จักรพรรดิมังกร - บทที่ 644 ไม่มีทางรอดแล้ว
หลี่โม่หัวเราะอย่างเย็นชา และยกมือซ้ายขึ้นมาก็ตบเข้าที่ใบหน้าของหญิงชรา ตบจนทำให้หญิงชราหมุนตัวอยู่กับที่ไปหลายรอบ
“หน้าตามันต้องสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง ในเมื่อคุณจะไร้ยางอายเช่นนี้ งั้นฉันก็ไม่เกรงใจแล้ว”
หลี่โม่เขย่าฝ่ามือ สายตามองไปที่ชายทั้งสอง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พวกคุณอยากจะตบด้วยไหม”
“เชี่ย! กล้าตบฉันงั้นเหรอ! คนโต คนรอง พวกคุณสองคนมัวแต่ยืนมึนงงอะไรกันอยู่เหรอ เขาตบตีแม่ของพวกคุณ! พวกคุณจับตัวมันไว้เดี๋ยวนี้ และตบเขาให้ดีๆ สักครั้ง วันนี้ฉันจะเกาให้ใบหน้าของเขาเสียโฉมไปเลย!”
หญิงชราโกรธมากจนบ้าคลั่งไปเลย กระโดดและตะโกนเสียงดังว่า ปล่อยให้ลูกชายสองคนที่แกล้งเป็นคนสัญจรไปมาไปจัดการกับหลี่โม่
ลูกชายสองคนของหญิงชรานั้นเผยท่าทีดุร้าย และเริ่มอาละวาดและโจมตีหลี่โม่อย่างชั่วร้าย
กู้หยุนหลันรู้สึกประหม่าเล็กน้อย และรีบเปิดประตูรถและลงจากรถ พยายามไม่อยากจะทำให้สถานการณ์ขยายตัวต่อไป
ทันทีที่ได้ลงจากรถ ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนน่ากลัวสองครั้ง ลูกชายทั้งสองของหญิงชราปิดใบหน้าด้วยมือและก้มเอวของพวกเขา และเดินถอยหลังไปสองก้าวเหมือนกุ้ง
“ถุยๆ !”
ในปากของพวกเขาสองคนคายออกเป็นน้ำลายที่เปื้อนเลือด และยังมีฟันกรามหลังสองสามซี่ก็ถูกคายออกมาเช่นกัน
“แม่งเอ๊ย ถูกต่อยจนฟันหักแล้ว อย่าแม้แต่จะคิดที่จะจากไปถ้าคุณไม่ชดใช้มาสักแปดแสนในวันนี้!”
หญิงชราตะโกนอย่างโกรธเคืองว่า “พวกคุณทั้งสองช่างไร้ประโยชน์จริงๆ สองคนยังไม่สามารถเอาชนะคนเดียวได้ รีบขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย ทุบตีเขาแรงๆ สิ ถือโอกาสที่เขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ไป”
หลี่โม่ไม่ได้สนใจต่อเสียงโห่ร้องของทั้งสามแม่ลูกที่แบล็กเมล์นี้ และกำลังโทรหาหัวหน้าจางด้วยโทรศัพท์มือถือของเขา
หัวหน้าจางได้ยินตำแหน่งที่หลี่โม่รายงาน และรีบขับรถไปพร้อมกับลูกน้องของเขา
ชายทั้งสองรู้สึกหน้าแดงหูร้อนจากสิ่งที่หญิงชราพูด และเพิ่มความกล้าหาญขึ้นมาอีกครั้ง และรีบวิ่งพุ่งเข้าไปทางหลี่โม่
หลี่โม่เขย่ากำปั้น และต่อยเข้าที่ดั้งจมูกของพวกเขาคนละที เลือดกำเดาของทั้งสองก็ไหลออกมาทันที
ชายทั้งสองรู้สึกเพียงแค่เจ็บที่จมูก และหันกลับไปหาแม่ด้วยท่าทางที่ปิดใบหน้าด้วยมือ
“แม่ครับ เราถอยทัพกันเถอะ นี่เป็นคนที่แข็งแกร่ง เขายังรู้จักกับสายตรวจอีกด้วย คนแบบนี้เราไม่สามารถยั่วยุได้”
“ยั่วยุไม่ได้ก็บ้าแล้ว คนเท้าเปล่าไม่กลัวคนที่ใส่รองเท้าหรอก เรามีเวลาตั้งมากมาย ไม่ต้องกลัวว่าจะมีปัญหา! ต่อให้พวกเราจะเป็นฝ่านแบล็คเมล์ก่อน แต่ตอนนี้พวกเราสามคนก็โดนทุบตีจนเจ็บหนักขนาดนี้แล้ว ยังไงก็ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล!
ยังมีค่าเสียงาน ค่าเสียหายทางจิตใจ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกหลายอย่าง พวกคุณลองคิดคำพูดไว้ก่อน อีกสักครู่สายตรวจมาแล้วก็เล่นตัวแบบไม่มีเหตุผลตามแม่ ไม่ต้องไปกลัวสายตรวจหรอก”
บนใบหน้าของหญิงชราเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง และดูเหมือนจะมีประสบการณ์มากมายในการต่อสู้
กู้หยุนหลันได้ยินแล้วรู้สึกเวียนหัว และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นว่ามีคนประเภทนี้ดำรงอยู่ด้วย มันล้มล้างความรู้ความเข้าใจของเขาแล้วจริงๆ
“หลี่โม่ นี่พวกเขา นี่ ควรทำอย่างไร”
กู้หยุนหลันตื่นตระหนก และไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร
หลี่โม่ลูบหัวกู้หยุนหลันเบาๆ กู้หยุนหลันเม้มริมฝีปากและมองไปที่หลี่โม่ และแกล้งทำเป็นโกรธและกล่าวว่า “คุณลูบเส้นผมของฉันทำไม? คุณก็ไม่ใช่อิคคิวซัง ลูบหัวแล้วก็จะสามารถเกิดไอเดียขึ้นมาได้เหรอ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า อิคคิวซังคือสึกิ สึกิ (ตัดน้องชาย) เป็นแบบนั้นก็คงแย่มากเลย”
กู้หยุนหลันไม่เข้าใจกับคำพูดที่หลี่โม่พูดออกมา และพูดด้วยท่าทางงงงวยว่า “สึกิ สึกิของอิคคิวซังมันเป็นอะไรเหรอ มันก็เหมือนกับในการ์ตูนไง”
“เอ่อ ไม่มีอะไร คนที่มาช่วยแก้ปัญหาให้พวกเรามาแล้ว”
หลี่โม่ชี้ไปในที่ที่ไม่ไกล และหัวหน้าจางก็ได้นำทีมกลุ่มสายตรวจเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วแล้ว
ทั้งสามกลุ่มคนแม่ลูกแบล็คเมล์ด เฝ้าดูกลุ่มสายตรวจที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน รู้สึกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงในหัวใจและจิตวิญญาณของพวกเขา
“ทำไมถึงมีสายตรวจมาจำนวนมากขนาดนี้ ดูจากท่าทางนี้แล้วผิดปกติมากเลย ครั้งสุดท้ายที่แม่แบล็คเมล์โรลสรอยซ์คันนั้น เขาก็แค่เรียกสายตรวจมาเพียงสี่คนเท่านั้น”
“ว่ากันว่าแบล็คเมล์คนของตระกูลใหญ่นั้นมันไม่ง่ายเลย คราวนี้เกรงว่าคงเจอกับผู้คนที่แข็งแกร่งมากแล้ว แม่ เราหนีไปเถอะ”
ลูกชายสองคนของหญิงชราเริ่มรู้สึกกลัวและอยากจะถอยไปแล้ว
หญิงชรากระทืบเท้าอย่างรุนแรง และพูดอย่างเข้มงวดว่า “พวกคุณสองคนช่างไม่เอาไหนเลย ถ้ามีความกล้าหาญเพียงครึ่งหนึ่งของข้า พวกคุณก็สามารถสร้างความมั่นคงและความร่ำรวยไปแล้วในตอนนี้!
พวกคุณลองคิดดูว่าเจ้าเจ็ดหยาง และเจ้าแปดหลิวในหมู่บ้านของเรา สร้างความมั่งคั่งและความร่ำรวยได้อย่างไร! ไม่ต้องกลัว เราจะต้องหัวแข็งจนถึงที่สุด จำคำพูดคำหนึ่งไว้ คนบ้าระห่ำเกรงกลัวคนหัวแข็ง ส่วนคนหัวแข็งก็กลัวคนที่ไม่เกรงกลัวต่อความตาย!”
“แม่ เจ้าเจ็ดหยางนั่นคือค่าตอบแทนสำหรับการเสียชีวิตของพ่อเขาจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และเงินที่มาของเจ้าแปดหลิวก็ยิ่งกว่านั้นอีก พวกเราทำมาหากินโดยพึ่งพาอาศัยตน แตกต่างไปจากพวกเขา”
กู้หยุนหลันตกตะลึงเมื่อได้ยินเรื่องนี้ และกระซิบกับหลี่โม่ว่า “ความคิดของพวกเขาเป็นยังไงกันแน่ การแบล็คเมล์ก็สามารถถือได้ว่าเป็นการทำมาหากินงั้นเหรอ?”
“ความคิดที่เห็นแก่ตัวแบบดั้งเดิมชัดๆ ”
หลี่โม่แสดงความคิดเห็นแบบสั้นๆ ไปคำหนึ่ง
หัวหน้าจางนำหน่วยสายตรวจเดินไปที่ด้านข้างของหลี่โม่ และโค้งคำนับเล็กน้อยแล้วพูดว่า “คุณหลี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น เอ่อ แก่เฒ่าหวาง เป็นคุณอีกแล้วเหรอ”
หัวหน้าจางเห็นแก่เฒ่าหวางที่อยู่ข้างๆ และเดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
แก่เฒ่าหวางคนนี้เป็นคนดื้อดึงที่ทุกคนรู้จักกันดี เนื่องจากก่อเรื่องแบล็คเมล์และโดนจัดการไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
แก่เฒ่าหวางกลอกตาของเธอและเหลือบมองไปที่หัวหน้าจาง ทันทีที่เธอโน้มตัวพิงที่ร่างกายของลูกชายคนโต กำหน้าอกของเธอและกล่าวว่า “สายตรวจมาได้พอดีเลย ฉันถูกรถชน และรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัวเลย คนขับรถอยากจะหลบหนี ก็เลยถูกลูกชายสองคนของฉัน….”
แก่เฒ่าหวางเหมือนจะโดนนักแสดงละครขึ้นร่างของเธอ เธอนำทักษะการแสดงทั้งหมดที่เธอสะสมมาในชีวิตของเธอออกมา และเริ่มกล่าวหาหลี่โม่ขึ้นมาด้วยคำพูดที่ไม่รู้จบ
หลี่โม่หัวเราะและมองดู ราวกับว่ากำลังดูเรื่องตลกอยู่
หัวหน้าจางขัดขวางคำพูดแก่เฒ่าหวางด้วยสีหน้าที่เข้มขรึม “คุณไม่ต้องพูดมากแล้ว คุณลองดูประวัติคดีของคุณสิ โดนจับในเรื่องแบล็คเมล์คนอื่นไปเกือบยี่สิบครั้งแล้ว ในคราวนี้ก็ต้องเป็นเพราะการก่อเรื่องแบล็คเมล์และหนีไปไม่ทันอีกแน่นอน”
แก่เฒ่าหวางกระโดดลุกขึ้นจากอ้อมแขนของลูกชาย และพูดอย่างเต็มเปี่ยมว่า “ฉันก่อเรื่องแบล็คเมล์แล้วยังไงเหรอ! ถึงฉันจะแบล็คเมล์เขาก็ไม่สามารถทุบตีฉัน!
คุณดูสิใบหน้าแก่ๆ ที่ถูกตบของฉัน และจะให้ฉันกลับไปเจอหน้าคนเพื่อนบ้านได้อย่างไร คุณมองดูลูกชายทั้งสองของฉันอีกครั้ง ถูกต่อยจนมีเลือดกำเดาไหลออกมาแล้ว……”
หัวหน้าจางก็ไม่มีทางที่ดี ที่จะจัดการกับแก่เฒ่าหวางที่เกาะติดแน่นราวกับน้ำตาลที่มีความเหนียวแน่น
ประเด็นสำคัญก็คือแก่เฒ่าหวางคนนี้อายุมากเกินไป จับตัวกลับไปแล้วก็ไม่สามารถจัดการได้ อีกอย่างแก่เฒ่าหวางก็หาเรื่องและอดอาหารอยู่บ่อยๆ
หลี่โม่ลูบข้อมือ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เป็นไรไป นี่ก็ไม่มีหน้าจะกลับไปเจอเพื่อนบ้านแล้วเหรอ? งั้นผมก็ช่วยเพิ่มใบหน้าให้คุณสักหน่อยดีไหม ทุบตีให้หน้าบวมแล้วก็มองไม่ออกแล้ว”
“คุณ! คุณอย่าทำเกินไปนะ สายตรวจกำลังดูอยู่ที่นี่นะ”
แก่เฒ่าหวางคิดอยากจะเปลี่ยนฝ่ายรับเป็นฝ่ายรุก เพราะยังไงตัวเองก็เต็มใจที่จะเสียสละทั้งตัวเพื่อที่จะดึงจักรพรรดิลงจากม้าอยู่แล้ว สังคัญก็คือสามารถหลอกเอาเงินมาได้
หัวหน้าจางขยิบตาให้คนของเขา หันหลังกลับไปพร้อมกับกลุ่มคนสายตรวจ แหงนมองท้องฟ้าและพูดคุยกันขึ้นมา “วันนี้อากาศดีมากเลยทีเดียว ได้ยินมาว่าแก่เฒ่าหวางก่อเรื่องแบล็คเมล์ไม่สำเร็ว และทำให้ใบหน้าของตัวเองบวมเหมือนหัวหมูไปเลย”
“ลูกชายสองคนของแก่เฒ่าหวางก็ล้มตีลังกาอยู่กับพื้นด้วย เพื่อที่จะไปช่วยประคองตัวแก่เฒ่าหวาง และทำให้มีเลือดกำเดาไหลออกมา มันเป็นเรื่องที่น่าสังเวชจริงๆ เลย”
เมื่อได้ยินคำพูดของหัวหน้าจางและคนอื่นๆ และมองไปที่หมัดที่ขยับไปมาของหลี่โม่ แก่เฒ่าหวางก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้วหรือเปล่า ยังมีเรื่องที่ไม่สามารถว่าตามเหตุผลอีกด้วยหรือ! คนที่ขับรถยนต์หรูหรากับสายตรวจรวมตัวเข้าด้วยกัน และนี่มันก็เท่ากับไม่ปล่อยทางอยู่รอดให้กับคนที่ก่อเรื่องแบล็คเมล์อย่างเราอยู่รอดได้จริงๆ เลยทีเดียว