จักรพรรดิมังกร - บทที่ 619 ท่าทีของตระกูลฟาง
เมื่อกู้หยุนหลันได้ยินก็พยักหน้า “ได้ งั้นนายไปทำธุระก่อนเถอะ”
“อืม”
หลี่โม่ตอบ และรีบเดินขึ้นไปที่ห้องหนังสือข้างบน
เขาอยากได้คำตอบที่แน่ชัดจากตระกูลฟาง ไม่อย่างนั้นงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ครั้งนี้ ก็ยังคงไม่ราบรื่น
หลังจากมาถึงห้องหนังสือ หลี่โม่ไม่ได้โทรหาตระกูลฟางทันที
แต่เขากลับวาดเส้นลงบนกระดานที่อยู่ในห้องหนังสือ และเขียนชื่อลงไปบนนั้น
ชื่อแรกเป็นชื่อของเขาเอง ซึ่งอยู่ตรงกลาง นอกจากนั้นยังมีชื่อของราชาใหญ่ของสำนักหลงเหมิน
ส่วนบนสุดในกระดานเป็นชื่อราชินีของสำนักหลงเหมิน เขากับราชินีของสำนักหลงเหมิน เหมือนน้ำกับไฟ ถ้าราชาใหญ่ของสำนักหลงเหมินไม่มีท่าทีที่ชัดเจน เขาคงตายไปแล้ว
ตอนนี้เขาต้องจัดการสถานการณ์รวมถึงความช่วยเหลือของตัวเองให้ชัดเจน
ส่วนชื่อที่อยู่ข้างล่างชื่อเขาคือกู้เจี้ยนกั๋ว เขาขัดแย้งกับกู้เจี้ยนกั๋วเช่นกัน ครั้งนี้กู้เจี้ยนกั๋วต้องทำอะไรสักอย่างแน่นอน
ส่วนชื่อที่อยู่ข้างซ้ายคือเสือผี เสือผีเป็นคนที่ราชินีของสำนักหลงเหมินส่งมา เขาต้องมาก่อเรื่องในงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่อย่างแน่นอน
ส่วนด้านขวาของกระดานยังคงว่างเปล่า ราชินีของสำนักหลงเหมินไม่ใช่คนสะเพร่า เสือผีเพียงคนเดียว คงไม่พออย่างแน่นอน
สิ่งที่หลี่โม่กำลังคิดตอนนี้คือ ถ้าฝั่งราชินีของสำนักหลงเหมินส่งใครมาเพิ่มอีก เขาจะจัดการอย่างไร
เขามองกระดานตรงหน้า และครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายเขาวงกลมตรงชื่อของราชาใหญ่ของสำนักหลงเหมิน
“ดูเหมือนจะต้องไปใกล้ชิดราชาใหญ่ของสำนักหลงเหมินสักหน่อย ถ้าท่าทีของราชาใหญ่ของสำนักหลงเหมิน
ยังไม่ชัดเจนแบบนี้ เมื่อถึงงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ ถึงมีความช่วยเหลือจากตระกูลกงซุน ยังไงก็มีจุดบกพร่องอย่างแน่นอน”
“ถึงจะทำได้ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ฉันจะหาวิธีทำให้งานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ครั้งนี้ สมบูรณ์แบบให้ได้!”
ความเย็นชาอยู่ในแววตาของหลี่โม่ หลังงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ เรื่องในบ้านคงได้รับการแก้ไขไปพอสมควร
เมื่อถึงตอนนั้น เขาจะได้มุ่งตรงไปที่การจัดการราชินีของสำนักหลงเหมิน เพราะราชินีของสำนักหลงเหมินต้องการฆ่าเขามาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
หลี่โม่ไม่ใช่คนที่อดทน ให้ตัวเองโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียว เพราะฉะนั้นการเอาคืนของเขา กำลังจะเริ่มขึ้น
อีกทั้งการตายของพ่อ เขาต้องเรียกร้องหาความยุติธรรมจากราชินีของสำนักหลงเหมินให้ได้!
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน หลี่โม่หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาฟางฉี
เสียงสัญญาณดังขึ้นสองครั้ง จึงมีคนรับสาย น้ำเสียงเป็นมิตรที่แฝงไปด้วยความสอพลอดังออกมา
“หลานหลี่ มีอะไรหรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงมีเวลาโทรหาผมได้” ฟางฉียิ้มและเอ่ยขึ้น
“คุณท่านฟาง ครั้งนี้ผมมีเรื่องสำคัญถึงโทรหาคุณ” น้ำเสียงของหลี่โม่ราบเรียบ
ราวกับฟางฉีฟังออกว่าหลี่โม่มีอะไรผิดปกติ เขาจึงรีบจริงจังขึ้นมาทันที
“หลานหลี่ คุณมีอะไรบอกมาได้เลย ถ้าตระกูลฟางช่วยได้ จะช่วยอย่างเต็มที่!” น้ำเสียงของคุณท่านฟางจริงจังมาก
ลูกสาวของเขามีชื่อเสียงเพราะหลี่โม่มาไม่น้อย ตระกูลฟางก็พลอยมีชื่อเสียงไปด้วย รายรับช่วงนี้ก็เพิ่มสูงขึ้นมาก
นี่ทำให้คุณท่านฟางแน่ใจ ขอแค่หลี่โม่ยอมรับ ตระกูลฟางของเขาสามารถอยู่ในจุดที่สูงขึ้นไปอีก
“บ้านผมจะจัดงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ คุณท่านฟางน่าจะรู้เรื่องนี้ใช่ไหม” หลี่โม่ถามอย่างหนักแน่น
“รู้ครับ เมื่อถึงตอนนั้นตระกูลฟางจะไม่ทำให้หลานหลี่ผิดหวัง ผมเตรียมของขวัญไว้เรียบร้อยแล้ว”
ฟางฉีได้ยิน จึงหัวเราะและเอ่ยขึ้น
“ขอบใจคุณท่านฟางมาก แต่สิ่งที่ผมจะพูดคือเรื่องอื่น” หลี่โม่สูดหายใจลึก
ถ้าเล่าเรื่องของตัวเอง ให้ฟางฉีฟังตอนนี้ ฟางฉีอาจจะไม่ช่วยเขา แต่ถ้าฟางฉีไม่ช่วยเขา คงไม่ต้องเดาถึงจุดจบของตระกูลฟาง
ขอแค่หลี่โม่ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ตระกูลฟางต้องถึงแก่หายนะแน่นอน!
“คุณพูดมาเลย” ฟางฉีได้ยินถึงอะไรที่ผิดปกติ เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับตัวเขาและชีวิตของเขาด้วย
“คุณท่านฟางอาจจะไม่รู้ถึงสถานการณ์ของผมในตอนนี้ ผมจะเล่าให้ฟังคร่าวๆ”
หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา “ผมพูดได้ว่าตอนนี้ถูกศัตรูล้อมทั้งสี่ด้าน ต้องเกิดเรื่องวุ่นวายที่งานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ของผมอย่างแน่นอน”
“และเรื่องวุ่นวายนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ด้วย ดังนั้นผมจึงอยากได้ความช่วยเหลือจากคุณท่านฟาง”
“แต่ถ้าคุณช่วยผม มันเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ถ้าอีกฝ่ายเคียดแค้นตระกูลฟางขึ้นมา ตระกูลของคุณอาจย่อยยับได้”
“แต่ถ้าผมผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปได้ ตระกูลฟางของคุณจะยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน”
“ดังนั้น ผมอยากได้คำตอบที่ชัดเจน จากคุณท่านฟาง”
คนปลายสายเงียบไป ฟางฉีก้มหน้าครุ่นคิด แววตาของฟางฉีฉายแววหลักแหลม
ถ้าอยากได้ผลประโยชน์ ล้วนมีความเสี่ยง แต่เรื่องที่หลี่โม่พูดมา ความเสี่ยงมันสูงมาก
อีกทั้งฟังจากน้ำเสียงของหลี่โม่ ความย่อยยับก็แค่เรื่องเล็ก ตัวเขาเองอาจจะโดนขู่เรื่องความปลอดภัยในชีวิต
หลี่โม่ไม่ได้เร่งเร้าคุณท่านฟาง เขารอคำตอบจากคุณท่านฟางอย่างใจเย็น
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที มีคำตอบแน่วแน่ดังออกมาจากปลายสาย
“หลานหลี่ พูดมาตรงๆ ว่าจะให้ตระกูลฟางทำอะไร ขอแค่ตระกูลฟางช่วยได้ เราไม่มีทางบ่ายเบี่ยงอย่างแน่นอน!”
หลี่โม่ได้ยินก็ยิ้มออกมา เขามองคนไม่ผิด ฟางฉีเป็นคนที่เขาไว้วางใจได้
“ไม่มีอะไรมากหรอก คุณแค่ใช้เส้นสายของตระกูลฟาง และความสามารถของตระกูลคุณด้วย”
“เมื่อถึงวันงาน ถ้ามีคนที่น่าสงสัย ให้ค้นตัวสักหน่อย”
“ส่วนเรื่องอื่น ผมจะจัดให้คนอื่นจัดการเอง”
ฟางฉีได้ยินก็อึ้งไป ตอนแรกเขาคิดว่าหลี่โม่จะยืมเงินจากตระกูลฟาง
แต่หลี่โม่กลับพูดว่าจะยืมคนของเขา นี่มันช่างแตกต่างจากที่เขาจินตนาการเอาไว้
อีกทั้งการใช้คน อีกฝ่ายแทบจะไม่เสียหายอะไรเลย อย่างมากก็ติดค้างน้ำใจเท่านั้น
แต่ตระกูลอย่างตระกูลฟาง ติดค้างน้ำใจเล็กน้อย ไม่ได้ส่งผลกับพวกเขาเท่าไร
“ไม่มีปัญหาครับ” ฟางฉียิ้มและเอ่ยขึ้น
ขอแค่ไม่ยืมเงินจนทำให้ตระกูลฟางเกิดปัญหา เรื่องอื่นฟางฉีสามารถรับปากอย่างไม่ลังเล
อันที่จริงเงินก็ได้ แต่ต้องคืนเขาตามกติกา ไม่งั้นตระกูลฟางไม่รอให้คนอื่นลงมือหรอก พวกเขานี่แหละจะลงมือเอง
“งั้นรบกวนคุณท่านฟางด้วย” หลี่โม่ยิ้มและเอ่ยขึ้น
ทั้งสองคุยกันจบ จากนั้นจึงคุยเล่นกันนิดหน่อย และวางสาย หลี่โม่เขียนคำว่าตระกูลฟางลงบนกระดาน รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้าของเขา
เขาเริ่มคิดเรื่องอื่น จนถึงเวลาทานข้าวเที่ยว หลี่โม่จึงลงไปข้างล่าง
“นายเตรียมเรื่องงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ เสร็จเรียบร้อยหรือยัง” หลี่โม่เพิ่งลงมาข้างล่าง หวังฟางมองเขาและเอ่ยถาม
ปกติช่วงเช้าหวังฟางกับกู้เจี้ยนหมิน จะไม่อยู่ที่คฤหาสน์ สีหน้าของหวังฟางดูสดชื่น ช่วงนี้เธอคงไปอวดกับคนอื่นไว้ไม่น้อย