จักรพรรดิมังกร - บทที่ 719 ระเบิดในพัศดุด่วน
ณ.หยุนหลันกรุ๊ป ในห้องทำงานของประธานบริษัท
หลี่โม่กับกู้หยุนหลันกำลังเปิดถุงด้วยกัน หยิบยาเก่าในถุงมาเรียงตามลำดับ ยาเหล่านี้ล้วนเป็นยาเก่าที่ชาวบ้านพวกนั้นเอามาใช้แทนคำขอโทษเมื่อวานนี้ทั้งสิ้น
“ที่นี่มียาที่พอจะเป็นวัตถุดิบดี ๆ อยู่บ้าง แต่น่าเสียดายที่มีปริมาณน้อยเกินไป แถมเก็บไว้ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น” กู้หยุนหลันพูดด้วยความรู้สึกค่อนข้างเสียดาย
ในเวลานั้นเอง เจียงไหร เลขาของกู้หยุนหลันก็เดินเข้ามา ในมือถือกล่องพัสดุด่วนเข้ามาด้วย
“ท่านประธานครับ มีพัสดุด่วนของคุณส่งมา ผมวางมันไว้บนโต๊ะนะครับ ต้องการให้ผมเปิดให้คุณด้วยไหมครับ?” เจียงไหรถามอย่างรอบคอบใส่ใจ
“ไม่ต้องหรอก ฉันเปิดเองก็ได้”
กู้หยุนหลันลุกขึ้นแล้วเดินไปที่โต๊ะ หยิบกรรไกรบนโต๊ะขึ้นมา เตรียมจะเปิดกล่องพัสดุ
จู่ ๆ หลี่โม่ก็ก้าวขึ้นไปข้างหน้า เหยียดมือออกไปกดกรรไกรในมือของกู้หยุนหลัน
“มีอะไรเหรอ?” กู้หยุนหลันเอียงหัวมามองหลี่โม่ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยไม่เข้าใจ
หลี่โม่พลิกข้อมือ ฉวยกรรไกรในมือของกู้หยุนหลันลงมา แล้วเอามาถือไว้ในมือของตัวเอง
“ฉันคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับพัสดุด่วนห่อนี้ กล่องที่มีขนาดนี้ มีความเป็นไปได้ว่าอาจบรรจุระเบิดแรงสูง ซึ่งมีพลังทำลายมากพอที่จะระเบิดได้ทั้งออฟฟิศเราเลยก็ได้นะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่โม่ เจียงไหรก็รู้สึกถึงความหนาวเยือกสายหนึ่ง ที่ผุดขึ้นมาจากกระดูกสันหลังส่วนหางของเขา แล้วค่อย ๆ แล่นปราดไปทั้งตัวในชั่วอึดใจ: “พี่หลี่ คุณดูหนังมากเกินไปแล้วมั้งครับ? ผมดูยังไง มันก็เหมือนกับกล่องพัสดุธรรมดา ๆ เองนะ”
หลี่โม่ไม่สนใจเจียงไหร แต่ก้มหน้าลงมองกล่องบนโต๊ะอย่างละเอียดถี่ถ้วน: “ทุกคนดูจุดผนึกบนปากกล่องใบนี้สิ สังเกตเห็นส่วนที่ยื่นออกมาทั้งสองที่นี้รึเปล่า?
นี่คือเซ็นเซอร์อิเล็กทรอนิกส์ เมื่อเซ็นเซอร์รับรู้ถึงแรงเหนี่ยวนำขณะที่กล่องถูกเปิด จะก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าส่งผ่านไปยังอุปกรณ์จุดชนวนภายในกล่อง ทุกคนลองดูตรงนี้อีกครั้งสิที่รอยยุบตัวด้านข้างของกล่อง
มีผงสีเทาเกาะติดอยู่บนเทปปิดกล่องนิดหน่อย นี่คือผงดินปืนที่มีประสิทธิภาพทำให้เกิดระเบิดแรงสูง ดังนั้น แค่สองประเด็นนี้ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้แล้วว่า นี่เป็นระเบิดทำเองแบบง่าย ๆ ที่ส่งมาในรูปของพัศดุด่วน!”
ตามคำชี้นำของหลี่โม่ สายตาของกู้หยุนหลันกับเจียงไหรที่มองไปที่กล่องพัศดุด่วนใบนั้น ก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ร่างกายของเจียงไหรสั่นสะท้านเล็กน้อย ก้าวถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว: “คุณพูดจริงเหรอ? ท่านประธานครับ หรือว่าพวกเราจะแจ้งความ แล้วให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการกำจัดระเบิดมาดูหน่อยดีกว่ามั้ยครับ?”
ในใจของกู้หยุนหลันก็ไม่สงบเช่นกัน ลมหายใจเริ่มกระชั้นถี่ขึ้น ในอกเกิดความปั่นป่วนว้าวุ่นอย่างมาก: “หลี่โม่ คุณจัดการได้จริง ๆ เหรอ? ยังไงพวกเราแจ้งความกันเถอะ แล้วให้ผู้เชี่ยวชาญมาเปิดกล่องพัศดุให้ดีกว่านะ”
หลี่โม่ยักไหล่ พูดด้วยสีหน้าไม่ยี่หระว่า “ แค่เรื่องเล็กกระจิดริดแค่นี้ แก้ได้ง่าย ๆ เลยล่ะ เมื่อก่อนฉันเคยเล่นของกิ๊กก๊อกพวกนี้เป็นของเล่นเลยด้วยซ้ำ”
ทันทีที่สิ้นเสียง กรรไกรในมือของหลี่โม่ ก็ถูกสอดเข้าไปในเทปที่ปิดผนึกฝากล่องแล้ว
กรรไกรขยับอย่างคล่องแคล่วตามช่องว่างของกล่องพัศดุ ทั้งกู้หยุนหลันและเจียงไหรต่างพากันกลั้นหายใจ จ้องมองไปที่มือของหลี่โม่ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
“กล่องระเบิดแบบง่ายนี้สร้างขึ้นมา 80 % ก็เพื่อใช้ทดสอบความสามารถด้านการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายคุณ ดังนั้นเบาะแสที่อีกฝ่ายจงใจทิ้งไว้จึงชัดเจนมาก นี่เป็นคำเตือนแล้วก็ถือได้ว่าเป็นคำขาดครั้งสุดท้าย ฉันคิดว่าเริ่มมีบางคนที่ทนไม่ไหวแล้วล่ะ”
การเคลื่อนไหวของมือหลี่โม่นั้นรวดเร็วมาก ในขณะที่พูดไปไม่กี่ประโยค การเชื่อมต่อของเซ็นเซอร์ก็ถูกตัดออกไปแล้วเรียบร้อย
หลังจากตัดเสร็จ หลี่โม่ก็วางกรรไกรลงบนโต๊ะแล้วยิ้มให้กู้หยุนหลัน: “เธออยากเป็นคนมาเปิดกล่องนี่มั้ย? ได้ยินมาว่าคนเราจะอารมณ์ดีในช่วงเวลาที่ได้เปิดกล่องนะ”
กู้หยุนหลันมองหลี่โม่แวบหนึ่ง แล้วส่ายหน้าช้า ๆ ในเวลาแบบนี้ เธอไม่มีอารมณ์มาล้อเล่นกับเรื่องอันตรายขนาดนี้หรอก
หลี่โม่เปิดกล่องอย่างคล่องแคล่ว มีถุงปิดผนึกสีดำใบหนึ่งวางอยู่ในกล่อง รวมถึงอุปกรณ์จุดชนวนอีกชิ้นหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนถุงปิดผนึก
บนอุปกรณ์จุดระเบิดมีเลขอารบิกเลข 1 แสดงอยู่ สัญญาณไฟสีแดงยังกะพริบอยู่ตลอดเวลา
เจียงไหรมองไปที่ระเบิด ทั้งเนื้อทั้งตัวสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง ลนลานก้าวถอยหลังไปจนถึงกำแพง ถึงค่อยหยุดฝีเท้าลงในที่สุด
กู้หยุนหลันก็ตกใจจนตาค้างไปเช่นกัน เมื่อกี้เธอยังรู้สึกว่าตัวเองคงจะโชคดีพอที่จะไม่เจออะไรแบบนั้น คิดว่าหลี่โม่คงแค่คาดเดาส่งเดชไปเอง แต่ตอนนี้ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์ออกมาแล้วว่าสิ่งที่หลี่โม่พูดนั้น ล้วนถูกต้องสมบูรณ์ทุกประการ
หลังผ่านพ้นความตื่นตระหนกตกใจ สายตาที่กู้หยุนหลันมองไปที่หลี่โม่ก็เปลี่ยนไป เริ่มไตร่ตรองคำพูดที่หลี่โม่พูดมาเมื่อกี้อย่างถี่ถ้วน
หลี่โม่หยิบกรรไกรขึ้นมา แล้วตัดเส้นที่เชื่อมระหว่างตัวจุดชนวนกับวัตถุระเบิดออกอย่างเด็ดขาดเรียบร้อย
“เอาล่ะ จัดการตัวจุดชนวนระเบิดเรียบร้อยแล้ว ต่อไปเรามาแยกชิ้นส่วนของระเบิดกัน มาดูซะหน่อยว่าในนั้นใช้อะไรบ้าง?”
เมื่อนำวัตถุระเบิดออกมาแล้ววางลงบนโต๊ะ หลี่โม่หยิบกรรไกรขึ้นมา แล้วตัดอย่างระมัดระวังไปตามขอบของถุงที่ปิดสนิท
หลังจากตัดถุงปิดผนึกเสร็จแล้ว หลี่โม่ก็เทวัตถุระเบิดในถุงปิดผนึกลงในกล่องพัสดุ ผงระเบิดสีขาวอมเทาร่วงกระจัดกระจายลงในกล่องพัสดุ เผยให้เห็นแผ่นกระดาษสีขาวใบหนึ่ง ที่ปะปนอยู่ในผงระเบิด
“บิงโก! เดาไว้ไม่ผิด มีเซอร์ไพรส์จริง ๆ ซะด้วย” หลี่โม่หยิบกระดาษชิ้นนั้นขึ้นมา แล้วใช้มือเขย่าเพื่อคลี่ให้มันเปิดออก
บนกระดาษใบนั้นปรากฏเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างคมชัด เสียงที่ว่านั้นทำให้หลี่โม่รู้สึกคุ้นเคยอยู่พอสมควร
กู้หยุนหลันมองดูกระดาษที่ถูกหลี่โม่หยิบขึ้นมา ในใจรู้สึกตึงเครียดอย่างอธิบายไม่ถูก ความรู้สึกไม่สบายใจเข้าครอบงำในหัวใจของเธออย่างรวดเร็ว อดใจไม่ไหวต้องถามออกไปว่า “ในกระดาษนั่นเขียนว่าอะไรเหรอ?”
หลี่โม่คลี่กระดาษที่พับอยู่ออกดู ในกระดาษแปะตัวอักษรที่ตัดจากหนังสือพิมพ์ไว้จนเต็ม
“เกมเริ่มขึ้นแล้ว นับถอยหลังสู่ความตายในยี่สิบสี่ชั่วโมง หลังจากยี่สิบสี่ชั่วโมง ฉันจะเริ่มเคลื่อนไหว หลังจากสี่สิบแปดชั่วโมง แกจะกลายเป็นศพ”
หลังจากหลี่โม่อ่านข้อความจบไปรอบหนึ่ง ก็วางกระดาษสีขาวในมือลงบนโต๊ะ แล้วผลักไปให้กู้หยุนหลัน
หลังจากอ่านเนื้อหาบนกระดาษแล้ว สีหน้าของกู้หยุนหลานก็ซีดเผือด ร่างกายสั่นเทาน้อย ๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตกใจกลัว หรือเป็นเพราะความโกรธกันแน่
“เป็นคู่ต่อสู้ที่น่าสนุกใช้ได้เลยนะ ดูไปแล้วเหมือนจะเป็นคนที่ยโสอวดดีน่าดูเลยล่ะ” หลี่โม่แสดงความคิดเห็นต่อคู่ต่อสู้ที่ส่งจดหมายขู่ฉบับนี้มาให้
กู้หยุนหลันพยายามตั้งสติ ระงับความตื่นตระหนกในใจแล้วพูดขึ้นว่า “คุณมีความคิดเห็นยังไงบ้างเหรอ?”
“เบาะแสมีอยู่แล้วล่ะ แต่ว่าคนที่ข่มขู่นี่เป็นแค่นักฆ่าเฉย ๆ เรายังต้องหามือมืดที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้อีก ถึงจะกำจัดอันตรายให้หมดสิ้นลงไปได้ ฉันชักอยากรู้แล้วสิ ว่าใครที่มันขวัญกล้าเหิมเกริมได้ถึงขนาดนี้!”
ในใจของหลี่โม่มีการคาดเดาเอาไว้แล้ว แต่เพราะช่วงนี้มีศัตรูมากมายที่ตั้งเป้าจะกำจัดหลี่โม่ไปให้พ้นทาง ซึ่งหลี่โม่เองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นคนไหนเหมือนกัน
บางทีอาจเป็นตระกูลเจินของเจินจาหนาน หรือบางทีก็อาจเป็นราชาใหญ่ที่กำลังโกรธเกรี้ยว หรือบางทีก็อาจจะเป็นจางเต๋ออู่ แล้วก็ยังมีราชินีมังกรอีกคนที่อาจเป็นไปได้
หลังจากครุ่นคิดไปซักพัก หลี่โม่ก็หันไปมองกู้หยุนหลันด้วยสายตาผ่อนคลาย แล้วหยิบกระดาษบนโต๊ะขึ้นมา
“ เธอทำงานต่อไปเถอะนะ ฉันจะไปตรวจสอบสิ่งนี้ซะหน่อย ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณต้องระวังให้มาก ๆ นะ ถ้ามีอะไรก็แจ้งความหาสายตรวจเลย” กู้หยุนหลันรีบเอ่ยเตือน
หลี่โม่ก้าวเท้ายาว ๆ ออกจากออฟฟิศ เพิ่งจะเดินเข้าไปในลิฟต์โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เมื่อเห็นเบอร์แปลก ๆ ปรากฏขึ้นบนเลขหมายผู้โทร หลี่โม่ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
หรือจะเป็นมิจฉาชีพโทรมาหลอก ? หรือเป็นการเสนอขายของทางโทรศัพท์?
หลังกดปุ่มรับสายแล้ววางโทรศัพท์แนบหู หลี่โม่ก็พูดอย่างเย็นชาว่า: “ฮัลโหล ที่นี่คือศูนย์การป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงทางการพาณิชย์ หมายเลขของคุณถูกล็อคไว้แล้ว ขอให้มามอบตัวโดยเร็วที่สุด”
“อุ๊ฟส์! ฮ่า ๆ ๆ”
เสียงหัวเราะดังสนั่นดังลั่นออกมาจากโทรศัพท์ เป็นเสียงที่กังวานใสราวกับระฆังเงิน ฟังแล้วให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะนี้ในโทรศัพท์ หลี่โม่ก็อดยิ้มอย่างฝืดฝืนออกมาไม่ได้
“เฉินเสี่ยวถง นี่เธอทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย? ฉันมีธุระยุ่งมากที่ต้องรีบไปจัดการนะ”