จักรพรรดิมังกร - บทที่ 680 นายหนีสิ
“หลี่โม่! แกกล้าตบฉัน! พวกแกสี่คนปัญญาอ่อนหรือไง ไม่เห็นเหรอว่าฉันโดนตบ! ไปจับมันแล้วสั่งสอนมันซะ ถ้าไม่ตาย เรื่องนี้ไม่จบแน่!”
บอดี้การ์ดทั้งสี่คนล้อมหลี่โม่เอาไว้ หลี่โม่ยิ้มแล้วพูดว่า “อย่ามาตีกันในร้านของคนอื่น เราไปตีกันข้างนอกเถอะ ที่นี่มันเล็ก พวกแกสี่คนจะแสดงฝีมือออกมาไม่ได้ ฉันจะจัดการพวกแกทีละคนเอง”
จู่ๆ คนที่มาทานอาหาร พากันส่งเสียงเชียร์ อย่างไม่กลัวอะไร
“ฮ่าๆๆ สหายคนนี้พูดเก่งจริงๆ นายคนเดียวจะสู้สี่คนนั้นยังไง ฉันไม่เคยเจอการต่อสู้แบบนี้มาก่อน”
“เหมือนสหายคนนี้จะตกใจจนพูดผิด น่าจะเป็นสี่รุมหนึ่งมากกว่านะ”
กู้หยุนหลันเป็นกังวล เธอรู้สึกว่าเรื่องมันเริ่มใหญ่แล้ว ตอนนี้หลี่โม่โกรธหลงห้าวเทียนมาก เรื่องมันเลยเถิดไปแล้ว
แถมตระกูลหลงที่หลงห้าวเทียนพูด น่าจะเป็นคนที่ไม่น่าไปหาเรื่องด้วย นี่ทำให้กู้หยุนหลันกลุ้มใจเข้าไปใหญ่
“หลี่โม่ นายใจเย็นๆ อย่าไปขัดแย้งกับเขา อย่ามีเรื่องกันดีกว่า”
หลี่โม่โบกมือไปมา เป็นการปฏิเสธคำแนะนำของกู้หยุนหลัน
“ไม่เป็นไร แค่ตัวตลกเท่านั้น ดูสามีของคุณจัดการพวกมันเถอะ” หลี่โม่พูดพลางขยับข้อมือของตัวเอง
หลงห้าวเทียนได้ยินคำพูดของหลี่โม่ ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ เขาโกรธจนหน้าอกกระเพื่อม สีหน้าของเขาไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก
“พวกแกอยากให้ฉันขายหน้าเหรอ! ยังไม่รีบลากไอ้เลวนี่ออกไปจัดการอีก!” หลงห้าวเทียนตวาดใส่บอดี้การ์ด
หลี่โม่แสยะยิ้ม และพากู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถงเดินไปนอกร้าน
บอดี้การ์ดทั้งสี่คนของหลงห้าวเทียนจ้องตามหลังหลี่โม่ เมื่อหลี่โม่ออกไปนอกร้าน บอดี้การ์ดทั้งสี่ก็ล้อมหลี่โม่เอาไว้
“ไอ้กระจอก แกกล้าดียังไง ถึงกล้าหาเรื่องคุณชายหลงของเรา วันนี้พวกเราจะจัดการแกเอง!”
หัวหน้าบอดี้การ์ดพูดอย่างโหดเหี้ยม หมัดทั้งสองข้างพุ่งไปที่หัวของหลี่โม่
บอดี้การ์ดอีกสามคนที่เหลือลงมือตีไปที่หลังและอกของหลี่โม่ พวกเขาดูเป็นฝ่ายได้เปรียบเพราะคนมากกว่า
เมื่อเห็นท่าทางของบอดี้การ์ดทั้งสี่ ก็รู้ทันทีว่าฝีมือของพวกเขาไม่ธรรมดา
หลงห้าวเทียนมองท่าทางของบอดี้การ์ดตัวเอง ภาพที่หลี่โม่โดนจัดการ จนร้องหาพ่อแม่ ลอยเข้ามาในหัวของเขา เขายกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ
“กู้หยุนหลัน ดูผู้ชายของเธอโดนคนของฉันทำร้ายจนตายเถอะ! อีกเดี๋ยวเธออย่าร้องก็แล้วกัน พอหลี่โม่ตาย แค่เธอมาเป็นผู้หญิงของฉัน ฉันจะไว้ชีวิตเธอ” หลงห้าวเทียนพูดอย่างร้ายกาจ
“ฝันไปเถอะ อย่าว่าแต่บอดี้การ์ดสี่คนของนายเลย ถึงมาสักสี่สิบคน ก็สู้สามีฉันไม่ได้หรอก!”
คนที่เคยเห็นหลี่โม่ต่อสู้อย่างกู้หยุนหลัน ไม่กลัวคำพูดของหลงห้าวเทียน เธอกังวลแค่ว่าหลี่โม่จะทำร้ายหลงห้าวเทียน แล้วจะทำให้ตระกูลหลงมาล้างแค้น
ถึงจะไม่รู้ว่าตระกูลหลงมีอำนาจแค่ไหน แต่กู้หยุนหลันแน่ใจว่าตระกูลหลงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
เฉินเสี่ยวถงดึงแขนกู้หยุนหลัน แล้วพูดเบาๆ ว่า “พี่หยุนหลัน เราอย่าไปสนใจผู้ชายออกสาวคนนี้เลย”
หลงห้าวเทียนเห็นกู้หยุนหลันยังดึงดัน แถมยังได้ยินเฉินเสี่ยวถงว่าเขาเป็นผู้ชายออกสาวอีก สีหน้าของเขาโหดเหี้ยมขึ้นมาทันที
“มาถึงขนาดนี้แล้ว พวกเธอยังเชื่อใจมันอีกเหรอ ดูเหมือนพวกเธอจะตาบอดกันไปหมดแล้ว พวกเธอรอมาเป็นของเล่นของฉันเถอะ! ฉันจะให้พวกเธอเห็นชัดๆ ว่าหลี่โม่จะตายยังไง!”
ขณะที่หลงห้าวเทียนตวาดใส่กู้หยุนหลัน สองมือของหลี่โม่ก็ตบไปยังเหล่าบอดี้การ์ดของหลงห้าวเทียน ราวกับตบแมลงวันเท่านั้น
เมื่อเห็นการตอบโต้กลับของหลี่โม่ เหล่าบอดี้การ์ดทั้งสี่ ต่างพากันหัวเราะออกมา เพราะรู้สึกว่าการตอบโต้กลับของหลี่โม่ ไม่มีพละกำลังอะไรเลย
“ท่าทางอ่อนปวกเปียกแบบนี้ เรื่องบนเตียงก็คงไม่ต่างกันสินะ ยังกล้ามาหาเรื่องคุณชายหลงของเราอีก คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ”
“ฮ่าๆๆ ตอนแรกคิดว่าเก่ง ที่แท้ก็ไม่มีอะไรนี่หว่า เดี๋ยวหมัดนี้ของฉัน จะซัดมันให้สลบเอง……อ๊าก!”
บอดี้การ์ดคนที่กำลังพูด ร้องโอดครวญออกมา เขาลอยกระเด็นถอยหลังกลับมา
จากนั้นก็มีเสียงตบดังสนั่น ฝ่ามือของหลี่โม่ตบไปที่ใบหน้าของบอดี้การ์ดทั้งสี่
บอดี้การ์ดทั้งสี่คน ลอยกระเด็นกลับมาและล้มลงกับพื้น แต่ละคนกระอักเลือดออกมา ในเลือดมีฟันปะปนอยู่ด้วย
หลี่โม่ตบบอดี้การ์ดคนละที ตบแต่ละครั้งของเขา ทำให้ฟันกรามของบอดี้การ์ดแต่ละคนหลุดออกมา
บอดี้การ์ดทั้งสี่รู้สึกเจ็บแก้ม อีกทั้งยังรู้สึกมึนหัวไปหมด รู้สึกเหมือนสมองกำลังหมุนอยู่ในหัวไม่หยุด
บอดี้การ์ดทั้งสี่คนตะเกียกตะกายขึ้นจากพื้น แววตาที่มองหลี่โม่เต็มไปด้วยความหวาดระแวง
พวกเขารู้แก่ใจว่าครั้งนี้เจอยอดฝีมือเข้าให้แล้ว พละกำลังตบของหลี่โม่เพียงครั้งเดียว หากโจมตีโดนจุดสำคัญ พวกเขาคงถึงแก่ชีวิตแน่นอน
เหมือนหลี่โม่ได้ยินเสียงความหวาดกลัวในใจของบอดี้การ์ดทั้งสี่คน เขาไม่ทำให้ทั้งสี่ลำบากใจอีก และเดินไปหาหลงห้าวเทียนพร้อมรอยยิ้ม
เมื่อเห็นหลี่โม่เดินเข้ามา หลงห้าวเทียนตื่นตระหนก คิดไม่ถึงว่าบอดี้การ์ดทั้งสี่คนจะแพ้ให้คนคนเดียวอย่างราบคาบ
“พวกแกสี่คนอยากตายเหรอ! ยังไม่รีบมาคุ้มกันฉันอีก ถ้าฉันเป็นอะไรไปแม้แต่นิดเดียว พวกแกสี่คนอยู่ไม่เป็นสุขแน่!”
บอดี้การ์ดทั้งสี่คนพุ่งเข้ามายืนข้างหน้าหลงห้าวเทียน ด้วยสีหน้าทุกข์ระทม พวกเขายืนเป็นแถวหน้ากระดาน เพื่อคุ้มครองหลงห้าวเทียน
เมื่อมีบอดี้การ์ดมาคุ้มกัน หลงห้าวเทียนรู้สึกอุ่นใจขึ้นเล็กน้อย เขาพูดอย่างร้อนรนว่า “ไปกันเถอะ เรากลับกันก่อน!”
เมื่อเห็นว่าหลงห้าวเทียนจะถอย หลี่โม่นวดข้อมือไปมา จากนั้นจึงยิ้มและพูดว่า “อย่ารีบสิ ถ้าให้นายกลับไปง่ายๆ อย่างนี้ จะไม่เป็นการดูถูกนายไปหน่อยเหรอ”
“ไอ้เวรเอ๊ย! แกจะเอายังไงกันแน่ ฉันจะไป ไม่มีใครรั้งฉันได้ทั้งนั้น!” หลงห้าวเทียนพูดด้วยน้ำเสียงดึงดัน เขายังคงรักศักดิ์ศรีของตัวเอง
หลี่โม่เบะปาก เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ฉันไม่ให้ใครไป ใครก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น นายจะลองดูไหมล่ะ”
“ลองก็ลองสิ พวกแกทั้งสี่คนคุ้มกันฉันด้วย!”
หลังจากหลงห้าวเทียนพูดจบ เขาก็วิ่งไปเบนซ์ที่จอดอยู่ริมถนน โดยไม่มีท่าที่จะหันกลับมา
บอดี้การ์ดทั้งสี่พุ่งเข้าไปหาหลี่โม่อย่างดึงดัน แต่ทว่ายังไม่ทันเข้าใกล้ตัวหลี่โม่ ก็โดนหลี่โม่ซัดกลับมาจนกระเด็น
หนึ่งในบอดี้การ์ดโดนหลี่โม่เตะจนกระเด็นเป็นเส้นโค้ง และตกลงมากระแทกกับหลังคารถเบนซ์
พลั่ก!
หลังคารถเบนซ์สุดหรูยุบลงมาทันที ดูเหมือนมันจะขับไม่ได้แล้ว
คนที่เพิ่งวิ่งมาข้างรถอย่างหลงห้าวเทียน มองรถอย่างตกตะลึง เขาก่นด่าในใจไม่หยุด
รถโดนกระแทกจนอยู่ในสภาพนี้ ไม่มีทางขับได้อีกแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางหนีแม้แต่น้อย!
“นายหนีสิ จะยืนบื้อทำไม ทำแบบนี้ ฉันก็ไม่สนุกสิ” หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงยียวน