จักรพรรดิมังกร - บทที่ 730 ผู้ไม่รู้ไม่ผิด
พี่ฮั่วและพี่เฟยฟังคำพูดของคนดู ในใจก็มีความรู้สึกไม่ดีเกิดขึ้น
หลังจากที่ทั้งสองคนมองตากัน พี่ฮั่วพูดว่า “น้องชาย พวกเราทำได้แค่เพียงไปแจ้งให้ทราบ ส่วนเรื่องที่ลุงไห่และประธานหยางจะลงมามั้ย ก็ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราจะสั่งการได้แล้วนะ”
หลี่โม่เองก็ไม่ได้คิดว่าจะกดดันใครมาก เมื่อเห็นว่าทั้งสองพูดขนาดนี้แล้ว จึงได้พยักหน้าตกลง แล้วก็ปล่อยให้ทั้งสองไปแจ้งเรื่อง
พี่ฮั่วและพี่เฟยรู้สึกตื่นเต้นกดดันมาก เดินขึ้นไปชั้นสอง ภายใต้การประคองของไอ้พวกหนุ่มเลว
ผู้คนเห็นแบบนี้จึงต่างก็แยกย้าย ถ้าหากว่าลุงไห่ไม่ออกมา ก็ไม่มีอะไรจะดูแล้ว แต่ถ้าหากลุงไห่ออกมา แล้วยังยืนมองดูอยู่ใกล้ขนาดนั้น นั้นก็คือหาเรื่องตายแล้ว
นักศึกษาสาวที่จ้องมองหลี่โม่อย่างอยากลิ้มลองอยู่ตลอดเวลา เมื่อเห็นว่าผู้คนแยกย้ายแล้ว จึงผลักผู้หญิงคนหนึ่งออกมา
ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาสวยหวาน รูปร่างสัดส่วนเว้าโค้ง มัดผมเปียหางม้า ก็ยิ่งทำให้ดูเป็นสาวสดใส
หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึกๆ มือขวากำหมัดแน่น เหมือนกับว่าเรียกกำลังทั้งตัว แล้วก็เร่งฝีเท้าเดินไปหาหลี่โม่
เมื่อตอนที่เดินถึงตรงหน้าของหลี่โม่ไม่กี่เมตร ฝีเท้าของหญิงสาวก็ช้าลง ไม่รู้ว่าเพราะในใจตื่นเต้น หรือว่าเฉินเสี่ยวถงที่อยู่ข้างกายของหลี่โม่ที่กำลังยิ้มมาให้เธอ
หญิงสาวหยุดฝีเท้าลง ใบหน้าปรากฏความลังเล กดดัน และเขินอาย สีหน้าดูสับสนเล็กน้อย
“อึก!” หลี่โม่รู้สึกว่าที่เอวถูกเฉินเสี่ยวถงหยิกทีหนึ่ง เจ็บจนซูดปากทีหนึ่ง
เฉินเสี่ยวถงตวัดมือเรียกหญิงสาวที่ลังเลอยู่คนนั้นด้วยรอยยิ้ม “น้องสาวมานี่มา เธอมีเรื่องหาพวกเรารึเปล่า”
หญิงสาวเห็นว่าเฉินเสี่ยวถงชวนคุย สี่หน้าก็ยิ่งลังเลขึ้น
มองดูหลี่โม่ดีๆทีหนึ่ง หญิงสาวก็พูดเสียงเบาว่า “หนู..หนูอยากจะรู้จักกับพี่ชายสักหน่อยค่ะ ไม่…ไม่ได้มีอะไรอย่างอื่น แค่เพียงอยากจะทำความรู้จักเฉยๆค่ะ”
หญิงสาวยิ่งพูดเสียงยิ่งเบา เหมือนกับว่าแม้แต่ตัวเองก็ไม่เชื่อคำพูดประโยคนี้ของตัวเอง
หลี่โม่ก่ายหน้าผาก ไม่เคยมีประสบการณ์กับเรื่องแบบนี้เลย
บอกชื่อกันและกัน? หรือให้ช่องทางติดต่อ? หรือว่านั่งลงดื่มและพูดคุยกันสักหน่อย?
ในขณะที่หลี่โม่กำลังนึกคิดอย่างหนัก เฉินเสี่ยวถงก็ใช้ไหล่ชนหลี่โม่เบาๆ “สาวน้อยอยากจะรู้จักกับนายละ นายยังไม่รีบทำความรู้จักกับเขาสักหน่อย ให้เบอร์โทรเพิ่มวีแชทอะไรสักหน่อย”
“อ้อ” หลี่โม่ตอบรับอย่างยุ่งเหยิงเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มออกมา “สวัสดีฉันชื่อหลี่โม่ ตอนนี้พวกเราถือว่ารู้จักกันแล้ว เธออยากจะดื่มเหล้ามั้ย? ฉันเลี้ยงค็อกเทลเธอสักแก้ว จะต้องให้เบอร์โทรมั้ย?”
หลี่โม่พูดวิธีการทำความรู้จักที่คิดในใจออกมาทั้งหมด เฉินเสี่ยวถงที่กำลังนั่งจิบค็อกเทลอยู่ข้างกายแทบจะพ่นเหล้าในปากออกมา
ดีนี่หลี่โม่ ในตอนที่นายอยู่กับฉันละแกล้งทำเป็นท่อนไม้ พอต่อหน้าสาวน้อยแล้วลื่นไหลขนาดนี้ ทั้งเลี้ยงเหล้าทั้งให้เบอร์ หรืออยากจะมอมเหล้าหญิงสาวเขาแล้วทำอะไรที่บอกผู้คนไม่ได้รึยังไง
เฉินเสี่ยวถงถลึงตามองหลี่โม่ ส่วนหญิงสาวคนนั้นกลับหน้าแดงไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าเทพบุตรในใจจะกระตือรือร้นแบบนี้ ดีใจจนแทบจะอดไม่ได้ที่จะกรี๊ดออกมา
หญิงสาวยื่นมือขาวนุ่มของตัวเองออกมา ทำท่าทางการจับมือ “หนูชื่อเยว่จิ้งอี๋ยินดีที่ได้รู้จักกับพี่หลี่โม่ค่ะ”
หลี่โม่ลังเลไปสักพัก แล้วก็ยื่นมือออกไปจับมือกับมือของเยว่จิ้งอี๋
“ฉันเองก็ยินดีที่ได้รู้จักเธอเช่นกัน”
มือของทั้งสองคนจับกับเบาๆเพียงนิดหน่อยก็ปล่อยออก
เยว่จิ้งอี๋ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาอย่างตื่นเต้นเล็กน้อย แล้วก็แลกเบอร์โทรกับหลี่โม่
มองดูการกระทำของหลี่โม่กับเยว่จิ้งอี๋ หน้าของเฉินเสี่ยวถงแทบจะเขียวปัดแล้ว “นี่ พวกเธอเสร็จรึยัง ที่บอกว่าจะทำธุระละ นี่นายเตรียมจะเที่ยวกับสาวน้อยแล้วทิ้งธุระ?”
“ใช่ที่ไหนกัน ก็นี่ฉัน….ซูด! อย่าหยิกแล้ว เจ็บนะ”
หลี่โม่พูดได้ครึ่งเดียว เฉินเสี่ยวถงก็ใช้หนึ่งในร้อยวิธีการสยบแฟนหนุ่มที่ค้นหามาจากในเน็ต หยิกเนื้ออ่อนที่เอว
เยว่จิ้งอี๋มองดูท่าทางการซูดปากของหลี่โม่ ในใจก็รู้สึกตื่นตระหนกในทันที เหมือนกับว่าทำเรื่องผิดระดับโลกอย่างนั้น
“งั้น…พวกพี่หลี่โม่มีธุระก็ยุ่งก่อนเลยค่ะ หนู คือ…ไม่รบกวนแล้ว ต่อไปค่อยติดต่อกันนะคะ”
เยว่จิ้งอี๋พูดจบก็โบกมือ แล้วก็กระดี๊กระด๊าโดดกลับไปหากลุ่มเพื่อนอย่างกับกระต่ายน้อย
เฉินเสี่ยวถงทำแก้มป่องอย่างโมโห มองหลี่โม่ด้วยความโกรธ
หลี่โม่เงยหน้ามองเพดาน “เธอเป็นคนบอกให้ฉันทำความรู้จักไม่ใช่หรอ? เดิมทีฉันอยากจะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินสักหน่อย”
“ฉันก็แค่พูดหยอกนาย นายก็เอาจริงเอาจัง ถ้าหากว่าฉันให้นาย….หึ ไม่คุยกับนายแล้ว”
หลี่โม่ลูบคาง แล้วก็หันหัวมองไปยังชั้นสองเงียบๆ คิดในใจว่าคำพูดของผู้หญิงคิดจริงจังไม่ได้จริงๆด้วย
เสียงต่ำของลุงไห่ที่มีความมั่นใจอย่างมากดังออกมาจากชั้นบันได “ฉันขอดูสักหน่อยสิว่าไอ้หนุ่มคนไหนที่มันไม่ให้เกียรติฉัน”
เสียงของลุงไห่ ทำเอาใจของผู้คนเกร็งขึ้นมา สายตาของผู้คนมองไปที่หลี่โม่ มีสายตาไม่น้อยที่เป็นความสมน้ำหน้า
หยางเฉียนจิ้นเดินออกมาจากบันไดก่อน อยากจะดูว่าคนที่บอกชื่อเรียกหาตนนั้นเป็นใคร
เมื่อตอนที่เห็นหลี่โม่ หยางเฉียนจิ้นก็ชี้ไปที่หลี่โม่อย่างตกใจ ในสายตาปรากฏความหวาดกลัว “เป็นแกได้ยังไง!”
ลุงไห่ก้าวขาเดินเข้ามาอย่างไม่รีบร้อน “ทำไมครับ ประธานหยางรู้จักกับคนนี้จริงๆงั้นหรอครับ? งั้นก็แนะนำให้ผมสักหน่อยสิครับ”
เมื่อพูดจบ ลุงไห่ถึงจะมองเห็นหลี่โม่
เมื่อมองเห็นหลี่โม่ที่มีสีหน้ายิ้มแย้ม ลุงไห่ก็รู้สึกว่าสมองอื้อไปทีหนึ่ง ไม่มีความคิดอะไรสักอย่างแล้ว มีเพียงแค่ความหวาดกลัว
นี่มันแม่งพี่ใหญ่ของท่าเทียนนี่นา! ถ้าจะให้นับจริงๆ หลี่โม่นั้นเป็นพี่ใหญ่ของฉู่จงเทียนที่เป็นพี่ใหญ่ของลุงไห่! ลุงไห่นับได้แค่เป็นลูกน้องของลูกน้องหลี่โม่ เป็นได้แค่รุ่นหลานก็เท่านั้นเอง!
หยางเฉียนจิ้นได้ยินว่าลุงไห่อยากจะรู้จักกับหลี่โม่ จึงยื่นมือชี้ไปที่หลี่โม่พูดว่า “ลุงไห่ ผมแนะนำให้รู้จัก….”
หยางเฉียนจิ้นยังไม่ทันพูดจบ ลุงไห่ก็ก้าวเดินไปที่ตรงหน้าหลี่โม่ แล้วก็โค้งทำความเคารพต่อหลี่โม่ แล้วพูดอย่างเคารพมากว่า “ยินดีที่ได้พบคุณหลี่ครับ ไม่ทราบว่าคุณหลี่มาที่นี่ ขอคุณหลี่อย่าได้กล่าวโทษกันครับ!”
ทุกคนถูกการกระทำของลุงไห่ทำให้มึนงงไปหมด
ในใจของหยางเฉียนจิ้นก็ยิ่งกระสับกระส่าย อดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปสองก้าว ในใจลังเลว่าจะขอตัวจากไปเลยดีมั้ย
ทุกอย่างน่าประหลาดเกินไป ประหลาดจนทำให้หยางเฉียนจิ้นรู้สึกกลัว
หลี่โม่เหลือบมองลุงไห่ทีหนึ่ง แล้วพูดนิ่งๆว่า “ผู้ไม่รู้ไม่ผิด”
“ขอบคุณความใจกว้างของคุณหลี่ครับ” หลังจากที่ลุงไห่ยืนตัวตรงแล้ว หันไปตะโกนถลึงตาใส่พวกลูกน้อง “ยังนิ่งอยู่ทำไม รีบทำความเคารพคุณหลี่ซะ”
พี่ฮั่ว พี่เฟย และพวกหนุ่มเลวพวกนั้น ตอนนี้มองหลี่โม่อย่างนิ่งอึ้ง คิดไม่ออกจริงๆว่าทำไมสถานการณ์ถึงได้เปลี่ยนไปเป็นแบบนี้
“สวัสดีครับคุณหลี่!”
หลังจากที่ลังเลไปสักพัก พี่ฮั่วและคนอื่นๆก็ทำความเคารพหลี่โม่
ภาพที่หลายสิบคนทำความเคารพ มองดูแล้วเหมือนกับที่ราชาเข้าทำกิจในเวลาตอนเช้าแล้วมีพวกขุนนางทำความเคารพ ท่าทางนั้น เสียงที่โด่งดังนั้น ทำเอาทุกคนในอิมพีเรียลมองหลี่โม่อย่างตกตะลึงมาก