จักรพรรดิมังกร - บทที่ 761 สองมาตรฐาน
พวกพนักงานผู้หญิงที่อยู่ในร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนมคิดว่าตัวหลักที่อยู่ที่นี่ก็คือกู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถง พวกเธอชี้ไปที่ร้านขายเสื้อผ้าสตรีข้างๆ โดยทันที
“ทั้งสองท่าน นี่เป็นร้านเสื้อผู้ชาย ถ้าหากพวกคุณต้องการจะไป ร้านซื้อผ้าผู้หญิงอยู่ทางฝั่งนั้นค่ะ”
“ช่วยเขาเลือกสักหนึ่งชุดนะ”
กู้หยุนหลันทำเหมือนว่าไม่ได้ยินยังไงอย่างนั้น ชี้ไปที่หลี่โม่แล้ว
พวกพนักงานผู้หญิงเหล่านั้นถึงรู้ได้ทันที ว่าที่แท้ตัวเองคาดเดาตัวหลักผิดไปแล้ว จากนั้นพวกเธอก็เดินไปยังหลี่โม่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม พวกเขามองไปยังหลี่โม่ตั้งแต่หัวจรดเท้าครู่หนึ่ง กลับว่าก็ค่อนข้างหล่อเลยทีเดียว
พวกเธอมองหลี่โม่ว่าเป็นแมงด่าเลยทันที คิดไม่ถึงว่าจะถูกผู้หญิงสองคนเลี้ยงดูแล้ว
พนักงานผู้หญิงพบว่าไม่มีสูทที่เหมาะกับหลี่โม่เลย เว้นแต่ว่าสั่งทำขึ้นมาถึงจะได้
“คุณผู้ชายท่านนี้ กรุณาถอดเสื้อหน่อยนะคะ เราจะต้องสั่งตัดชุดสูทให้คุณเป็นพิเศษ” พนักงานผู้หญิงหนึ่งคนเดินก้าวขึ้นมา ในมือถือสายวัดเส้นหนึ่ง เผยรอยยิ้มเบาๆ
แม้ว่าเธอจะค่อนข้างดูถูกผู้ชายที่เป็นแมงด่า แต่ลูกค้าก็คือพระเจ้า หลักๆ เลยเธอไม่อยากที่จะแส่หาเรื่องกู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถง
หลี่โม่พูดโอ้ออกมาหนึ่งคำ และก็ทำตามความต้องการของอีกฝ่าย ถอดเพียงแค่ท่อนบนเท่านั้น
ถอดเสื้อออกอย่างไม่มีคำเตือนใดๆ ล่วงหน้าเลย ทำให้กู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงตกตะลึงเลยทีเดียว
แม้ว่ากู้หยุนหลันจะเคยเห็นมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ว่ากี่ครั้งก็ยังคงหน้าแดงเช่นเคย สายตามองไปยังรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของหลี่โม่อย่างไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ
กล้ามเนื้อสีน้ำตาลแก่ของหลี่โม่เปรียบได้กับกายบริหารที่ได้สัดส่วนดีที่สุดแล้ว โดยเฉพาะ V line บวกกับซิกแพค ยิ่งทำให้คนที่ได้เห็นสูญเสียการควบคุมตัวเอง
“เซ็กซี่สุดๆ ไปเลย” เฉินเสี่ยวถงพูดอย่างประหลาดใจ
หลี่โม่กลอกตามองบนแล้ว ใช้คำว่าเซ็กซี่เรียกชายคนหนึ่ง ค่อนข้างไม่ค่อยรื่นหูเท่าไหร่
ในใจของเฉินเสี่ยวถงคิดอยากจะสัมผัสสักหน่อย จะต้องมีความยืดหยุ่นและแข็งแรงมากแน่นอน สุดท้ายเธอก็อดใจไหว และไม่ต้องพูดถึงว่าหลี่โม่อนุญาตหรือไม่ กู้หยุนหลันไม่เห็นด้วยแน่นอน
ความคิดนี้ เธอทำได้เพียงเก็บซ่อนไว้ในใจ
หลังจากที่พนักงานผู้หญิงคนนั้นเห็นรูปร่างกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์แบบและแข็งแรงของหลี่โม่แล้ว อดไม่ได้ที่อ้าปากเล็กๆ ที่คล้ายกับลูกเชอร์รี่ ในเวลานี้สุดท้ายเธอก็เข้าใจแล้วว่าอะไรที่เรียกว่าดูผอมเวลาใส่เสื้อ ดูมีกล้ามเนื้อเวลาถอดเสื้อเหตุผลนี้แล้ว
ตอนแรกเธอคิดว่ารูปร่างของหลี่โม่ไม่ได้ดีอะไรมาก จนกระทั่งตอนนี้ เธอถึงได้เปลี่ยนแปลงความคิดของตัวเองแล้ว
รอประมาณเกือบ 20 นาที ชุดสูทก็ได้ตัดออกมาแล้ว พนักงานบริการผู้หญิงได้มอบชุดสูทให้หลี่โม่ด้วยความเคารพ
หลี่โม่เดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อ กู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยอย่างเต็มที่ น้อยมากที่พวกเธอจะได้เห็นหลี่โม่สวมใส่ชุดสูท ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายใส่ชุดสูทแล้ว จะหล่อเหลาขนาดไหน
หลังจากนั้นไม่นานเท่าไหร่ หลี่โม่ก็เดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อแล้ว ราวกับว่าเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวยังไงย่างนั้น เค้าโครงหน้าคมเข้มอย่างชัดเจน โดยเฉพาะสายตาที่เย็นชาและหยิ่งยโสคู่นั้น แทบจะสมบูรณ์แบบเลย
อีกอย่างชุดสูทไม่ค่อยเหมาะสมกับโครงกระดูกของคนตะวันออก แต่ว่าเมื่อชุดสูทสวมอยู่บนตัวของหลี่โม่ กลับว่าพอดีอย่างมาก
เฉินเสี่ยวถงและกู้หยุนหลันตกใจอย่างมาก รู้สึกเหมือนว่าหลี่โม่เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย เผยบุคลิกภาพที่ดีออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ
“เป็นอย่างที่คิดไว้ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง หล่อมากเลย” พนักงานบริการผู้หญิงอุทานออกมาด้วยความตื่นตะลึง: “นี่เป็นผู้ชายชาวตะวันออกที่สวมใส่ชุดสูทแล้วหล่อที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา”
สิ่งที่เธอพูดล้วนเป็นความจริง หลี่โม่ทำให้เธอประหลาดเลยจริงๆ
หลี่โม่ส่องกระจกครู่หนึ่ง ก็รู้สึกว่าชุดสูทตัวนี้ค่อนข้างเหมาะสมกับตัวเองเลยทีเดียว ก็ไม่มีอะไรที่ไม่พอใจ
หลี่โม่หยิบบัตรเอทีเอ็มออกมาแล้ว : “รูดบัตรนะ”
พนักงานบริการผู้หญิงรับบัตรมาอย่างตกตะลึง เธอคิดว่ากู้หยุนหลันเป็นคนออกเงิน ผลสุดท้ายเป็นหลี่โม่ เธอถึงได้รีบรับมันไว้ทันที และนี่แหละเธอถึงได้เข้าใจแล้วว่าตัวเองมีตาหามีแววไม่
“ว้าว พี่หลี่โม่ คุณหล่อเกินไปแล้วนะ” เฉินเสี่ยวถงจับแขนของหลี่โม่แน่นไม่ยอมปล่อยราวกับภูตผีที่ติดหนึบอยู่บนตัวคนเลย
หลี่โม่แกะมือของอีกฝ่ายออกแล้ว เฉินเสี่ยวถงแลบลิ้น แล้วถึงจะเข้าไปกอดกู้หยุนหลัน
ตอนนี้กู้หยุนหลันเปลี่ยนแปลงความคิดที่มีต่อเฉินเสี่ยวถงทั้งหมดแล้ว เธอเห็นเฉินเสี่ยวถงเป็นน้องสาว ส่วนความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างหลี่โม่กับเฉินเสี่ยวถง เธอก็เห็นมาเยอะจนชินแล้ว
การเดินช้อปปิ้งแทบจะพูดได้ว่าเป็นฝันร้ายของผู้ชาย แม้ว่าสมรรถภาพทางกายของหลี่โม่จะดีมากแค่ไหน แต่ว่าจิตใจในการช้อปปิ้งของเขาก็ไม่ตื่นเต้นเท่ากับกู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงเลย
ตอนที่ผ่านโซนเครื่องประดับ เครื่องประดับที่ตกแต่งด้วยเพชรนิลจินดาในเคาน์เตอร์งดงามอย่างมาก กู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงต่างก็อดไม่ได้ที่จะหยุดเดินเพื่อที่จะชื่นชม
ถึงอย่างไรผู้หญิงต่างก็ชอบอัญมณีทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้นก็คือกู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงผู้หญิงสองคนนี้
พนักงานที่เคาน์เตอร์เห็นท่าทางแบบนี้แล้ว เหมือนว่าจะเข้าใจอะไรได้แล้ว ท่าทางของเธอก็เปลี่ยนเป็นตื่นตัวขึ้นมาทันที : “คุณผู้หญิงทั้งสองท่าน เครื่องประดับเหล่านี้ล้วนเป็นสินค้ามาใหม่ในร้านของฉัน ล้วนเป็นสินค้าใหม่ทั้งนั้น”
หลังจากที่ได้ยินว่าเป็นสินค้าใหม่ กู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงก็เดินเข้ามาด้วยความอยากรู้อยากเห็น มองซ้ายทีมองขวาที
“พี่หยุนหลัน ต่างหูสองคู่นี้ไม่งั้นพวกเราสองคนซื้อคนละคู่ไหมคะ” เฉินเสี่ยวถงเห็นว่ามีต่างหูสองคู่ที่ดูดีเลยทีเดียว คิดว่าเมื่อใส่แล้วก็ยิ่งจะเข้าชุดเลย
“ได้สิ” กู้หยุนหลันตอบรับออกมาอย่างเต็มใจ
พนักงานที่เคาน์เตอร์ยิ้มออกมาเบาๆ รู้ว่ากำลังจะขายได้แล้ว นี่ถึงจะหยิบต่างหูสองคู่นั้นที่อยู่ในเคาน์เตอร์ออกมาแล้ว
เฉินเสี่ยวถงและกู้หยุนหลันได้เลือกไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะเอาคู่ไหน เฉินเสี่ยวถงถอดต่างหูแบบเดิมออก แล้วหยิบต่างหูมุกสีแดงขึ้นมาใส่แล้ว
ตอนที่เธอใส่ มองดูตัวเองในกระจก รู้สึกว่าตัวเองสวยมาก เธอเผยด้านที่ดีที่สุดของตัวเองให้หลี่โม่ดูทันที
“เป็นยังไงบ้าง สวยไหม” เฉินเสี่ยวถงยิ้มหวาน คิดอยากจะได้รับความชมจากหลี่โม่
หลี่โม่พูดออกไปเรื่อยเปื่อยคำหนึ่ง : “ได้นะ”
เฉินเสี่ยวถงทำปากจู๋แล้ว รู้สึกว่าหลี่โม่ประเมินให้กับตัวเองอย่างง่ายๆ และลวกๆ พูดแบบขอไปทีเกินไปแล้ว
ตอนที่กู้หยุนหลันใส่ต่างหูมุกสีขาว กลับว่าเพิ่มออร่าขึ้นมาหน่อยแล้ว
บุคลิกลักษณะของกู้หยุนหลันมองดูแล้วงดงามมากจนทำให้คนใจสั่น ส่วนเฉินเสี่ยวถงก็ดูสดใสร่าเริงมีชีวิตชีวา ต่างก็มีข้อดีของตัวเอง
แต่ว่าหลี่โม่ยังคงชอบบุคลิกลักษณะของกู้หยุนหลันแบบนี้มากกว่า
“สวยไหม?”
“สวยมาก คุณใส่อะไรก็ดูสวยทั้งนั้นแหละ”
เฉินเสี่ยวถงทำแก้มพองลมอย่างน้อยใจ เห็นได้ชัดว่าเป็นคำถามแบบเดียวกัน แต่กลับว่าตอบไม่เหมือนกัน แต่ว่าเธอก็ไม่ยอมแพ้ เธอพยายามที่จะครอบครองเข้าไปอยู่ในใจของหลี่โม่ให้ได้
“พวกเราซื้อ” หลังจากที่เฉินเสี่ยวถงพูดจบ รีบมองไปยังหลี่โม่อย่างน่าสงสาร
หลี่โม่ฝืนยิ้มในใจ ที่แท้คือต้องการให้เขาออกเงินจ่ายให้ เขากลับว่าไม่ได้มีท่าทางกระโดกกระเดก เริ่มให้อีกฝ่ายรูดบัตร
กู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงใส่ต่างหูมุกเข้าไปในกล่องของขวัญ รอมีโอกาสค่อยนำออกมาใส่
ทันใดนั้น เงาดำพัดผ่านเข้ามาแล้ว แทบไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนด้วยตาเปล่าเลย
หลี่โม่มองเห็นอย่างชัดเจน เงาดำนั่นเห็นได้ชัดว่าเป็นคนคนหนึ่ง
“เดินเร็วขนาดนี้ รีบไปตายเพื่อกลับมาเกิดมาอีกครั้งเหรอ ?”
หลังจากที่เฉินเสี่ยวถงถูกชนกระแทก ก็พูดตะโกนอย่างไม่สบอารมณ์แล้ว
กู้หยุนหลันค่อนข้างไม่พอใจ แต่ยังคงรักษาท่าทางที่สงบนิ่งไว้เช่นเคย บางทีอีกฝ่ายอาจจะมีธุระด่วนจริงๆ ก็ได้
“คนคนนั้นเป็นขโมย” หลี่โม่ค่อยๆ เอ่ยปากพูด
“ขโมยเหรอ?”
เมื่อเฉินเสี่ยวถงและกู้หยุนหลันได้ยินเข้า ก็รีบตรวจสอบว่ามีสิ่งของบนตัวหายไปหรือเปล่าโดยทันที ตอนที่พวกเธอมองไปยังกล่องของขวัญ ถึงได้พบว่ากล่องของขวัญหายไปแล้ว