
มีเสียงกรอบแกรบดังขึ้น ต่อมาก็มีเสียงร้องโอดครวญ และปล่อยมือโดยอัตโนมัติ
มีดสั้นตกลงบนพื้นจนเกิดเสียงดัง
หลี่โม่ลุกขึ้นและมองคนพวกนั้นอย่างเฉยชา
“พวกนายมีปัญญาแค่นี้เหรอ”
คนพวกนั้นเจ็บจนพูดไม่ออก และจับข้อมือ นอนกลิ้งอยู่บนพื้น
หลี่โม่เงยหน้าขึ้นมา เห็นหวังฝู้เหงื่อออกเต็มหน้า เขาจึงเดินเข้าไปหา
“ฉันให้โอกาสนายมีชีวิตรอด แต่นายไม่ไป ตอนนี้นายจะเลือกตัดขาทั้งสองข้างด้วยตัวเอง หรือจะให้ฉันช่วย”
คนรอบๆ ไม่สงสัยกับคำพูดของหลี่โม่อีกแล้ว เมื่อหลี่โม่พูดออกมา พวกเขารู้ทันทีว่าหลี่โม่จะทำจริง
หวังฝู้คุกเข่าอย่างไม่ลังเล เหงื่อไหลลงมาข้างแก้มเขา
หวังฝู้กลืนน้ำลาย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแห้งผาก “พะ……พี่ ผมผิดไปแล้ว”
“ปล่อยผมไปเถอะ”
“ผมยอมขอโทษแล้ว ปล่อยผมไปเถอะ”
หลี่โม่ก้มหน้ามองหวังฝู้ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม
“สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุด ก็คือคนอื่นมาดูถูกภรรยาฉัน รองลงมาก็คือคนที่มาข่มขู่ฉัน”
“นายซวยมาก พวกนายสองคนทำเรื่องนี้ ดังนั้นขาของนาย ก็อย่ามีเลย”
พูดจบ หลี่โม่ก็ถีบออกไปอย่างรวดเร็ว เขาถีบลงไปโดนกระดูกขาของหวังฝู้
“โอ๊ย!!!”
หวังฝู้ร้องโอดครวญ และล้มลงไปข้างๆ ขาของเขาโดนหลี่โม่ถีบจนหัก!
หลี่โม่ไม่สนใจ เขาถีบลงไปบนขาอีกข้างของหวังฝู้
ต่อมาหลี่โม่หันไปมองหยางฉวน ตอนนี้ขาทั้งสองข้างของหยางฉวนอ่อนปวกเปียก ตรงกลางเป้ากางเกงเปียกชื้น
เขาตกใจหลี่โม่จนเยี่ยวราด
เมื่อคนรอบๆ เห็นก็ส่ายหน้าอย่างรังเกียจ คนที่ไร้ประโยชน์อย่างนี้ กล้ามายั่วยุหลี่โม่
“คุกเข่า!” เสียงของหลี่โม่ราบเรียบ
แต่มันเหมือนสายฟ้าที่ผ่าใส่ตัวหยางฉวน เขาขาอ่อนทรุดลงกับพื้น
หยางฉวนรีบเอาหัวโขกพื้น
“พี่ ผมผิดไปแล้ว ขอโทษ ผมไม่ควรหน้ามืดตามัวไปขู่พี่ ขอโทษครับพี่”
“ผมก้มหัวให้พี่แล้ว พี่ปล่อยผมไปเถอะ”
หลี่โม่ยิ้มเย้ยหยัน
“พวกนายไม่รักษาโอกาสเอาไว้เอง”
พูดจบ หยางฉวนก็ได้รับผลกรรมเหมือนหวังฝู้ ทันใดนั้นทั้งสองก็นอนแผ่อยู่บนพื้น และส่งเสียงร้องโอดครวญออกมาเสียงดัง
คนรอบๆ มองทั้งสองคน และยิ้มอย่างเย้ยหยัน ไม่มีใครเข้าไปช่วยพวกเขาสักคน
เมื่อทำในสิ่งที่ไร้มโนธรรมไว้มาก ภัยย่อมย้อนมาสู่ตน ปกติสองคนนี้รีดไถเงินจากคนที่มาพนันหินไม่น้อย พวกเขาควรได้รับผลกรรมนี้แล้ว
กู้หยุนหลันส่ายหน้าให้กับภาพตรงหน้า เธอมองทั้งสองคนอย่างเห็นใจ
จะหาเรื่องใครก็ได้ แต่ดันมาหาเรื่องหลี่โม่ แถมยังมาดูถูกเธอด้วย หลี่โม่ปล่อยพวกเขาไปก็แปลกแล้ว
ขณะนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในลานพนันหินวิ่งเข้ามา และมองหลี่โม่กับกู้หยุนหลันอย่างน่ากลัว
“ใครเป็นคนทำเรื่องนี้ กล้ามาหาเรื่องที่นี่ได้ยังไง พวกแกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม!”
เมื่อหลี่โม่ได้ยิน เขาก็เหลือบมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้วยสีหน้าเย็นชา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รู้สึกเหมือนโดนโจมตี จนไม่กล้าพูดอะไรออกมา
“ยังจะถามอีก”
น้ำเสียงของหลี่โม่ราบเรียบ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ยิน ถึงกับกลืนน้ำลาย เขาอยากพูดแต่ก็พูดไม่ออก
หลี่โม่ส่งเสียงหึออกมา เขามองกู้หยุนหลันที่อยู่ข้างๆ “กลับบ้านกันเถอะ”
กู้หยุนหลันพยักหน้า และเดินออกจากลานพนันหินกับหลี่โม่ คนรอบๆ มองทั้งสองคนเดินออกไป และหันไปมองพวกที่นอนอยู่บนพื้น พวกเขาอดหดหู่ไม่ได้
เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตั้งสติได้ ก็รีบไล่พวกเขาออกไป ลานพนันหินจึงอยู่ในความสงบ
……
ระหว่างทางกลับ กู้หยุนหลันขมวดคิ้วเบาๆ
หลี่โม่ที่ปรายตามองกู้หยุนหลันอยู่หลายครั้ง อดถามขึ้นมาไม่ได้ว่า “หยุนหลัน มีอะไรหรือเปล่า”
เมื่อกู้หยุนหลันได้ยิน เธอจึงเอียงหัวมองหลี่โม่ แต่ยังขมวดคิ้วอยู่อย่างนั้น
“คุณสามี งานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่จะจัดวันมะรืนนี้แล้ว เราจะจัดจริงเหรอ”
“ไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกใจไม่ดีนิดหน่อย”
หลี่โม่ได้ยินก็อึ้งไป จริงๆ เขารู้อยู่แก่ใจ แค่เขาจัดงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ ราชินีของสำนักหลงเหมิน ไม่มีทางพลาดโอกาสนี้แน่ เธอต้องหาคนมาจัดการเขาแน่นอน
ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่
อีกอย่างฝั่งกู้เจี้ยนกั๋วก็ขัดแย้งกันไม่น้อย เมื่อถึงตอนนั้นต้องแจ้งเขาด้วย
ถ้ากู้เจี้ยนกั๋วสร้างเรื่องอะไรในตอนนั้น งานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ครั้งนี้ ต้องวุ่นวายอย่างแน่นอน
หลี่โม่อยากจัดงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ให้ออกมาดี เขาจึงต้องเตรียมรับมือความวุ่นวายพวกนี้ด้วย
ตอนนี้หลี่โม่ขอความช่วยเหลือจากตระกูลฟาง แต่ตระกูลฟางแค่ตระกูลเดียว คงไม่พอ
“วางใจเถอะคุณภรรยา ไม่มีอะไรหรอก”
หลี่โม่ยิ้มและเอ่ยขึ้น
“มีผมอยู่ คุณไม่ต้องคิดมาก”
หลี่โม่ไม่มีทางให้กู้หยุนหลันมาเป็นกังวลกับเขา เพราะฉะนั้นเขาวางแผนไว้แล้ว หลังจากกลับมาที่บ้าน เขารีบติดต่อพวกตระกูลที่มีอำนาจและใช้ประโยชน์ได้
ถึงจะไม่สามารถรับรองได้ว่างานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ครั้งนี้จะราบรื่น แต่ยังไงก็ต้องเตรียมแผนให้เพียงพอ
“ราชินีของสำนักหลงเหมิน ผมอยากรู้จริงๆ ว่าคุณจะทำอะไรในงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่”
หลี่โม่พูดในใจ ความเย็นชาฉายออกมาทางแววตาของเขาโดยไม่รู้ตัว
การตายของพ่อ ต้องเกี่ยวข้องกับราชินีของสำนักหลงเหมินแน่นอน ราชินีของสำนักหลงเหมินจิตใจโหดเหี้ยม โหดเหี้ยมจนหลี่โม่รู้สึกเสียวสันหลัง
ถ้าไม่ใช่เพราะการมีอยู่ของราชาใหญ่ของสำนักหลงเหมิน หลี่โม่คงหายไปจากโลกนี้ตั้งนานแล้ว เพราะตอนนี้หลี่โม่เป็นขวากนามที่อยู่ข้างหน้าบัลลังก์ของราชินีของสำนักหลงเหมิน
ถ้าหลี่โม่ไม่ตาย ราชินีของสำนักหลงเหมิน ก็ไม่มีทางสืบทอดสำนักหลงเหมินได้
กู้หยุนหลันได้ยินที่หลี่โม่พูด เธอเงียบลง แววตาของเธอเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
ผ่านไปครู่หนึ่ง กู้หยุนหลันจึงพูดว่า “คุณสามี ก่อนหน้านี้ฉันมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง เขาบอกว่าเป็นตระกูลที่ปลีกตัวจากโลก”
“เขาบอกว่าถ้ามีอะไร สามารถบอกเขาได้ เขาจะช่วยฉัน พรุ่งนี้นายไปกับฉันดีไหม”