จักรพรรดิมังกร - บทที่ 638 กงซุนจุนมาเยี่ยม
“ผมรู้ว่าควรจะทำยังไงแล้วครับ ขอเชิญผู้สื่อสารที่เคารพบอกกับท่านราชาใหญ่ด้วยว่า อู๋เต้าเหวินคนนี้จะจดจำบุญคุณของท่านราชาใหญ่เป็นอย่างดีครับ”
อู๋เต้าเหวินพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ฮ่าๆๆ ดี ดีมาก ถ้าหากว่านายทำเรื่องนี้สำเร็จ นั่นก็จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ต่อไปก็จะมีความร่ำรวยที่นายใช้ไม่หมด”
ผู้สื่อสารทำการให้คำสัญญากับอู๋เต้าเหวิน จากนั้นก็ลุกขึ้นจากไป
มองดูแผ่นหลังของผู้สื่อสารที่จากไป สายตาของอู๋เต้าเหวินสั่นไหวเล็กน้อย
หลายปีมานี้ อู๋เตาเหวินแทบจะลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นลูกน้องของราชาใหญ่ แล้ววันนี้จะให้กลับไปเป็นหมากของราชาใหญ่อีกครั้ง ทำให้อู๋เต้าเหวินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
แต่ถ้าหากไม่ทำตามราชาใหญ่ แล้วเส้นทางชีวิตต่อจากนี้จะเลือกยังไงดี? ทางฝั่งหลี่โม่สามารถพึ่งพาได้มั้ย?
ถึงแม้ว่าในนามแล้วหลี่โม่จะเป็นผู้สืบทอดสำนักหลงเหมิน แต่พื้นฐานแล้วหลี่โม่กับไม่มีแรงสนับสนุนอะไรเลย
ที่กล่าวกันว่าคนธรรมดาไม่มีความผิด แต่คนที่มีความสามารถมักจะผิด ในตอนนี้หลี่โม่ก็คือคนที่มีความสามารถนั้น สามารถได้รับอันตรายจากศัตรูได้ทุกเมื่อ
เห็นว่าราชาใหญ่ทำแบบนี้ ก็เพื่อทำร้ายหลี่โม่ไม่ใช่หรอ!
“เฮ้อ!”
อู๋เต้าเหวินถอนหายใจ ล้วงเอาบุหรี่ออกมาม้วนหนึ่งคีบไว้ที่ปากแล้วจุดไฟ จากนั้นก็สูบเงียบๆ
จะให้เลือกยังไง อู๋เต้าเหวินตัดสินใจไม่ถูก
บุหรี่ม้วนหนึ่งถูกอู๋เต้าเหวินสูบจนหมด คิ้วของอู๋เต้าเหวินยิ่งอยู่ยิ่งขมวดแน่นยิ่งขึ้น ขมวดจนขึ้นเป็นก้อนแล้ว
“เป็นนั้นยาก แต่การต้องเลือกนั้นยากกว่า ตอนนี้จะเลือกยังไงดี ยิ่งเป็นการเลือกที่ยากมากยิ่งขึ้นไปอีก”
หลังจากตัดพ้อไปประโยคหนึ่ง อู๋เต้าเหวินก็กดหัวบุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่อย่างหนัก ในใจมีความคิดที่ใจกล้าอย่างหนึ่งแล้ว
………
กงซุนจุนที่ใส่เสื้อคลุมยาวไว้ลงจากรถ หลังจากที่ยื่นฝ่ามือขวาออกมา ลูกน้องก็เอากล่องไม้จันทน์แดงที่ทำขึ้นอย่างประณีตวางไว้ในมือของเขา
มองดูกล่องไม้จันทน์แดงที่ทำขึ้นอย่างประณีต กงซุนจุนยกยิ้มได้ใจออกมา
หลังจากที่สืบถามแล้วว่ากู้เจี้ยนหมินชอบการเก็บสะสม กงซุนจุนก็เตรียมของขวัญชิ้นนี้ไว้ให้เขาโดยเฉพาะ
“อาหารและเชฟจัดเตรียมไว้เรียบร้อยรึยัง?”
“จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วครับ อาหารล้วนเพิ่งส่งมาใหม่ รับประกันว่าสดใหม่แน่นอน ส่วนเชฟก็ยิ่งเป็นเชฟที่ฝีมือดีที่สุดของเราเลยครับ”
กงซุนจุนพยักหน้าอย่างพอใจ สายตามองไปยังคฤหาสน์บนยอดเขาตรงหน้าที่อยู่ใกล้เคียง
“รอคำสั่งของฉัน ฉันเข้าไปเยี่ยมเยียนเคารพก่อน จะได้ไม่กะทันหันเกินไปใส่เจ้าของบ้าน”
หลังจากพูดจบกงซุนจุนก็ก้าวขาเดินไปยังคฤหาสน์
ตรงหน้าประตูใหญ่คฤหาสน์ กงซุนจุนกดวิดีโออินเตอร์คอม พูดกับคนใช้ที่คุยด้วยไม่กี่ประโยค
ไม่นานคนรับใช้ก็ไปหากู้เจี้ยนหมินและพูดว่า “คุณท่านคะ ด้านนอกมีคนบอกว่าเป็นเพื่อนของคุณหนู อยากจะมาเยี่ยมเยียนในบ้านค่ะ”
กู้เจี้ยนหมินไตร่ตรองสักพัก ก็ให้คนรับใช้ไปเปิดประตู จากนั้นก็ลงมารอที่ห้องรับแขก
ในเมื่อเป็นเพื่อนของลูกสาวตัวเองมาเยี่ยม กู้เจี้ยนหมิคิดว่าก็ยังต้องต้อนรับอย่างดี ดังนั้นจึงดูทางการเล็กน้อย
หวังฟางและเฉินเสี่ยวถงที่นั่งดูทีวีด้วยกันอยู่ ต่างก็มองกู้เจี้ยนหมินอย่างสงสัย
“เจี้ยนหมิน นายเป็นอะไรไป ทำไม่ท่าทางเคร่งเครียดเชียว?” หวังฟางถามอย่างสงสัย
“เพื่อนของหยุนหลันจะมาเยี่ยมที่บ้านเรา ระวังภาพลักษณ์กันหน่อย ไม่แน่อาจจะเป็นเพื่อนร่วมงานในธุรกิจ เลยมาเยี่ยมเยียนบ้านเราก่อนงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ ดังนั้นจึงต้องจริงจังหน่อย ต้องมีความเป็นพิธี”
“โอ๊ะ”
หวังฟางส่งเสียงตกใจทีหนึ่ง รีบร้อนจัดระเบียบเสื้อผ้า แล้วพูดอย่างต่อว่า “นายดูสินายไม่พูดให้เร็วหน่อย ถ้าพูดเร็วหน่อยฉันก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว”
“น้าหวังคะ ไปเปลี่ยนตอนนี้ก็ทันค่ะ ให้คุณลุงพูดคุยกับแขกไปก่อน หนูไปเลือกเสื้อผ้ากับน้า แล้วค่อยแต่งหน้าสวยๆให้กับน้าหวังด้วย”
เฉินเสี่ยวถงรู้จักพูดจริงๆ กินอยู่ที่นี่มานานแล้ว เฉินเสี่ยวถงก็ประจบน้าหวังจนมีความสุขไม่น้อย
“เธอนี่พูดเก่งจริงๆ งั้นรีบเร็ว ไปเลือกเสื้อผ้ากับฉัน”
หวังฟางและเฉินเสี่ยวถงเพิ่งออกจากห้องรับแขก คนใช้ก็พากงซุนจุนเดินเข้ามา
กงซุนจุนใส่เสื้อคลุมยาวไว้ กู้เจี้ยนหมินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
สมัยนี้คนที่ใส่เสื้อคลุมยาวโบราณแบบนี้มีไม่มากนัก แล้วยังใส่ให้ดูมีราศีได้แบบนี้ยิ่งน้อย แต่กงซุนจุนกลับใส่ให้ดูมีสง่าราศีของความเป็นโบราณ
“ไม่ทราบว่าแขกผู้มีเกียรติคุณมีนามว่าอะไรครับ?”
กู้เจี้ยนหมินถาม
กงซุนจุนกำมือโค้งคำนับเล็กน้อยแล้วพูดว่า “มิกล้าเป็นถึงแขกผู้มีเกียรติครับ ผมมีนามสกุลคู่คือกงซุน มีชื่อเดี่ยวคือจุนครับ”
“กงซุนจุน ชื่อที่ดี ชื่อที่ดีจริงๆ”
กู้เจี้ยนหมินพูดอย่างยิ้มแย้ม “รีบมานั่ง ฉันเพิ่งต้มชาให้นายมาลองชิมดู”
จะบอกว่าชื่อนี้ดีตรงไหน กู้เจี้ยนหมินเองก็ไม่รู้ ที่พูดแบบนี้ก็เพราะสุภาพเท่านั้น
กงซุนจุนนั่งลงตรงข้ามกับกู้เจี้ยนหมิน พูดยิ้มๆว่า “มาเยี่ยมเยียนกะทันหัน หวังว่าคุณลุงกู้จะไม่ว่ากันครับ”
“จะว่าได้ยังไงกัน ฉันอยากจะให้คนเยอะสนุกสนานด้วยซ้ำ!”
กู้เจี้ยนหมินเทชาแก้วหนึ่งแล้ววางไว้ตรงหน้ากงซุนจุน กงซุนจุนหยิบเอากล่องไม้จันทน์แดงออกมาด้วยรอยยิ้ม วางไว้ตรงหน้าของกู้เจี้ยนหมิน
“รีบเร่งมา จึงไม่ได้เตรียมอะไรดีๆมา ของขวัญเล็กๆแทนความเคารพที่ผมมีให้คุณลุงกู้ครับ”
“นายดูนายสิ มาก็พอแล้ว ยังจะเตรียมของขวัญอะไรกัน”
กู้เจี้ยนหมินพูดอย่างสุภาพไปด้วย แล้วมองไปยังกล่องไม้จันทน์แดงไปด้วย
ในตอนที่เป็นกล่องไม้ ดวงตากู้เจี้ยนหมินเป็นประกาย รีบเอาแว่นขยายที่ข้างโต๊ะขึ้นมา แล้วเริ่มส่องดูกล่องไม้จันทน์แดงอย่างละเอียด
“”โอ๊ะ นี่มันจันทร์แดงที่มีร่องรอยลายไม้ แล้วยังทำมาจากวัสดุเก่าแก่ นี่ราคาไม่ต่ำเลยนะ”
“คุณลุงกู้รู้จักดีจริงๆเลยครับแต่ว่านี่ก็เพียงแค่กล่องเท่านั้น สิ่งที่ใส่ไว้ในกล่องถึงจะเป็นของขวัญที่ผมมอบให้คุณ”
กงซุนจุนพูดช้าๆ
กู้เจี้ยนหมินลังเลไปสักพัก เดิมทีคิดว่าเจอหน้ากันครั้งแรก ก็รับของขวัญที่มีค่าขนาดนี้คงจะไม่ดีเท่าไหร่
แต่เมื่อได้ยินกงซุนจุนบอกในกล่องยังมีของ ความอยากรู้อยากเห็นของกู้เจี้ยนหมินก็พุ่งขึ้นมา
ความอยากรู้อยากเห็นที่กู้เจี้ยนหมินเก็บไว้ไม่อยู่ จึงเปิดกล่องมองดูด้านใน
ในกล่องวางพัดไว้อันหนึ่ง ตัวพัดทำมาจากงาช้าง ตัวห้อยของพัดเป็นหยกเหอเถียนแดงชั้นดี
ไม่ต้องเปิดพัดออก กู้เจี้ยนหมินก็รับรู้ได้ว่าหน้าพัดจะต้องเป็นภาพวาดจากคนมีชื่อเสียงแน่นอน
ถ้าไม่ใช่ภาพวาดจากคนมีชื่อเสียง ก็ไม่คู่ควรกับตัวพัดและตัวห้อยพัดที่ล้ำค่าแบบนี้
“โอ๊ะๆๆ ดูลายของงาช้างนี้สิ คิดว่าคงเป็นงาช้างของช้างเอเชียแน่เลย แล้วดูตัวห้อยพัดนี่ก็เป็นหยกเหอเถียนแดงที่หายาก พัดนี้ล้ำค่าเป็นอย่างมากเลย”
“คุณลุงกู้ตาดีจริงๆครับ อย่างที่ว่าสิ่งของต้องให้กับคนที่คู่ควร พัดอันนี้ส่งให้กับคุณลุงกู้นั้นเหมาะสมที่สุดแล้วครับ” กงซุนจุนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ทำอย่างนี้ไม่ได้ ของล้ำค่าแบบนี้ฉันจะรับไว้ได้ยังไงกัน”
กู้เจี้ยนหมินอดทนต่อความรู้สึกที่อยากจะรับไว้ แล้วยกมือปฏิเสธ รู้สึกว่าห้ามรับของล้ำค่าแบบนี้มาฟรีๆ
โลกนี้ไม่มีของฟรี รับของล้ำค่าขนาดนี้ไว้ จะต้องไม่ใช่เรื่องที่ธรรมดาแน่นอน!