จักรพรรดิมังกร - บทที่ 621 ใช้นามสกุลเดียวกับนาย
เมื่อเห็นว่าด้านหลังของหวังซวนมีบอดี้การ์ดอยู่กลุ่มหนึ่ง ผู้คนรอบด้านต่างก็ถอยหลัง
แต่ว่าการมุงดูเรื่องชาวบ้านเป็นนิสัยของพวกผู้คนอยู่แล้ว หลังจากที่ถอยไปยังระยะที่ปลอดภัยแล้ว ผู้คนต่างก็หยุดฝีเท้า และเริ่มทำหน้าที่เป็นผู้คนที่ดูเรื่องสนุก
“พาบอดี้การ์ดออกจากบ้านมาด้วยมากขนาดนี้ ดูก็รู้ว่าเป็นคุณชายตระกูลเศรษฐี ฉันว่าชายหนุ่มที่ถูกล้อมไว้คนนั้นซวยแน่ๆ”
“ฉันว่าคุณชายเศรษฐีคนนี้ คงจะอยากได้ผู้หญิงนั้นมั้ง ได้เมียสวยก็ไม่ดีนะ เพราะจะมีคนมากมายอยากจะครอบครอง”
“เหอะๆ ไม่มีอำนาจก็อย่ามีเมียสวย ไม่อย่างนั้นก็ต้องเตรียมใจที่จะต้องถูกสวมเขาไว้ ฉันดูพวกนี้ออกตั้งนานแล้ว ฉะนั้นจึงจงใจแต่งเมียที่ขี้เหร่มา”
ในขณะที่ผู้คนต่างก็ซุบซิบนินทา หวังซวนกระตุกขาอย่างได้ใจ ใช้หางตาเหลือบมองหลี่โม่และกู้หยุนหลัน
“ไอ้หนู เห็นความรวยของฉันรึยัง? ส่งสาวสวยด้านหลังของนายมาซะดีๆ เพียงแค่ให้ฉันเล่นจนพอใจแล้ว ไม่แน่อาจจะให้เด็กน้อยกับนายไปเลี้ยงสักคน”
คำพูดที่อวดเก่งของหวังซวน ทำให้พวกบอดี้การ์ดหัวเราะออกมา บอดี้การ์ดพวกนี้ต่างก็ใช้สายตาที่ไม่หวังดีมองกู้หยุนหลัน
ที่ผ่านมาเวลาที่หวังซวนเล่นกับสาวสวยก็ไม่เคยปิดบังมาก่อน แต่กลับชอบแบ่งปันกับพวกลูกน้อง ดังนั้นเพียงแค่หวังซวนได้กู้หยุนหลันไปอยู่ในมือ บอดี้การ์ดพวกนั้นก็จะได้ผลประโยชน์ด้วย
“สาวสวย คุณชายซวนของพวกเราสุดยอดมากนะ ลีลานั้นถือว่าเด็ดมากในกลุ่มผู้ชายเลย รับรองว่าเธอได้ลองแล้วลืมไม่ลงแน่ เธออย่าได้อยู่กับไอ้ขยะนั้นเลย รีบมาอยู่ในอ้อมกอดคุณชายซวนของพวกเราดีกว่า”
กู้หยุนหลันโมโหมาก พูดอย่างเย็นชาว่า “พวกแกฝันไปเถอะ แนะนำให้พวกแกรีบหนีไปซะ ไม่อย่างนั้นถ้าสามีของฉันโมโหขึ้นมา กลัวว่าพวกแกจะโดนหาเรื่องเข้าตัวนะ”
“โอ๊ะ สาวสวย เธอยังคาดหวังในตัวผัวขยะของเธอขนาดนี้เลยหรอ ผัวขยะของเธออยากจะให้พวกฉันรับผล กลัวว่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดขึ้นไม่ได้ด้วยซ้ำนะสิ”
บอดี้การ์ดคนหนึ่งมองหลี่โม่อย่างท้าทาย สองมือกุมเข้าหากันเพื่อนวดข้อนิ้ว ข้อนิ้วมีเสียงดังเกิดขึ้นต่อเนื่องอย่างกับประทัด
“เหอะๆ ขยะอย่างแกเข้ามาให้ฉันจัดการกับแกดีๆสักที ให้เมียของแกได้รู้ถึงความขยะของแกดีๆสักหน่อย”
หลี่โม่ยืนอย่างนิ่งเงียบ ไม่ได้สนใจบอดี้การ์ดที่ท้าทายคนนั้น แต่กลับจ้องมองหวังซวนด้วยสายตาน่ากลัว
“ให้โอกาสที่จะมีชีวิตรอดกับแก เข้ามาคุกเข่าขอโทษพวกฉันในตอนนี้ซะ ไม่อย่างนั้น ฉันจะให้แกคลานออกไป”
หวังซวนเหมือนกับว่าได้ยินเรื่องตลกอย่างที่สุด กุมท้องหัวเราะจนตัวงอ
“ฮ่าๆๆ แม่งเอ้ย ฉันได้ยินอะไรเนี่ย? ไอ้ขยะนี่จะให้คุณชายไปคุกเข่าให้มัน แกคิดว่าแกมันเป็นตัวอะไรกัน?! ไปจัดการมันให้หมด จัดการไอ้ขยะนี่ให้หนักๆ เดี๋ยวฉันจะให้ไอ้ขยะนี่เลียรองเท้าของฉัน!”
พวกบอดี้การ์ดพุ่งออกไปด้วยเสียงหัวเราะ เหวี่ยงหมัดเข้าใส่หลี่โม่พร้อมกัน
ในสายตาของพวกบอดี้การ์ด จัดการกับหลี่โม่ยังไม่จำเป็นต้องใช้แรงเท่าเป่าฝุ่น จะต้องเป็นเวลาที่ดีในการได้อวดโชว์แน่นอน
หลี่โม่ถอนหายใจเบาๆ พูดนิ่งๆว่า “ในเมื่อพวกนายอยากตาย งั้นก็สนองให้ก็แล้วกัน”
เมื่อตอนที่หลี่โม่พูดจบ ร่างกายของเขาก็พุ่งเข้าไปอยู่ใจกลางวงบอดี้การ์ดพวกนั้นแล้ว
หลังจากที่ออกแรงไปสักพัก บอดี้การ์ดพวกนั้นก็ล้วนกระเด็นออกไป ป้าบๆ ตกลงพื้นเหมือนกับการใส่เกี๊ยวในหม้อ
“โอ๊ย หัวของฉัน ฉันรู้สึกเหมือนกระทบสมองเลย มองอะไรก็ภาพซ้อนเบลอไปหมด”
“เหมือนว่าหน้าออกของฉันจะกระดูกหักเลย รีบเรียกรถพยาบาลเร็ว ช่วยด้วย”
“เอวของฉันหักแล้ว หักแล้ว! ส่วนล่างของร่างกายฉันไม่มีความรู้สึกแล้ว!”
พวกบอดี้การ์ดร้องโอดครวญอย่างอนาถ หวังซวนและผู้คนที่มองดูต่างก็ตกตะลึง ไม่คิดเลยว่าหลี่โม่จะดุร้ายแบบนี้
“เหี้ย เมื่อกี้ฉันตาฝาดไปแล้ว? ที่เห็นอยู่นี่มันอะไรกัน? เป็นพวกบอดี้การ์ดถูกทำร้ายล้มลงได้ยังไงเนี่ย”
“ไอ้หนุ่มนี่ไม่ใช่คนธรรมดานี่นา มีความเป็นนักสู้ที่เก่งมากขนาดนี้ จะต้องเป็นผู้ชายที่เก่งมาก และสุดยอดมากแน่ๆเลย!”
“คุณชายเศรษฐีที่น่ารังเกียจคนนี้ถูกถีบทีเดียวกระเด็นไปที่แผ่นเหล็ก สะใจจริงๆเลย ไอ้หนุ่มนี่จะต้องเป็นฮีโร่อย่างแน่นอน!”
เดิมทีพวกผู้คนที่มุงดูต่างก็เป็นผู้ถูกกระทำ ดังนั้นจึงมีความเป็นศัตรูต่อคุณชายร้ายกาจอย่างหวังซวนเป็นอย่างมาก
ในตอนนี้ที่เห็นว่าบอดี้การ์ดของหวังซวนต่างก็ถูกทำร้ายจนล้มลง ผู้คนต่างก็เริ่มย้ายฝากสนับสนุนหลี่โม่
หวังซวนขนลุกไปหมดทั้งตัว เหงื่อออกมาไม่หยุดเหมือนกับน้ำ ในใจมีความรู้สึกเหมือนกับว่าซวยเข้าแล้ว
แม่งเอ้ยทำไมถึงเป็นแบบนี้ บอดี้การ์ดพวกนี้ล้วนเป็นตัวเด่นที่เลือกมาอย่างดีเลยนะ!
ที่ผ่านมาตอนที่พวกเขาช่วยหวังซวนแย่งผู้หญิงก็ไม่เคยมีปัญหาเลยนะ!
“แก แกอย่าเข้ามานะ ฉัน ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
หวังซวนไม่ทันจะเช็ดเหงื่อด้วยซ้ำ หันหลังแล้วก็อยากจะเดินออกไปด้านนอก
“ฉันให้นายไปแล้วหรอ? นายคิดว่านายสามารถไปอย่างไม่ต้องรับผิดชอบได้งั้นหรอ?
หลี่โม่ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ในใจหวังซวนขมซะยิ่งกว่าอึ่งน้อยซะอีก หยุดฝีเท้าด้วยรอยยิ้มขมขื่น :
“งั้นแกจะเอายังไง? ฉันเป็นถึงคนของตระกูลหวังแห่งเมืองหลวงเชียวนะ! ถ้าหากว่าแกหาเรื่องฉัน ก็ถือเป็นการหาเรื่องตระกูลหวัง! แกจะต้องตายโดยไร้หลุมศพ!”
“จนถึงตอนนี้แล้ว นายคิดว่านายยังสามารถขู่ได้หรอ? นายเชื่อมั้ยว่าฉันสามารถไปรื้อถอนตระกูลหวังของพวกนายที่เมืองหลวงได้”
หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้ม
หวังซวนตัวสั่นไปทีหนึ่งและเชื่อคำพูดของหลี่โม่จริงๆ แต่จนตอนนี้หวังซวนก็ไม่มีความคิดที่จะขอโทษ
อย่างที่ว่าล้มได้แต่ไม่เสียศักดิ์ศรี หวังซวนไม่เคยคิดว่าจะคุกเข่าขอโทษให้กับใคร
“แกมีปัญญาก็ไปรื้อสิ ถ้านายรื้อตระกูลหวังได้จริงๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันใช้นามสกุลเดียวกับแกเลย!”
“เหอะๆ ใช้นามสกุลเดียวกับฉัน? นายเหมาะสมงั้นหรอ ดูแล้วนายยังไม่ได้รับการสั่งสอนเลยนี่!”
ร่างกายหลี่โม่เหมือนดั่งผี เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวก็ไปอยู่ตรงหน้าของหวังซวน ฟาดฝ่ามือตบไปยังใบหน้าของหวังซวน
เพี๊ยะ!
หลังจากที่มีเสียงดังหนึ่งที หวังซวนถูกตบจนตัวหมุนอยู่กับที่ รู้สึกเหมือนกับว่าวิญญาณถูกตบจนเกือบหลุดลอยออกจากร่างแล้ว
“อ๊า!”
หวังซวนกรีดร้องแล้วเอามือกุมใบหน้าไว้อย่างแน่น
รู้สึกว่าใบหน้ามีความร้อนแผ่ออกมาอย่างเจ็บปวด ถึงขั้นรู้สึกว่าสองหูมีเสียงสะท้อนดังอยู่ เหมือนว่าสมองยังสั่นไหวอยู่ในหัว หลังจากที่หวังซวนโซเซแล้วสักพักก็ล้มลงไปกับพื้น
หวังซวนที่ทำร้ายคนมาไม่น้อย และก็ถูกทำร้ายมาไม่น้อยเช่นกัน แต่รู้สึกว่าการถูกตีจนเหมือนวิญญาณจะหลุดออกจากร่างนั้นมีเป็นครั้งแรก
“แก แกมันร้าย มีปัญญาก็ตีฉันจนตายสิ เพียงแค่นายตีฉันไม่ตาย เรื่องนี้ก็ไม่ถือว่าจบ!”
หวังซวนรักษาศักดิ์ศรีที่เหลืออยู่ไว้เพียงน้อยนิดอย่างดื้อรั้น
“เหอะๆ”
หลี่โม่หัวเราะเยาะ ยกขาขวาถีบเข้าไปที่เอวของหวังซวนอย่างหนัก
ร่างกายของหวังซวนถูกกำลังมหาศาลโจมตี และลื่นออกไปจากพื้นที่เรียบลื่น จนสุดท้ายชนเข้ากับกำแพงถึงจะหยุดลง
แรงโจมตีมหาศาลนี้ ทำเอาหวังซวนสลบไป
หลี่โม่ไม่มองหวังซวนสักนิดด้วยซ้ำ แล้วดึงกู้หยุนหลันเดินออกจากห้างไป
ผู้คนที่มุงดูต่างก็ปรบมือชื่นชมเพื่อส่งหลี่โม่จากไป