จักรพรรดิมังกร - บทที่ 732 คุยธุรกิจเรื่องหนึ่ง
หลี่โม่อยู่คุยกับลุงไห่สักพัก จากนั้นก็ขอตัวกลับ
ลุงไห่ส่งหลี่โม่ออกจากประตูอิมพีเรียลไปแล้ว ถึงได้รู้สึกผ่อนคลายขึ้น
หลี่โม่จับมือเฉินเสี่ยวถงออกจากอิมพีเรียล เดินไปทางที่จอดรถ เมื่อถึงหน้ารถ หลี่โม่และเฉินเสี่ยวถงต่างก็นิ่งไปทั้งคู่
พี่ฮัวกำลังพิงอยู่ที่รถเบนซ์ ท่าพิงนั้น แสดงให้เห็นถึงความเต็มอิ่มของพี่ฮัว เสน่ห์ของหญิงมีอายุ ถูกพี่ฮัวแสดงออกมาให้ได้เห็นอย่างชัดเจน
เฉินเสี่ยวถงไม่พอใจ มือก็วางไปที่เอวของหลี่โม่ เตรียมจะหยิกเนื้ออ่อนที่เอวของหลี่โม่
ครั้งนี้หลี่โม่รู้ตัวทัน รีบกดมือของเฉินเสี่ยวถงไว้ “อย่างน้อยก็รู้สถานการณ์ให้ชัดเจนก่อนสิ เธอขี้หึงไปมั่วแบบนี้ไม่ดีนะ”
“คนเขามาขวางประตูรถขนาดนี้แล้ว นายยังจะให้รู้สถานการณ์อะไรอีก? ยังรอนายก็คงไปกลิ้งบนเตียงกับคนอื่นเขาแล้วใช่มั้ย?” เฉินเสี่ยวถงยู่ปาก แล้วก็ถลึงตาใส่พี่ฮัวทีหนึ่ง
“ผู้หญิงพูดจาต้องระวังคำพูด แบบนี้มันเป็นการหมิ่นประมาทกันนะรู้มั้ย ฉันเป็นคนที่มีคุณธรรมมีขีดจำกัดนะ”
มองดูหลี่โม่และเฉินเสี่ยวถงเถียงกัน พี่ฮัวทนเดินส่ายเอวเข้าไป รูปร่างสวยงามขยับช้าๆ มีคนมองตาค้างไม่น้อย
“น้องชายกับน้องสาวคนนี้เหมาะสมกันจัง ฉันหาพวกนายก็เพราะอยากจะคุยธุรกิจกับพวกนายอย่างหนึ่ง”
“ธุรกิจ? พวกเราไม่ทำธุรกิจ คุณสามารถไปได้แล้ว” หลี่โม่พูดไปด้วยโบกมือไปด้วย
เผชิญหน้ากับการปฏิเสธที่ตรงไปตรงมาของหลี่โม่ พี่ฮัวมีความสับสนขึ้นนิดหน่อย
พี่ฮัวเพิ่งเคยถูกผู้ชายปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาครั้งแรก ก่อนหน้านี้ถึงจะเคยถูกผู้ชายปฏิเสธมาก่อน แต่ก็เป็นการปฏิเสธอย่างอ้อมค้อมมีมารยาท
ฝีเท้าของพี่ฮัวที่เดิมทีอยากจะเดินเข้าไปใกล้ก็หยุดลงในทันที “น้องชาย นายลองฟังดูก่อนว่าธุรกิจของฉันคืออะไร ฉันว่านายน่าจะสนใจธุรกิจที่ฉันพูดถึงนะ”
หลี่โม่เงยหน้ามองท้องฟ้า “บอกแล้วไงว่าไม่สนใจก็คือไม่สนใจ บอกจนฟ้าทลายก็ไม่สนใจ เสี่ยวถง คุณป้าคนนี้ก็ปล่อยให้เธอจัดการก็แล้วกัน”
หลี่โม่พูดจบก็เข้าไปนั่งที่นั่งข้างคนขับอย่างรวดเร็ว ไม่ได้สนใจพี่ฮัวเลยสักนิด
เรื่องแบบนี้ ให้ผู้หญิงมาจัดการจะดีกว่า
พี่ฮัวและเฉินเสี่ยวถงเองก็มองตากัน จากนั้นก็มองไปยังหลี่โม่ที่นั่งที่นั่งข้างคนขับอย่างเกียจคร้านพร้อมกัน
หลี่โม่เห็นว่าผู้หญิงทั้งสองคนมองมาพร้อมกัน ก็ค่อยๆหันหน้า มองไปยังท้องฟ้านอกหน้าต่าง
พี่ฮัวเองก็ทำได้เพียงแค่ทำตามคำพูดหลี่โม่ ดังนั้นจึงยิ้มให้กับเฉินเสี่ยวถง “น้องสาว ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเขาจริงๆ เธอบอกกับเขาสักหน่อยมั้ยว่าพวกเรามานั่งคุยเรื่องนี้กันดีๆ”
เฉินเสี่ยวถงมองพี่ฮัวอย่างสงสัย “คุณอยากจะคุยกันที่ไหน?”
“ที่ไหนก็ได้ บนรถก็ได้”
“งั้นคุณก็ขึ้นรถแล้วกัน คุยกันระหว่างทาง” เฉินเสี่ยวถงชี้ไปที่นั่งเบาะหลังอย่างใจกว้าง
พี่ฮัวหลบออกจากประตูฝั่งคนขับ แล้วก็กลอกตาใส่หลี่โม่อย่างไม่พอใจ “คุณป้าคนนี้จะคุยธุระกับนาย นายมาคุยกับเธอเองดีกว่า”
เรียกฉันว่าป้าอีกแล้ว! พี่ฮัวสีหน้ากระตุกทีหนึ่ง พยายามกลั้นอารมณ์ความโมโหของตัวเองไว้
หลี่โม่พูดอย่างขี้เกียจว่า “ฉันมอบอำนาจการตัดสินใจแทนให้เธอทั้งหมด เรื่องทั้งหมดให้เธอเป็นคนตัดสินใจ”
การกระทำที่เด็ดขาดของหลี่โม่ ทำเอาเฉินเสี่ยวถงกลอกตาทีหนึ่ง
“เมื่อตอนเยว่อะไรนั้นจะทำความรู้จักกับนาย ทำไมไม่ให้อำนาจตัวแทนกับฉันละ ตอนนี้สายไปแล้ว ไปคุยเอง”
หลี่โม่หันหลังไปเผชิญหน้ากับพี่ฮัวอย่างหมดหนทาง
“คุณป้า คุณจะคุยธุรกิจอะไร บอกก่อนนะ หนึ่ง ผมไม่มีเงินทุน สอง ไม่มีความสามารถทางธุรกิจ เพราะงั้นผมคิดว่าธุรกิจนี้ไม่คุยจะดีกว่า”
พี่ฮัวโมโหอย่างมาก แต่ใบหน้าก็ยังต้องยิ้มแย้ม “ไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุน และก็ไม่ต้องใช้ความสามารถทางธุรกิจ ใช้เพียงแค่กำปั้นของนาย”
“กำปั้น? หรือว่าสามีของคุณป้านอกใจ ต้องการจะหาคนไปสั่งสอนสามีของคุณ? คงไม่ใช่ว่าต้องทำร้ายชู้ด้วยหรอกนะ?”
คำถามรวดเดียวของหลี่โม่ ทำเอาสีหน้าของพี่ฮัวแปรปรวน
“ต้องจัดการกับคนโลภมากจริงๆนั่นแหละ ฉันเป็นชู้คนนั้นเอง ดังนั้นน้องชายไม่ต้องทำร้ายชู้หรอก” พี่ฮัวกัดฟันพูดตามน้ำไปตามคำพูดของหลี่โม่
“……” หลี่โม่เบิกตากว้าง มองพี่ฮัวอย่างหมดคำพูด
ส่วนเฉินเสี่ยวถงนั้นเหยียบเบรกอย่างแรง ในแววตาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ในสมัยนี้การจัดการสามีและชู้เป็นเรื่องที่เห็นได้ปกติ แต่ว่าการที่ชู้จัดการคนรักนั้นมีไม่มาก ภาพสถานการณ์มากมาย ปรากฏเข้ามาในหัวของเฉินเสี่ยวถง
เฉินเสี่ยวถงที่ตื่นเต้นเล็กน้อยพูดขึ้นว่า “คนโลภมากที่คุณหมายถึงคือหยางเฉียนจิ้นรึเปล่า จะต้องทำร้ายภรรยาของเขาด้วยมั้ย ภรรยาของเขาเคยจัดการพวกคุณมาก่อนแล้วใช่รึเปล่า”
หลี่โม่เกาหัวอย่างเอือมระอา เรื่องน้ำเน่าแบบนี้ทำไมถึงยังได้เจอกับตัวเองด้วย
พี่ฮัวไม่คิดว่าจู่ๆเฉินเสี่ยวถงจะอยากรู้อยากเห็นขนาดนี้ กะพริบตาไม่กี่ที พี่ฮัวก็กัดริมฝีปากล่างเบาๆ เหมือนกับว่ากำลังตัดสินใจอะไรที่ยากเย็นบางอย่าง
สูดหายใจเข้าลึกหนึ่งที พี่ฮัวพูดอย่างโกรธแค้นว่า “วัยสาวของฉันให้กับหยางเฉียนจิ้นไปจนหมด เขาไม่เพียงแต่ถอดทิ้งฉัน ยังวางยาสลบใส่ฉัน แล้วส่งฉันให้กับที่พึ่งของเขา ความรักของฉัน ความฝันของฉัน ชีวิตของฉัน ถูกเขาทำลายไปแล้ว เขาอยากจะใช้เงินไล่ฉันไป ฉันไม่พอใจ ฉันจะใช้เงินของเขาแก้แค้นเขา”
บทน้ำเน่าทำเอาเฉินเสี่ยวถงตื่นเต้นมาก กำหมัดแล้วเหวี่ยงไปในอากาศ “ผู้ชายไม่มีดีเลยสักคน ผู้ชายแบบนี้สมควรจัดการ คุณป้าสบายใจได้ เรื่องที่จัดการหยางเฉียนจิ้นฉันตกลง”
หลี่โม่ปิดหน้าพูดเสียงอู้อี้ว่า “เธออย่าตกลงไปมั่วสิ”
“ผู้ชายก็ต้องเชื่อฟังผู้หญิง ถ้าไม่เชื่อฟังผู้ชายแต่ละคนก็กลายเป็นพวกคนเจ้าชู้ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปฉันก็จะคอยสั่งสอนนายแทนพี่หยุนหลัน”
ผ่านจากเรื่องของเยว่จิ้งอี๋ที่มาทำความรู้จักกับหลี่โม่ เฉินเสี่ยวถงตัดสินใจว่าจะต้องเฝ้าหลี่โม่ไว้ให้ดี อย่าได้ให้หลี่โม่ถูกผู้หญิงคนอื่นล่อลวงไปอีก
ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีเคยอะไรเกิดขึ้นกับหลี่โม่ แต่ว่าใจของเฉินเสี่ยวถงนั้นแอบยอมรับไปแล้วว่าตัวเองเป็นผู้หญิงของหลี่โม่ไปแล้ว
หลี่โม่เงียบหมดคำจะพูด เวลานี้ไม่พูดอะไรเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นพูดอะไรก็ผิดไปหมด
พี่ฮัวเห็นว่าหลี่โม่ได้คัดค้าน ในที่สุดก็วางใจ
“ฝีมือของน้องชายเก่งกว่าคนทั่วไปมาก เพียงแค่น้องชายสามารถเอาชีวิตของหยางเฉียนจิ้นได้ ฉันสามารถให้นายห้าล้านเป็นค่าตอบแทน”
เมื่อได้ยินว่าต้องเอาชีวิตคน เฉินเสี่ยวถงก็อึ้งไป เดิมทีคิดว่าแค่ทำร้ายก็พอ ตีจนหมดสภาพระบายอารมณ์แค่นั้นก็พอแล้ว แต่สรุปว่ากลายเป็นเรื่องที่ต้องเอาชีวิตคน เหมือนว่าเมื่อกี้จะตอบตกลงเร็วไปหน่อย
เฉินเสี่ยวถงเครียดไปเล็กน้อย ไม่กล้าตอบรับคำพูดของพี่ฮัวต่อ แต่ว่าส่งสายตาไปให้หลี่โม่
หลี่โม่ยักไหล่ “พี่ฮัว เมื่อกี้เสี่ยวถงตอบตกลงแทนผมไปแล้ว ตอนนี้ผมก็ไม่สะดวกที่จะพูดกลับคำ คุณทิ้งเบอร์ติดต่อไว้ให้ผม แล้วโอนเงินเข้าบัญชีผมห้าแสนเป็นเงินมัดจำ ผมจะจัดการหยางเฉียนจิ้นภายในหนึ่งเดือน”
ตั้งแต่วินาทีที่พี่ฮัวปราฏตัว หลี่โม่ก็รู้สึกว่าพี่ฮัวไม่ค่อยปกติ ตอนนี้ได้ยินว่าพี่ฮัวจะให้ตัวเองฆ่าหยางเฉียนจิ้น ในใจหลี่โม่ก็ยิ่งมีความสงสัยมากขึ้น