จักรพรรดิมังกร - บทที่ 674 นี่มันแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
เฉินฟู่ไม่เพียงแต่จะมีพละกำลังมหาศาล กล้ามเนื้อบนร่างกายของเขา ยังถูกกระตุ้นด้วยยาเสริมสร้างความเข้มแข็ง เขามีความต้านทานสูงกว่าคนทั่วไปมาก
ดังนั้นเฉินฟู่จึงไม่กังวลการจู่โจมของหลี่โม่ เฉินฟู่คิดว่าถ้าหลี่โม่เตะโดน ตัวหลี่โม่เองนั่นแหละ ที่จะโดนแรงกระแทกจากตัวเขา จนทำให้ขาหัก
“แรงแค่นี้ จะทำอะไรฉันได้ น่าขำชะมัด! ฉันจะให้แกเห็น……อ๊าก!”
พลั่ก!
ขาของหลี่โม่เตะมาบนศีรษะของเฉินฟู่ แรงมหาศาลทำให้หัวของเฉินฟู่เอียงไปอีกทาง และพละกำลังอันมหาศาลยังแทรกซึมเข้าไปทั่วร่างกายของเฉินฟู่ ตัวของเฉินฟู่ลอยกระเด็นออกไป
พวกท่านแปดมองอย่างตกตะลึง ไม่รู้จะอธิบายความตื่นตระหนกในใจอย่างไร
“นี่มันสี่ตำลึงปาดพันชั่งในตำนานหรือเปล่า เตะของนายน้อยดูเหมือนจะไม่แรงเท่าไร มันแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย ฉันก็ทำได้สบายๆ! แต่ฉันสามารถเตะคนนั้นจนปลิวได้หรือเปล่า เป็นไปไม่ได้แน่นอน”
ท่านแปดพูดพึมพำกับตัวเอง เขารู้สึกว่าความรู้ต่อโลกกำลังพังทลาย ไหนบอกว่าคนที่มีพละกำลังมากจะเป็นราชา ทำไมถึงมีเหตุการณ์ตรงหน้าขึ้นมาได้! หลี่โม่ทำได้ยังไงกัน
เฉินฟู่ก็ทึ่งไปเหมือนกัน ตอนแรกคิดว่าการที่ตัวเองโจมตีอย่างรวดเร็ว จะสามารถจัดการหลี่โม่ได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะโดนหลี่โม่เตะเบาๆ จนกระเด็นออกมาแบบนี้
“พลั่ก!” เฉินฟู่กระแทกกับพื้นอย่างแรง จนทำให้พื้นยุบเป็นหลุมใหญ่ ฝุ่นลอยตลบอบอวล เหมือนเพิ่งเกิดการระเบิดย่อมๆ
เฉินฟู่เอามือทั้งสองข้างกุมหัวที่รู้สึกมึน เขายืนขึ้นมาด้วยความมึนงง และเดินออกจากหลุมเหมือนคนเมา
“นายทำได้ยังไง นายต้องรับมือฉันไม่ได้สิ! ฉันไม่ควรโดนนายถีบกระเด็นแบบนี้!”
“นี่คือพละกำลังทางเทคนิค”
“พละกำลังทางเทคนิคงั้นเหรอ พละกำลังทางเทคนิคบ้านนายสิ รู้จักพละกำลังหนึ่งล้มสิบหรือเปล่า ความเร็วที่ไม่สามารถหาตัวจับได้ ฉันมีความเร็วแบบนั้น!”
เฉินฟู่แผดเสียงออกมาอย่างโมโห เขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงโดนจู่โจมง่ายเช่นนี้ หลี่โม่ต้องโดนเขาจัดการอย่างง่ายดายสิถึงจะถูก!
หลี่โม่ยิ้มและเดินเข้ามาหาเฉินฟู่ เขากระดิกนิ้วให้เฉินฟู่ “มาสิ เรามาเล่นกันต่อ ให้ฉันดูหน่อยว่านายยังมีความสามารถอะไรอีก”
“ไอ้เวร!”
เฉินฟู่พุ่งเข้าไป เขาสะบัดกรงเล็บเหล็กโลหะผสมไทเทเนียมอย่างบ้าคลั่ง จนทำให้เกิดเป็นเงากลางอากาศ
“ไม่มีความสามารถอะไรแล้วสินะ นายก็แค่อาศัยสัญชาตญาณการต่อสู้ของสัตว์ ต่ำชะมัด ดูเหมือนว่าพวกคนที่ทำให้นายกลายเป็นสัตว์ประหลาด จะไม่ได้ใช้ของดีกับนาย”
หลี่โม่สะบัดมือทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว เขาจับข้อมือทั้งสองข้างของเฉินฟู่ ท่ามกลางเงาของกรงเล็บ เขาใช้มือบิดอย่างรวดเร็ว เสียงกระดูกหักดังออกมา ข้อมือทั้งสองข้างของเฉินฟู่หักเป็นที่เรียบร้อย
“อ๊าก! มือฉัน! ทำไมถึงเป็นแบบนี้ นาย นายทำได้ยังไง”
เฉินฟู่เจ็บจนถลึงตาออกมา เขามีแรง แต่ไม่สามารถใช้ออกมาได้ ตอนแรกคิดว่าจะเป็นการต่อสู้แบบช้างขยี้มด แต่ทำไมมดกลับบดขยี้ช้างจนจมดินได้ล่ะ
“หึหึ บอกแล้วไง นี่คือพละกำลังทางเทคนิค การต่อสู้แบบหนึ่งล้มสิบ มันสามารถแทนการต่อสู้แบบหนึ่งล้มสิบได้ นายมีแค่พละกำลังเท่านั้น แต่นายไม่รู้จักวิธีการใช้มัน ความสามารถในการต่อสู้ของนาย ยังห่างชั้นกับฉันเยอะ เหมือนกับความต่างชั้นของรถยนต์ออดี้กับรถยนต์อัลโต้ยังไงล่ะ”
เฉินฟู่ได้ยินก็อึ้งไป อะไรที่บอกว่าต่างชั้นเหมือนรถยนต์ออดี้กับรถยนต์อัลโต้ ถ้าเป็นแบบนั้น คนอย่างเฉินฟู่ก็ต้องเป็นรถออดี้สิถึงจะถูก!
เฉินฟู่ตาแดงก่ำ เขาไม่มีกะจิตกะใจคุยกับหลี่โม่ เขาอยากจะสู้สุดใจกับหลี่โม่เท่านั้น!
เฉินฟู่หันข้าง เขาใช้พละกำลังทั้งหมดไปที่ไหล่ และพุ่งเข้าไปชนกลางอกหลี่โม่ เขาจะเอาชีวิตของหลี่โม่ต่อ
หลี่โม่ส่ายหน้า เขาใช้มือทั้งสองข้างจับไหล่เฉินฟู่ จากนั้นจึงใช้แรงบิดไหล่ทั้งสองข้างของเฉินฟู่
“อ๊าก!”
เฉินฟู่ร้องโอดครวญออกมา เพราะความเจ็บที่หัวไหล่ ทำให้เฉินฟู่ไม่สามารถใช้แรงต่อได้ เขาทำได้เพียงชนอกหลี่โม่เบาๆ
หลี่โม่ยิ้มบางๆ เขาใช้มือทั้งสองข้างจับเอวเฉินฟู่เบาๆ เสียงกรอบดังออกมา กระดูกสันหลังส่วนบั้นเอวของเฉินฟู่ โดนหลี่โม่ดึงออกมา
เพียงพริบตาเดียว เฉินฟู่เหมือนคนพิการที่ไร้เรี่ยวแรง
ท่านแปดและคนอื่นที่ยืนอยู่ตรงโถงของโรงแรม ต่างพากันสูดหายใจเฮือกและซี๊ดปาก ราวกับกินพริกโกสต์เปเปอร์อย่างไรอย่างนั้น
“โอมายก็อด ทำไมนายน้อยเก่งขนาดนี้ การต่อสู้ครั้งนี้จบลงแล้ว เรียกได้ว่าเครื่องสังหารมนุษย์!”
“ท่านแปด ผมคิดว่าคุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด ก่อนหน้านี้นายน้อยคงซ่อนพละกำลังที่แท้จริงเอาไว้ ต่อไปนายน้อยคงสามารถพลิกกลับมาชนะได้แน่นอน”
ท่านแปดพยักหน้าเบาๆ เขาพูดเสียงทุ้มว่า “พวกแกเลิกพูดประจบได้แล้ว ถ้าเก่งก็ไปพูดประจบนายน้อยให้มีความสุขสิ”
ทว่าในร้านอาหารเล็กๆ ริมถนน จางเจียต้องถอนหายใจออกมา เขาลูบหน้าอกตัวเอง เพราะยังรู้สึกกลัวไม่หาย
“นี่มันเหนือความคาดหมายมาก หลี่โม่เก่งขนาดไหนกันนะ ถึงความรู้และเทคนิคด้านการต่อสู้ของเฉินฟู่จะไม่ได้ความ แต่พละกำลังหลังจากที่ใช้ยาเสริมสร้างความเข้มแข็ง เหนือกว่ายอดฝีมือหลายคน แต่เขาไม่มีแม้แต่โอกาสจะตอบโต้กลับด้วยซ้ำ นี่มันเหนือจินตนาการจริงๆ”
จางเจียต้องรู้สึกโชคดีที่ตัวเองไม่ประมาท นี่ยิ่งทำให้เขาแน่ใจว่าไม่ควรดึงดันกับหลี่โม่ ต้องใช้วิธีทางอ้อม โดยการควบคุมกู้หยุนหลันให้ได้เสียก่อน จากนั้นจึงค่อยจัดการหลี่โม่
เมื่อตัดสินใจได้ จางเจียต้องจึงไม่ลังเลอีก เขาเดินเข้าไปปะปนกับผู้คน และรีบออกไปทันที
หลี่โม่เอาตัวเฉินฟู่ที่ไร้เรี่ยวแรงโยนลงบนพื้น เขาก้มหน้าลงมองเฉินฟู่ พร้อมรอยยิ้มบางๆ “พูดมา เมื่อกี้ใครอยู่กับนาย ถ้าฉันเดาไม่ผิด คงเป็นจางเจียต้องสินะ”
“หึ ฉันไม่พูดอะไรทั้งนั้น” เฉินฟู่ตอบกลับอย่างดื้อดึง เขาหลับตาทำเป็นแกล้งตาย
“งั้นฉันขอใช้ร่างกายของนายซ้อมมือหน่อยแล้วกัน นานมากแล้วที่ไม่ได้หักกระดูกข้อต่อของคน ในที่สุดวันนี้ก็ได้ซ้อมสักที เดี๋ยวจะลืมว่ากระดูกข้อต่อของคนมีกี่ชิ้น”
หลี่โม่นวดข้อมืออย่างสนุกสนาน
เฉินฟู่ลืมตาโพลง เขามองหลี่โม่อย่างหวาดกลัว ตัวของเขาเริ่มสั่นขึ้นมา
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่พูด แต่ฉันพูดไม่ได้ ถ้าฉันพูด ฉันต้องตาย!”
“งั้นนายก็รีบพูดมาสิ จะดื้อดึงไปทำไม ถ้าพูดออกมาแล้วตาย นายก็เขียนหรือวาดออกมาก็ได้ทั้งนั้น” หลี่โม่พูดยียวน
“ให้ตายฉันก็ไม่พูด! ยังไงฉันก็ตายมาแล้วครั้งหนึ่ง นายมีปัญญาก็ฆ่าฉันสิ อย่ามาทรมานฉัน!”
เฉินฟู่ขอแค่ได้ตายเร็วๆ แค่เขาตายเรื่องทุกอย่างก็จบ ถ้าโดนหลี่โม่ทรมานต่อไป มันทรมานยิ่งกว่าตายเสียอีก