จักรพรรดิมังกร - บทที่ 747 พูดอะไรคิดก่อน
เสี่ยวเชียนตกใจจนร้องไห้ สองมือปิดปากไว้ไม่กล้าส่งเสียง กลัวว่าจะทำให้อาเปียวอาหย่งหันมาสนใจ แล้วหาเรื่องใส่ตัว
อาเปียวมองดุพี่เจียและคนอื่นๆที่กลายเป็นคนขี้ขลาดไร้ความสามารถไปแล้ว จึงพูดยิ้มเย็นชาว่า “ทุกคน พาพวกมันไปซะ”
ลูกน้องกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา จับพี่เจียและคนอื่นๆพาออกไป
สายตาน่ากลัวของอาเปียวกวาดมองผู้หญิงที่เหลืออยู่ในห้อง แล้วพูดอย่างน่ากลัวว่า “เสี่ยวเชียนคือคนไหน?”
เสี่ยวเชียนได้ยินอาเปียวเรียกชื่อตัวเอง ร่างกายกระตุกอย่างแรงทีหนึ่ง ร้อนรนจนอยากจะลุกขึ้นยืนวิ่งออกไปข้างนอก ปรากฏว่าขาอ่อนจนสะดุดโต๊ะ แล้วล้มลงกับพื้น
“พวกนาย พวกนายจะทำอะไร ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ฉัน ฉัน….พวกนายอย่าเข้ามานะ” เสี่ยวเชียนร้องไห้อย่างหวาดกลัว
“เธอทำอะไรลงไปเธอรู้ดี พาตัวไป” อาเปียวโบกมือ ลูกน้องสองคนก็เดินเข้ามาลากเสี่ยวเชียนเดินออกไป
“ฉันไม่ไป ฉันไม่ไปนะ พวกนายปล่อยฉันนะ!” เสี่ยวเชียนพยายามตะเกียกตะกายและกรีดร้อง
ลูกน้องคนหนึ่งต่อยไปที่หน้าท้องของเธอสองหมัด ท้องของเสี่ยวเชียนรู้สึกไหลเวียน แล้วก็อ้วกเหล้าและอาหารที่กินไปเมื่อกี้ และส่งเสียงกรีดร้องไม่ออกอีก ทำได้เพียงส่งเสียงอ้วกที่น่าขยะแขยงออกมา
พี่เจียและคนอื่นๆถูกพามาที่ห้องชั้นบนสุด เห็นว่าหลี่โม่กำลังหัวเราะยิ้มแย้มกับเยว่จิ้งอี๋ สีหน้าของพี่เจียและคนอื่นๆก็เปลี่ยนเป็นมืดหมองในทันที
ในตอนนี้ ในใจของพี่เจียคร่ำครวญทีหนึ่ง รู้สึกว่าเมื่อกี้ตัวเองจะต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ถึงได้ฟังคำพูดของเสี่ยวเชียน และให้เยว่จิ้งอี๋มายั่วยวนชายหนุ่มที่ลึกลับคนนี้
ดูท่าทางในตอนนี้แล้ว เยว่จิ้งอี๋ไม่เพียงแต่ยั่วชายหนุ่มลึกลับคนนี้ได้แล้ว และยังพูดเรื่องไม่ดีของตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง กลัวว่าสิ่งที่รอตัวเองอยู่จะเป็นจุดจบที่น่าเศร้า
สมองขอพี่เจียหมุนอย่างไว เมื่อลูกน้องที่จับเขาไว้ปล่อยมือออก พี่เจียก็โค้งทำความเคารพกับหลี่โม่ทันที
“พี่ใหญ่ครับ กระผมมีตาหามีแววไม่ กระผมรู้ถึงความผิดแล้วครับ พี่ใหญ่ปล่อยผมไปเถอะครับ”
ลูกคนรวยคนอื่นๆก็รีบร้อนโค้งตัวทำความเคารพขอโทษตาม
“ท่านเทียนครับ และยังมีพี่ใหญ่ท่านนี้ด้วย พวกผมสำนึกผิดแล้วครับ พวกผมสามารถชดเชยให้ได้ครับ”
“ขอร้องครับไม่เห็นแก่พวกผมก็เห็นแก่ผู้ใหญ่พวกผม เห็นแก่พวกพ่อของพวกผมแล้ว ปล่อยพวกผมไปสักครั้งเถอะครับ”
เสี่ยวเชียนเห็นเยว่จิ้งอี๋แล้วชะงักไปเล็กน้อย ตามด้วยในสายตามีความโกรธแค้นปรากฏขึ้น แต่เมื่อดูพี่เจียและคนอื่นๆที่เอาแต่ขอร้องให้ปล่อยไปแล้ว ความโกรธแค้นในดวงตาของเสี่ยวเชียน ก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว
เยว่จิ้งอี๋มองดูพวกลูกคนรวยที่เอาแต่พูดขอโทษอย่างตกใจ ตกใจจนหุบปากไม่มิด
หันหน้าไปมองหลี่โม่ สายตาของเยว่จิ้งอี๋ก็มีแววตาที่ไม่เหมือนเดิมแวบเข้ามา
ฉู่จงเทียนสีหน้าขรึม มองไปยังพวกลูกคนรวยพวกนั้น “พวกแกเรียกมั่วอะไรกัน ท่านนี้คือท่านหลี่ พวกแกต้องเรียกคุณท่านหลี่! เยว่จิ้งอี๋เป็นน้องสาวของคุณท่านหลี่ พวกแค่ต้องเรียกท่านย่าเยว่!”
ดวงตาของเยว่จิ้งอี๋เบิกตาโตในทันที ตกใจต่อคำเรียกว่าท่านย่าเยว่ที่ฉู่จงเทียนจัดให้
ก้มหน้าลง เยว่จิ้งอี๋จับหน้าตัวเองที่ร้อนขึ้นมานิดหน่อยไว้ ในใจคิดว่าเรียกคนเขาว่าท่านย่าเยว่ได้ยังไงกัน นี่มันน่าอายจริงๆเลย
แต่พี่เจียและคนอื่นๆนั้นกลับทำตามอย่างง่ายดาย แล้วเรียกคุณท่านหลี่ ท่านย่าเยว่ใส่หลี่โม่และเยว่จิ้งอี๋ เป็นหลานที่เชื่อฟังอย่างสมบูรณ์
หลี่โม่หัวเราะเยาะมองไปยังพี่เจียและคนอื่นๆ “พวกนายต่างก็พูดว่าสำนึกผิดแล้ว งั้นพวกนายพูดมาสิว่าผิดอะไร?”
พวกพี่เจียมองหน้ากันและกัน จากนั้นก็มองหลี่โม่อย่างหวาดกลัว
ความผิดจะต้องเกี่ยวกับเยว่จิ้งอี๋แน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ทำอะไรเยว่จิ้งอี๋ จะให้บอกว่าผิดที่ไหน จะพูดยังไงละ?
พวกเราไม่เคยลงมือตีเยว่จิ้งอี๋ ก็แค่ด่าไปนิดหน่อยเท่านั้น ถ้าจะพูดว่าผิดที่ด่าคน จะทำให้คุณท่านหลี่คนนี้รู้สึกว่าพวกเราพยายามลดโทษหนักเป็นเบารึเปล่า?
พวกพี่เจียที่ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่กล้า อึกอักไปสักพักก็ไม่กล้าพูดอะไร
หลี่โม่ยื่นมือชี้ไปที่พี่เจีย พูดว่า “นายพูดละกัน พวกนายผิดที่ไหน?”
พี่เจียปากสั่นอยู่นานกว่าจะพูดออกมา “พวกผม….พวกผมรังแกท่านย่าเยว่ ผมอันนั้น เพราะเสี่ยวเชียนทั้งนั้นครับ! เสี่ยวเชียนพาท่านย่าเยว่มา บอกว่าหน้าตาสวยและเปิดกว้าง ผมก็ไม่คิดอะไรมาก ก็คิดแค่ว่ามีสาวน้อยมาเล่นด้วยเพิ่มคนหนึ่งก็ไม่เป็นไร แต่ว่าท่านย่าเยว่มาถึงแล้วพวกผมถึงได้รู้ว่าเธอเป็นคนบริสุทธิ์ที่ไม่ยอมใคร จากนั้นพวกผมก็ไม่ได้ทำอะไร ก็แค่ด่าเธอนิดหน่อยก็เท่านั้นเองครับ”
เสี่ยวเชียนได้ยินพี่เจียโยนความผิดมาให้ตัวเธอทั้งหมด ก็รู้สึกเหมือนภูเขาหล่นทับมาจากฟ้า เกือบทับจนเธอตาย
ความผิดขนาดนี้เสี่ยวเชียนรู้สึกว่าตัวเองแบกไม่ไหว ในเมื่อพี่เจียจะโยนความผิด เสี่ยวเชียนก็คิดว่าตัวเองก็ต้องโยนความผิดกลับไป
“พี่เจียจะพูดแบบนี้ไม่ได้นะ! พี่ชอบเยว่จิ้งอี๋ แล้วให้ฉันพาเยว่จิ้งอี๋มาให้พี่ต่างหาก ให้เยว่จิ้งอี๋ไปยั่วยวนหลี่โม่ เป็นความคิดที่ฉันคิดก็จริง แต่ว่าพี่เองก็ตกลงนี่นา ถ้าหากว่าพี่ไม่ตกลงฉันจะผลักเยว่จิ้งอี๋ออกไปได้ยังไงกัน”
“เสี่ยวเชียนเธอมันนังมารยา หุบปากเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นกูไม่ปล่อยมึงไว้แน่” พี่เจียตะโกนด่าใส่เสี่ยวเชียน หันหน้าไปใช้สายตาอ้อนวอนขอร้องเยว่จิ้งอี๋
“ท่านย่าเยว่ครับ ผมผิดไปแล้ว แต่ว่าผมก็ไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่ไม่ดี ก็แค่ด่าเธอไม่กี่คำ ไม่อย่างนั้นเธอก็ด่ากลับ หรือถุยน้ำลายใส่ฉันก็ได้!”
เยว่จิ้งอี๋ถูกพี่เจียที่เอาแต่เรียกตัวเองว่าท่านย่าเยว่ทำเอาหน้าแดงมาก ก้มหน้าพูดด้วยเสียงหัวเราะว่า “พี่หลี่โม่ พวกเขาไม่ได้….ไม่ได้ทำอะไรกับฉัน ก็แค่พูดจาไม่น่าฟังเท่าไหร่ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรค่ะ”
หลี่โม่ตบแขนของเยว่จิ้งอี๋เบาๆ เป็นสัญญาณให้เธออย่าพูดมาก จากนั้นก็ใช้สายตาเย็นเฉียบมองไปทางพี่เจีย
“นายเก่งดีนี่ ยังกล้าตะโกน คำพูดเมื่อกี้ที่เสี่ยวเชียนพูดออกมา คำไหนคือจริง คำไหนคือเท็จ?”
พี่เจียกลัวจนหมดแรงไปทั้งตัว ล้มลงนั่งกับพื้น เหงื่อออกท่วมตัว จนทำเสื้อเปียกอย่างรวดเร็ว
“ผม…คือ เสี่ยวเชียนพูดความจริงทั้งหมดครับ ผมก็แค่คิดว่าจะจ่ายเงินเล่นด้วยก็เท่านั้น ไม่ได้คิดจะบังคับ อีกอย่างผม….คุณท่านหลี่ ท่านย่าเยว่ครับ ผมผิดไปแล้วปล่อยผมไปเถอะครับ ต่อไปผมไม่กล้าอีกแล้วครับ”
หลี่โม่ส่ายหัวยิ้มเยาะ “ปล่อยไปนั้นเป็นไปไม่ได้หรอกทำผิดก็ต้องรับบทลงโทษอยู่แล้ว เหล่าฉู่ ให้คนของนายสั่งสอนพวกเขาดีๆสักที ตบปากทุกคนสามสิบที ต่อไปทำอะไรพูดอะไรก็ให้คิดก่อน”
“ครับ” ฉู่จงเทียนตอบรับคำหนึ่ง จากนั้นก็ส่งสายตาให้กับลูกน้อง
อาเปียวอาหย่งพาคนตบปากพวกพี่เจียทุกคน
หลังจากตบปากเสียงดังเพี๊ยะๆก้องกังวานแล้ว พี่เจียและคนอื่นๆต่างก็ปากบวมขึ้น เหมือนกับไส้กรอก แล้วยังมีเลือดออกอยู่ด้วยนิดหน่อย
“ขอบคุณบทลงโทษของคุณท่านหลี่ครับ ต่อไปผมไม่กล้าอีกแล้วแน่นอนครับ ไม่กล้าแล้วครับ ฮือๆๆ” ฟันของพี่เจียยังถูกตีจนหลุดออกมาหนึ่งซี่ ทำเอาพูดก็พูดไม่ชัดแล้ว
หลี่โม่โบกมือที่หนึ่ง อาเปียว อาหย่งก็พาลูกน้องลากพี่เจียและคนอื่นๆออกไป
ฉู่จงเทียนจัดเตรียมอาหารเย็น เริ่มทำการดูแลให้ความบันเทิงแก่หลี่โม่และเยว่จิ้งอี๋