จักรพรรดิมังกร - บทที่ 641 พิสูจน์เท็จจริง
ด้วยความคิดที่จะทำให้หลี่โม่ตายใจ กู้เจี้ยนหมินมองไปที่ซุนจุนและกล่าวว่า: “คุณกงซุนคิดอย่างไงกับเรื่องนี้ครับ หรือว่าเรามาดูด้วยกันเลยมั้ย”
“โอเค ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะวาดอะไรได้ อย่าวาดลวดลายง่ายๆ เหมือนเด็กอนุบาล ให้ผู้เชี่ยวชาญหัวเราะเยาะก็แล้วกัน”
กงซุนจุนมองไปที่หลี่โม่ด้วยสายตาเย็นชา เขาคิดว่าหลี่โม่กำลังวอนหาความอัปยศใส่ตัวแท้ๆ มันเป็นการกระทำที่สร้างความอับอายแกตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
กู้หยุนหลันมองหน้าหลี่โม่ด้วยความเป็นห่วง กู้หยุนหลันไม่เคยเห็นภาพวาดของหลี่โม่มาก่อน ดังนั้นในสายตาของกู้หยุนหลัน หลี่โม่น่าจะไม่มีความสามารถในการวาดรูป
อย่างไรก็ตาม หากหลี่โม่ต้องการริเริ่มในการนำเสนอภาพวาดให้ผู้คนได้เห็น กู้หยุนหลันก็ทำได้แค่สนับสนุนหลี่โม่อย่างเต็มที่เท่านั้น เธอคงไม่สามารถทนดูหลี่โม่ขายหน้าอย่างไม่มีสาเหตุได้
แม้ว่าเขาอาจโดนทุกคนหัวเราะเยาะ แต่ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่าหลี่โม่นั้นไร้ความสามารถจริงๆ
กู้หยุนหลันเม้มริมฝีปากจากนั้นก็เดินไปที่ด้านข้างของหลี่โม่และพูดด้วยเสียงต่ำ: “คุณรู้วิธีการวาดจริงๆ หรือ? ถ้าหากภาพวาดของคุณถูกเปิดออกแล้วมันก็จะไม่สามารถหยุดได้เหมือนกับลูกศรที่ยิ่งออกจากคันธนูแล้ว”
“ที่รักไม่ต้องห่วง สามีคนนี้มีความสามารถหลากหลายมากมายอยู่แล้ว”
หลี่โม่กะพริบตาให้กู้หยุนหลัน เพื่อส่งสัญญาณให้กู้หยุนหลันผ่อนคลาย
กู้หยุนหลันเอื้อมมือไปหยิบมุมหนึ่งของกระดาษซวนจื่อ ส่วนหลี่โม่ก็ค่อยๆ คลี่กระดาษวาดรูปออกพร้อมกับพูดว่า: “ทุกท่านเชิญดูครับ ดูจากภาพวาดของฉันก็จะสามารถพิสูจน์ได้ว่าพัดโบราณนั้นเป็นภาพวาดปลอม”
หลังจากที่หลี่โม่พูดอย่างหนักแน่น กระดาษซวนจื่อก็ถูกคลี่ออกอย่างสมบูรณ์แล้ว
กู้เจี้ยนหมินกับหวังฟางและกงซุนจุนมองไปทางกระดาษซวนจื่อพร้อมกัน เมื่อพวกเขาเห็นภาพวาดบนกระดาษซวนจื่อ พวกเขาก็ตกตะลึงในทันที
“นี่…นี่มันเป็นไปได้ยังไง! เจี้ยนหมินรีบเปิดพัดโบราณออกมาดูเร็วๆ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันดูเหมือนภาพวาดบนพัดโบราณราวกับมาจากแม่พิมพ์เดียวกันเลยล่ะ?”
หวังฟางร้อนใจจนพูดจาตะกุกตะกัก
นั่นเป็นพัดโบราณมูลค่าหลายสิบล้านเชียวนะ หากมันเป็นของปลอมจริงๆ หวังฟางรู้สึกว่าเธออาจจะร้องไห้ตายก็เป็นได้
ความรู้สึกของการสูญเสียหลายสิบล้านนั้นสะกิดใจเกินไปแล้ว
กู้เจี้ยนหมินตัวสั่นไปทั้งตัว แต่กู้เจี้ยนหมินชอบพัดโบราณอย่างมาก ภาพวาดบนพัดก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน อาจกล่าวได้ว่าภาพวาดบนพัดทิ้งรอยลึกไว้ในใจกู้เจี้ยนหมินอย่างไม่อาจลบล้างไปได้
กู้เจี้ยนหมินสามารถมั่นใจได้ว่าภาพวาดที่หลี่โม่ถืออยู่นั้นคล้ายกับภาพวาดบนพัดโบราณ99 เปอร์เซ็นต์โดยไม่จำเป็นต้องเปิดพัดมาดู!
มันอาจจะคล้ายกันโดยสิ้นเชิงก็เป็นได้!
“หลี่โม่ คุณเป็นคนวาดภาพนี้จริงหรือ?”
กู้เจี้ยนหมินเดินไปที่กระดาษซวนจื่อ และก้มลงมองดูอย่างละเอียด เพื่อดูว่ามันเป็นสิ่งตีพิมพ์หรือไม่
การประดิษฐ์ตัวอักษรและภาพวาดปลอมมีหลายประเภท หนึ่งในนั้นคือการใช้ภาพพิมพ์คอลโลไทป์เพื่อปลอมแปลงเป็นของแท้
ภาพพิมพ์คอลโลไทป์ที่ประณีตบางภาพก็เพียงพอที่จะปลอมแปลงเป็นของแท้ได้แล้ว และผู้ที่ไม่มีความรู้ในด้านนี้จะไม่สามารถรับรู้การลอกเลียนแบบของภาพพิมพ์คอลโลไทป์ว่าเป็นภาพวาดปลอมอย่างแน่นอน
กู้เจี้ยนหมินเคยได้ยินเรื่องราวที่คล้ายคลึงกันมามากมาย ดังนั้นความคิดแรกก็คือภาพวาดเหล่านั้นคือภาพที่ถูกตีพิมพ์ออกมา
แต่หลังจากที่มองดูอย่างละเอียดแล้ว กู้เจี้ยนหมินก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าหลี่โม่นั้นไม่มีทางที่จะมีภาพวาดฉบับพิมพ์คอลโลไทป์ได้แน่นอน
ไม่ต้องพูดถึงว่าหลี่โม่เพิ่งจะได้เห็นภาพวาดบนพัดโบราณวันนี้เป็นวันแรกเลย ถึงแม้ว่าหลี่โม่จะได้เห็นภาพดังกล่าวเมื่อหนึ่งเดือนก่อน เขาก็ไม่สามารถที่จะหาภาพวาดฉบับพิมพ์คอลโลไทป์ที่ประณีตขนาดนี้ได้หรอก
กู้เจี้ยนหมินรู้สึกว่ามุมมองทั้งสามกำลังจะพังทลายลง และยิ่งเขามองมันมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกเวียนหัวมากขึ้นเท่านั้น
กู้เจี้ยนหมินยืนตัวตรงและขยี้ตามองหลี่โม่ด้วยความไม่เชื่อ: “นี่คือสิ่งที่คุณวาดจริงๆ เหรอ? คุณไปเรียนการวาดมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“คุณลุงค่ะ พี่หลี่โม่เป็นคนวาดภาพนี้จริงๆ เมื่อกี้นี้ฉันเห็นกับตาเลย และฉันเป็นคนบดหมึกให้กับพี่หลี่โม่เองด้วย”
เฉินเสี่ยวถงกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
กู้เจี้ยนหมินตกอยู่ในความเงียบขรึม จากนั้นก็ค่อยๆ เปิดพัดพับด้วยมือข้างขวาและมองดูภาพวาดบนพัดพับกับภาพวาดที่วาดโดยหลี่โม่สลับไปมา และยิ่งมองเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าภาพวาดสองภาพนี้เหมือนกันอย่างกับมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน
กู้หยุนหลันกล่าวด้วยความประหลาดใจ: “นี่มันเหมือนกันจริงๆ หลี่โม่คุณทำได้อย่างไร”
“ฮ่าๆ มันเป็นเพียงเรื่องง่ายนิดเดียวเท่านั้น ตอนนี้ฉันสามารถพิสูจน์ได้แล้วใช่ไหมว่าพัดโบราณนี้เป็นภาพวาดปลอม”
หลี่โม่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
กงซุนจุนรู้สึกไม่ดีไปทั้งตัว และคิดไม่ออกว่าหลี่โม่ทำได้อย่างไร
กงซุนจุนที่ค่อนข้างหงุดหงิดสาวก้าวเดินไปหาหลี่โม่ และคว้ากระดาษซวนจื่อจากมือหลี่โม่มาหยิบมันไว้ในมือแล้วมองอย่างละเอียด
“คุณ! แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าคุณล้อเลียนแบบภาพวาดนี้มาจากไหน แต่มันก็บ่งบอกอะไรไม่ได้! และที่สำคัญคือมันพิสูจน์ไม่ได้ว่าพัดโบราณของฉันเป็นของปลอม!”
หลังจากจบคำพูดที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดแล้ว กงซุนจุนก็บดขยี้ภาพวาดของหลี่โม่เป็นก้อนและโยนมันลงบนพื้นโดยตรง
“คุณทำแบบนี้ได้ยังไง! คุณนี่ช่างไร้เหตุผลจริงๆ !”
เฉินเสี่ยวถงคำรามด้วยความโกรธ
กู้หยุนหลันก้มลงไปหยิบภาพวาดที่ถูกโยนลงบนพื้นขึ้นมา และมองกงซุนจุนด้วยสายตาที่เย็นชาอย่างยิ่ง
“กงซุนจุน ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้ ตอนนั้นฉันไม่น่าให้บิณฑบาตแกคุณเลย”
“หยุนหลัน! ผม…ผมแค่โมโหเกินไป ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ผมอุตส่าห์ตั้งอกตั้งใจเลือกสิ่งล้ำค่ามาเป็นของขวัญ แต่เขากลับ…”
กงซุนจุนเหลือบมองหลี่โม่ และไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรต่อดี การกระทำในเมื่อสักครู่นี้ของเขาสร้างความอับอายและความพ่ายแพ้ให้กับตัวเองอย่างสิ้นเชิง
กู้เจี้ยนหมินเขย่าพัดต่อหน้าหลี่โม่หนึ่งที และกล่าวอย่างเบื่อหน่ายว่า: “หลี่โม่ คุณมีวิธีอื่นที่จะสามารถพิสูจน์ได้ว่านี้เป็นของปลอมอีกหรือไม่?”
“มีสิ”
หลี่โม่ตอบอย่างมั่นใจ
กงซุนจุนกัดฟันด้วยความแค้นและพูดว่า: “ไหนลองบอกมาสิว่าคุณจะพิสูจน์ได้อย่างไร! ถ้าคุณสามารถพิสูจน์ได้จริง ข้ากงซุนจุนจะเรียกคุณว่าพ่อในอนาคต!”
“อย่าให้คำสาบานที่มันโหดขนาดนั้น มิฉะนั้นคุณจะอับอายในไม่ช้านี้”
หลี่โม่มองไปที่กงซุนจุนด้วยรอยยิ้ม
หวังฟางมองซ้ายมองขวา เธอคิดว่ากงซุนจุนเป็นตระกูลใหญ่ที่จะมอบของขวัญแกครอบครัวของตัวเองในอนาคต ดังนั้นเธอจึงไม่ควรทำร้ายจิตใจกงซุนจุนมากจนเกินไป
“คุณกงซุนค่ะ คุณอย่าพูดแบบนั้นเลย มันไม่สำคัญหรอกว่าเป็นของจริงหรือเท็จ เราซาบซึ้งกับความตั้งใจของคุณมาก และไม่ว่าของขวัญชิ้นนี้จะจริงหรือเท็จ เราไม่ถือสาหรอก จริงไหมเจี้ยนหมิน”
หลังจากพูดหวังฟางก็แตะกู้เจี้ยนหมินด้วยแขนของเธอ
กู้เจี้ยนหมินพยักหน้าอย่างเร่งรีบและกล่าวว่า: “ใช่! จะจริงหรือเท็จมันไม่สำคัญหรอก คนโบราณบอกว่า เดินทางพันไมล์เพื่อมอบขนหงส์ แม้เป็นของที่เบาแต่หนักด้วยน้ำใจ ถึงแม้ว่าพัดนี้จะไม่ใช่ของจริง แต่ฉันชอบมันมาก ”
ใบหน้าของกงซุนจุนเดี๋ยวขาวเดี๋ยวซีด วันนี้เขารู้สึกว่าตัวเองอับอายขายหน้าอย่างมาก
กู้เจี้ยนหมินกับภรรยาของเขาอาจไม่สนใจว่ามันจะเป็นของจริงหรือของเท็จ แต่กงซุนจุนใส่ใจ หากของขวัญที่มอบให้แกผู้อื่นเป็นของปลอม ไม่ว่าจะเป็นใครก็คงต้องรู้สึกอับอายจนไม่รู้ว่าควรเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแน่ๆ !
“คุณลุง คุณป้าครับ หากมันเป็นของเท็จจริงๆ ผมจะรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง ผมว่าให้หลี่โม่พิสูจน์ว่ามันเป็นของจริงหรือของเท็จก่อนดีกว่า หากมันเป็นของเท็จจริงๆ ข้ากงซุนจุนจะนำของขวัญอื่นมาให้แทน”
หลังจากพูดกงซุนจุนก็มองไปที่หลี่โม่และพูดอย่างโกรธเคืองว่า: “เชิญพูดมาได้เลย จุดไหนที่ยังสามารถพิสูจน์ได้ว่านี่เป็นเรื่องปลอม”
“คุณต้องการให้ฉันพิสูจน์จริงหรือ? ฉันเกรงว่าถ้าหากฉันบอกวิธีพิสูจน์แกคุณแล้ว คุณจะอับอายและโกรธเคืองหลังจากที่คุณตรวจสอบตามที่ฉันบอกแล้ว”
“ข้ากงซุนจุนเป็นคนใจกว้าง! ฉันจะไม่มีวันโกรธอย่างแน่นอน คุณรีบบอกมาสักทีเถอะ!”