จักรพรรดิมังกร - บทที่ 745 ไร้คุณธรรมไร้ขีดจำกัด
จวนอ๋องเจียงหวางที่ริมแม่น้ำเจียง เป็นอุตสาหกรรมของฉู่จงเทียน เป็นคลับระดับไฮเอนด์ที่ทำเกี่ยวกับของสดโดยเฉพาะ
จวนอ๋องเจียงหวางถือเป็นตำนานหนึ่งในเมืองฮ่าน ผู้คนที่รู้จักชื่อเต็มของจวนอ๋องเจียงหวางมีเยอะมาก แต่ว่าคนที่สามารถเขาไปได้นั้นน้อยมากๆ มีเพียงแค่คนกลุ่มเล็กๆกลุ่มเดียวที่อยู่ในระดับสูงสุดของเมืองฮ่าน ถึงจะสามารถเป็นลูกค้าของที่นี่ได้
กลุ่มคนที่อยู่ในระดับสูงสุดของเมืองฮ่านที่อยู่ในจวนอ๋องเจียงหวางในตอนนี้ ตกใจกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างถึงที่สุด
ฉู่จงเทียนกำลังนำทางให้กับชายหนุ่มแต่งตัวธรรมดาคนหนึ่งอย่างถ่อมตนขนาดนั้น
และชายหนุ่มที่แต่งตัวธรรมดาคนนั้นก็คือหลี่โม่
ลูกน้องของฉู่จงเทียนทำงานเละเทะ หยางเฉียนจิ้นถูกดักฆ่ากลางทางระหว่างที่กำลังถูกส่งออก เนื่องจากนี้ฉู่จงเทียนจึงได้จัดงานเลี้ยงที่จวนอ๋องเจียงหวาง ตั้งใจจะอธิบายให้กับหลี่โม่และขอโทษ
ในพริบตา ลูกค้าในจวนอ๋องเจียงหวาง ต่างกำลังพูดถึงหลี่โม่อย่างหนัก สอบถามกันและกันว่ามีใครรู้ถึงที่มาที่ไปเบื้องหลังของหลี่โม่มั้ย
แต่หลังจากที่ถามกันไปมาแล้ว กลับไม่มีใครสามารถบอกข้อมูลของหลี่โม่ได้เลยสักคน จึงยิ่งทำให้คนพวกนี้อยากรู้อยากเห็นอย่างมาก
ในห้องหนึ่งที่ชั้นสองของจวนอ๋องเจียงหวาง ลูกคนรวยหลายคน ก็กำลังพูดคุยถึงหลี่โม่
ข้างกายของลูกคนรวยพวกนี้ ต่างก็มีนักเรียนหญิงที่หน้าตาสวยงามนั่งอยู่ และในมุมของห้อง มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งกำลังนั่งก้มหน้าหดตัวอยู่ ดูแล้วน่าสงสารอย่างมาก
“สามารถทำให้ฉู่จงเทียนตามติดแบบนี้ได้ ดูแล้วไอ้หนุ่มนี่ไม่ธรรมดานี่นา พวกเราไปทำความรู้จักสักหน่อยดีมั้ย?”
“เพียงแค่กล้าไปทำ โลกนี้ก็ไม่มีเรื่องยาก พวกเราก็ต้องหาโอกาสลองดูสักหน่อย คนใหญ่คนโตแบบนี้ ถ้าหากว่าเกาะได้แล้ว ต่อไปก็มีประโยชน์แน่นอน”
นักเรียนหญิงคนหนึ่งคิดแผนขึ้นได้ สายตาเหลือบไปยังผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงมุมคนเดียว
“อาวุธที่ใช้กับผู้ชายได้ดีที่สุดก็คือผู้หญิง พวกนายดูสิว่าเยว่จิ้งอี๋เหมาะมั้ย เยว่จิ้งอี๋ของพวกเราไม่เพียงแต่เป็นดาวโรงเรียน แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่เคยมีแฟน เป็นหญิงบริสุทธิ์เลยนะ”
เยว่จิ้งอี๋ตัวสั่นไปที เงยหน้าขึ้นอย่างหวาดกลัวเล็กน้อย หันไปมองผู้หญิงคนที่พูดอย่างขี้ขลาด “เสี่ยวเชียน เธอ เธอทำแบบนี้ได้ยังไง ฉัน ฉัน…”
“เยว่จิ้งอี๋ เสแสร้งอะไรกัน คิดว่าตัวเองเป็นดาวโรงเรียนแสนบริสุทธิ์จริงๆงั้นหรอ ฉันแนะนำเธอให้มารู้จักกับพวกพี่เจีย นั่นก็ให้เกียรติเธอมากแล้ว เก็บท่าทางใสสื่อบริสุทธิ์ของเธอไปซะ! เธอมาถึงก็ร้องไห้ ร้องไห้ให้ใครดูกัน! ดูแลพี่เจียให้ดีอนาคตเธอก็ไม่ต้องเครียดแล้ว ตอนนี้เป็นโอกาสที่เธอจะขอโทษ เพียงแค่เธอหาวิธีไปเข้าหาผู้ชายคนนั้น พี่เจียก็จะไม่คิดแค้นกับเธอแล้ว ไม่อย่างนั้น หึๆ….”
เสี่ยวเชียนยิ้มอย่างไม่เป็นมิตร เยว่จิ้งอี๋ตัวสั่นขึ้นหนักกว่าเดิม น้ำตาไหลริน ร้องไห้จนดวงตาบวมแดงขึ้นมา
พี่เจียมองดูเยว่จิ้งอี๋ที่ร้องไห้ขึ้นอีกครั้ง ขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่พอใจ
“ร้องไห้คร่ำครวญอะไร! ไปทำตามที่เสี่ยวเชียนบอก เธอไปยั่วยวนเขาซะ ถ้าวันนี้เธอไปยั่วไอ้นั่นมาไม่ได้ ผลลัพธ์เธอก็รู้ ออกไปทำหน้าที่ซะ!”
“ฉัน ฉัน……” เยว่จิ้งอี๋สะอึกสะอื้น พูดคำพูดที่สมบูรณ์ออกมาไม่ไหวแล้ว
เสี่ยวเชียนยิ้มอย่างร้ายกาจ ลุกขึ้นไปจับเสื้อของเยว่จิ้งอี๋ ดึงเยว่จิ้งอี๋ลุกขึ้น จากนั้นก็ผลักออกมานอกห้อง
“เยว่จิ้งอี๋ วันนี้เธอทำให้พี่เจียโมโห ฉันก็จะซวยกับเธอไปด้วย เธอรีบคิดว่าวิธีซะ ไม่อย่างนั้นก็รอตายซะเถอะ”
เสี่ยวเชียนพูดออกมาอย่างน่ากลัว แล้วหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องและปิดประตูอย่างแรง
เยว่จิ้งอี๋พิงอยู่ที่กำแพง สองมือปิดปากไว้สะอื้นร้องไห้ รู้สึกว่าตัวเองหมดหนทาง อยากจะให้มีฮีโร่บินลงมาจากฟ้า เพื่อช่วยเหลือตัวเองจริงๆ
เสียงของฉู่จงเทียนดังมาจากโถงทางเดิน “คุณหลี่ครับ ทุกสิ่งอย่างของที่นี่นั้นจัดตกแต่งอย่างดี และยังเชิญให้คนดูฮวงจุ้ยมาออกแบบด้วย การตกแต่งทุกอย่างล้วนพิถีพิถันอย่างมากครับ”
การตกแต่งของจวนอ๋องเจียงหวางมีแนวความคิดศิลปะ ฉู่จงเทียนแนะนำให้กับหลี่โม่อย่างละเอียด ดังนั้นทั้งสองคนจึงไม่ได้ขึ้นลิฟต์
มองดูร่างกายที่ยืนอยู่กับฉู่จงเทียน เยว่จิ้งอี๋รู้สึกคุ้นตาอย่างมาก
เป็นภาพลวงตารึเปล่า? น่าจะเพราะน้ำตาเยอะไปสายตาเลยเบลอ ดังนั้นจึงทำให้ตัวเองตาลาย
เยว่จิ้งอี๋รีบยกแขนขึ้น เช็ดน้ำตาออก
หลี่โม่เองก็มองเห็นเยว่จิ้งอี๋ จำเธอได้ในทันที “เหล่าฉู่ ฉันเจอเพื่อนคนหนึ่ง ไปดูด้วยกันเถอะ”
“โอ๊ะ? งั้นก็ไปดูกันครับ คนที่กำลังร้องไห้คนนั้น?” ฉู่จงเทียนขมวดคิ้ว ในใจรู้สึกไม่ดีเล็กน้อย
คนนี้เป็นเพื่อนของหลี่โม่ ถ้าหากว่าเกิดเรื่องอะไรในคลับของตัวเองละก็….
ฉู่จงเทียนตัวสั่นไปทีหนึ่ง มีความรู้สึกว่าไม่กล้าคิดต่อไป ถ้าหากว่าหลี่โม่โมโหขึ้นมาจริงๆ คาดว่าคงจะถอนจวนอ๋องเจียงหวางออกในพริบตานะสิ
ฉู่จงเทียนรีบพูดขึ้น “คุณหลี่ครับ เพื่อนของคุณดูเหมือนว่าจะ….ถูกรังแกมา ผมจะไปสอบถามความจริงมาให้แน่ชัดเดี๋ยวนี้ครับ จะจัดการคนที่รังแกเพื่อนของคุณอย่างดีแน่นอนครับ”
เยว่จิ้งอี๋ได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ เงยหน้ามองหลี่โม่นิ่งๆ เหมือนกับว่าเห็นฮีโร่ที่บินลงมาจากฟ้า แล้วยังขี่ม้าขาวมาด้วย เป็นฮีโร่ที่หล่อกว่าเจ้าชายซะอีก
จินตการเกี่ยวกับความรักที่เยว่จิ้งอี๋คาดหวัง ตอนนี้ถูกหลี่โม่เติมเต็มทั้งหมดแล้ว
หลี่โม่เดินไปตรงหน้าของเยว่จิ้งอี๋ พูดเสียงเบาว่า “ทำไมเธอถึงมาร้องไห้อยู่ที่นี่? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“แง! ฮือๆๆ” เยว่จิ้งอี๋กลั้นความน้อยใจไม่อยู่อีกแล้ว อ้าสองแขนกอดหลี่โม่ไว้แน่น แล้วร้องไห้เสียงดังออกมา น้ำตาทำให้เสื้อของหลี่โม่เปียกอย่างรวดเร็ว
หลี่โม่มองไปยังฉู่จงเทียนอย่างหมดหนทาง “หาที่นั่งสักหน่อยละกัน ยัยหนูนี่น่าจะร้องอีกสักพักเลย”
“เชิญทางนี้ครับคุณหลี่ พวกเราไปที่ห้องชั้นบนสุด เพียงแค่เพื่อนของคุณถูกรังแกในที่ของผม ทุกอย่างก็มอบหมายให้ผมรับผิดชอบเองครับ รับประกันว่าจะให้คำตอบที่คุณพอใจครับ”
ฉู่จงเทียนพูดไปด้วยและเดินนำทั้งสองคนไปที่ลิฟต์ด้วย
หลี่โม่ปลอบเยว่จิ้งอี๋ เยว่จิ้งอี๋สะอึกสะอื้น เสียงร้องไห้ค่อยๆเบาลงเยอะ
นั่งลงในห้องหรูหราชั้นบนสุด หลี่โม่ดึงทิชชูออกมายื่นให้กับเยว่จิ้งอี๋ “เช็ดน้ำตาหน่อยเถอะ พูดมาสิว่าเกิดอะไรขึ้น พี่ชายช่วยเธอเอง”
เยว่จิ้งอี๋เช็ดน้ำตา มองหลี่โม่ด้วยสายตาน่าสงสาร
“พี่หลี่โม่คะ หนู..เพื่อนของหนูพาหนูมา บอกว่าจะเลี้ยงข้าวหนู แล้วยังสามารถรู้จักกับคนเก่งบางคนด้วย บอกว่าแบบนี้ถ้าเรียนจบไปก็จะหางานง่าย แต่ว่า แต่ว่าหลังจากที่มา หนูถึงเพิ่งรู้ว่าพวกลูกคนรวยพวกนั้นอยากจะเลี้ยงดูหนู หนูปฏิเสธไปแล้ว พวกเขาก็ด่าหนู ตีหนู….หนู ฮือๆๆ…..”
เยว่จิ้งอี๋ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกน้อยใจ แล้วก็ปิดหน้าร้องไห้อีกครั้ง
หลี่โม่คิ้วกระตุก ในใจรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของพวกลูกคนรวยพวกนั้น การกระทำแบบนี้พูดได้ว่าไร้คุณธรรมและไร้ขีดจำกัดแล้ว