จักรพรรดิมังกร - บทที่ 673 ระเบิดพละกำลังอันแข็งแกร่ง
“แต่ก็ไม่ควรรีบนะ มีคนอื่นอยู่กับหลี่โม่ด้วย อีกทั้งที่นี่ไม่เหมาะกับการสู้ด้วย”
แววตาของจางเจียต้องวูบไหว เขาคิดว่านี่ยังไม่ใช่เวลาที่จะต่อสู้กับหลี่โม่ เพราะในใจของจางเจียต้องยังพะวงอยู่กับกู้หยุนหลัน เขาอยากฆ่าหลี่โม่ต่อหน้ากู้หยุนหลัน เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองเหนือกว่าหลี่โม่
“ถ้านายกลัว ก็ไปคอยช่วยเหลือฉัน ฉันจะไปจัดการมันเอง”
เฉินฟู่หยิบกรงเล็บเหล็กโลหะผสมไทเทเนียม ใส่ลงบนมือทั้งสองข้าง เขาเชิดหน้ามองจางเจียต้อง และพูดอย่างเย็นชาว่า
“นักรบต้องรบอย่างต่อเนื่อง เราย้อนอดีตไม่ได้แล้ว การล้างแค้นคือความหวังเดียว ที่ทำให้ฉันมีชีวิตอยู่ ตอนนี้โอกาสอยู่ตรงหน้า ฉันไม่อยากให้มันหลุดมือไป”
“แต่ก่อนก็สู้สุดชีวิต แต่การสู้สุดชีวิตไม่เท่ากับการประมาท ถ้านายเจอเรื่องที่คาดไม่ถึง ฉันจะเก็บศพให้นายเอง”
จางเจียต้องหลีกทางให้ เพื่อเป็นการบอกว่าเขาจะไม่ไปกับเฉินฟู่
เฉินฟู่แสยะยิ้ม เขาพูดตอนเดินผ่านจางเจียต้องว่า “คนขี้ขลาด!”
เมื่อเห็นเฉินฟู่หายลับไปในทางเดิน จางเจียต้องอ้าปากหัวเราะออกมา
“เป็นคนขี้ขลาดก็ยังดีกว่าคนที่เดินไปตาย คนที่มีชีวิตถึงจะมีโอกาส การประมาทจะทำให้เรื่องแย่ ถึงจะอยู่ในสภาพครึ่งผีครึ่งคนแบบนี้ แต่ฉันก็ยังมีสติ”
จางเจียต้องก้มหน้าพูดจบ เขาก็เก็บของและออกจากที่นี่อย่างไม่ลังเล ยังเหลือเวลาอีกเก้าวัน ต้องหาจุดอ่อนของหลี่โม่ให้ได้
“ผู้หญิงสองคนนั้น เหมือนจะเป็นจุดอ่อนของหลี่โม่ ไอ้หลี่โม่มีกู้หยุนหลันแล้วยังไม่พอ กล้าจับปลาสองมือ! ฉันต้องฆ่ามันต่อหน้ากู้หยุนหลันให้ได้! ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะจับกู้หยุนหลัน ให้เฉินฟู่ไปถ่วงเวลาหลี่โม่เอาไว้”
จางเจียต้องออกจากห้องอย่างรวดเร็ว เขาเตรียมหาที่ปลอดภัย เพื่อดูการต่อสู้ของหลี่โม่กับเฉินฟู่
……
หลี่โม่มองถนนฝั่งตรงข้าม ตอนที่เขาเห็นเฉินฟู่ เขายื่นมือออกมาผลักท่านแปด ที่ยืนอยู่ข้างๆ เบาๆ
“พาคนของนายออกไปไกลๆ เดี๋ยวถ้าบาดเจ็บขึ้นมา อย่ามาหาว่าฉันไม่เตือนพวกนาย”
ท่านแปดอึ้งไป จากนั้นจึงมองตามหลี่โม่ เขาเห็นเฉินฟู่ที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ฝีเท้าของเฉินฟู่หนักแน่น ทุกก้าวที่เขาเดิน ทำให้พื้นยุบลงไป เฉินฟู่กำลังกักเก็บพละกำลัง
เหมือนกับการสะสมพลังความโกรธในเกม และปลดปล่อยท่าไม้ตายออกมา เฉินฟู่เดินด้วยความโกรธเริ่มต้นที่ 250 ทุกก้าวของเขา เพิ่มขึ้นทีละ 2 ตอนนี้ความโกรธของเขาสะสมถึงขีดสุด สามารถใช้ท่าไม้ตายออกมาได้ทุกเมื่อ
ท่านแปดมองพื้นที่แตกร้าว รวมไปถึงพละกำลังที่เฉินฟู่สะสมไว้ เขารู้สึกว่าทุกอย่างในร่างกายบีบรัดตัว รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว
ถึงท่านแปดจะเจอคนมีฝีมือมามากมาย แต่เขาไม่เคยเห็นคนที่มีพละกำลังพุ่งสูงเช่นนี้ ตอนนี้เฉินฟู่ทำให้ท่านแปดรู้สึกว่าตัวเองเห็นแม่ทัพที่สามารถฆ่าทหารนับล้านได้
“นี่ นี่มันใครกัน พละกำลังของคนนี้ ไม่เหมือนกับคนอื่น นายน้อยไปก่อนดีกว่า ผมจะให้คนระวังหลังให้!” ท่านแปดสะกดกลั้นความตื่นกลัว และพูดออกมา เสียงของเขาสั่นเครือ
ตอนนี้เหล่าผู้คุ้มกันที่ตามท่านแปดมา ตัวสั่นอย่างอดไม่ได้ แค่พละกำลังที่ออกจากตัวเฉินฟู่ ก็ทำให้พวกเขากลัวแล้ว พวกเขาไม่มีความคิดที่จะต่อกรกับเฉินฟู่แม้แต่น้อย
“พวกนายไม่ต้องมาเสียสละ พาคนของนายกลับไปเถอะ” หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และหยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้ที่ปาก และจุดไฟสูบ เหมือนเขาไม่รู้สึกอะไรกับพละกำลังของเฉินฟู่
ท่านแปดไม่กล้าลังเล เขาแสดงความภักดีไปแล้ว ถ้าขืนยังเซ้าซี้ เขาคงไม่รอดแน่
“นายน้อย คุณระวังตัวด้วย พวกเราจะอยู่ข้างๆ จะเข้ามาช่วยคุณทุกเมื่อ!”
พูดจบท่านแปดก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว และพาผู้คุ้มกัน ถอยเข้าไปในโรงแรม
“โอ้มายก็อด นายน้อยไปล่วงเกินผู้มีฝีมือคนไหนเนี่ย คนธรรมดาไม่มีทางมีพละกำลังเช่นนี้ ถ้านายน้อยโดนฆ่าตาย……ทำมันฉันถึงซวยขนาดนี้เนี่ย หรือฉันเป็นตัวซวยที่ลงมาเกิด เพื่อทำให้คนตายโดยเฉพาะ”
ท่านแปดสงสัยในชีวิตของตัวเอง คิดไม่ออกว่าทำไมตัวเองถึงซวยขนาดนี้ ไม่ง่ายเลยกว่าที่จะตัดสินใจมาพึ่งพาหลี่โม่ แต่จู่ๆ ก็มีคนที่น่ากลัวและเหี้ยมโหด จะมาฆ่าหลี่โม่
“ท่านแปด เราถอยอีกดีกว่า กลัวว่าตรงนี้จะไม่ปลอดภัย ทางที่ดีหนีออกไปทางประตูหลังเถอะ”
“ใช่ พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนนั้น ถึงจะพุ่งเข้าไปหาที่ตาย ก็ทนได้ไม่ถึงสามวินาทีหรอก ฝีมือของเราไม่สามารถสู้กับเขาได้”
ผู้คุ้มกันต่างพากันตื่นตระหนก พวกเขาไม่มีความคิดที่จะสู้ มีเพียงความคิดที่จะหนีเอาตัวรอดเท่านั้น
ท่านแปดลังเลครู่หนึ่ง เขาคิดว่าซวยมาขนาดนี้แล้ว เป็นไงก็เป็นกัน
อยู่รอหลี่โม่ที่นี่ อาจจะได้มีผลดี ถ้าขืนออกไปดื้อๆ ก็จะกลายเป็นตัวซวยที่ไม่มีใครเอ็นดูรักใคร่
“ถ้าอยากไป พวกนายก็ไปก่อนเลย ฉันจะอยู่ร่วมเป็นร่วมตายกับนายน้อยที่นี่!”
เมื่อได้ยินท่านแปดพูดเช่นนี้ เหล่าผู้คุ้มกันก็ไม่เกลี้ยกล่อมอีก และทำได้เพียงยืนข้างท่านแปด ด้วยสีหน้าทุกข์ระทม
เฉินฟู่ชะงักฝีเท้าเมื่ออยู่ห่างจากหลี่โม่ห้าเมตร เขาจ้องหลี่โม่อย่างน่ากลัว และยกกรงเล็บเหล็กโลหะผสมไทเทเนียมในมือทั้งสองข้างขึ้นมา
“หลี่โม่ นายคงคิดไม่ถึงว่าฉันจะกลับมาสินะ เมื่อก่อนนายแข็งแกร่งกว่าฉัน แต่ตอนนี้ ฉันแข็งแกร่งกว่านายเยอะ! ฉันยอมทนอยู่ในสภาพที่น่าเกลียดแบบนี้ เพียงเพราะต้องการกลับมาแก้แค้นนาย! รับความโกรธแค้นของฉันไปซะเถอะ!”
“ปัญญาอ่อน คิดไม่ถึงว่าจะยอมอยู่ในสภาพครึ่งผีครึ่งคนแบบนี้ ให้ฉันเดา นายคือเฉินฟู่สินะ พนักงานร้านกาแฟกากเดนคนนั้น”
“นาย! ให้ตายเถอะ!”
เฉินฟู่แผดเสียงออกมา เขากระแทกเท้าทั้งสองข้างลงกับพื้นอย่างแรง พื้นคอนกรีตพังทลายและมีหลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น
ท่านแปดมองพื้นที่ยุบเป็นหลุมขนาดใหญ่ ด้วยพละกำลังของเฉินฟู่ เขาตกใจจนอ้าปากค้าง
“โอ้โห จู่ๆ ก็ระเบิดพละกำลังออกมาได้ขนาดนี้ นี่เขายังเป็นคนอยู่ไหม!”
เฉินฟู่เป็นคน แต่ก็ไม่ใช่คน เพราะเขาใช้ยาในการทดลองหลายอย่าง จนทำให้เขาเหมือนเครื่องสังหาร
เฉินฟู่ที่ดีดตัวออกไป พุ่งเข้าไปหาหลี่โม่ราวกับกระสุนปืนใหญ่ กรงเล็บเหล็กอยู่ตรงหน้า เพื่อเตรียมที่จะจู่โจม ตอนที่ปะทะกับหลี่โม่ เป็นการจู่โจมแบบครั้งเดียวถึงชีวิต
หลี่โม่ยืนมองเฉินฟู่ที่กำลังพุ่งเข้ามาอย่างเงียบๆ เขาแสยะยิ้มออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
“ก็แค่มีพละกำลังเยอะ แต่ยังโง่อยู่ดี”
หลี่โม่พูดแขวะ และยกขาขึ้นมาเตะเบาๆ
ดูเหมือนเป็นการเตะเบาๆ ที่ไม่ได้ใช้แรงอะไร แต่มันมีพละกำลังแฝงที่น่าทึ่ง มันไม่ได้เบาอย่างที่เห็น
เมื่อเห็นเตะเบาๆ ของหลี่โม่ เฉินฟู่ไม่รู้สึกอะไร และไม่คิดที่จะป้องกันตัว