จักรพรรดิมังกร - บทที่ 792 เวลาที่ล้ำค่าที่สุด
“พวกแกทำอะไรกัน หยุดเดี๋ยวนี้!” จางกวงโปรู้ว่าเรื่องราวแก้ไขไม่ทันแล้ว จึงอยากจะทำให้เรื่องเล็กที่สุด เลยรีบส่งเสียงออกไป
ทีนี้คุณชายหวังถึงกับงง เขามองจางกวงโปด้วยสีหน้าแปลกใจ ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นอะไรอยู่ จึงพูดว่า “ผู้อำนวยการ คุณเป็นอะไรไป คุณกลัวมันทำไมครับ?”
“นายหุบปากซะ”
จางกวงโปโมโหจนถึงที่สุดแล้ว ถ้าหากว่าเขาไม่กลัว นั่นก็แปลกแล้ว คณบดีโหวถึงกับโทรหาเขาให้คำเตือนสุดท้ายกับเขาแล้ว ถ้าหากว่าเขาไม่ร้อนรนก็แปลกแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าคุณชายหวัง เขาก็ไม่มีทางเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ ตอนนี้ในใจเขาเกลียดคุณชายหวังอย่างที่สุดแล้ว ถ้ารู้แต่แรกว่าจะเป็นแบบนี้ เขาก็ไม่เข้ามายุ่งด้วยแล้ว
“ผู้อำนวยการ คุณเป็นอะไรไปครับ?” คุณชายหวังยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายไม่กล้าคุยกับเขาด้วยซ้ำ ทำไมพริบตาเดียวก็เปลี่ยนไปมากขนาดนี้
อยู่ดีๆก็ถูกต่อว่ามาทีหนึ่ง ในใจเขาเองก็ไม่พอใจเหมือนกัน
จางกวงโปไม่มีอารมณ์จะพูดไร้สาระกับเขามาก เขารีบผลักพวกรปภ.พวกนั้นออกทันที
แต่ว่าเขาเพิ่งจะผลักรปภ.ออกไม่กี่คน ภาพที่เห็นตรงหน้า ทำเอาเขารู้สึกไม่ดีในทันที ตอนนี้หลี่โม่กำลังยืนอยู่ตรงกลาง ไม่เป็นอะไรเลยสักนิด
แต่รปภ.พวกนั้นจู่ๆร่างกายก็อ่อนตัว ตัวตรงล้มลงกับพื้น
จางกวงโปมองตาค้าง แต่เมื่อเขาเห็นว่าหลี่โม่ไม่เป็นอะไรเลยสักนิด เขาถึงได้เช็ดเหงื่อออก ยังดีที่อีกฝ่ายไม่บาดเจ็บ ไม่อย่างนั้นเขาตายแน่
จาเจียเล่อเองก็ตะลึงไปเช่นกัน เขาคิดไม่ถึงเลยว่าพี่หลี่จะต่อสู้เก่งขนาดนี้ เผชิญหน้ากับคนเยอะขนาดนี้แต่กลับไม่เป็นอะไรเลยสักนิด
“พี่หลี่ นายเก่งมากเกินไปแล้ว” จาเจียเล่ออดไม่ได้ที่จะกลายร่างเป็นแฟนคลับของหลี่โม่และพูดอย่างชื่นชม
คุณชายหวังขมวดคิ้วแน่น โดยเฉพาะตอนที่เขาเห็นว่าหลี่โม่ไม่เป็นอะไรเลยสักนิด ในใจของเขารู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก
จางกวงโปคิดถึงว่าหลี่โม่สนิทสนมกับคณบดีโหว จึงคิดว่าอีกฝ่ายจะต้องเป็นคนใหญ่คนโตแน่นอน ท่าทางการวางตัวของเขาจึงเปลี่ยนไปไม่น้อยในทันที และพูดว่า “คุณหลี่ครับ คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ผมมีตาหามีแววไม่ ดูไม่ออกว่าคุณหลี่เป็นใคร”
หลี่โม่พอเข้าใจอะไรอยู่บ้าง เห็นได้ชัดว่าโหวเต๋อหยางขู่อีกฝ่าย
คุณชายหวังอดไม่ได้ที่จะเข้าไปพูดว่า “ผู้อำนวยการ คุณเป็นอะไรไป คุณจะเกรงใจอะไรกับไอ้นี่กัน”
“หุบปาก ฉันไม่รู้จักนาย” จางกวงโปรีบตัดความสัมพันธ์กับคุณชายหวัง
อีกฝ่ายไม่รู้ว่าหลี่โม่เป็นใคร แต่ว่าในใจเขานั้นรู้ดีอย่างมาก
หลี่โม่คนนี้ เป็นคนที่เขามีเรื่องด้วยไม่ได้ อีกฝ่ายอย่างจะหาเรื่องตาย แต่เขานั้นไม่อยาก
ในตอนนี้เอง โหวเต๋อหยางได้มาถึงแล้ว เมื่อเขาเห็นสถานการณ์ในตอนนี้ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “จางกวงโปละ”
หลังจากที่จางกวงโปได้ยินเสียงของคณบดีโหว ตัวก็สั่นขึ้นมา เป็นไปตามที่คิด โหวเต๋อหยางมาจริงๆด้วย
ถ้าหากว่าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง เขาคงจะไม่กล้าเชื่อเลยว่านี่เป็นความจริง
“ผมอยู่นี่ครับ คณบดีโหว คุณมาได้ยังไงกันครับ” จางกวงโปรีบเข้าไปต้อนรับ
โหวเต๋อหยางเห็นท่าทางยิ้มแย้มของจางกวงโป อารมณ์เสียขึ้นมาในทันที เขาถีบเข้าไปที่ตัวของอีกฝ่าย
โหวเต๋อหยางถีบออกมาอย่างกะทันหัน จางกวงโปตอบสนองไม่ทัน ถึงแม้ว่าตัวเขาจะตอบสนองทัน ก็ไม่กล้าหลบ ยังไงซะอีกฝ่ายก็เป็นถึงหัวหน้าของเขา
จางกวงโปเจ็บจนถอยหลังไปหลายก้าว คุณชายหวังเองก็รู้ชื่อเสียงของโหวเต๋อหยาง อีกฝ่ายเป็นถึงหมอเทวดา เขาอยากจะทำความรู้จักสักหน่อย เผื่อวันไหนบังเอิญป่วยหนัก และได้อีกฝ่ายมาช่วยทำการรักษา แบบนั้นก็แทบจะไม่ต้องเครียดแล้ว
เพราะการที่โหวเต๋อหยางออกมารักษาหนึ่งครั้งนั้นแพงมหาศาลมาก และการจะสามารถเชิญโหวเต๋อหยางได้ ก็ต้องดูอีกด้วยว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นใครฐานะอะไร
ถ้าหากว่าฐานะไม่สูงพอ ก็ไม่สามารถเชิญโหวเต๋อหยางมาได้
คุณชายหวังเดินยิ้มแย้มเข้าไปยื่นมือและพูดว่า “หมอเทวดาโหวครับ ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับคุณที่นี่ พ่อของผมนั้นเป็นเพื่อนเก่ากับคุณ”
โหวเต๋อหยางมองข้ามอีกฝ่าย เดินตรงไปตรงหน้าของหลี่โม่ และยื่นมือออกมา “คุณหลี่ครับ เจอกันอีกแล้ว อาการป่วยของลูกสาวคุณเป็นยังไงบ้างครับ?”
“ใช่สิ” หลี่โม่ยิ้มอ่อน “หายดีหมดแล้ว ต้องขอบคุณหมอเทวดาโหวจริงๆ”
หลังจากที่โหวเต๋อหยางได้ยินคำชมของหลี่โม่ ก็รู้สึกดีใจมาก สามารถถูกนายน้อยสำนักหลงเหมินชื่นชมได้ นี่เป็นเกียรติอย่างมาก ถ้าหากว่าเป็นคนอื่น อาจจะไม่มีโอกาสที่ดีแบบเขาอย่างนี้
จางกวงโปหายใจเข้าลึกๆทีหนึ่ง คณบดีโหวมายังโรงพยาบาลสาขาย่อยเพื่อหลี่โม่ นี่ก็น่าตกใจมากพอแล้ว แต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงเลยนั่นก็คือ คณบดีโหวจะซื่อสัตย์ต่อหลี่โม่ขนาดนี้
ในใจของคุณชายหวังไม่พอใจอย่างมาก ถ้าจากฐานะแล้วเขารวยกว่าหลี่โม่มาก ทำไมคณบดีโหวถึงได้นอบน้อมต่อหลี่โม่ แต่กลับมองข้ามไม่สนใจเขา
เพื่อพิสูจน์การมีตัวตนของตัวเอง คุณชายหวังจึงส่งเสียงไอออกมาทีหนึ่ง “หมอเทวดาโหวครับ”
“นายไม่สบายก็ไปซื้อยาซะ อย่ามาเกะกะแถวนี้” โหวเต๋อหยางพูดกับอีกฝ่ายและมองอย่างไม่ชอบใจ
เขาคุยอยู่กับคุณหลี่อยู่ดีๆ เขาไม่มีเวลาจะมาสนใจคุณชายหวังหรอกนะ
สีหน้าของคุณชายหวังอับอายอย่างที่สุด รอยยิ้มนิ่งค้างในทันที แต่ก็ไม่กล้าโมโห
“จางกวงโป โชคดีที่คุณหลี่ไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้น นายได้ซวยแน่” น้ำเสียงของโหวเต๋อหยางเย็นชามาก
เมื่อจางกวงโปได้ยินอย่างนี้แล้ว ก็แอบลูบหน้าอกทีหนึ่ง ยังดีที่คุณหลี่ต่อสู้เก่ง ไม่อย่างนั้น เขาได้ตายแน่ๆ
“ตอนนี้สามารถย้ายโรงพยาบาลได้มั้ย?” หลี่โม่พูดนิ่งๆ
เมื่อกี้หารือกันตั้งนานเพราะเรื่องนี้ ถ้ายังยื้อไว้แบบนี้อีก แม่ของจาเจียเล่ออาจจะหนักมากขึ้นอีกก็ได้
โหวเต๋อหยางหันหน้าไปต่อว่าจางกวงโป “ก่อนหน้านี้ฉันพูดกับนายว่ายังไง ต้องรักษาคนที่ป่วยหนักก่อน นายไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของฉันเลยใช่มั้ย?”
จางกวงโปตัวสั่นทีหนึ่ง ถึงแม้ว่าเขาจะถูกไล่ออกแล้ว แต่ในใจ เขาก็ยังเคารพและกลัวโหวเต๋อหยางเป็นอย่างมาก
“ช่างเถอะ ไม่ได้เป็นผู้อำนวยการของโรงพยาบาลนี้แล้ว เก็บของแล้วไปซะ” โหวเต๋อหยางโบกมือและพูด
จางกวงโปรู้สึกว่าทั้งชีวิตได้มืดมนไปหมดในทันที นี่มันไม่เหมือนกับที่เขาจินตนาการไว้อยู่สักหน่อย
คุณชายหวังกระสับกระส่ายในทันที เขารีบพูดกับโหวเต๋อหยางว่า “หมอเทวดาโหวครับ ลูกชายของผมยังอยู่ในห้องผู้ป่วยนะครับ”
“สถานการณ์ของลูกชายนาย ฉันสอบถามดูแล้ว แค่เป็นหวัดทั่วไปเท่านั้น และห้องพักผู้ป่วยเดิมทีนายก็แย่งคนอื่นมา กลับไปตอนนี้ ก็ยังปกติดี” โหวเต๋อหยางพูดเสียงเย็นชา
เดิมทีคุณชายหวังยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าไม่พอใจของโหวเต๋อหยางแล้ว ก็หุบปากในทันที
หลังจากที่คุณชายหวังออกจากห้องพักผู้ป่วยให้แล้ว จาเจียเล่อถึงได้ให้คุณแม่ไปที่ห้องฉุกเฉิน
จาเจียเล่อกังวลมาก ตอนนี้เวลาที่ล้ำค่าที่สุดเหลือไม่มากแล้ว เขากังวลว่าคุณแม่จะอดทนผ่านพ้นวันนี้ไปไม่ได้
หลี่โม่พูดกับโหวเต๋อหยางว่า “รบกวนนายช่วยฉันสักอย่าง”
“คุณหลี่ครับ คุณวางใจได้ ผมเข้าใจความหมายของคุณ ผมเองก็จะเข้าไปห้องฉุกเฉินเป็นแพทย์ผ่าตัดเองครับ” โหวเต๋อหยางพูด