จักรพรรดิมังกร - บทที่ 740 กระอักเลือด
ท่านโหวหัวเราะแห้งสองที ไม่กล้าที่จะมีลูกเล่นอีก “จางเต๋ออู่เป็นคนส่งผมมา ให้ผมฆ่าหยางเฉียนจิ้นทันทีที่รับมา แล้วก็โยนลงแม่น้ำ จากนั้นก็ให้ผมหาโอกาสไปลอบฆ่าคุณ แต่ไม่คิดเลยว่าคุณจะเก่งกาจขนาดนี้ และช่วยหยางเฉียนจิ้นไว้ แล้วยังตามาได้ถึงที่นี่ ถ้าหากผมรู้ว่าคุณเก่งขนาดนี้ เมื่อกี้ก็ถอยหลบหนีไปไกลแล้วครับ”
หลี่โม่ลูบคางถามว่า “จางเต๋ออู่ยังสั่งอะไรอีก หรือว่าเขาไม่ได้ส่งพวกนายมาแค่เพียงพวกเดียว?”
“เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้แล้วครับ ผมไม่ได้ยินมาว่ายังมีใครมาเมืองฮ่านอีก จางเต๋ออู่ก็ไม่ได้พูดว่ายังส่งใครมา”
ท่านโหวมองหลี่โม่อย่างหดตัว ถ้าหากว่ามียาสำนึกผิด ตอนนี้ท่านโหวก็อยากจะกินเข้าไปสักหลายสิบเม็ด
เมื่อกี้ฆ่าซือคงหมิงเสร็จก็น่าจะรีบไปซะ แต่ว่าเพียงแค่ประโยคหนึ่งของซือคงหมิง ทำให้ท่านโหวมีความคิดที่จะรอจับกระต่าย แต่ว่าการรอเจอกับกระต่ายที่สามารถชนต้นไม้ล้มได้มา นี่ทำเอาท่านโหวเสียใจเป็นอย่างมาก
หลี่โม่มองท่านโหวที่สีหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจ อดไม่ไหวจึงหัวเราะออกมา รู้สึกว่าท่านโหวตรงหน้าก็ตลกดี
“ยกเว้นโทษประหารได้ แต่หนีบทลงโทษไม่ได้ จะต้องให้บทลงโทษกับนายสักหน่อย”
“ผม…เพียงแค่คุณไม่ฆ่าผม ลงโทษยังไงผมก็ยอมรับแล้วครับ!” ท่านโหวพูดอย่างกัดฟันอดทน
ตอนนี้เป็นได้แค่เหยื่อหลี่โม่เป็นผู้มีอำนาจแล้ว หลี่โม่พูดอะไรก็ต้องอย่างนั้น เพียงแค่สามารถมีชีวิตรอด ปัญหาอย่างอื่นล้วนไม่นับเป็นปัญหา
หลี่โม่ยกเท้าขึ้นเหยียบไปที่แขนของท่านโหว สองเท้าลองไปเหยียบกระดูกแขนของท่านโหวแตกละเอียด แบบนี้ถึงแม้ว่ากระดูกของท่านโหวหายดีขึ้นแล้ว ก็ยากที่จะต่อสู้กับคนอื่นได้อีก และถ้าหากรักษาไม่ดี ไม่แน่ชีวิตนี้อาจจะแขนพิการไปเลย
“ขอบคุณนายน้อยเมตตาครับ ทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ถึงแม้จะมีพรหมลิขิตหรือไม่ก็จะไม่เจอกันอีก ต่อไปคนของตระกูลโหวเสื้อม่วงของผมถ้าเจอกับนายน้อยก็จะถอยหนีครับ”
ท่านโหวคลานลุกขึ้นจากพื้นอย่างยากลำบาก ปากก็พูดคำสัตย์จริงของยุทธภพ
“ไปซะ แค่สภาพนายแล้วก็รำคาญ ถ้ายังกล้าพูดมากอีกประโยค ฉันก็จะตัดขาสองข้างของนายด้วย” หลี่โม่พูดเสียงเย็นชา
“ครับ ครับ ผมไปแล้วครับ ผมไปเดี๋ยวนี้ครับ” ท่านโหวรีบวิ่งหนีออกไปไกล ไม่กล้าพูดอะไรมากอีก กลัวว่าจะทำให้หลี่โม่โมโหแล้วจะหนีไม่พ้นอีก
ผ่านไปไม่กี่นาที ทางด้านของริมแม่น้ำส่งเสียงเครื่องยนต์ดังก้องมา น่าจะพวกคนของท่านโหวนั่งเรือจากไป
หลี่โม่ไม่ได้ออกไปจากท่าเรือร้าง แต่กลับเดินไปยังศพของซือคงหมิง
มองดูศพของซือคงหมิง มุมปากของหลี่โม่ยกยิ้มขึ้น ใช้เท้าถีบศพของซือคงหมิง
ศพไม่มีการตอบรับใดๆ ศพปลอมที่รออยู่ไม่ปรากฏตัวขึ้น
หลี่โม่พูดด้วยสีหน้าเฉยชา “ซือคงหมิง ถ้านายยังไม่ลุกขึ้น ฉันก็จะใช้ดาบแทงลงหัวใจของนายแล้วนะ”
ขนตาของซือคงหมิงขยับเล็กน้อย ดวงตาเบิกขึ้นเล็กน้อยเป็นเส้นตรง
หลี่โม่หัวเราะ “ยังแกล้งอะไรอีก ตาก็ลืมขึ้นมาแล้ว งั้นก็ลุกขึ้นมาเถอะ หรือว่าแกล้งเป็นศพสนุกมากหรอ”
“เฮ้อ! แกแล้วใช้ไม่ได้แล้ว โลกในอนาคตก็เป็นของพวกหนุ่มสาวอย่างพวกนายแล้วละ” ซือคงหมิงแกล้งเป็นศพจริงๆ พูดจบประโยคหนึ่งแล้วก็กระโดดลุกขึ้นจากพื้น
ซือคงหมิงที่กระโดดลุกขึ้น มองหลี่โม่อย่างสงสัย “ไอ้หนุ่มนายเป็นเทพจากไหนกันแน่? โจมตีไอ้แซ่โหวแพ้ง่ายๆแบบนั้นก็ไม่พูดแล้ว ยังสามารถดูออกอีกว่าฉันแกล้งตาย ระดับของนายนี่มันมากเกินไปแล้วนะ”
หลี่โม่ยักไหล่อย่างเบื่อหน่าย “ไม่มีทางเลือก จุดเริ่มต้นสูง ของพวกนั้นของพวกนายจากที่ฉันดูแล้วล้วนเป็นของเด็กเล่นทั้งนั้น”
“จึกๆ” ซือคงหมิงพะงาบปาก ใบหน้ามีสีหน้าแปลก “ไอ้หนุ่ม ในเมื่อนายไม่อยากพูดงั้นฉันก็ไม่ถามแล้ว เส้นทางอีกยาวไกลไว้ค่อยเจอกัน”
ซือคงหมิงอายุเยอะมากประสบการณ์ รู้ว่าตัวตนของหลี่โม่ต้องไม่ธรรมดา ในเวลาแบบนี้รีบไปซะดีที่สุด จะได้ไม่ต้องถูกดึงเข้าไปในปัญหาของหลี่โม่อีก
เมื่อกี้เพื่อการแกล้งตาย ซือคงหมิงปิดสัมผัสทั้งหก จึงไม่ได้ยินการสนทนาของหลี่โม่และท่านโหว จนถึงตอนที่ทั้งสองสู้กัน ซือคงหมิงถึงได้เปิดสัมผัสทั้งหกออกเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ฐานะนายน้อยสำนักหลงเหมินของหลี่โม่
แต่รู้หรือไม่รู้ตัวตนของหลี่โม่ก็ไม่สำคัญ ในตอนนี้ซือคงหมิงคิดเพียงแค่อยากจะจากไปซะ
ซือคงหมิงหันหลังเตรียมจะจากไป หลี่โม่จับคอของซือคงหมิงไว้ ยกตัวผอมเล็กของซือคงหมิงขึ้น
“ให้นายไปแล้วหรอ”
ซือคงหมิงสีหน้าขมขื่น หันหัวไปมองหลี่โม่ “น้องชาย นายยังจะเอายังไงอีก ฉันพ่ายแพ้ติดต่อกันจนไม่มีหน้าอยู่ในยุทธภพแล้ว เตรียมตัวจะกลับไปล้างมือกลับไปอยู่ซ่อนในป่าแล้ว นายก็ปล่อยฉันไปเถอะ ต่อไปเส้นทางยาวไกลเราก็ไม่เจอกันอีก”
“ฝันไปเถอะ นายสามารถกลับไปหลบซ่อนอยู่ได้นั่นถึงจะเป็นเรื่องประหลาดเถอะ” หลี่โม่กดซือคงหมิงลงกับพื้น ไม่ได้คิดจะปล่อยซือคงหมิงจากไป
“ช่วงนี้ฉันขาดลูกน้อง โจรเก่าแก่อย่างนายเหมาะจะช่วยฉันพอดี”
ใบหน้าแก่ของซือคงหมิงขมวดเข้าด้วยกัน เป็นรอยย่นบนใบหน้า “น้องชาย ถือว่าตาแก่คนนี้ขอร้องนายละ อายุปูนนี้ของฉันรับงานหนักไม่ไหวแล้ว ฉันเองก็ดูมาแล้ว เรื่องนี้มันไม่ง่าย ฉันร่วมด้วยไม่ไหวหรอก”
ซือคงหมิงคิดว่าถ้าตอนนี้ยังเข้าไปร่วมในเรื่องของหลี่โม่ นั่นก็คือหาเรื่องตาย กว่าจะหนีจากความตายมาได้ ซือคงหมิงไม่อยากจะโดดเข้าหลุมนี้อีกแล้ว
หลี่โม่มองวือคงหมิงด้วยสีหน้าเย็นชา “ฉันให้โอกาสนายเรียบเรียงคำพูดใหม่ หลังจากนี้สามวินาทีนายพูดใหม่อีกครั้ง ถ้าหากว่านายพูดไม่ตามที่ฉันพอใจ งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจนาย”
ซือคงหมิงเบิกตากว้างในทันที มองหน้าของหลี่โม่แล้วจู่ๆก็รู้สึกปวดฟัน
แม่งเอ้ย เหมือนว่าถ้าไม่ให้ความช่วยเหลือกับคนตรงหน้านี้ จะยิ่งตายเร็วขึ้นอีก
เผชิญหน้ากับเงิน ซือคงหมิงจะเร็วกว่าทุกคนแน่นอน แต่ถ้าเผชิญหน้ากับความตาย ซือคงหมิงจะต้องอยากช้ากว่าทุกคนอยู่แล้ว ซือคงหมิงที่อยากมีชีวิตรอด ยังอยากจะช่วยเหลือตัวเองอีกสักหน่อย
“น้องชาย นายดูสิฉันไม่มีความสามารถอะไรจริงๆ ตอนนี้แม้แต่กำแพงฉันก็ข้ามไม่ได้ ยิ่งลงไม้ลงมือกับคนก็ยิ่งไม่ไหว ช่วยอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ไม่แน่ยังช่วยให้แย่กว่าเดิมอีก ถ้าหากไปทำลายแผนการใหญ่ของนายก็แย่เลย แล้วนายดูร่างกายนี้ของฉันอีกสิ เมื่อกี้ถูกไอ้แซ่โหวคนนั้นตีจนบาดเจ็บภายในไปหมด ตอนนี้ฉันแค่ขยับก็จะกระอักเลือดแล้ว ไม่มีอะไรจะช่วยนายได้จริงๆ ถ้านายไม่เชื่อฉันกระอักเลือดให้นายดูตอนนี้เลยก็ได้”
ซือคงหมิงพูดจบอย่างรวดเร็ว จากนั้นมุมปากก็มีฟองเลือดไหลออกมา ฟองเลือดไหลหยด ยิ่งไหลยิ่งเยอะ เหมือนกับว่าจะไม่จบสิ้น
มือของซือคงหมิงกุมหัวใจไว้ด้วยสีหน้าเจ็บปวด บนหน้าผากมีเหงื่อผุด พูดอย่างยากลำบากว่า “ไอ้น้องชาย ฉันไม่ได้โกหกนายนะ เมื่อกี้ฉันใช้กำลังภายในกดทับไว้ ตอนนี้ปล่อยกำลังภายในออก เลือดของแผลภายในก็พุ่งขึ้นมา สภาพร่างกายของฉันแบบนี้ ไม่สามารถช่วยเหลือน้องชายได้หรอก ฉันว่านายปล่อยฉันไป แล้วค่อยหายอดฝีมือมาช่วยเถอะ”
ซือคงหมิงพูดจบอย่างรวดเร็ว จากนั้นมุมปากก็มีฟองเลือดไหลออกมา ฟองเลือดไหลหยด ยิ่งไหลยิ่งเยอะ เหมือนกับว่าจะไม่จบสิ้น
มือของซือคงหมิงกุมหัวใจไว้ด้วยสีหน้าเจ็บปวด บนหน้าผากมีเหงื่อผุด พูดอย่างยากลำบากว่า “ไอ้น้องชาย ฉันไม่ได้โกหกนายนะ เมื่อกี้ฉันใช้กำลังภายในกดทับไว้ ตอนนี้ปล่อยกำลังภายในออก เลือดของแผลภายในก็พุ่งขึ้นมา สภาพร่างกายของฉันแบบนี้ ไม่สามารถช่วยเหลือน้องชายได้หรอก ฉันว่านายปล่อยฉันไป แล้วค่อยหายอดฝีมือมาช่วยเถอะ”