จักรพรรดิมังกร - บทที่ 631 หลับให้สบายเถอะ
“อ๊า!”
ท่านทะไลลามะโตหลุนส่งเสียงกรีดร้องครวญคราง มองดูไหล่ของตัวเองถูกหลี่โม่ฟาดจนหลุดต่ำลงไป
เนื่องจากไหล่ขวาได้รับบาดเจ็บหนัก แขนขวาทั้งแขนของท่านทะไลลามะโตหลุนจึงเสียการออกแรงไป วงล้อทองที่อยู่ในมือตกลงกับพื้นเสียงดัง
ท่านทะไลลามะโตหลุนที่เจ็บจบหายใจติดขัดกลัวแล้ว จึงพูดด้วยน้ำตาว่า “อย่าลงมือ มีอะไรก็คุยกันดีๆ ทุกอย่างเป็นสิ่งที่เสือผีวางแผนขึ้น ฉันเพียงแค่ผู้ช่วยเท่านั้นเอง!”
ในใจของท่านทะไลลามะโตหลุนโกรธเกลียดเสือผีอย่างที่สุดแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้เสือผีจะทำเรื่อง ท่านทะไลลามะโตหลุนไม่คิดว่าตัวเองจะตกมาอยู่ในจุดที่อันตรายแบบนี้
ตอนนี้ถูกหลี่โม่กำจัดแขนหนึ่งทิ้ง ท่านทะไลลามะโตหลุนไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะหนีแล้ว
ฟางรั่วเสว่กัดฟันแน่น ร่างกายกำลังสั่นไหวเล็กน้อย มองหลี่โม่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกลียด
เพียงแต่ความกลัวทำให้ขาของเธอหนักอึ้งก้าวไม่ออก ตอนนี้ไม่มีความสามารถที่จะก้าวขาด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าหรือถอยหนี ในตอนนี้ฟางรั่วเสว่ทำไม่ได้สักอย่าง
หลี่โม่เหล่ตามองดูฟางรั่วเสว่ จากนั้นก็ถามท่านทะไลลามะโตหลุนว่า “ฟางรั่วเสว่เป็นอะไรไป? ทำไมเธอถึงกลายเป็นแบบนี้?”
“เสือผี เสือผีใช้วิชาลับล้างสมองของเธอ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปฟางรั่วเสว่จะมีแต่ความเกลียดให้กับนายเท่านั้น จะมองนายเป็นศัตรูที่ทำลายครอบครัวของเธอ!”
ท่านทะไลลามะโตหลุนไม่กล้าปิดบังอะไรสักนิด บอกทุกอย่างที่รู้ออกมาจนหมด
เมื่อหลี่โม่ได้ฟังแล้วก็ขมวดคิ้ว คิดวิเคราะห์ว่าจะทำยังไงถึงจะสามารถช่วยฟางรั่วเสว่ได้
แต่ไม่รู้ว่าเสือผีใช้วิธีไหน หลี่โม่เองก็คิดว่าวิธีรับมือไม่ออก แล้วเสือผีเองก็ถูกตีจนตายแล้ว ยิ่งไม่สามารถถามอะไรจากปากของเขาได้
“การกระทำวิชาลับของเสือผีทำยังไง? หรือว่าเขาได้พูดมั้ยว่าใช้วิชาลับอะไร?”
หลี่โม่ถามด้วยสีหน้าร้ายกาจ
ท่านทะไลลามะโตหลุนส่ายหัวอย่างแรง “ฉันเห็นเพียงว่าเสือผีทิ่มแทงเข็มเงินบนหัวของเธอไม่น้อย อย่างอื่นฉันก็ไม่รู้แล้ว แต่ว่าเข็มเงินถูกเสือผีเอาออกมาตั้งนานแล้ว ถ้านายอยากใช้วิธีเอาเข็มเงินออกมาเพื่อให้เธอกลับมาปกตินั้นเป็นไปไม่ได้แล้ว”
ในใจของหลี่โม่ผิดหวังอย่างมาก ทีนี้การที่อยากจะช่วยฟางรั่วเสว่ก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก
ในขณะที่หลี่โม่กำลังคิดว่าจะทำยังไง ฟางรั่วเสว่ก็วิ่งออกนอกคฤหาสน์อย่างกับบ้าไปแล้ว
“รั่วเสว่ เธอกลับมานี่!” หลี่โม่ตะโกน
เนื่องจากยังต้องคอยดูท่านทะไลลามะโตหลุนไว้ ดังนั้นหลี่โม่จึงไม่ได้วิ่งตามออกไป
แต่ว่าฟางรั่วเสว่เหมือนกับว่าไม่ได้ยินเสียงตะโกนของหลี่โม่ แล้ววิ่งออกนอกคฤหาสน์อย่างไว จากนั้นร่างก็หายไปที่ถนนลงเขา
หลี่โม่ขมวดคิ้ว แล้วจับคอของท่านทะไลลามะโตหลุนไว้ “ดีที่สุดก็อยู่ให้เฉย ถ้าหากว่ากล้าทำอะไร ก็อย่าได้โทษฉันที่บีบคอแกตาย”
“ไม่กล้าครับไม่กล้า ไม่กล้าทำอะไรแน่นอนครับ”
ท่านทะไลลามะโตหลุนพูดอย่างตื่นกลัว
หลี่โม่ลากท่านทะไลลามะโตหลุนวิ่งออกไป อยากจะตามฟางรั่วเสว่กลับมา
แต่เมื่อหลี่โม่ออกไปถึงถนนขึ้นเขา ก็ไม่มีแม้แต่เงาของฟางรั่วเสว่แล้ว
“ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ จากสมรรถภาพร่างกายของเธอ ไม่น่าจะวิ่งได้เร็วขนาดนี้ และถึงแม้เธอจะวิ่งเร็ว ก็ไม่น่าจะเร็วจนไม่เหลือแม้แต่เงาสิ”
หลี่โม่มองไปรอบด้านอย่างสงสัย แต่ว่าในป่ารอบด้านก็ไม่มีเงาของฟางรั่วเสว่ เหมือนกับว่าฟางรั่วเสว่หายไปในอีกโลกหนึ่ง
ท่านทะไลลามะโตหลุนตื่นตระหนกไปแล้ว พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามีอะไรไม่ปกตินะ คุณหลี่ครับ ขอร้องคุณปล่อยผมไปได้มั้ยครับ เพียงแค่คุณปล่อยผมไป ผมจะรีบกลับไปแล้วไม่ลงจากเขาอีกแม้แต่ก้าวเดียว ต่อไปจะคอยภาวนาให้กับคุณทุกวันทุกคืนเลยครับ ครั้งนี้ผมรู้ถึงความผิดของตัวเองแล้วครับ ในฐานะของคนละทิ้งความโลภ ผมไม่ควรมีความโลภ ความโกรธ เป็นความผิดมหันต์มากครับ ผมจะกลับไปสารภาพบาปเองครับ”
หลี่โม่มองดูท่านทะไลลามะโตหลุน พูดว่า “ดูแล้วแขนนายหลุดแค่ข้างเดียวไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ไม่ก็ทำแขนอีกข้างของนายหลุดด้วยเลยละกัน ถ้าเท่ากันแล้วนายก็กลับไปได้แล้ว ถือซะว่าเป็นการสั่งสอนเล็กๆน้อยๆสำหรับนาย”
ท่านทะไลลามะโตหลุนมองหลี่โม่ด้วยสีหน้าขมขื่น อยากจะเถียงสักหน่อย แต่สุดท้ายก็ทนไว้ คิดว่าถ้าหากเถียงกับหลี่โม่คงจะไม่มีแม้แต่ชีวิตกลับไป
“ครับ! เชิญคุณหลี่ให้การสั่งสอนกับผมเลยครับ”
ท่านทะไลลามะโตหลุนพูดจบแล้วก็ปิดตาลง รอหลี่โม่ฟาดแขนข้างซ้ายของตัวเองหลุด
หลี่โม่มองดูท่านทะไลลามะโตหลุน แต่กลับไม่ได้ลงมือกับเขา แต่กลับหันหลังเดินกลับเข้าคฤหาสน์
ท่านทะไลลามะโตหลุนหลับตาลงรอหลายวินาที ก็ไม่ได้รับการโจมตีจากหลี่โม่ อดที่จะสงสัยไม่ได้จึงเปิดตามองดู
หันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นเงาของหลี่โม่ ท่านทะไลลามะโตหลุนถึงกับสับสนขึ้นมาในทันที
“นี่มันอะไรกัน? ทำไมคืนนี้มันแปลกประหลาดแบบนี้? ช่างเถอะ หนีก่อนละกัน ไม่อย่างนั้นรู้สึกไม่สบายใจเลย แม้แต่การคำนวณก็ไม่เป็นผล นี่มันไม่ใช่ที่ๆคนจะอยู่”
ท่านทะไลลามะโตหลุนพูดพึมพำ แล้วรีบลงไปใต้ตีนเขา
หลังจากที่ท่านทะไลลามะโตหลุนจากไปไม่นาน เงาหนึ่งก็ออกมาจากในป่าจากที่ไม่ไกลนัก ในมือของเงาดำคนนั้นยังจับคนๆหนึ่งไว้ด้วย นั่นก็คือฟางรั่วเสว่ที่สลบไปแล้ว
เงาดำนั้นยกฟางรั่วเสว่ขึ้นไปยังถนนขึ้นเขา แล้ววิ่งลงตามไปยังที่ใต้ตีนเขา
หลี่โม่ยืนอยู่บนระเบียงของคฤหาสน์ มองดูเงาดำคนนั้นพาเอาฟางรั่วเสว่หายไปอย่างเงียบๆ
ที่ปล่อยท่านทะไลลามะโตหลุนไป ก็เพราะหลี่โม่จะใช้ท่านทะไลลามะโตหลุนเป็นเหยื่อล่อ เพราะยังไงซะการหายตัวไปของฟางรั่วเสว่นั้นแปลกประหลาดมากเกินไป
แต่ว่าตอนนี้ที่หลี่โม่มองดูเงาดำนั้นพาฟางรั่วเสว่จากไป หลี่โม่ถึงได้รู้ว่าเมื่อกี้ตัวเองน่าจะคาดการณ์ผิดไปแล้ว
ไม่ใช่เพราะว่ามีคนฆ่าฟางรั่วเสว่ ดูแล้วเงาดำนั้นไม่ได้ทำอะไรกับฟางรั่วเสว่
แต่ว่าเงาดำนั้นเป็นใครกันแน่? มีความสัมพันธ์อะไรกับฟางรั่วเสว่? ถ้าจะบอกว่าเงาดำคนนั้นมาเพื่อปกป้องฟางรั่วเสว่ แล้วทำไมเขาถึงไม่ปรากฏตัวในตอนที่ตระกูลฟางถูกฆ่า?
ในใจหลี่โม่มีคำถามผุดขึ้นมามากมาย
แต่ว่าไม่นานหลี่โม่ก็เก็บความสงสัยกลับเข้าไปในใจ หลังจากที่จัดการกับรอยเลือดในบ้านแล้ว ก็ยกเงาซากศพของเสือผีออกจากคฤหาสน์
เอาศพของเสือผียัดเข้าไปในรถ หลี่โม่ขับรถตรงไปที่บ้านตระกูลฟาง
ในเมื่อช่วยคนในบ้านตระกูลฟางแก้แค้นแล้ว ก็จะต้องใช้ศพของเสือผีไปไว้อาลัยให้กับพวกเขาอยู่แล้ว
คฤหาสน์บ้านตระกูลฟางถูกติดเส้นกั้นห้ามเข้าไว้แล้ว ยังไงซะที่นี่ก็เกิดการฆาตกรรมที่โหดร้ายขึ้น
แต่ว่าเส้นกั้นพวกนี้ขวางหลี่โม่ไว้ไม่ได้ หลี่โม่หาหน้าต่างปีนเข้าไป แล้วเอาศพของเสือผีวางไว้ที่ห้องโถงของคฤหาสน์ตระกูลฟาง
“ฟางฉี ฉันไม่คิดว่าเรื่องนี้จะทำให้ตระกูลฟางของพวกนายเดือดร้อนไปด้วย แต่ว่าฉันฆ่าเสือผีแก้แค้นให้พวกนายแล้ว วิญญาณพวกนายบนฟ้าก็สบายใจได้แล้ว ส่วนฟางรั่วเสว่ ฉันจะหาวิธีหาเธอให้เจอ ให้ชีวิตที่ดีกับเธอ พวกนายไปสบายเถอะนะ ไม่ว่าพวกนายจะไปโลกใบใหม่ หรือว่าเกิดใหม่ ก็สามารถไปอย่างสบายใจได้แล้วนะ”
หลังจากที่หลี่โม่พูดจบ ในห้องโถงก็มีลมพัดมา สายลมพัดอยู่สักพักแล้วก็หยุดลง ส่วนศพของเสือผีที่อยู่บนพื้นจู่ๆก็เริ่มเน่าเสีย และละลายเป็นเลือด