จักรพรรดิมังกร - บทที่ 636 ความสามารถมากมาย
จูเจียนเฉียงที่นั่งพิงโซฟาเหม่อลอยอย่างหดหู่ ไม่มีความอวดเก่งเหมือนที่เจอในตอนแรกแล้ว สีหน้าอารมณ์บนใบหน้าเปลี่ยนไปไม่หยุด สุดท้ายก็หยุดลงที่ความอ่อนแอ
จูเจียนเฉียงที่เหมือนว่าไตบกพร่องมานานหลายปี จับกุมเอวไว้แล้วลุกนั่ง สีหน้ายิ่งอยู่ยิ่งเต็มไปด้วยความเข้มแข็ง
มองหลี่โม่แล้วยิ้มเยาะออกมา จูเจียนเฉียงพยายามเชิดหน้าขึ้น แกล้งทำเป็นแข็งแกร่งแล้วพูดว่า “ไอ้คนที่พยายามเถียงข้างๆคูๆ ฉันจะพิสูจน์ถึงความยิ่งใหญ่ของซูเปอร์ไซเคิลเอง! การประชุมประจำปีของเศรษฐกิจในปีนี้ ฉันจะทำการรายงานชี้แจง ถึงตอนนั้นฉันจะส่งบัตรเชิญไปให้นายแน่นอน หวังให้นายมาฟังรายงานของฉันที่งาน ให้นายได้เห็นนักเศรษฐศาสตร์มากมายเคารพเชิดชูฉัน”
“เหอะ งานฉันค่อนข้างยุ่ง ปกติต้องอยู่กับกู้หยุนหลัน ดังนั้นคงจะไม่มีเวลาไปฟังรายงานไร้สาระของนาย นายพูดย้ำคำพูดไร้สาระของนายไปคนเดียวเถอะ”
หลี่โม่พูดอย่างตรงไปตรงมา
ในที่สุดผมที่จูเจียนเฉียงเซตมาอย่างพิถีพิถันก็ยุ่งเหยิง ยุ่งเหยิงเหมือนกับในใจของจูเจียนเฉียงในตอนนี้
จูเจียนเฉียงที่โมโหจนตาแดงพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “คุณกู้ คนบ้าแบบนี้ไม่เหมาะสมกับคุณอย่างมาก นี่เป็นความจริง ผมไม่อยากเห็นอนาคตคุณต้องเศร้าเสียใจ แบบนั้นผมคงจะปวดใจ! ดีที่สุดคุณรีบหย่าร้างกับคนบ้าแบบนี้ดีกว่า ไม่อย่างนั้นปากของเขาจะหาเรื่องเดือดร้อนมากมายมาให้คุณไม่หยุด คุณจะต้องรู้ว่าอะไรคือปากหมาที่หาเรื่องใส่ตัว!”
กู้หยุนหลันดูถูกการยุให้แตกหักกันของจูเจียนเฉียง “พวกเราเป็นคนที่ผ่านความตายมาด้วยกัน ถึงแม้หลี่โม่จะหาเรื่องเดือดร้อนมา ฉันก็จะเผชิญหน้าไปกับเขา เรื่องของเราไม่รบกวนให้ด็อกเตอร์จูมากังวลหรอกค่ะ คุณรีบดื่มกาแฟไปเถอะ อีกอย่าง ฉันจะบอกกับคุณอย่างเป็นทางการว่าคุณไม่ผ่านการสัมภาษณ์งานของฉัน”
จูเจียนเฉียงโมโหจนกุมหัวใจไว้ รู้สึกแย่ไปหมดทั้งตัว
ฉันจูเจียนเฉียงคนนี้เป็นถึงด็อกเตอร์ของโรงเรียนธุรกิจวอร์ตัน! กล้าดียังไงถึงบอกว่าฉันไม่ผ่านการสัมภาษณ์งานของพวกเธอ นี่มันเป็นการทำให้อับอายอย่างมาก!
ผู้จัดการที่ยื่นอยู่ด้านข้างรู้ตัวดีมาก ดูออกว่าหลี่โม่และกู้หยุนหลันไม่พอใจจูเจียนเฉียง ดังนั้นจึงส่งสายตาให้กับหญิงสาวอวบอิ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังจูเจียนเฉียง
หญิงสาวอวบอิ่มรีบหายแวบไปอยู่ข้างกายของจูเจียนเฉียงอย่างกับผี แล้วยกกาแฟขึ้นเงียบๆ ยื่นไปที่ปากของจูเจียนเฉียง
จูเจียนเฉียงตกใจจนกลิ้งตกจากโซฟา ล้มนั่งลงกับพื้น พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “พวกนายกลั่นแกล้งกันเกินไปแล้ว ฉันจะทำให้พวกนายเสียใจแน่นอน รวมทั้งกวนเหลินกังของพวกนายด้วย ฉันจะให้พวกนายได้รู้ว่าผลลัพธ์ขอการมีเรื่องกับฉันนั้นน่ากลัวขนาดไหน!”
“ฉันกลัวจังเลย นายรีบทำให้พวกเรารู้ว่านายน่ากลัวขนาดไหนเถอะ”
หลี่โม่กินขนม แล้วพูดอย่างยิ้มแย้ม
“รอไว้เลย! พวกนายทุกคนรอฉันไว้เลย!”
จูเจียนเฉียงล้มลุกคลุกคลานวิ่งออกจากห้องไป
หลังจากที่ออกจากกวนเหลินกัง จูเจียนเฉียงนั่งล้วงโทรศัพท์ออกมาในรถ
เปิดดูสมุดรายชื่อ สีหน้าจูเจียนเฉียงมีความลังเลขึ้นมา
“จะติดต่อทอมป์สันดีมั้ยนะ อาจารย์บอกว่าตอนนี้เขาอยู่ที่เมืองฮ่าน ถ้าหากว่าขอร้องให้เขาช่วยเหลือ น่าจะสามารถต่อกรกับหลี่โม่มั้ง”
จูเจียนเฉียงไตร่ตรองอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจ โทรออกหาเบอร์ของทอมป์สัน
หลังจากที่รับสาย จูเจียนเฉียงพูดพึมพำอยู่นาน สุดท้ายใบหน้าของจูเจียนเฉียงก็ปรากฏรอยยิ้มโหดร้าย
“หลายวันนี้ฉันอยู่ที่เมืองฮ่าน พ่อของกู้หยุนกลันกับพ่อของฉันเป็นมิตรกัน ในงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ฉันจะหาวิธีให้พวกนายเข้าไป”
“นี่มันดีจริงๆเลย เพียงแค่นายสามารถช่วยพวกฉันให้เข้างานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ได้ พวกเราก็สามารถจัดการหลี่โม่ได้ ถึงตอนนั้นนายจะทำยังไงกับหลี่โม่ก็ได้!”
ทอมป์สันพูดอย่างดีใจเล็กน้อย
หลายวันมานี้ทอมป์สันและคนอื่นๆต่างก็ไม่กล้าทำตัวไม่สุภาพ คอยซุ่มอยู่ในมุมมืดเพื่อหาโอกาส หลังจากที่ต่อรองกันหลายครั้ง ทอมป์สันและคนอื่นๆใช้งานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่นี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุด
แต่ที่ทำให้ทอมป์สนและคนอื่นๆกังวลก็คือ ไม่มีวิธีเข้างานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่อย่างเงียบๆ เพราะว่าพวกเขาล้วนเป็นคนต่างชาติ หน้าตาสามารถดูออกได้ในทันทีว่าแตกต่าง อยากจะแอบเข้าในงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่จึงไม่ง่ายนัก
ตอนนี้มีคนภายในอย่างจูเจียนเฉียง แผนการของทอมป์สันและคนอื่นๆก็สามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นแล้ว
จูเจียนเฉียงพูดอย่างมีความสุขว่า “ให้ฉันจัดการเอง ถึงตอนนั้นฉันจะเหยียบย่ำมันให้หนัก แล้วยังจะเหยียบบนหน้าของมันเพื่อแก้แค้น!”
หลังจากที่พูดคุยไร้สาระอีกไม่กี่คำจูเจียนเฉียงก็วางสายไป
จากนั้นจูเจียนเฉียงก็ถุยน้ำลายทีหนึ่ง “ถุย! ฉันจะดูสิว่าขยะอย่างแกจะอวดเก่งได้ถึงเมื่อไหร่ จูเจียนเฉียงคนนี้ก็เป็นคนที่มีฐานะเบื้องหลัง! วันนี้เล่นเกมเป็นคนเท่าเทียมกันกับแก แกคิดว่าฉันรังแกง่ายจริงๆหรอ”
………
ในห้องอาหาร หลี่โม่และกู้หยุนหลันกินขนมดื่มน้ำผลไม้ แล้วพูดคุยเล่นกัน
ผู้จัดการเห็นอย่างนั้นก็ไม่เป็นก้างขวางคอแล้ว พาพวกพนักงานออกมาจนหมด ทันใดนั้นในห้องก็เหลือเพียงหลี่โม่และกู้หยุนหลันสองคน
“ทำไมนายถึงรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ นายพูดมาสินายยังเป็นอะไรอีก?”
กู้หยุนหลันมองหลี่โม่ดวงตาเป็นประกาย ในดวงตาแทบจะมีดวงดาวหลุดออกมาแล้ว ท่าทางอย่างนั้นเหมือนกับสาวน้อยเจอไอดอล
“ดูหนังสือมาเล่นๆสองเล่ม เล่มหนึ่งบังเอิญเป็นการพูดถึงเกี่ยวกับซูเปอร์ไซเคิลพอดี”
หลี่โม่พูดมั่วไปประโยคหนึ่ง
หลังจากที่คิดไปสักพัก หลี่โม่ก็พูดต่อว่า “เครื่องดนตรีฉันก็พอได้บางอย่าง ฮาร์โมนิก้าเป่าได้ดีที่สุด ส่วนวาดรูป ภาพนามธรรมก็พอวาดได้เล็กน้อย การขี่ม้าน่าจะถือว่าระดับดีที่สุดแล้วมั้ง ส่วนกอล์ฟก็ยิ่งง่ายไปอีก สกี ดำน้ำ เล่นเซิร์ฟ โดดร่ม บินพารามิเตอร์ พวกนี้ก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ นับแบบนี้แล้ว จู่ๆฉันก็รู้สึกว่าฉันเองก็ถือเป็นคนโดดเด่นที่มีความสามารถมากมายนะเนี่ย”
หลี่โม่ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่ธรรมดา คนทั่วไปจะเป็นมากมายขนาดนี้ได้ยังไง ตัวเขานั้นจบการฝึกฝนของคนชนชั้นสูงแล้ว
“นายเป็นเยอะขนาดนี้เลยหรอ ฉันอยากจะไปดำน้ำเล่นเซิร์ฟที่ทะเลมากเลย รอบริษัทเข้าสู่ทางการแล้ว พวกเราไปเที่ยวที่ทะเลดีมั้ย นายสอนฉันดำน้ำ เล่นเซิร์ฟ ว่ายน้ำ ได้ยินมาว่าในทะเลจะมีฉลาม นายจะต้องปกป้องฉันให้ดีนะ” กู้หยุนหลันพูดอย่างเต็มไปด้วยความโหยหา
“ไม่มีปัญหา สอนจนเป็นแน่นอน ถ้าฉลามกล้ามาปรากฏตัว ฉันจะหักฟันฉลามให้หมดเลย ไม่ให้ฉลามทำอันตรายต่อเธอแน่นอน”
หลี่โม่พูดอย่างมั่นใจมาก
“ฮิๆ ฉันไม่ให้นายตีฉลามหรอก ปลอดภัยและมีความสุขก็ดีที่สุดแล้ว จากผลงานที่ยอดเยี่ยมของนายเมื่อกี้ ดังนั้นฉันตัดสินใจจะให้รางวัลนาย นายรีบปิดตาลงสิ”
“ให้รางวัลอะไรฉัน ยังต้องหลับตาลงด้วย?” ปากของหลี่โม่พูดสงสัย แต่ว่าตานั้นปิดลงอย่างเร็วแล้ว
ใบหน้าของกู้หยุนหลันแดงเล็กน้อย บิดตัวสักพัก “ถ้าฉันยังไม่บอกให้เปิดตา นายห้ามเปิดตานะ”
“โอเค ฉันไม่เปิดตา ตอนที่เธอให้ฉันเปิดตา ฉันถึงจะเปิด”
หลี่โม่หลับตาปี๋อย่างแรง ทำท่าทางว่าหลับตาแน่นอย่างมาก
กู้หยุนหลันค่อยๆหลับตาลง ใบหน้าค่อยๆยื่นเข้าไปด้านหน้า สุดท้ายริมฝีปากแตะเข้ากับริมฝีปากของหลี่โม่