จักรพรรดิมังกร - บทที่ 679 ฆ่าล้างตระกูล
ขณะที่หลี่โม่กินพุดดิ้งนมสดที่กู้หยุนหลันป้อนให้ ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหล่าไม่เหมือนใคร เดินเข้ามา
บนข้อมือของชายหนุ่มมีนาฬิกาที่ทำจากทอง บนตัวเรือนยังประดับด้วยเพชรสีเหลืองทอง มันเป็นนาฬิกาทองคำแบรนด์ CORUM รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น เป็นที่ชื่นชอบของสังคมชนชั้นสูงในต่างประเทศ
เสื้อผ้าบนตัวของชายหนุ่มคนนั้น ดูเหมือนจะธรรมดาทั่วไป แต่ทั้งหมดล้วนเป็นงานแฮนด์เมด โดยดีไซเนอร์จากต่างประเทศ ราคามันแพงกว่าเสื้อผ้าแบรนด์หรูเสียอีก
ชายหนุ่มคนนั้นมองหลี่โม่อย่างไม่เป็นมิตร แต่สายตาที่มองไปยังกู้หยุนหลัน เต็มไปด้วยความรัก มองก็รู้ว่าเป็นคนที่ตามจีบกู้หยุนหลัน
กู้หยุนหลันขมวดคิ้ว เหมือนไม่ชอบสายตาที่ชายหนุ่มมองมา
ร่างบอบบางถอยหลังไป ตัวของกู้หยุนหลันเกือบครึ่งตัว หลบอยู่ข้างหลังหลี่โม่ เหมือนกำลังจะบอกว่าตัวเองมีเจ้าของแล้ว และให้ชายหนุ่มคนนั้นรีบออกไปเสียจะดีกว่า
หลี่โม่มองชายหนุ่มที่เดินเข้ามา เขาเห็นชายหนุ่มแต่งหน้าบางๆ ใบหน้าของชายหนุ่ม สวยยิ่งกว่าหญิงสาวเสียอีก จู่ๆ หลี่โม่ก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมา
ผู้ชายสไตล์ออกสาวแบบนี้ หลี่โม่มองไม่ลงจริงๆ
“ไอ้หมอนี่เป็นผู้ชายหรือเปล่า ทำไมจะชายก็ไม่ชาย จะเกย์ก็ไม่เกย์ โลกนี้มันอะไรกัน สไตล์ผู้ชายออกสาวนี่ได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ” หลี่โม่ส่ายหน้าพูด
กู้หยุนหลันเบะปาก และโน้มหน้าไปใกล้หูหลี่โม่ “ก็สไตล์เกาหลีที่กำลังได้รับความนิยมอะไรทำนองนั้นมั้ง กลายเป็นแบบนี้ไปหมดแล้ว หวังว่าต่อไปผู้หญิงอย่างเรา อย่าไปชอบพวกผู้ชายแบบนี้”
กู้หยุนหลันเริ่มกังวลกับสเปคของลูกสาวตัวเองแล้ว ถ้าความนิยมในตอนนี้ทำให้เบี่ยงเบน กู้หยุนหลันก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว
หลี่โม่หันมาพูดกับกู้หยุนหลัน “คุณไม่ต้องกังวล มีผู้ชายแมนๆ อย่างผมทั้งคน สเปคของลูกสาวเราไม่มีทางเบี่ยงเบนอย่างแน่นอน”
หลี่โม่กับกู้หยุนหลันสุมหัวคุยกันเบาๆ แต่เมื่อมองจากมุมของชายหนุ่ม เหมือนทั้งสองกำลังจูบกัน
ความริษยาก่อตัวขึ้นในใจของชายหนุ่ม เพื่อที่จะทำภารกิจที่ราชาใหญ่ของสำนักหลงเหมิน มอบหมายให้สำเร็จ หลงห้าวเทียนเชิญอาจารย์จิตวิทยา เข้ามาทำการชักจูงให้ภายในใจลึกๆ ของเขาแอบรักกู้หยุนหลัน
แววตาสงบนิ่งหายไปทันที หลงห้าวเทียนเดินไปข้างหน้าโต๊ะ และตบโต๊ะอย่างแรง
“ช่วยเกรงใจภาพลักษณ์ของตัวเอง ในที่สาธารณะหน่อยได้หรือเปล่า มาทำเป็นจู๋จี๋กันแบบนี้ ไร้มารยาท! โดยเฉพาะผู้ชายกากเดนคนนี้ ช่วยไปไกลๆ จากผู้หญิงในดวงใจฉันด้วย!”
กู้หยุนหลันมองหลงห้าวเทียนอย่างโกรธเคือง “นายอย่ามาพูดไร้สาระ ฉันพูดกับสามี เกี่ยวอะไรกับนาย มันไร้มารยาทตรงไหนไม่ทราบ! นายนั่นแหละมาบ่นอะไร”
“เธอมาจู๋จี๋กับมันต่อหน้าคนเยอะแยะแบบนี้ เธอจะสวมเขาให้ฉันใช่ไหม! กู้หยุนหลัน เธอคือผู้หญิงของฉันหลงห้าวเทียน!”
จู่ๆ กู้หยุนหลันก็อึ้งไป เธอไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคือใคร แต่ไอ้หมอนี่มาพูดบ้าๆ กับเธอแบบนี้
“นายพูดบ้าอะไร! ฉันไม่รู้จักนายสักนิด อีกอย่างฉันแต่งงานแล้ว หลี่โม่เป็นสามีของฉัน!” กู้หยุนหลันพูดเสียงสูง
“เหอะๆ ฉันรู้ว่ามันคือสามีของเธอในปัจจุบัน แต่อีกไม่นานมันจะกลายเป็นอดีต! ต่อไปเธอคือผู้หญิงของฉัน ต่อไปฉันคือผู้ชายคนเดียวของเธอเท่านั้น!”
หลงห้าวเทียนสติแตก หลังจากได้รับการชักจูงจากอาจารย์จิตวิทยา หลงห้าวเทียนก็ผิดปกติไป
เขามองหลี่โม่อย่างเคียดแค้น หลงห้าวเทียนพูดอย่างเย็นชา “หลี่โม่ รีบหย่ากับผู้หญิงของฉันซะ ต่อไปอยู่ให้ห่างจากผู้หญิงของฉัน ไม่งั้นฉันจะฆ่าล้างตระกูลนาย!”
หลี่โม่กำลังกินซุป เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงห้าวเทียนพูด เขาก็พ่นซุปไปทางหลงห้าวเทียน
“พรวด!”
ท่อนบนของเสื้อผ้างานแฮนด์เมดสุดหรูบนตัวของหลงห้าวเทียน ถูกหลี่โม่พ่นซุปใส่จนเปียกชื้น สายตาที่เขามองหลี่โม่ เหมือนจะฆ่าหลี่โม่ทางสายตาอย่างไรอย่างนั้น
“นายจะฆ่าล้างตระกูลฉันเหรอ มีปัญญาก่อนแล้วค่อยทำ พูดโกหกจะโดนฟ้าผ่าเอานะ ไม่แน่ ฉันอาจจะฆ่าล้างตระกูลนายก็ได้! คนหนุ่มต้องหัดอ่อนน้อมถ่อมตนถึงจะถูก” น้ำเสียงของหลี่โม่ ไม่มีความเกรงใจแม้แต่น้อย
หลงห้าวเทียนก้มหน้ามองเสื้อที่โดนซุปพ่นใส่ แถมยังได้ยินคำพูดสั่งสอนของหลี่โม่ หลงห้าวเทียนโมโหเป็นอย่างมาก
“ไอ้กระจอก นายเหิมเกริมมาก ฉันเป็นคนของตระกูลหลง! กล้ามาหือกับฉันแบบนี้ จุดจบของนายไม่สวยแน่! อย่าคิดว่าตอนนี้ตัวเองเก่ง นายมันก็แค่เด็กที่ถูกทอดทิ้งเท่านั้น!”
“คนของตระกูลหลงอีกแล้วเหรอ ดูเหมือนคนตระกูลหลงคงจะตัดสินใจเป็นศัตรูกับฉันแล้วสินะ”
หลี่โม่หรี่ตามองหลงห้าวเทียน รังสีอาฆาตแผ่ออกจากตัวของเขา
กู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถงรู้สึกถึงความอาฆาต ที่แผ่ออกจากตัวหลี่โม่ พวกเธอรู้สึกหนาวยะเยือกไปทั้งตัว
หลงห้าวเทียนตบโต๊ะอย่างโมโห เขาชี้หน้าหลี่โม่
“นายกล้ามาดูหมิ่นตระกูลหลง รนหาที่ตายชัดๆ! แค่นายให้กู้หยุนหลันไปกับฉัน ฉันจะไม่ถือสากับคำพูดสามหาวของนายวันนี้ แต่ถ้านายไม่ยอม ฉันจะสั่งสอนกากเดนอย่างนาย แทนคุณปู่เอง!”
หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา “คนอย่างนายเนี่ยนะ จะสั่งสอนแทนปู่ ถ้าปู่นายเจอฉัน คงไม่กล้าเหิมเกริมอย่างนี้หรอก นายทำตัวว่านอนสอนง่ายจะดีกว่า”
หลงห้าวเทียนสีหน้าเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก เขาพูดอย่างเคียดแค้นว่า “ไอ้สวะ! ฉันอุตส่าห์ไว้หน้านาย วันนี้ฉันจะจัดการแกเอง!”
เมื่อพูดจบ หลงห้าวเทียนกวักมือเรียกบอดี้การ์ดสี่คนที่อยู่ข้างนอกเข้ามา
เจ้าของร้านน้ำชารีบเดินเข้ามา เขาพูดขอร้องด้วยสีหน้าลำบากใจ “ทุกท่านคุยกันดีๆ เถอะครับ อย่ามีเรื่องกันในร้านเลยครับ ผมทำธุรกิจเล็กๆ เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว รับการกระทำของพวกคุณไม่ไหวหรอกครับ”
หลงห้าวเทียนผลักเจ้าของร้านอย่างไม่พอใจ เจ้าของร้านลื่นจนล้มลงกับพื้น
หลี่โม่ทนดูไม่ได้ และยกมือตบหน้าหลงห้าวเทียนจนหน้าหันไปสามรอบ
จากนั้นหลี่โม่จึงเดินเข้าไปประคองเจ้าของร้าน “เถ้าแก่ไม่ต้องกังวล เราไม่สร้างความวุ่นวายในร้านของคุณแน่นอน นี่เงินค่าอาหาร คุณเก็บไว้”
เจ้าของร้านมองหลี่โม่อย่างซาบซึ้ง เขาพูดเสียงเบาว่า “แค่มองก็รู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คนดี ผมช่วยคุณโทรหาสายตรวจดีกว่า เดี๋ยวสายตรวจมา ผมจะเป็นพยานให้”
“ขอบคุณมาก แต่ไม่ต้องลำบากหรอก พวกนั้นจัดการง่ายจะตาย”
หลี่โม่ไม่เห็นหลงห้าวเทียนอยู่ในสายตา ก็แค่หลานของตระกูลราชาใหญ่ของสำนักหลงเหมินเท่านั้น ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงของหลี่โม่
หลงห้าวเทียนโดนตบจนหน้าปูด เขาเอามือทั้งสองข้างจับแก้ม และตวาดออกมาว่า “ไอ้เหี้ย! สวะอย่างแกกล้าตบฉันเหรอ!”