จักรพรรดิมังกร - บทที่ 741 ลูกศิษย์ของยอดฝีมือ
“เฮือกๆ ไม่ไหวแล้ว หายใจจะไม่ทันอยู่แล้ว ฉันต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลแล้ว ไม่อย่างนั้นคงตายจริงๆแล้ว น้องชาย ลาก่อน”
ซือคงหมิงที่ตัวงอ ค่อยๆหันหลังด้วยสีหน้าเจ็บปวด ก้าวขาเดินไปข้างหน้าอย่างยากลำบาก
หนึ่งก้าว สองก้าว สามก้าว……
เห็นว่าหลี่โม่ไม่พูดอะไร และก็ไม่ได้ขวางตัวเองไว้ ใจที่ตื่นเต้นของซือคงหมิงในที่สุดก็ผ่อนคลายลง
พระเจ้า แกล้งเจ็บปวดน่าสงสารแล้ว ในที่สุดก็หลอกไอ้หนุ่มนี่ได้ พ่ายแพ้แต่ต้นเลยจริงๆ เดิมทีแค่อยากจะหาเงินเกษียณสักหน่อย ปรากฏว่ากลับขาดทุนซะงั้น
แม้แต่พวกลูกน้องก็ตายหมดแล้ว แม้แต่คนเคารพศพครั้งสุดท้ายก็ไม่มี ทำไมซือคงหมิงคนนี้ถึงได้อนาถขนาดนี้นะ อนาถจนถึงที่สุดเลยจริงๆ
ซือคงหมิงแอบสงสารตัวเองไปสามวินาที แล้วยกหูตัวเองขึ้นฟังสถานการณ์ด้านหลัง ไม่ได้ยินเสียงอะไรสักนิด นี่ทำให้ใจของซือคงหมิงที่แอบหวั่นอยู่สบายใจขึ้นมา
ก้าวเดินอย่างยากลำบากที่เสแสร้งออกมาค่อยๆเดินออกมากว่าร้อยเมตร ซือคงหมิงประมาณการแล้วว่ามีระยะห่างที่ปลอดภัยแล้ว ก็เริ่มเลิกแกล้งทำท่าทางที่เวทนา แล้วก้าวเท้าปกติ ใช้วิชาตัวเบาของสำนักจอมโจร บินไปยังห่างไกลอย่างว่องไว
ฟิ้วทีหนึ่ง ซือคงหมิงก็วิ่งไปไกล รู้สึกเหมือนว่าเป็นอิสระ ถึงขั้นที่ว่าซือคงหมิงคิดว่าตัวเองนั้นวิ่งจนถึงความเร็วอย่างที่สุดแล้ว
ในตอนที่ซือคงหมิงกำลังมีความสุขอยู่ และคิดว่าจะไปสนุกที่ไหนสักแห่งเพื่อปลอบใจตัวเอง ก็มีเสียงของหลี่โม่ดังมาที่ข้างหู
“นี่นายดูไม่เหมือนบาดเจ็บภายในเลยสักนิด แกล้งได้ไม่เนียนเลยสักนิดเดียว ต้องให้คะแนนแย่กับนายเลยนะเนี่ย”
ซือคงหมิงที่กำลังวิ่งสุดกำลังได้ยินเสียงของหลี่โม่ ขาเซไปทีหนึ่ง แล้วล้มลงกับพื้น ร่างกายที่ได้รับแรงดึงดูด ทำเอาไถลกับพื้นไปเป็นสิบเมตร
“โอ๊ย! เอวของฉัน ถูกกระแทกอย่างแรงเลยนะเนี่ย อยู่มาหลายปีขนาดนี้ เป็นครั้งแรกเลยที่ล้มกับพื้นในตอนหนี ฉันออกจากบ้านมาไม่ดูฤกษ์มงคลจริงๆ โชคร้ายอยู่ตลอดเลย”
ซือคงหมิงที่ล้มอยู่บนพื้นนวดเอวตัวเอง สายตากลับแอบมองไปที่หลี่โม่ รู้สึกว่าตัวเองเจอกับตัวซวยแล้วจริงๆ
ในใจของซือคงหมิงแทบจะสติแตกแล้ว หลี่โม่คนนี้ตามมาทันได้ยังไง เมื่อกี้ฟังเสียงด้านหลังอย่างละเอียดแล้ว ไม่มีเสียงฝีเท้าเลยสักนิดนี่นา
หรือว่าหูของฉันซือคงหมิงคนนี้ไม่ดีแล้ว? ไม่ใช่สิ หูของฉันการฟังดีมาก ใช้การฟังหากินด้วยซ้ำ
ซือคงหมิงคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ สายตาที่มองไปยังหลี่โม่ก็เปลี่ยนเป็นระมัดระวังขึ้น “น้องชาย นายรู้จักเคารพผู้ใหญ่มั้ย ถึงได้กล้าแกล้งตาแก่อย่างฉัน ทีนี้ล้มจนแทบจะหายไปครึ่งชีวิตแล้ว นายว่าฉันควรจะขูดรีดเงินจากนายสักหน่อยดีมั้ย”
หลี่โม่ยิ้มเยาะพูดว่า “เหอะๆ นายล้มอยู่กับพื้นไม่ยอมลุกขึ้น คือรอให้ฉันประคองนายลุกขึ้นหรอ? ฉันชอบประคองตาแก่ที่ขูดรีดเงินแบบนี้ที่สุดแล้ว ปกติพวกคนแก่ขูดรีดเงินที่ถูกฉันประคองลุกขึ้น มักจะมีจุดจบที่สวยงามมากเสมอเลย”
ซือคงหมิงกลอกตาทีหนึ่ง “ฉันซือคงหมิงไม่ใช่คนที่ขูดรีดเงิน ไม่ต้องให้ใครประคอง ฉันแค่ชอบนั่งบนพื้น กะจะนอนอย่างนี้สักคืน นายไม่ต้องสนใจฉัน อยากจะทำอะไรก็ไปทำซะ”
ซือคงหมิงกะจะหน้าด้านจนถึงที่สุดแล้ว วันนี้ไม่ว่าจะยังไง ก็จะไม่มีทางไปเป็นผู้ช่วยของหลี่โม่ ตัวเองก็ถือเป็นยังไงก็ไม่กลัวแล้วละมั้ง
หลี่โม่มองซือคงหมิงยิ้มๆ พูดอย่างอ่อนโยนว่า “งั้นดูแล้วฉันส่งนายไปโรงพยาบาลจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นนายนอนที่นี่แล้วไม่สบายขึ้นมาจะไม่ดีเอา”
ในตอนที่หลี่โม่พูดอยู่มือก็ไปจับที่เอว ใบมีดเล่มหนึ่งก็มาปรากฏอยู่ในมือ
มองดูใบมีดที่ส่องแสงในมือของหลี่โม่ แล้วนึกคิดถึงวิธีการหยิบใบมีดที่แทบจะดูไม่ชัดของหลี่โม่เมื่อกี้ ซือคงหมิงก็กระสับกระส่ายในทันที
“นาย…ทำไมนายถึงเป็นวิชานี้ นี่เป็นวิชาที่สูญหายของสำนักจอมโจร หรือว่านายเป็นศิษย์ของยอดฝีมือในสำนักจอมโจรสักคน? แต่ว่าก็ไม่น่าใช่สิ”
“สูญหาย? นายไม่เป็นไม่ได้แปลว่าจะสูญหายสักหน่อย ฉันเล่นแบบนี้เป็นประจำตั้งแต่เด็ก นายเบิกตากว้างดูให้ละเอียดอีกที”
ใบมีดขยับบนนิ้วมือของหลี่โม่ เหมือนดั่งกับว่าเป็นนักเต้นรำที่กำลังเต้นอยู่ ภาพที่แปลกประหลาดนี้ ทำเอาซือคงหมิงกลืนน้ำลาย
สามารถควบคุมใบมีดให้ขยับบนนิ้วมืออย่างคล่องแคล่วแบบนี้ได้ นี่ก็เป็นวิชาของสำนักจอมโจร แล้วยังเป็นวิชาที่ยากมากด้วย มีเพียงแค่จอมโจรใหญ่ในยุทธภพ ที่สามารถเป็นราชาจอมโจร ถึงจะสามารถฝึกวิชานี้เป็นได้
แต่ว่าตั้งแต่ที่ราชาจอมโจรทั้งสี่ในยุทธภพตายไปแล้ว วิชานี้ก็สูญหายไปด้วยแล้ว พ่อของซือคงหมิงก็คือหนึ่งในสี่ของราชาจอมโจรทั้งสี่ ดังนั้นจึงจำสิ่งนี้ได้อย่างแม่นยำ
“นาย นายเป็นใครกันแน่? นายเป็นศิษย์ของราชาจอมโจรท่านไหน?”
“ฉันไม่ใช่ศิษย์ของใครทั้งนั้น นายเพียงแค่เชื่อฟังฉัน ไปทำตามที่ฉันสั่ง ฉันก็จะส่งมอบวิชาเทพของสำนักจอมโจรให้นายทั้งหมด เป็นไง?”
ซือคงหมิงสีหน้าขมขื่นขึ้นในทันที “น้องชาย นายเปลี่ยนคนไม่ได้หรอ ทำไมถึงต้องเป็นตาแก่อย่างฉันคนนี้ช่วยเหลือด้วยละ”
“เพราะว่านายเป็นโจร ตอนนี้ฉันต้องการให้โจรช่วยเหลือ” หลี่โม่พูดอย่างเด็ดขาด
ซือคงหมิงยื่นมือมาขยี้ตาอย่างแรง อยากจะขยี้ให้น้ำตาไหลออกมาเสแสร้งทำน่าสงสาร
“น้องชาย นายอย่าแกล้งตาแก่อย่างฉันเลย วิชาของนายนั้นเก่งยิ่งกว่าราชาจอมโจรซะอีก ฉันก็เป็นได้แค่จอมโจรใหญ่ เทียบกับนายแล้วห่างกันเยอะ ช่วยอะไรนายไม่ได้จริงๆ”
“ถ้านายไม่ช่วย งั้นฉันก็ทำได้เพียงแค่ไม่เกรงใจละ”
ใบมีดในมือของหลี่โม่ส่องแสง สาดส่องไปยังลำคอของซือคงหมิง ทีนี้หลี่โม่ไม่ได้ออมมือเลยสักนิด เพียงแค่ใบมีดปักไป ก็จะสามารถเอาชีวิตของซือคงหมิงได้อย่างแน่นอน
ดวงตาของซือคงหมิงหดตัวอย่างแรง สองมือยกขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่ออยากจะขวางใบมีดในมือของหลี่โม่
มือของหลี่โม่เหมือนดั่งกับปลาหมู แหวกว่ายเข้าไปผ่านตรงกลางสองช่องแขนของซือคงหมิง ใช้ใบมีดจี้ไปตรงลำคอของซือคงหมิง
ซือคงหมิงชะงัก ใบหน้าพยายามยิ้มออกมาอย่างน่าเกลียด “แฮะ…แฮะๆ เก่งมากซะจริงๆด้วย ตาแก่คนนี้แพ้แล้ว ฉันเชื่อฟังนาย ฟังนายทุกอย่าง นายให้ฉันทำอะไรฉันก็จะทำอย่างนั้น”
สถานการณ์นี้เก่งแค่ไหนก็ไม่ช่วย ตอนนี้ชีวิตอยู่ในกำมือของหลี่โม่ ซือคงหมิงกลัวอย่างรวดเร็ว
หลี่โม่ใช้ด้านหลังของใบมีด แตะลำคอของซือคงหมิง สัมผัสที่เย็นเฉียบ ทำเอาลำคอของซือคงหมิงขนลุกในทันที
ซือคงหมิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “น้องชาย นายสั่งมาเลย คนในยุทธภพพูดคำไหนคำนั้น ตกลงช่วยนายแล้ว จะต้องพยายามทำให้ดีที่สุดแน่นอน แต่ว่าพูดไว้ก่อนเลยนะ ห้ามให้ฉันไปทำเรื่องที่เสี่ยงชีวิต”
“ไปกับฉัน ไปถึงที่แล้วค่อยคุย” หลี่โม่เก็บใบมีด ล้วงโทรศัพท์ออกมาดูเวลา เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว เหลือเวลาไม่มากจากที่นัดเวลากับพี่ฮัวไว้
ซือคงหมิงลุกขึ้นจากพื้นด้วยรอยยิ้ม มองหลี่โม่ด้วยสีหน้าประจบ “คุยง่าย ฉันไปกับน้องชายอยู่แล้ว นายสั่งให้ฉันทำอะไรฉันจะไม่มีทางขัดแน่นอน”