จักรพรรดิมังกร - บทที่ 782 เข้าผิดห้องวีไอพีเหรอ?
ในฐานะเพื่อนสมัยมัธยมต้นของหลี่โม่ จาเจียเล่อได้ยินคนพวกนี้ดูถูกตัวเอง เขากลับไม่ได้สนใจ แต่ดูถูกหลี่โม่ เขาก็ทนไม่ได้
ถ้าไม่ใช่ว่ารีบร้อนใช้เงิน เขาก็ไม่มีทางร่วมงานเลี้ยงศิษย์เก่า และก็ยิ่งไม่มีทางดึงหลี่โม่ให้ตกต่ำด้วย
หลังจากที่หลี่โม่นั่งรถถึงหน้าประตูทางเข้า ถึงได้ส่งข้อความหาจาเจียเล่อว่า: “ฉันถึงแล้ว นายอยู่ที่ไหน”
จาเจียเล่อลุกขึ้นมา และพูดว่า: “ฉันไปรับเขาขึ้นมา พวกนายรออยู่ที่นี่”
“ไม่ต้องรอ พวกเราลงไปดูสิว่าเขาเป็นยังไงบ้าง”พี่เจี่ยพูดกลับตาลปัตร
เขาชวนหลี่โม่และจาเจียเล่อมาร่วมงานเลี้ยงศิษย์เก่า เหตุผลหลักก็คือเก๊กต่อหน้า อวดความสามารถของตัวเอง ในเวลาเดียวกันก็เยาะเย้ยหลี่โม่และจาเจียเล่อเพื่อความสนุก
ทุกคนที่อยู่ในงานก็เห็นด้วยกับเขาเป็นอย่างมาก คิดไว้แล้วว่าต่อไปจะเยาะเย้ยหลี่โม่ยังไง
“ถ้าเกิดเขาประสบความสำเร็จจะทำยังไง?”มีผู้ชายใส่แว่นตาคนหนึ่งพูดกระซิบกระซาบ
“หลี่โม่สามารถประสบความสำเร็จได้ งั้นแม่หมูก็สามารถที่จะขึ้นสวรรค์ได้แล้ว”พี่เจี่ยตะโกน และเป็นคนแรกที่ตั้งคำถามออกมา
ทุกคนหัวเราะเสียงดัง: “จะเป็นไปได้ยังไง ถ้าประสบความสำเร็จ อย่างมากก็บรรลุเงินเดือนขั้นพื้นฐาน”
จาเจียเล่อฝืนยิ้มออกมา และพูดว่า: “พี่เจี่ย ตอนนี้พี่สามารถช่วยให้เงินห้าหมื่นกับผมได้แล้วใช่มั้ย?”
“แกจะรีบร้อนอะไรนักหนา ดูท่าทางของแก มิน่าล่ะแกถึงทำการใหญ่ไม่ได้ เพื่อเงินแค่นี้ แกรีบร้อนจนกลายเป็นแบบนี้”พี่เจี่ยพูดอย่างดูถูก
สีหน้าของจาเจียเล่อดูไม่ดีเล็กน้อย ทำได้เพียงก้มหน้าลงแล้วพูด: “พี่เจี่ย พี่ดูสิพี่พูดอะไร ผมก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ห้าหมื่นเป็นเงินก้อนใหญ่แล้ว ไม่เหมือนพี่เจี่ย มีเงินใช้จ่ายทุกวันหลายแสน”
พี่เจี่ยไม่สนใจจาเจียเล่อในทันที ทุกคนก็ดูถูกจาเจียเล่อจนมุมโดยปริยาย
“เฮ้ย นี่หลี่โม่ไม่ใช่เหรอ”พี่เจี่ยและคนอื่นๆยืนอยู่บนขั้นบันไดของโรงแรม พี่เจี่ยจงใจตะโกนเสียงดัง และร้องอย่างประหลาด
“ไม่เจอกันหลายปีขนาดนี้ เป็นยังไงบ้าง รถของนายล่ะ?”
ทุกคนถามไถ่ออกไปอย่างไม่หยุดหย่อน แทบจะหมุนเวียนด้วยภูมิหลัง ทั้งหมดไม่ใช่รูปแบบงานเลี้ยงศิษย์เก่าธรรมดาที่ควรจะเป็น
หลี่โม่พูดอย่างราบเรียบว่า: “ฉันนั่งแท็กซี่มา”
“ไม่ใช่มั้ง ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่มั้ย นายนั่งแท็กซี่มาเหรอ?”พี่เจี่ยเอามือวางไว้ที่ข้างหู บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มเยาะเย้ย: “ไม่ดีแค่ไหน ก็ต้องซื้อสามล้อคันหนึ่งนะ ฮ่าๆๆๆ…..”
ทุกคนต่างก็พากันหัวเราะเสียงดังลั่นขึ้นมา ราวกับล้อเล่นแบบนี้ ในใจของพวกเขาจะสะใจขึ้นเล็กน้อย
“ไม่เป็นไร นายไม่ต้องเอามาใส่ใจ ฉันก็ถูกพวกเขาเยาะเย้ยมาก่อน”จาเจียเล่อปลอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้ม: “ไม่เป็นไร ฉันไม่มีทางโกรธคนปัญญาอ่อนพวกนี้”
“หลี่โม่ ตอนนั้นตอนที่เรียนมัธยมต้นฉันยังคิดว่านายหล่อมาก ดังนั้นถึงได้สนใจนาย ไม่นึกเลยว่างานของนายจะแย่ขนาดนี้”ผู้หญิงเซ็กซี่ข้างๆพี่เจี่ยพูด
หลี่โม่รู้จักผู้หญิงคนนี้ด้วย ผู้หญิงคนนี้ชื่อเฉียวย่านย่าน อีกฝ่ายชอบเขามาระยะหนึ่งแล้วจริงๆ เขามองออกว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงตกอับ ประกอบกับไร้ความรู้สึกต่อคนคนนี้
แต่ว่าเขาหดหู่เป็นอย่างมาก ผู้หญิงคนนี้รักเขาข้างเดียวเกี่ยวข้องอะไรกับเขาด้วย
“ย่านย่าน โชคดีที่เธอเลือกฉัน ไม่ได้เลือกเศษสวะคนนี้ ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”พี่เจี่ยยิ้มอย่างชั่วร้าย
ท่าทางของเฉี่ยวย่านย่านเพลิดเพลินเป็นอย่างมาก มองหลี่โม่ด้วยสายตาที่ดูถูก: “ฉันก็เดาได้ว่าเขาจะไม่มีอนาคตที่ดี นอกจากนี้ เขาจะเทียบกับพี่ได้ยังไง”
พี่เจี่ยได้ยินในใจก็สบายใจเป็นอย่างมาก ไม่ลืมมองไปทางหลี่โม่อย่างอวดดีแวบหนึ่ง
จาเจียเล่อเปลี่ยนเรื่องคุยโดยไม่รู้ตัวและพูดว่า: “พวกเราเขาไปกันเถอะ ไม่อย่างนั้นอาหารเย็นหมดแล้ว”
พี่เจี่ยและคนอื่นหันหน้าก็เดินไป ไม่แม้แต่จะมองหลี่โม่แวบหนึ่ง
หลี่โม่ไม่เข้าใจว่าทำไมจาเจียเล่อจะต้องรับปากมางานเลี้ยงศิษย์เก่าด้วย ตอนที่กำลังเข้าไปหาอีฝ่าย จาเจียเล่อก็วิ่งไปที่ข้างหลังของพี่เจี่ย
“พี่เจี่ย ตอนนี้พี่สามารถช่วยให้เงินห้าหมื่นกับผมแล้วใช่มั้ย”จาเจียเล่อพูดด้วยใบหน้าที่อ้อนวอน
“แกไม่จบใช่มั้ย ปัญหานี้ตลอดทั้งวัน ฉันอารมณ์ไม่ดี เรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลัง”พี่เจี่ยตวาดอย่างโกรธเคือง
สีหน้าของจาเจียเล่อดูไม่ดี ทุกคนก็หัวเราะเยาะจาเจียเล่อ
หลังจากที่หลี่โม่เห็นสิ่งนี้ ถึงได้ค่อยๆเข้าใจว่าจาเจียเล่อทำไมต้องชวนเขามาร่วมงานเลี้ยงศิษย์เก่าด้วย แปดสิบเปอร์เซ็นต์ประสบกับเรื่องเร่งด่วนอะไร ถึงได้รับปากความต้องการของพี่เจี่ย
พี่เจี่ยกระตุกมุมปาก ชี้ไปที่หลี่โม่แล้วพูดว่า: “นายสามารถขอยืมกับเพื่อนคนนี้ของนายได้นะ ความสัมพันธ์ของพวกนายดีมากไม่ใช่เหรอ?”
จาเจียเล่อเห็นหลี่โม่นั่งรถแท็กซี่มา ไม่แน่อีกฝ่ายก็เหมือนกับเขา ลำบากมากกว่า ต่อให้เขาลำบากแค่ไหน เขาก็ไม่อยากทำให้อีกฝ่ายลำบากใจ
“เจียเล่อ นายประสบปัญหาอะไรหรือเปล่า?”หลี่โม่ถาม
จาเจียเล่อถึงได้เล่าเรื่องทั้งหมดออกมา
หลี่โม่ถึงได้เข้าใจที่แท้แม่ของจาเจียเล่อป่วยหนัก อีกฝ่ายรวบรวมของมีค่าทั้งหมดในบ้านมาขาย รวมกับเงินกู้ แต่ยังขาดอีกห้าหมื่นหยวน สุดท้ายเจียเล่อก็ไม่มีทางเลือกอื่น ถึงได้ไปขอร้องพี่เจี่ย
วันนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่จะต้องจ่ายค่าผ่าตัด ถ้าหากวันนี้ไม่สามารถจ่ายค่าผ่าตัดได้ แม่ของเจียเล่อจะถูกไล่ออกจากโรงพยาบาล
สีหน้าของหลี่โม่ไม่พอใจ พี่เจี่ยคนนี้ไม่มีความเป็นคนจริงๆ เจียเล่อทำตามความต้องการแล้ว อีกฝ่ายยังผัดวันประกันพรุ่ง เห็นได้ชัดว่านี่คือตั้งใจไม่ให้
“นายวางใจได้ ฉันจะช่วยนาย”หลี่โม่ตบไหล่จาเจียเล่อ และพูดปลอบโยน
จาเจียเล่อรู้สึกอบอุ่นในใจ และพยักหน้าอย่างซาบซึ้งใจ
“ฮ่าๆ พวกนายไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่มั้ย หลี่โม่ นายก็ไม่ดูว่านายแต่งตัวยังไง นายมีเงินฝากเท่าไหร่ นายจะให้ยืมเหรอ?”หลังจากที่พี่เจี่ยได้ยินเช่นนี้ ก็เยาะเย้ยในทันที
หลี่โม่พูดอย่างราบเรียบว่า: “เกี่ยวอะไรกับนายด้วย?”
สีหน้าของพี่เจี่ยไม่พอใจ เพื่อนร่วมชั้นทุกคนเกรงอกเกรงใจต่อเขา แต่หลี่โม่กลับกล้าที่จะพูดกับแบบนี้
“แกรนหาที่ตาย กล้าพูดอย่างนี้กับพี่เจี่ย”
สุนัขรับใช้ของพี่เจี่ยเริ่มโวยวายใส่หลี่โม่ขึ้นมา
พี่เจี่ยแกล้งทำเป็นท่าทางใจกว้าง และพูดว่า: “ช่างเหอะ ให้เขาโวยวายไปเถอะ ไม่กี่หมื่นเท่านั้นเอง เงินใช้จ่ายหนึ่งวันของฉันก็หลายแสนแล้ว”
“พี่ ห้าหมื่นนี้เป็นเงินที่นายหามาอย่างยากลำบาก ฉันรับไว้ไม่ได้”จาเจียเล่อละอายใจขึ้นมาในทันที และพูดกระซิบ
หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้ม: “ฉันไม่มีปัญหาทางการเงิน”
ในใจของจาเจียเล่อซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก เกือบเตรียมที่จะโอบกอดหลี่โม่แล้ว
ในเวลานี้ หญิงสาวที่แผนกต้อนรับเห็นหลี่โม่ ครั้งก่อน เธอก็เคยต้อนรับหลี่โม่มาก่อนผู้จัดการบอกกับเธอว่าตราบใดที่อีกฝ่ายมาที่โรงแรม เครื่องดื่มราคาแพงแค่ไหน ก็ต้องเสิร์ฟออกมา
ในครั้งนี้ เธอไม่ได้ขอคำแนะนำจากผู้จัดการ แต่เพิ่มอีกหนึ่งรายการในเมนูและต่อท้ายด้วยคำว่าฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
หลังจากที่พี่เจี่ยและคนอื่นๆกลับถึงห้องวีไอพี พวกเขาก็ตกตะลึง นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย ทำไมทุกโต๊ะ ถึงได้มีเหล้าเพิ่มมากมายขนาดนี้?
หรือว่า เข้าผิดห้องวีไอพีเหรอ!