จักรพรรดิมังกร - บทที่ 733 ซื่อเกินไป
ตอนนี้ที่หลี่โม่ขอเบอร์ติดต่อพี่ฮัวก็เพียงเพื่อแกล้งทำ และก็เพื่อได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพี่ฮัวมากยิ่งขึ้น
พี่ฮัวตอบตกลงอย่างง่ายดาย หลังจากที่โอนเงินมัดจำแล้ว แลกเบอร์กับหลี่โม่
หลังจากที่พี่ฮัวลงรถจากไป เฉินเสี่ยวถงก็ขับรถเดินทางต่อ “พี่หลี่โม่ เหมือนว่าเรื่องราวจะดูผิดปกตินะ พี่ฮัวคนนั้นดูไม่ปกติ”
“มีพิรุธแน่นอนอยู่แล้ว เก็บเธอไว้ล่อเหยื่อดีแล้ว แต่ว่าฉันคิดว่าทางฝั่งหยางเฉียนจิ้นจะเกิดปัญหา น่าจะมีคนอยากตัดเบาะแสทิ้ง”
“หา? งั้นจะทำยังไงดี” เฉินเสี่ยวถงถามอย่างกระสับกระส่าย
“ส่งเธอกลับไปก่อน จากนั้นฉันค่อยไปวนที่บ้านของหยางเฉียนจิ้นรอบหนึ่ง และฆ่าพวกหักหลังพอดี”
หลี่โม่เร่งเฉินเสี่ยวถงขับรถ หลังจากที่ส่งเฉินเสี่ยวถงกลับคฤหาสน์แล้ว หลี่โม่ก็ขับรถรีบไปยังที่พักอาศัยของหยางเฉียนจิ้น
จอดรถที่นอกเขตคอนโดของหยางเฉียนจิ้น หลี่โม่เข้าไปในเขตคอนโดเดินไปยังตึกที่หยางเฉียนจิ้นอยู่ ระหว่างทางหลี่โม่พบเห็นรถสองคันที่น่าสงสัย
คันหนึ่งคือรถบรรทุกของบริษัทขนย้าย ประตูหลังของรถบรรทุกเปิดทิ้งไว้ครึ่งหนึ่ง ด้านในมีหนุ่มร่างใหญ่ก้มตัวอยู่หลายคน แล้วยังมีชายหนุ่มผอมแห้งอีกหนึ่งคน นั่งดูโทรศัพท์อยู่ที่นั่งคนขับ
การแต่งตัวของคนพวกนั้นดูไม่มีพิรุธอะไร แม้กระทั่งท่าทางก็ดูเหมือนพนักงานขนย้าย แต่ว่าพวกเขาแสดงออกได้ใจเย็นเกินไปหน่อย
มาขนย้ายให้คนเขาในตอนกลางคืน ถึงแม้ว่าเจ้าของบ้านจะยังไม่ถึง อย่างน้อยก็จะมีการโทรเร่ง หรืออาจจะลงจากรถมาพูดคุยกันแก้เบื่อ แต่ว่าคนพวกนี้กลับรออยู่บนรถอย่างนิ่งเฉย นี่ก็ดูผิดปกติมากเกินไป
อีกคันที่ทำให้หลี่โม่สงสัยก็คือรถตู้
ภายในรถตู้ของประเทศนั้นมีเพียงแค่คนขับรถนั่งอยู่คนเดียว แต่ว่าระดับความสูงของใต้ท้องรถ กลับทำเอาหลี่โม่สงสัยเล็กน้อย ใต้ท้องรถของรถคันนี้ สูงกว่ารถบรรทุกแบบเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าผ่านการดัดแปลงมา
รถสองคันที่น่าสงสัย และคนในรถที่น่าสงสัย ทำเอาหลี่โม่ระมัดระวังขึ้นมา
การมาที่นี่ของหลี่โม่เป็นการตัดสินใจกะทันหัน จึงไม่แยกออกว่านี่อาจเป็นการผ่านการวิเคราะห์ทางจิตวิทยาของอีกฝ่าย แล้วทำการจัดฉากขึ้น เพื่อซุ่มโจมตีหลี่โม่
แต่ความเป็นไปได้ที่มากกว่า คืออีกฝ่ายจะลงมือกับหยางเฉียนจิ้น บางทีอีกฝ่ายอาจจะคิดว่าหยางเฉียนจิ้นถูกเปิดเผยแล้ว จึงอยากจะตัดเบาะแส
หลี่โม่ตัดสินใจจะขึ้นไปดู ตอนนี้น่าจะมีโอกาสที่จะช่วยหยางเฉียนจิ้น ถึงแม้จะช่วยหยางเฉียนจิ้นไว้ไม่ได้ ก็จะต้องหาเบาะแสมาให้ได้บ้าง
ในตอนที่หลี่โม่ก้าวเท้าเดินเข้าไปยังตึก คนขับรถในรถตู้ค่อยๆเงยหน้าที่ก้มอยู่ขึ้น ยื่นมือจับหูฟังในหู
“Joker bomb Joker bomb ฉันคือเอซ คว็อด 2 เข้าตึกไปแล้ว ย้ำ คว็อด 2 เข้าตึกไปแล้ว”
“รับทราบ พวกนายเตรียมพร้อมให้ดี”
“รับทราบ”
คนขับรถตู้สตาร์ตรถ สายตาจ้องมองไปยังทางเข้าตึก
ส่วนคนขับรถบรรทุกบริษัทขนย้ายเองก็หยุดการเล่นโทรศัพท์ และโทรหาเบอร์หนึ่ง
“นักล่า เหยื่อเข้าไปในตึกแล้ว แมลงเน่าฝั่งตรงข้ามสตาร์ตรถแล้ว ดูแล้วพวกเขาเตรียมจะลงมือแล้ว”
ในสายส่งเสียงแหบดังออกมา “ให้พวกเขาจัดการไปก่อน พวกเราตามจับให้ดีทีหลัง”
คนขับรถบรรทุกพยักหน้า “รับทราบ งั้นก็รอนายสั่งละกัน”
คนขับรถบรรทุกพูดจบแล้วก็วางสายไป เปิดประตูโดดลงจากรถ เดินไปยังคอนเทนเนอร์ด้านหลัง
ส่งสายตาให้กับพวกหนุ่มร่างใหญ่ในคอนเทนเนอร์ แล้วคนขับรถบรรทุกก็เข้าไปนั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างถนน
ไฟที่โถงทางเดินในตึกเสียแล้ว แสงไฟกะพริบ ทำให้โถงทางเดินในตึกดูมีบรรยากาศน่ากลัว หลี่โม่ที่เดินไปถึงลิฟต์ก็กดปุ่มลิฟต์
แต่ว่าลิฟต์ที่ขึ้นแสดงว่าจอดอยู่ชั้นบนสุด ไม่มีการตอบรับใดๆ และยังหยุดอยู่ที่ชั้นบนสุดไม่ขยับ
หลี่โม่มั่นใจต่อการคาดเดาเมื่อกี้ หยางเฉียนจิ้นจะต้องเกิดเรื่องแล้วแน่นอน จึงตัดสินใจขึ้นไปที่ห้องบันได แล้วหลี่โม่ก็วิ่งขึ้นบันได
เมื่อตอนที่เพิ่งถึงชั้นสิบ ตรงหน้าของหลี่โม่มีชายหนุ่มใส่หน้ากากอุลตร้าแมนคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น
มองดูดวงตาโตในหน้ากากอุลตร้าแมน หลี่โม่ส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย “น้องชาย นายมืออาชีพหน่อยไม่ได้หรอ เลือกใส่หน้ากากดีๆหน่อยสิ”
“ฉันใส่หน้ากากอะไรไม่ใช่เรื่องที่นายจะต้องมาสนใจ” หนุ่มหน้ากากพูดจบ ก็ดึงเอาดาบสั้นที่หลังเอวออกมาเล่มหนึ่ง
ดาบสั้นยาวเท่าท่อนแขน ที่ตัวดาบส่องแสงประกายออกมา แสงสว่างมากกว่าไฟที่มืดมนในห้องบันไดซะอีก
หลี่โม่ดูดาบเล่มนั้นแล้วหัวเราะ “งั้นฉันควรกังวลอะไร?”
“กังวลชีวิตของแก!”
ดาบสั้นพุ่งออกมา ดาบสั้นในมือของหนุ่มหน้ากากเล็งไปยังลำคอของหลี่โม่ หลี่โม่หันหัวหลบ มือขวาจับข้อมือที่หนุ่มหน้ากากถือดาบไว้
หนุ่มหน้ากากเปลี่ยนท่าเร็วมาก หลังจากที่ท่าหนึ่งไม่ได้ผล เปลี่ยนจากแทงเป็นฟัน ดาบสั้นเฉียงลง เล็งฟันไปที่คอของหลี่โม่
หนุ่มหน้ากากมีความมั่นใจมาก มั่นใจว่าจะใช้ดาบสั้นฟันไปที่คอของหลี่โม่ ก่อนที่หลี่โม่จะทำท่าหลบได้ทัน
หลี่โม่เองก็มั่นใจมาก มั่นใจว่าความเร็วจะเร็วมากกว่าหนุ่มหน้ากาก
สุดท้ายคนที่ชนะก็คือหลี่โม่ มือขอหลี่โม่จับเข้าที่ข้อมือของหนุ่มหน้ากากไว้อย่างกับสายฟ้าฟาด จับแล้วหมุน ข้อมือของหนุ่มหน้ากากถูกหลี่โม่จับไว้ และถือดาบสั้นในมือไว้ไม่อยู่อีกต่อไป
เคร้ง!
หลังจากเสียงดังหนึ่ง ดาบสั้นตกลงกับพื้น
ภายใต้การปิดบังของหน้ากาก มองไม่เห็นสีหน้าของหนุ่มหน้ากากในตอนนี้ แต่ว่าดวงตาภายใต้หน้ากากอุลตร้าแมนนั้น ถลึงขึ้นเหมือนจะหลุดออกมาดั่งกับว่าตกใจกับฝีมือของหลี่โม่ ดูเข้ากับสถานการณ์ในตอนนี้มาก
หลี่โม่ขึ้นนำในท่าเดียว ไม่ให้โอกาสที่หนุ่มหน้ากากจะตอบโต้ กระบวนท่าการจับกุมอีกหนึ่งท่าตามมา หนุ่มหน้ากากถูกหลี่โม่เหยียบไว้ที่พื้นและร้องครวญคราง
เท้าของหลี่โม่เหยียบไว้ที่หน้าของหนุ่มหน้ากาก หน้ากากอุลตร้าแมนทนต่อแรงเหยียบของหลี่โม่ไม่ได้ ส่งเสียงดังแกร็กแล้วก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ภายใต้หน้ากากคือใบหน้าที่หยาบกร้าน หน้าผากของหนุ่มหยาบกร้านมีเหงื่อผุดออกมา สีหน้าเจ็บปวดและสีหน้าตะเกียกตะกายผสมปนกัน ดูแล้วดูดุร้ายเล็กน้อย
“ไอ้หนุ่ม ฝีมือนายไม่เลว ฉันยอมแพ้แล้ว”
“ยอมแพ้? พูดออกมาว่ายอมแพ้ก็อยากจะให้ฉันปล่อยนายไป? นายก็ซื่อเกินไปแล้วมั้ง” หลี่โม่ยิ้ม
แต่ว่ารอยยิ้มของหลี่โม่ ทำให้หนุ่มหยาบกร้านรู้สึกกลัว
“งั้นนายจะเอายังไง ถ้ากล้าก็ฆ่าฉันสิ”
“ฆ่านาย? ก่อนจะฆ่านายจะต้องถามคำถามบางอย่างก่อน นายน่าจะรู้ว่าฉันจะถามอะไร” หลี่โม่ยิ้มกว้างกว่าเดิม
แต่ว่ารอยยิ้มนั้นที่หนุ่มหยาบกร้านเห็น รอยยิ้มของหลี่โม่ดูน่าหวาดกลัวมากกว่าปีศาจร้ายซะอีก
“ด้านบนยังมีอีกสามคน ฉันเป็นคนที่ฝีมืออ่อนที่สุด”
หนุ่มหยาบกร้านกลัวแล้ว ไม่มีความใจกล้าที่จะแข็งข้อกับหลี่โม่
จากที่หนุ่มหยาบกร้านดูแล้ว มีไม่กี่คนที่มีฝีมือเหมือนกับหลี่โม่ ฝีมือการต่อสู้ของหลี่โม่จะต้องเป็นระดับสูงสุดอย่างแน่นอน
และอีกอย่างหลี่โม่ก็ยังอ่อนวัยขนาดนี้ สามารถมีฝีมือที่ดีแบบนี้ได้ อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าเบื้องหลังของหลี่โม่มีสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากกว่าอยู่ ชีวิตในยุทธภพถึงแม้จะเป็นการฆ่าฟัน แต่ก็ต้องดูด้วยว่าการฆ่านั้นคุ้มค่ามากมั้ยด้วย
หลี่โม่พยักหน้าเบาๆ รู้สึกพอใจกับการให้ความร่วมมือของหนุ่มหยาบกร้านเป็นอย่างมาก
“พวกนายมาเพื่ออะไร? ใครสั่งให้พวกนายมา?”