จักรพรรดิมังกร - บทที่ 684 เกมเดียวตัดสินแพ้ชนะ
ราชามือไวมองหลี่โม่อย่างได้ใจ เขาอยากเห็นหลี่โม่ตกใจกับกติกา
แต่ทว่าราชามือไวกลับผิดหวัง
หลี่โม่มีสีหน้าราบเรียบ ราวกับว่ากติกาของราชามือไว เหมือนของเล่นในสายตาหลี่โม่
“เป็นวิธีใหม่ที่น่าสนุก แต่สองเกมแรกมันง่ายเกินไป ข้ามสองเกมแรกไปเลยก็ได้นะ เรามาเริ่มเกมสามกันเลยดีกว่า เกมเดียวตัดสินแพ้ชนะ” หลี่โม่พูดอย่างแน่วแน่
สีหน้าของราชามือไวเคร่งขรึมทันที และมองหลี่โม่อย่างพิจารณา
คนที่สามารถพูดออกมาแบบนี้ คงจะเป็นคนเย่อหยิ่งและโง่เขลา ไม่ก็เป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ
แต่เมื่อมองหลี่โม่ดีๆ ราชามือไวไม่คิดว่าหลี่โม่เป็นคนที่มีความสามารถ สัญชาตญาณบอกเขาว่า หลี่โม่กำลังอวดเก่งต่อหน้าเฉินชิงเหมย
“นายนี่พูดอวดดีจริงๆ ในเมื่ออยากตายเร็วๆ งั้นฉันก็ไม่ปล่อยนายไว้แล้ว เราตัดสินแพ้ชนะกันในเกมเดียว!”
เฉินชิงเหมยตกใจเป็นอย่างมาก เขามองหลี่โม่ด้วยสายตาตำหนิ
ถึงแม้เรื่องทั้งหมดจะมีคนบงการอยู่เบื้องหลัง แต่ถ้าหลี่โม่แพ้ เฉินชิงเหมยกลัวว่าตระกูลของตัวเองจะย่อยยับ เพราะเธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำตามสัญญาหรือไม่ ดังนั้นในสายตาของเฉินชิงเหมย วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือหลี่โม่ต้องชนะพนัน
เฉินชิงเหมยก้มตัวลง เธอกระซิบข้างหูหลี่โม่ “คุณอวดเก่งไปหรือเปล่า ถ้าขืนคุณแพ้ขึ้นมา ฉันจบเห่แน่ หรือคุณเตรียมจะเลี้ยงฉันทั้งชีวิตแล้ว”
หลังเสียงพูด เฉินชิงเหมยพ่นลมหายใจใส่หูหลี่โม่ จนทำให้หลี่โม่รู้สึกจักจี้
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น เขย่าลูกเต๋าสูงต่ำมันเสียเวลา หนึ่งวินาทีของผมสามารถทำเงินได้หลายสิบล้าน ไม่มีเวลามาเสียเวลาหรอก”
พวกเจ้าพ่อเห็นเฉินชิงเหมยกำลังจะเตือนหลี่โม่ ที่มีท่าทางอวดดี ต่างก็พากันพูดแขวะขึ้นมา
“นี่หลานสาว เธอไม่เชื่อใจคนมีฝีมือที่ตัวเองเชิญมาเหรอ คุณหลี่จะโชว์ความสามารถแล้ว เธออย่าไปขวางสิ”
“คุณหลี่อวดเก่งขนาดนี้ก็เพื่อหลานสาวนะ เธอต้องให้เขาอวดดีให้ถึงที่สุดสิ พวกเราจะได้ดูอะไรสนุกๆ”
“ตัดสินแพ้ชนะในเกมเดียว มันน่าตื่นเต้นยิ่งกว่า หลานสาวอย่าไปเซ้าซี้สิ ให้พวกเขาได้สู้กัน ความน่าเกรงขามของคุณหลี่ทำให้รู้สึกว่าไม่ธรรมดา จะต้องแพ้อย่างรวดเร็วแน่นอน ฮ่าๆๆๆ”
เฉินชิงเหมยขมวดคิ้ว เธอขบฟันแน่น และมองพวกเจ้าพ่ออย่างเย็นชา เธอรู้สึกอยากกัดพวกเขามาก
พวกเจ้าพ่อไม่สนใจความรู้สึกของเฉินชิงเหมย รีบเร่งให้ราชามือไวเริ่มเกมเร็วๆ
ราชามือไวหยิบที่เขย่าลูกเต๋าบนโต๊ะขึ้นมา เขาขยับมือขวาเพื่อเขย่า
ตอนที่เขาเขย่าลูกเต๋า ราชามือไวดูมีออร่าของเซียนพนัน
หลังสิ้นเสียงเขย่าลูกเต๋า ราชามือไววางที่เขย่าลูกเต๋าลงบนโต๊ะอย่างแรง
“คุณหลี่ ฉันเขย่าเสร็จแล้ว จะให้ฉันเปิดก่อน หรือนายจะเขย่าก่อน แล้วเราค่อยเปิดพร้อมกัน”
หลี่โม่เอนหลังพิงเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน เขาพูดอย่างสบายๆ “พวกเขาว่ายังไง ผมได้ทั้งนั้น”
เจ้าพ่อมองหน้ากันไปมา จากนั้นจึงพูดว่า “ราชามือไวเปิดก่อน ให้คุณหลี่อะไรนี่ได้เห็น ไม่แน่เมื่อเขาเห็นแล้ว อาจจะไม่กล้าเขย่าลูกเต๋าก็ได้”
ราชามือไวหัวเราะอย่างได้ใจ และมองหลี่โม่อย่างดูหมิ่น จากนั้นจึงเปิดที่เขย่าลูกเต๋าช้าๆ
เฉินชิงเหมยจ้องที่เขย่าลูกเต๋า เมื่อเห็นลูกเต๋าข้างใน สีหน้าของเธอซีดลงทันที
ส่วนพวกเจ้าพ่อต่างพากันหัวเราะร่าออกมา แววตาที่มองหลี่โม่เต็มไปด้วยความดูถูก
“เห็นรึยังล่ะคุณหลี่ ลูกเต๋าล้วนแตกออกมาตรงกลาง แต้มบนลูกเต๋าคือหกและหนึ่งแต้ม ราชามือไวเขย่าครั้งเดียวได้เจ็ดแต้ม ไม่รู้ว่าคุณหลี่จะทำลายลูกเต๋าได้หรือเปล่า”
“เขาจะทำลายได้ยังไง ให้เขาเอาฟันกัดก็ไม่มีทางแตกหรอก คุณหลี่ยอมแพ้ซะเถอะ พวกเราต้องเอาเงินของคุณหลี่ไปเที่ยวสนุกอีกนะ”
หลี่โม่ส่ายหน้าและยิ้มบางๆ “พวกคุณไม่มีทางเอาเงินของผมไปได้หรอก ฝีมือของราชามือไวธรรมดามาก ให้มาหิ้วรองเท้าให้ผมยังไม่เหมาะสมเลย”
ราชามือไวโกรธมาก เขาใช้มือค้ำโต๊ะและลุกขึ้นยืน เขาชะโงกหน้าเข้าไปหาหลี่โม่ และพูดด้วยน้ำเสียงอึมครึม “ฝีมือธรรมดาอย่างนั้นเหรอ งั้นคุณหลี่ทำอะไรที่ไม่ธรรมดา ให้ผมดูหน่อยสิ!”
“ลูกเต๋าหกด้าน มีทั้งหมดยี่สิบเอ็ดแต้ม คุณเขย่าได้แค่ 7 แต้ม ช่างไร้ฝีมือ ในเมื่อคุณอยากเห็น งั้นผมจะแสดงให้เห็นเอง”
ราชามือไวส่งเสียงหึออกมา และจ้องไปที่มือขวาของหลี่โม่
หลี่โม่หยิบที่เขย่าลูกเต๋าขึ้นมา เขาเขย่าเบาๆ สองครั้ง เทคนิคอันแยบยลอยู่ในที่เขย่าลูกเต๋าทั้งแนวนอนและแนวตั้ง
ลูกเต๋าพลิกอย่างไร้เสียง มันแยกออกเป็นหกด้าน และด้านที่เป็นแต้มถูกหงายขึ้น
หลี่โม่เอาที่เขย่าลูกเต๋าวางลงบนโต๊ะอย่างสบายๆ เขาผายมือไปทางราชามือไว “เพื่อที่จะทำให้คุณมั่นใจ เชิญคุณเปิดฝาออกเลย”
ราชามือไวมองหลี่โม่อย่างเจ้าเล่ห์ เขาพึมพำขึ้นมาในใจ
เมื่อกี้ราชามือไวจ้องทุกการกระทำของหลี่โม่ ราชามือไวไม่เห็นกลโกงใด จากการกระทำอันเชื่องช้าของหลี่โม่
อีกทั้งราชามือไวยังมั่นใจในตัวเองมาก เขาคิดว่าไม่มีใครสามารถโกงเขาได้
ทำไมหลี่โม่ถึงแน่วแน่ขนาดนี้ ให้เขาเป็นคนเปิดฝาด้วย ราชามือไวสับสนไปหมด คิดไม่ออกว่าหลี่โม่ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน
ราชามือไวคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ เขายื่นมือไปจับฝาที่เขย่าลูกเต๋า และค่อยๆ ยกฝาขึ้น
เฉินชิงเหมยพยายามสูดหายใจ เธอจ้องไปยังฝาที่เขย่าลูกเต๋า และแอบภาวนาในใจ ให้ทวยเทพบันดาลให้หลี่โม่ชนะ
เมื่อฝาที่เขย่าลูกเต๋าถูกเปิดออก เฉินชิงเหมยรู้สึกว่าภาพที่เห็นตรงหน้ามันช่างเหลือเชื่อ ราวกับว่าเธอกังวลจนทำให้เกิดภาพหลอน
เธอกะพริบตารัว มองลูกเต๋าอีกครั้ง หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าไม่ใช่ภาพหลอน เฉินชิงเหมยก็กอดหลี่โม่อย่างตื่นเต้น
“คุณเก่งมากเลย คุณทำได้ยังไง นี่มันมายากลชัดๆ น่าพิศวงมาก”
หลี่โม่พูดด้วยสีหน้าราบเรียบ “เรื่องเล็กน้อย แต่คุณกอดพอหรือยัง ผมมีเจ้าของแล้วนะ คุณทำแบบนี้เป็นการแต๊ะอั๋งผม”
สีหน้าตื่นเต้นชะงักไป ในใจของเฉินชิงเหมยกำลังคลั่ง
เมื่อปล่อยแขนของหลี่โม่ออก เฉินชิงเหมยพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ผู้ชายตั้งเท่าไรที่อยากถูกฉันกอด แต่ก็ไม่มีโอกาส ได้ประโยชน์แล้วอย่ามาทำเป็นพูดไร้เหตุผล!”
“ผมไม่เคยเห็นแก่ประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ” หลี่โม่พูดจบก็มองไปยังราชามือไว และยิ้มออกมา “คุณอยากจะพูดอะไรไหม”
แขนทั้งสองข้างของราชามือไว ที่กำลังค้ำโต๊ะอยู่เกิดอาการสั่น เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นบนหน้าผาก