จักรพรรดิมังกร - บทที่ 671 เดินทางอย่างสบายใจเถอะ
เถียนจื่อหมินโบกมือ เหล่าชายฉกรรจ์ที่ล้อมรอบหลี่โม่ พุ่งเข้าไปจู่โจมหลี่โม่ทันที ในบรรดาคนพวกนั้น มีสองคนที่กระโจนเข้าไปหากู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถง เพื่อจะใช้หญิงสาวทั้งสอง เป็นตัวประกัน
“กรี๊ด!”
กู้หยุนหลันกรีดร้องออกมา เธอเอาตัวติดกับแผ่นหลังของหลี่โม่ และมองชายฉกรรจ์คนที่พุ่งเข้ามาหาเธอ ด้วยแววตาหวาดกลัว
ส่วนเฉินเสี่ยวถงกลับตั้งท่าพร้อมที่จะสู้กับชายฉกรรจ์ ที่จะพุ่งเข้ามา
คนที่เคยเรียนวิชาหมัดเท้าปักบุปผา มาเพียงเล็กน้อยอย่างเฉินเสี่ยวถง ในใจเต็มไปด้วยความกล้าๆ กลัวๆ เธอไม่คิดว่าจะสู้กับชายฉกรรจ์ที่จะพุ่งเข้ามาได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมือของชายฉกรรจ์ ยังมีมีดอีกด้วย
หลี่โม่ได้ยินเสียงกรีดร้องของกู้หยุนหลัน เขาพูดเสียงทุ้มว่า “อย่าตื่นตระหนก มีผมอยู่ทั้งคน”
เมื่อพูดจบ หลี่โม่ก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว มีเงาของหลี่โม่ลอยอยู่กลางอากาศ
ตอนนี้ความเร็วของหลี่โม่อยู่ในจุดสูงสุด มือทั้งสองข้างพุ่งเข้าไปหาชายฉกรรจ์พวกนั้น
เหล่าชายฉกรรจ์พวกนั้น ไม่เคยเห็นความเร็วที่แปลกประหลาดเช่นนี้ พวกเขาตกใจกับความเร็วของหลี่โม่เป็นอย่างมาก
ไม่รอให้พวกเขาตั้งสติได้ ฝ่ามือของหลี่โม่ปะทะเข้ากับใบหน้าของพวกเขา จนทำให้เหล่าชายฉกรรจ์กระเด็นออกไป
เสียงร้องโอดครวญดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหล่าชายฉกรรจ์ที่กระเด็นออกไป ต่างก็กระดูกหักและเส้นเอ็นบิด ไม่มีใครสามารถลุกขึ้นมาได้สักคน ทุกคนต่างตะเกียกตะกายอยู่บนพื้น และร้องโอดครวญออกมา
มีบางคนที่โชคร้าย กระแทกเข้ากับโต๊ะ เก้าอี้และเตียงในห้อง จนทำให้โต๊ะ เก้าอี้และเตียงพังทลาย
ในห้องเต็มไปด้วยความโกลาหล ส่วนเถียนจื่อหมินมองไปรอบๆ อย่างอึ้งๆ เขามองความน่าเวทนาของลูกน้อง แล้วรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว
นี่มันเรื่องอะไรกัน!
ทำไมถึงมีคนที่เก่งขนาดนี้!
เจ้าของแผงลอยมองอย่างตกใจ จากนั้นจึงเป็นลมหงายหลังไป เขาไม่คิดเลยว่าหลี่โม่จะเก่งขนาดนี้
หลี่โม่มองเถียนจื่อหมินด้วยสายตาเย็นชา “นายอยากพูดอะไรไหม”
“มี มีแน่นอน สหาย เอ่อ ไม่ใช่สิ ผมผิดไปแล้วลูกพี่ ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ ผมควรเคารพคุณ ผมจะคุกเข่าเพื่อเป็นการขอโทษ”
เถียนจื่อหมินเตร็ดเตร่มาหลายปี เขาเคยเจออุปสรรคใหญ่มา และรู้ว่าเมื่อเจออุปสรรคใหญ่เช่นนี้ มีเพียงการยอมจำนนเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น
หลังจากพูดจบ เถียนจื่อหมินทรุดลงกับพื้นอย่างไม่ลังเล ขณะที่กำลังจะก้มหัวให้หลี่โม่
เถียนจื่อหมินก้มศีรษะได้เพียงครึ่งเดียว หลี่โม่ก็ยกเท้าขึ้นมา และถีบลงไปบนหน้าผากของเถียนจื่อหมิน
เถียนจื่อหมินรู้สึกมึนไปหมด เหมือนโดนค้อนทุบลงมาที่ศีรษะอย่างแรง เหมือนเนื้อสมองในศีรษะกำลังขยับไปมาอย่างไรอย่างนั้น
เถียนจื่อหมินส่ายศีรษะไปมาอย่างแรง เขารู้สึกว่าเริ่มมีสติขึ้นมานิดหน่อย
“ลงมือได้ดีเลยครับ ผมควรโดนแล้ว ถ้าลูกพี่ยังไม่หายโกรธ ลูกพี่ตบผมมาได้เลย”
“ตบนายเหรอ ฉันกลัวมือจะเปื้อนน่ะสิ เมื่อกี้นายบอกว่าจะทำอะไรฉันนะ”
หลี่โม่ถามอย่างเยือกเย็น
เถียนจื่อหมินสั่นไปทั้งตัว เขามองหลี่โม่อย่างตื่นตระหนก เพราะรู้สึกว่าหลี่โม่กำลังจะลงมือกับเขาอย่างเหี้ยมโหด
เถียนจื่อหมินเสียใจกับคำพูดที่พูดออกไปเมื่อครู่มาก เขายกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเอง
เพียะ!
หลังจากเสียงตบหยุดลง แก้มของเถียนจื่อหมินเป็นรอยนิ้วมือทั้งห้านิ้ว
“ผมมันไม่ใช่คน ผมมันยิ่งกว่าสัตว์ สิ่งที่ผมพูดไปเมื่อกี้ เป็นแค่คำอวดดี ลูกพี่อย่าถือสาเลยนะครับ ผมแค่พูดล้อเล่น ไม่ใช่สิ แค่คำพูดหมาๆ ที่ออกจากปากผมเท่านั้น!”
“คำพูดหมาๆ ที่ออกจากปากนายงั้นเหรอ ถ้านายไม่อยากตาย ทำตามที่นายพูดเมื่อกี้ ควักลูกตาออกมา แล้วก็ทำให้เอ็นแขนและขาของตัวเองขาดซะ” หลี่โม่พูดอย่างไร้เยื่อใย
กู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถง ต่างก็ไม่คิดว่าหลี่โม่ทำเกินไป ถ้าเมื่อกี้พวกเขาตกอยู่ในมือของเถียนจื่อหมิน คงต้องเจอหนักกว่านี้แน่นอน
เถียนจื่อหมินสั่นอย่างหวาดกลัว ถ้าเขาตาบอดและเอ็นแขนขาขาด คงไม่ต้องรอให้ศัตรูบุกมาถึงที่ ไอ้พวกลูกน้องคงฆ่าเขาตายเสียก่อน
“ลูกพี่ครับ ผมจะให้เงินคุณ รวมทั้งสมบัติที่ผมสะสมมาตลอดหลายปี คุณไว้ชีวิตผมด้วยเถอะ ผมสามารถยกสมบัติให้คุณทั้งบ้านเลย! แค่คุณไว้ชีวิตผม!”
“ฉันไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ออกมาทำเรื่องแบบนี้ สักวันจะต้องได้รับผลกรรม วันนี้คือกฎเวียนแห่งสัจธรรมฟ้า ความอดทนของฉันมีขีดจำกัด นายรีบตัดสินใจมาเถอะ”
เมื่อโดนหลี่โม่กดดัน เถียนจื่อหมินถึงกับกัดฟัน เขาก้มหน้าพูด “ได้ ผมจะควักลูกตาและทำให้เอ็นแขนขาขาดด้วยมือตัวเอง เพื่อเป็นการไถ่โทษให้กับคุณ!”
หลี่โม่พยักหน้าเบาๆ และหันหลังไปพูดกับกู้หยุนหลัน “เดี๋ยวจะมีกลิ่นคาวเลือด กลัวว่าจะเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม เธอสองคนออกไปก่อนเถอะ”
“อืม พวกเราไปรอนายข้างนอกนะ”
ตอนที่หลี่โม่กำลังคุยกับกู้หยุนหลัน ดวงตาของเถียนจื่อหมินวูบไหว เขาจะต้องฮึดสู้
ถ้าฆ่าหลี่โม่ได้ถือเป็นเรื่องดีมาก แต่ถ้าฆ่าหลี่โม่ไม่ได้ ชีวิตของเขาต้องจบแน่! เถียนจื่อหมินพึมพำในใจ
เขากำมีดในมือขวาแน่น เถียนจื่อหมินปลดปล่อยพละกำลังออกมาทั้งตัว เขาลุกขึ้นจากพื้น และเอามีดพุ่งไปที่กลางหลังของหลี่โม่
เพราะการกระทำของเถียนจื่อหมิน เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ถึงเฉินเสี่ยวถงจะเห็นการกระทำของเขา แต่เธอไม่ทันได้ตะโกนออกมา เถียนจื่อหมินก็กระโจนเข้าไปข้างหลังหลี่โม่แล้ว
เมื่อได้ยินเสียงประหลาดดังขึ้นจากข้างหลัง หลี่โม่ยกยิ้มมุมปาก เขายิ้มเหมือนเป็นไปตามที่คาดไว้
เขาใช้แรงบิดเอว จากนั้นจึงหันกลับมา และยกขาขวาขึ้นเตะสวิงคิก
ขาของหลี่โม่ยาวกว่าแขนของเถียนจื่อหมิน มีดสั้นของเถียนจื่อหมินไม่ทันปักลงตรงกลางหลังของหลี่โม่
หลี่โม่ก็จัดการได้ก่อนแล้ว เขาเตะไปที่เอวของเถียนจื่อหมิน
พลั่ก!
เสียงเตะลงไปที่เอวของเถียนจื่อหมินดังออกมา เอวของเขาบิดอย่างแปลกประหลาด จากนั้นก็กระเด็นไปกระแทกกับกำแพง
เถียนจื่อหมินล้มลงบนพื้นและกระอักเลือดออกมา เขารู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว เหมือนหัวใจ ตับ ม้าม ปอดและไต โดนหลี่โม่เตะจนฉีกขาด
เถียนจื่อหมินใช้สองมือยันพื้น ตอนที่เขากำลังจะขยับขา จู่ๆ ก็รู้สึกว่าขาทั้งสองข้าง ไร้ความรู้สึกเหมือนขาทั้งสองข้าง ไม่ได้อยู่บนตัวของเขา
“ขา ขาฉัน พรวด!”
ยังไม่ทันพูดจบ เถียนจื่อหมินก็กระอักเลือดออกมาอีก
หลี่โม่กวาดตามองคนที่บาดเจ็บบนพื้นในห้อง เขาส่ายหน้าอย่างไม่สนใจ
“คนฝีมือแบบพวกนาย ยังกล้ามาเหิมเกริม ไม่รู้จริงๆ ว่าพวกนายเอาความมั่นใจมาจากไหน”
ไม่มีใครสามารถตอบคำถามของหลี่โม่ได้ ตอนนี้พวกเถียนจื่อหมินกำลังแกล้งตายอย่างสุดความสามารถ เพราะกลัวว่าหลี่โม่จะรีบลงมือฆ่า
หลี่โม่หันไปจูงมือกู้หยุนหลัน และพากู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถงออกไป
เมื่อเสียงฝีเท้าของทั้งสามคนหายไป เถียนจื่อหมินสะกดกลั้นความเจ็บ และพูดว่า “พาฉันไปโรงพยาบาล ติดต่ออาจารย์ให้ฉันด้วย ฉัน ฉันจะแก้แค้น”
“ลูกพี่ เราจะช่วยติดต่ออาจารย์ให้พี่ แต่พี่ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลแล้ว เราจะส่งพี่ขึ้นสวรรค์ แล้วก็เอาเงินของพี่มาแบ่งกัน พี่เดินทางอย่างปลอดภัยเถอะ”