จักรพรรดิมังกร - บทที่ 763 สิ่งของที่ล้ำค่าที่สุดในร้าน
ไอ้โจรหลิวอย่างน้อยก็อายุประมาณ 50-60 ปีกว่าๆ แล้ว อีกฝ่ายอายุมากขนาดนี้ยังเรียกหลี่โม่ว่าปู่ งั้นหลี่โม่ก็อายุร้อยปีขึ้นไปแล้วไม่ใช่เหรอ?
ไอ้โจรหลิวหน้าไม่อาย หลี่โม่ไม่ชอบอย่างมากที่พูดถึงอายุตัวเองมากเกินจริง
ไอ้โจรหลิวถึงจะตระหนักถึงว่าใช้ชื่อเรียกผิดแล้ว เขาจึงรีบเปลี่ยนคำพูดทันที : “คุณหลี่ ชี้แนะได้ถูกต้องแล้ว”
ศิษย์ของไอ้โจรหลิวถึงจะตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องราว นี่ถึงได้พูดอย่างเยาะเย้ยว่า : “ผมได้ขโมยของของแฟนสาวคุณหลี่แล้ว”
ไอ้โจรหลิวโมโหจนแทบจะเป็นลมไปแล้ว ช่างมีความกล้าหาญมากเกินไปแล้ว หลังจากครั้งนั้น เขาก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรไม่ดีต่อหลี่โม่เลย
คิดไม่ถึงว่า จู่ๆ ลูกศิษย์ของเขาก็ไปแส่หาเรื่องหลี่โม่แล้ว กวนโทสะใครไม่ว่าดี ดันมากวนโทสะเทพแห่งความชั่วร้ายเช่นนี้
ลูกศิษย์ของไอ้โจรหลิวยังไม่เข้าใจสถานการณ์ เกาๆ ศีรษะพร้อมพูดว่า :”ลูกพี่ คุณและคุณหลี่ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกันเหรอ?”
ไอ้โจรหลิวอยากจะตบไอ้โง่นี่ให้ตายเลยจริงๆ ใครเป็นเพื่อนสนิทกันล่ะ แม้แต่เขาจะหลบหลีกหลี่โม่ยังไม่ทันเลย
“ฉันจะมีคุณสมบัติอะไรไปเป็นเพื่อนกับคุณหลี่โม่ล่ะ” ไอ้โจรหลิวไอออกมาครู่หนึ่ง พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า: “แกยังไม่รีบขอโทษคุณหลี่อีกนะ”
ลูกศิษย์คนนี้อย่างมากเขาก็ไม่เอาไว้แล้ว หลักๆ เลยคือเขากลัวว่าหลี่โม่ไม่ยอมปล่อยเขาไปแน่ ถึงอย่างไรสิ่งที่เขาเป็นกังวลมากที่สุดก็คือเรื่องนี้
ลูกศิษย์ของไอ้โจรหลิวถึงได้กล่าวขอโทษต่อหลี่โม่อย่างจริงใจ
ไอ้โจรหลิวนั่งอยู่บนเก้าที่ราวกับว่านั่งบนพรมที่มีเข็มเลย ไม่กล้าที่จะมองสายตาของหลี่โม่ เหงื่อบนหน้าผากของเขาไหลลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน สุดท้ายเขาก็อดกลั้นไม่ไหว ลุกขึ้นยืนโดยทันที
“คุณหลี่ ถ้าหากไม่มีธุระอะไรแล้วล่ะก็ ไม่งั้นผมขอตัวก่อนละกัน” ไอ้โจรหลิวก็แค่อยากจะแอบชิ่งหนีให้เร็วกว่าหน่อย คำนับต่อหลี่โม่พร้อมพูดกล่าว
หลี่โม่กลับว่าไม่ได้ขัดขวางไว้ ไอ้โจรหลิวดีอกดีใจอย่างมาก คิดว่าหลี่โม่ไม่มีทางมาหาเรื่องวุ่นวายให้กับเขาแล้ว และตอนที่เขาเตรียมจะเปิดประตูออกไป เสียงของหลี่โม่ก็ดังขึ้นทันที : “ไอ้โจรหลิว ไม่งั้นมาทำงานกับฉันเถอะ”
“คุณหลี่ อายุของผมปูนนี้ ผอมแห้งแรงน้อย ช่วยอะไรคุณไม่ได้เลยด้วยซ้ำ” ไอ้โจรหลิวยังคงใช้กลอุบายเดิมเมื่อครั้งก่อนหยิบยกสถานการณ์ที่น่าสงสารให้ผู้อื่นเห็นอกเห็นใจ
เมื่อหลี่โม่ได้ยินประโยคเดิมๆ ซ้ำๆ กันก็ค่อนข้างรู้สึกรำคาญแล้ว เขามองไปยังไอ้โจรหลิวอย่างไม่สบอารมณ์แวบหนึ่ง : “แกอย่ามาพูดจาไร้สาระกับฉันให้มากนะ สรุปว่าจะทำงานกับฉันไหม ถึงอย่างไรแกก็ยังมีความสามารถในการลักขโมย”
เขารู้สึกว่าไอ้โจรหลิวยังคงมีคุณค่าในการหลอกใช้ผลประโยชน์ ความสามารถในการขโมยนี้ เผื่อว่าวันไหนสามารถนำมาใช้ได้ นี่เป็นความคิดที่เขาอยากจะเก็บไอ้โจรหลิวไว้
ไอ้โจรหลิวตกอยู่ในห้วงแห่งความลังเลแล้ว หลี่โม่พูดขึ้นมาอีกครั้ง : “ถ้าหากแกไม่ตอบตกลงล่ะก็ ฉันก็จะส่งลูกศิษย์ของแกไปเข้าคุก ขโมยของมากมายขนาดนี้ ไม่รู้ว่าต้องติดคุกกี่ปีถึงจะออกมาได้”
ไอ้โจรหลิวตกใจจนตัวสั่นแล้ว ราวกับว่าถูกจับจุดอ่อนได้ยังไงอย่างนั้น เขารีบพูดเลยทันทีว่า : “คุณหลี่ พูดตรงๆ แบบไม่ปิดบังเลยนะ เขาเป็นหลานชายของผม ไม่งั้นก็ถือว่าฉันมันเถอะนะ”
หลี่โม่ยิ้มยกมุมปากขึ้น : “หลานชายก็ดีสิ”
เขาก็ต้องเคารพนับถือไอ้โจรหลิวเลย เริ่มรับลูกศิษย์จากญาติของตัวเองก่อน เขาใช้วิธีการที่ฉลาดหลักแหลมมากเลยทีเดียว
ไอ้โจรหลิวถึงได้รู้ว่าตัวเองได้ตกหลุมพรางของหลี่โม่แล้ว เขาตบที่หน้าผากอย่างหงุดหงิดแล้ว รู้ว่าไม่สามารถข้ามผ่านอุปสรรคนี้ไปได้ ทำได้เพียงพูดว่า : “คุณหลี่ ผมตอบตกลงคุณก็ได้”
แม้ว่าเขาจะกลัวหลี่โม่มากก็ตาม เพราะว่าพวกเขาทั้งสองคนอยู่คนละเส้นทางกัน ถ้าหากกลับมาย้อนคิดดูแล้ว หลี่โม่ก็อยู่บนเส้นทางเดียวกันกับเขา นี่สำหรับเขาแล้ว ก็ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอะไร
ไปทำงานกับหลี่โม่มีอันตรายอย่างมาก เพื่อหลานชาย เขาก็ทำได้เพียงทุ่มออกไปสุดตัวแล้ว
หลี่โม่พึงพอใจในคำตอบของไอ้โจรหลิวอย่างมาก นี่ก็ถือว่าทำให้คนเจ้าเล่ห์เพทุบายตอบตกลงได้แล้ว
ไอ้โจรหลิวถอนหายใจแล้ว : “ฉันก็รู้อยู่แล้วว่ารับคนกันเองเป็นลูกศิษย์น่ะไม่ได้ เป็นอย่างที่คิดว่าสิ่งที่เป็นกังวลที่สุดได้เกิดขึ้นแล้ว”
“หยุดโทษฟ้าโทษดินที่นี่ได้แล้ว มาอยู่กับฉัน แกก็ไม่มีทางที่จะเสียเรียบแน่”
ไอ้โจรหลิวฝืนยิ้มออกมา ในใจคิดว่า ไปกับคุณแม้ว่าจะไม่เสียเปรียบ แต่ว่าก็ตายได้อย่างง่ายดาย คนใหญ่คนโตมากมายขนาดนี้ต่างก็จับตามองคุณไว้อยู่ ใครจะกล้ายืนอยู่บนเส้นทางเดียวกับคุณล่ะ
หลี่โม่ขอช่องทางการติดต่อของไอ้โจรหลิวไว้แล้ว พูดกล่าว : “แกพาหลานชายของแกกลับไปก่อนเถอะ ต่อไปฉันเรียกหาตอนไหนก็มาตอนนั้น ”
ไอ้โจรหลิวถึงจะพาหลานชายของตัวเองออกไปแล้ว
หลี่โม่มองดูนาฬิกาแวบหนึ่ง เวลาก็ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว จากนิสัยที่ชอบเดินช้อปปิ้งของกู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถง อย่างน้อยเวลานี้น่าจะยังเดินช้อปปิ้งไม่เสร็จ
หลี่โม่ก็ไม่ได้อยู่นาน กลับไปยังตึกธุรกิจทางการค้าแล้ว แต่เขาหาตัวกู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงไม่เจอจริงๆ เขาทำได้เพียงโทรศัพท์ไปหากู้หยุนหลันแล้ว
แต่ว่าโทรศัพท์ของกู้หยุนหลันนั้นกลับว่าอยู่ในสถานะที่ปิดเครื่อง หลี่โม่ขมวดคิ้ว หรือว่าจะเจอปัญหาอะไรแล้วงั้นเหรอ?เขาก็โทรศัพท์ไปหาเฉินเสี่ยวถงอีก
หลังจากเสียงไม่ว่างครู่หนึ่ง เสียงของเฉินเสี่ยวถงถึงจะดังขึ้นมาจากในโทรศัพท์
“พี่หลี่โม่ ถือว่าคุณกลับมาสักทีนะ”
“พวกคุณอยู่ที่ไหน แล้วกู้หยุนหลันล่ะ?”
หลี่โม่ได้ยินน้ำเสียงที่เร่งรีบของเฉินเสี่ยวถงแล้ว สิ่งแรกที่ถามถึงก็คือกู้หยุนหลัน
“พวกเราอยู่ที่ร้านเครื่องประดับชั้นห้า ทางฝั่งนั้นที่ขายหยก คุณรีบมาก่อนเถอะ ทางฉันเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยแล้ว”
“โอเค”
หลังจากที่หลี่โม่สัมผัสได้ว่าปัญหามันไม่ธรรมดา นี่ถึงได้วางสายไปแล้ว ไปถึงที่เกิดเหตุก่อนถึงจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ร้านขายเครื่องประดับชั้นห้าร้านหนึ่ง บนพื้นมีกำไลข้อมือที่แตกหักอยู่ คนที่เดินผ่านไปมาต่างก็อดใจไม่ได้หยุดก้าวเดินแล้ว
“ในเมื่อคุณทำสิ่งของที่ล้ำค่าในร้านของเราแตกแล้ว นี่เป็นกำไลที่นำเข้ามาจากพม่าเลยนะ คุณรู้ไหมว่ามูลค่ามันกว่าเท่าไหร่?”
พนักงานผู้หญิงที่เคาน์เตอร์มองไปยังกำไลข้อมือที่ตกแตกบนพื้นอย่างปวดใจ ชี้หน้าไปยังกู้หยุนหลันด้วยความโมโห แม้ว่ากำไลจะแพงมาก แต่สิ่งที่สำคัญก็คือนี่เป็นสิ่งที่คุณชายมอบหมายให้ทำนะ
อีกเดี๋ยวคุณชายก็มาเอากำไลหยก แต่ว่าตอนนี้ กลับว่าตกแตกแล้ว ถ้าหากคุณชายกลับมาแล้ว เธอจะต้องถูกด่าอย่างแน่นอน ไม่แน่ก็อาจจะโดนหักเงินเดือนด้วย
“ขอโทษนะ เมื่อกี้มือฉันลื่นแล้ว ฉันไม่ทันได้ระวังทำแตกแล้ว กำไลข้อมือนี้เท่าไหร่ ฉันจ่ายชดให้คุณได้” กู้หยุนหลันพูดขอโทษอย่างจริงใจอย่างไม่หยุดหย่อน
เมื่อกี้เธอเห็นกำไลข้อมือที่เคาน์เตอร์สวยงามมาก อยากจะให้พนักงานที่เคาน์เตอร์เอาออกมาให้สวมใส่ดูหน่อย ใครจะไปรู้ ไม่ทันได้ระวังก็ตกแตกแล้ว
พนักงานผู้หญิงพูดกล่าวอย่างประชดเหน็บแนมว่า : “จะบอกคุณให้นะ ไม่ว่าเท่าไหร่คุณก็ไม่มีทางชดใช้ได้ นี่เป็นกำไลข้อมือที่คุณชายของเราสั่งจองไว้ล่วงหน้า คุณชายของพวกเราได้บอกไว้แล้ว กำไลข้อมือนี้วันนี้เขาจะเข้ามารับเอง คุณจะให้เราบอกกับคุณชายว่ายังไง?”
คำพูดอ้อมๆ ของพนักงานผู้หญิงที่เคาน์เตอร์เมื่อทุกคนได้ฟังต่างก็เข้าใจความหมายแล้ว เห็นได้ชัดว่าวันนี้เจ้าของเคาน์เตอร์นี้กำลังจะมาแล้ว
หลังจากที่พวกเขารู้ว่าไม่สามารถใช้เงินแก้ไขให้จบได้ ในขณะเดียวกันก็ส่งสายตาที่เห็นอกเห็นใจมายังกู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงแล้ว
กู้หยุนหลันกลับว่าคิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องแบบนี้ด้วย เธอนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง และพูดกล่าวอีกครั้งว่า : “อย่างนี้แล้วกัน ฉันจะจ่ายเงินให้คุณสองเท่าเลย”
“ฮึ ชดใช้สองเท่า ฉันก็ต้องถูกไล่ออก นี่ล้วนเป็นเพราะคุณเลย” เมื่อพนักงานผู้หญิงคนนั้นพูดจบ ก็ตบเข้าไปฉาดหนึ่งทันที