จักรพรรดิมังกร - บทที่ 662 ดูท่าจะเข้าใจวิชาชีพนี้
ศิลปะการเขียนพู่กันจีนของปรมาจารย์ฉี่เหวินมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถกล่าวได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการเขียนพู่กันจีนที่มีชื่อเสียงเขาเป็นผู้สานต่อความรู้จากอดีตเพื่อถ่ายทอดต่อไปยังคนรุ่นหลัง มีตำแหน่งสำคัญในวงการศิลปะการเขียนพู่กันจีนคนหนึ่งเลยก็ว่าได้
พอได้ยินว่าคางเหวินซิงกับปรมาจารย์ฉี่เหวินเป็นญาติกัน หลี่โม่จึงอดที่จะขำออกมาไม่ได้“ปรมาจารย์ฉี่เหวินเป็นญาติกับนายงั้นเหรอ?นายคงไม่ได้นับญาติมั่วๆหรอกใช่ไหม”
“จะนับญาติมั่วๆได้ยังไงกัน ในตอนนั้นปรมาจารย์ฉี่เหวินยังเคยชี้แนะผมเลยนะ”
คางเหวินซิงพูดอย่างจริงจัง
เมื่อมองดูด้านหลังของศิลปินชราวัยกลางคนเหล่านี้ หลี่โม่ส่ายหัวอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก“ไม่พูดเรื่องศิลปะแล้ว เราเข้าไปดูด้านในกันเถอะว่ามีวัตถุดิบหินดีๆอะไรไหม”
พอเข้าไปในศูนย์นิทรรศการและการประชุม สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือก้อนหินก้อนมหึมา หินสีดำเขียวมีขนาดที่ใหญ่มากๆ คาดว่าน้ำหนักน่าจะหลายสิบตัน
“นี่คือหินอะไร ทำไมรูปร่างน่าเกลียดแบบนี้”กู้หยุนหลันเอ่ยถามพลางทำปากมุ่ย
ก้อนหินสีดำเขียวขนาดมหึมาไม่สวยจริงๆนั่นแหละ ไม่เพียงแต่มีสีสันธรรมดา อีกทั้งรูปลักษณ์ภายนอกยังเป็นหลุมบ่อ เห็นได้ชัดว่ามีความขรุขระมาก ดูไม่มีความใกล้เคียงกับหยกเลยแม้แต่น้อย
หลี่โม่หัวเราะแล้วพูดว่า“นี่คือหยกManasi Jasper โดยทั่วไปหยกเหอเถียนที่ผลิตในประเทศดีกว่าของต่างประเทศ แต่ยกเว้นหยกแจสเปอร์ หยกManasi Jasperไม่ว่าจะเป็นสี คุณภาพ ต่างด้อยกว่าหยกรัสเซียมาก ดังนั้นหยกที่ผลิตในประเทศจึงมีราคาต่ำกว่าตลอด”
“นี่คือหยกเหรอ?ดำขนาดนี้เนี่ยนะ ฉันไม่รู้สึกว่ามันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับแจสเปอร์เลย ”
กู้หยุนหลันพูดอย่างประหลาดใจ
“หยกที่ผลิตในประเทศสีค่อนข้างเข้ม ส่วนใหญ่เป็นสีเขียวเข้มของผักโขมแก่ ขณะที่สีของหยกรัสเซียเป็นที่นิยมของคนมากกว่า ส่วนมากเป็นสีเขียวสดใสของผักโขมอ่อน ดังนั้นหยกรัสเซียจึงเป็นที่นิยมในท้องตลาด ราคาขายจึงสูงกว่าเล็กน้อย และหยกManasi Jasperมีจุดำปนเปื้อน นี่จึงเป็นสิ่งที่สู้หยกรัสเซียไม่ได้”
หลี่โม่พูดแนะนำอย่างฉะฉาน กู้หยุนหลันใช้สายตายกย่องนับถือมองไปที่หลี่โม่ รู้สึกว่าหลี่โม่ใช้ชีวิตอยู่ในสารานุกรมยังไงอย่างงั้นเลย รู้ไปหมดซะทุกเรื่อง
เฉินเสี่ยวถงทำแก้มป่อง แล้วดึงแขนของหลี่โม่พลางพูดขึ้นมาว่า“ของสิ่งนี้สวยตรงไหนกัน เรารีบเข้าไปดูข้างในกันเถอะ หยกเหอเถียนมีแหล่งผลิตหลายที่ใช่ไหม นายเล่าให้ฉันฟังหน่อยสิ”
หลี่โม่ถูกลากไปด้วยพูดไปด้วย“หยกเหอเถียนแบ่งออกเป็นความหมายโดยกว้างและแคบ ความหมายโดยแคบก็คือขอบเขตทรัพย์สินมีเพียงเหอเถียน เฉี่ยโม่สถานที่พวกนี้ โดยเฉพาะหยกกรวด ถูกกักขังอยู่ในท้องคลอง และความหมายโดยกว้างก็คือสถานที่ผลิตหยกเหอเถียนมีเยอะมาก ตราบใดที่องค์ประกอบของแร่ทรีโมไลท์ตรงตามมาตรฐาน ก็จะถูกรับรองว่าเป็นหยกเหอเถียนพร้อมออกใบรับรองให้ และหยกเหอเถียนที่ผลิตบนที่ราบสูงในประเทศจีนค่อนข้างโปร่งใส มีบางก้อนที่มีลายเกล็ดหิมะ แม้กระทั่งสีมรกต สีม่วงหม่นเป็นต้น ซึ่งถูกเรียกว่าหยกชิงไห่ หลังจากนั้นก็คือหยกรัสเซียแล้ว คุณภาพของหยกรัสเซียส่วนมากเนื้อเนียนละเอียด มีความขาวสูงมาก นอกจากนี้ยังมีพื้นผิวสีเหลืองกับดำ ซึ่งถูกนำมาใช้แกะสลัก มีพ่อค้าไร้คุณธรรมบางคนนำหยกรัสเซียนำมาทำเป็นหยกสีขาวเหลืองอ่อนขาย จุดนี้ทำให้มีคนจำนวนมากหลงกล โดยส่วนมากหยกเกาหลีมักถูกซื้อไปเข้าสู่กระบวนการแกะสลักด้วยเครื่องจักร แล้วขายอยู่ตามท้องตลาดจำนวนมาก หยกเหอเทียนก็สามารถใช้เงินไม่กี่ร้อยซื้อมาได้แล้ว โดยทั่วไปแล้วเป็นหยกเกาหลี”
หลี่โม่พูดแนะนำต่อกันยาวๆ ทำให้เฉินเสี่ยวถงกับคนอื่นๆที่ได้ฟังต่างพากันพยักหน้า รู้สึกว่าหยกเหอเทียนลึกซึ้งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
“หลี่โม่นายรู้เยอะจริงๆ เมื่อก่อนดูไม่ออกเลยว่านายเข้าใจเรื่องพวกนี้”
กู้เจี้ยนหมินหัวเราะไปด้วยพูดไปด้วย
“พ่อตาครับ ผมเองก็เรียนรู้จากในหนังสือมาอย่างรีบๆ ถ้าจะบอกว่าเล่นหยกจริงๆ พ่อตาสิครับที่เป็นยอดฝีมือที่แท้จริง เราต้องเรียนรู้จากพ่อตาถึงจะถูก”
หลี่โม่พูดเยินยอพ่อตาเล็กน้อย
“ฮ่าๆๆ นายเยินยอฉันให้น้อยๆหน่อยเถอะ เรารวมตัวกันเยอะเกินไปแบบนี้ไม่สะดวก แยกกันไปดูเถอะ ใครจะอยู่กลุ่มเดียวกับฉันบ้าง?”
กู้เจี้ยนหมินพูดจบ คางเหวินซิงกับท่านแปดก็มองหน้ากัน ทั้งสองไม่อยากเป็นกขค.ของหลี่โม่ จึงเลือกที่จะจับกลุ่มกับกู้เจี้ยนหมิน ส่วนกู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถงจึงติดตามหลี่โม่ไป
หลังจากที่แบ่งกลุ่มกันเสร็จทุกคนก็แยกย้ายกันไป กู้เจี้ยนหมินพาท่านแปดกับคางเหวินซิงเดินจากไปจนหายลับไปอย่างรวดเร็ว
หลี่โม่พากู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถงเดินเข้าไปในงาน ผู้ชายหนึ่งคนควงผู้หญิงสองคน ทำให้หลี่โม่ที่ไม่ว่าจะเดินไปไหนต่างเป็นจุดสนใจของผู้คน ที่สำคัญคือสาวสวยสองคนที่อยู่ข้างกายของหลี่โม่สวยมากๆ
หลี่โม่ทั้งสามเดินเข้าไปในพื้นที่แสดงหยกเหอเถียน ด้านหน้าพื้นที่ส่วนใหญ่ มีการจัดแสดงหยกเหอเถียนขนาดมหึมา ส่วนพื้นที่ตรงกลางส่วนมากเป็นวัตถุดิบชั้นดีกับหยก และแผงสุดท้ายก็มีการขายสินค้าสำเร็จรูปต่างๆ
หลี่โม่มองไปที่หยกจากภูเขาขนาดมหึมาที่อยู่ในพื้นที่จัดแสดงทั้งสองฝั่ง สายตากวาดมองไปมาอย่างไม่ใส่ใจนัก และไม่ได้สนใจวัตถุดิบเหล่านี้
เพราะคุณภาพของหยกจากภูเขานั้นธรรมดา ส่วนมากเป็นสีเหลืองอ่อน กับสีน้ำตาลเป็นต้น หยกรัสเซียมีแค่ส่วนน้อยถึงจะเป็นสีขาวหิมะ แต่หลี่โม่ไม่มีความสนใจของพวกนี้เลย
การเก็บหยกเหอเถียนกับหยกเขียวเหมือนกัน มันสามารถเพิ่มมูลค่าได้ มีเพียงแค่ส่วนหัวที่เป็นสินค้าชั้นดี ไม่เพียงพอต่อการเป็นวัตถุชั้นเลิศ ถึงจะวางไว้เป็นร้อยปีก็ยากที่เพิ่มมูลค่าได้
อย่างไรก็ตามมีพ่อค้าอัญมณีท้องถิ่นจำนวนไม่น้อย ที่เฝ้าดูหยกที่ด้านหน้าบูธอย่างระมัดระวัง มีบางคนเริ่มทำการต่อราคากับเจ้าของร้าน
ในตอนที่เดินใกล้จะถึงพื้นที่ของหยกชั้นดีนั้น จู่ๆเท้าก็หลี่โม่ก็หยุดชะงักลงมา สายตามองไปที่หยกก้อนหนึ่งอย่างสนใจ
หยกก้อนนั้นมีขนาดใหญ่มาก อีกทั้งความขาวยังไม่เลวอีกด้วย มันถูกปะปนอยู่ในหยกรัสเซีย เหมือนจะถูกเจ้าของร้านนำมาขายรวมกับหยกรัสเซีย
หลังจากที่หลี่โม่ถามราคาหยกรัสเซียอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปชี้หยกก้อนนั้นแล้วถามว่า“หยกก้อนนี้ราคาเท่าไรครับ”
“ก้อนนี้เป็นหยกชั้นดีก้อนหนึ่ง ความขาวดีมาก อีกทั้งยังเนียนละเอียดมากด้วย สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นไม่มีรอยแตก เป็นวัตถุดิบที่นำไปทำเป็นกำไลข้อมือชั้นดีได้อย่างแน่นอน ราคาจึงแพงเล็กน้อย”
เจ้าของร้านเป็นผู้มีประสบการณ์ ไม่ได้บอกราคาออกไปตรงๆ แต่แนะนำจุดเด่นของหยกก่อน หลังจากที่แนะนำจบก็จ้องไปที่หลี่โม่แวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็ค่อยๆพูดออกมาว่า“ดังนั้นนะ หยกก้อนนี้ราคาสี่ล้านหยวนครับ”
“สี่ล้านหยวน คุณปล้นกันรึไง ถึงจะดีแค่ไหนมันก็เป็นแค่หยกรัสเซีย ถึงจะทำเป็นกำไลก็ทำได้เพียงแค่เจ็ดแปดอันเท่านั้น ซึ่งมันไม่คุ้มด้วยซ้ำ”
ราคาเสนอขายอยู่ที่สี่หมื่น ทำให้หลี่โม่แปลกใจเล็กน้อย ถ้าหากคำนวณตามราคาเดิมของหยกรัสเซีย การเสนอขายในราคาสี่ล้านจึงถือว่าเป็นราคาที่สูงลิบลิ่ว
ถึงจะเป็นกำไรหยกรัสเซียชั้นเลิศ ราคาตามท้องตลาดก็ขายแค่ไม่กี่แสน ซึ่งทำกำไลได้เจ็ดแปดอันยังขายไม่ได้สองล้านเลย
แกนกำไรที่เหลือกับเศษเหลือทำของบางอย่างออกมา อย่างมากก็ขายได้แค่หนึ่งล้าน หลังจากแปรรูปแล้วเต็มที่ก็ขายได้แค่สามล้าน นี่ยังเป็นเพราะระหว่างแปรรูปไม่มีปัญหาอะไร
ดังนั้นเมื่อเทียบกับราคาสี่ล้านแล้ว นั่นก็เท่ากับการซื้อหยกก้อนนี้ไปเสียเงินขาดทุน
เจ้าของร้านหัวเราะแห้งสองครั้ง“ผมแค่เสนอราคามั่วๆเอง ดูเหมือนว่าคุณจะเข้าใจวิชาชีพนี้ดีนะครับ ถ้าชอบจริงๆสามารถต่อราคาได้นะ”