จักรพรรดิมังกร - บทที่ 793 ทวงหนี้
เมื่อได้ยินคำพูดของโหวเต๋อหยางแล้ว หลี่โม่ก็สบายใจ
ส่วนจาเจียเล่อนั้นก็ยิ่งตื่นเต้นมาก ชื่อเสียงของหมอเทวดาโหว เขาเองก็เคยได้ยินมา เขาไม่คิดเลยว่าเกียรติของหลี่โม่จะสูงศักดิ์ขนาดนี้ ถึงได้สามารถให้หมอเทวดาโหวเป็นแพทย์ผ่าตัดให้ได้
ต้องรู้ไว้ว่า หมอเทวดาโหวนั้นรับผู้ป่วยเพียงวันละหนึ่งคนเท่านั้น และค่ารักษาก็แพงมากด้วย ได้หมอเทวดาโหวรักษา นอกจากอาการป่วยหนักที่พิเศษแล้ว ที่เหลือหมอเทวดาโหวนั้นสามารถรักษาได้หมด
“พี่หลี่ นายดีกับฉันมากเลย ต่อไปฉันจะมองนายเป็นพี่ชายแท้ๆของฉันแน่นอน” จาเจียเล่อดีใจจนแทบจะคุกเข่าให้กับหลี่โม่
หลี่โม่ยื่นมือออกไป ถึงได้ขวางอีกฝ่ายไว้ได้ เขาพูดอย่างหมดคำพูดว่า “พอแล้ว เวลาอย่างนี้แล้ว นายกับฉันยังจะมาคุยเรื่องนี้กันทำไมละ”
จาเจียเล่อดีใจมากที่ตอนนั้นเชื่อใจหลี่โม่ ไม่อย่างนั้น ถ้าย้ายโรงพยาบาล เปอร์เซ็นต์การรักษาให้สำเร็จนั้นก็จะต่ำลงอย่างมาก
รอประมาณครึ่งชั่วโมง โหวเต๋อหยางถึงได้เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน ดูแล้วอาการป่วยนี้จะสาหัสมาก ตอนนี้หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อแล้ว
“อาการผู้ป่วยดีขึ้นแล้ว” โหวเต๋อหยางพูดกับญาติผู้ป่วย
สีหน้าเครียดกังวลของจาเจียเล่อหายไปในพริบตา เขาขอบคุณโหวเต๋อหยางไม่หยุด
โหวเต๋อหยางนั้นก็ไม่ได้โมโห เพราะความรู้สึกของญาติผู้ป่วย เขาก็พอเข้าใจได้ เพราะอย่างนี้มันปกติเป็นอย่างมาก
จาเจียเล่อเดินเข้าไปกับหลี่โม่ บนเตียงผู้ป่วยมีหญิงสาววัยกลางคนนอนอยู่ คงจะเป็นเพราะการรักษานั้นสำเร็จดี สีหน้าของคนป่วยจึงดูดีขึ้นมาก
“ลูกชาย นายมาได้ยังไงกัน” เมื่อผู้ป่วยเห็นจาเจียเล่อ ก็ตกตะลึงอย่างมาก และถามออกมา
จาเจียเล่อเกาหัวพูดว่า “แม่ครับ แม่ป่วย ทำไมผมจะไม่มาเยี่ยมละ?”
“นายไม่ต้องให้แม่รักษาแล้ว แม่รู้ว่าแม่มีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแล้ว” แม่ของจาเจียเล่อถอนหายใจทีหนึ่ง
จาเจียเล่อยิ้มอย่างหมดหนทาง “แม่ครับ แม่พูดมั่วอะไรเนี่ย อาการป่วยของแม่หายดีแล้วครับ”
“หายแล้ว?” แม่ของจาเจียเล่อตกใจมาก พูดอย่างกังวลนิดหน่อยว่า “ค่ารักษาแพงมากเลยใช่มั้ย?”
“ก็ไม่แพงครับ ไม่กี่หมื่นละมั้ง” จาเจียเล่อกลัวว่าแม่ได้ยินราคาที่แท้จริงแล้วจะคิดมาก จึงได้จงใจพูดราคาต่ำลงมา ขณะเดียวกันก็ไม่ให้แม่ดูออกว่ากำลังโกหก
แม่ของจาเจียเล่อขมวดคิ้วเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ากำลังเสียดายเงินก้อนนั้น จาเจียเล่อพูดปลอบใจว่า “แม่ครับ สบายใจได้ เงินแค่นั้นเดี๋ยวก็หากลับมาได้ ขอเพียงแค่แม่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”
เดิมทีแม่ของจาเจียเล่อนั้นก็อารมณ์ไม่ค่อยดีนัก แต่ดีที่จาเจียเล่อนั้นล้อเล่นอยู่บ่อยๆ แม่ของจาเจียเล่อถึงได้หัวเราะออกมา
หลี่โม่แนะนำตัวกับแม่ของจาเจียเล่อง่ายๆสักหน่อย จากนั้นก็ทักทายเล็กน้อย
เนื่องจากอาการป่วยของแม่จาเจียเล่อเพิ่งดีขึ้น จึงไม่สามารถรีบร้อนออกจากโรงพยาบาล ต้องอยู่ดูอาการที่โรงพยาบาลสักพักก่อน
เพื่อเป็นการขอบคุณหลี่โม่ จาเจียเล่อพูดว่า “พี่หลี่ ฉันเลี้ยงข้าวนายสักมื้อละกัน นายช่วยฉันมากขนาดนี้ ฉันจะต้องขอบคุณนายสักหน่อยถึงจะได้”
เดิมทีแล้วหลี่โม่อยากจะปฏิเสธ แต่ว่าจาเจียเล่อพยายามจะเลี้ยงข้าวตัวเองให้ได้ หลี่โม่ถึงได้ไม่สามารถปฏิเสธอีกครั้งได้
เมื่อมาถึงร้านอาหารเล็กๆ จาเจียเล่อถึงได้พูดอย่างเป็นทุกข์ว่า “พี่หลี่ ตัวผมก็มีเงินไม่มาก หวังว่านายจะไม่รังเกียจนะ”
หลี่โม่พูดยิ้มๆ “ฉันไม่รังเกียจอยู่แล้ว จริงแล้วบรรยากาศร้านอาหารนี้ก็ไม่เลว ฉันไม่ได้เรื่องมากขนาดนั้น”
เมื่อจาเจียเล่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว ความรู้สึกผิดในใจถึงได้ลดน้อยลงอย่างมาก
ในตอนที่ทั้งสองคนกินข้าวอยู่ มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา คนพวกนั้นกวาดมองรอบข้าง สุดท้ายก็หยุดสายตาลงที่ตัวของจาเจียเล่อ
คนพวกนั้นเดินเข้าไปด้วยสีหน้าเย็นชา พวกเขานั่งลงที่ข้างกายของจาเจียเล่อ และกอดคอของจาเจียเล่อไว้ พูดว่า “ให้ฉันหานายเจอจนได้”
“พวกนายเป็นใคร” จาเจียเล่อชะงักไปเล็กน้อย และถามออกไป
ชายคนนั้นยิ้มชั่วร้าย “นายดูอันนี้ก็รู้เอง”
จาเจียเล่อรับกระดาษมา บนนั้นมีลายเซ็นของเขา ตัวสำคัญสองตัวเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ยืมเงิน เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาถึงนึกขึ้นได้ว่าเคยมีการยืมเงินจริงๆ
ชายคนนั้นยิ้ม “ทีนี้นายเข้าใจแล้วใช่มั้ย”
สีหน้าของจาเจียเล่อมีความอึดอัดเล็กน้อย ยิ้มแห้งพูดว่า “คือ คุยไว้ว่าช้าสุดสิ้นเดือนไม่ใช่หรอ ตนนี้ยังมีเวลาอีกสองวัน”
“พวกเรามาเร่งนาย คืนมาก่อนครึ่งหนึ่ง” ชายคนนั้นเลียริมฝีปาก หยิบเอาถั่วลิสงบนโต๊ะขึ้น เหมือนว่าทั้งโต๊ะนี้เขาเป็นคนสั่งมาซะอย่างนั้น
หลี่โม่พูดอย่างไม่เข้าใจว่า “นายยืมเงินทำไมไม่ยืมจากสถานที่ทางการละ?”
เขาดูออกได้ไม่ยาก คนพวกนั้นไม่ต่างอะไรจากนักเลงในพื้นที่เลยสักนิด เขารู้สึกหดหู่มาก อีกฝ่ายยืมเงินอย่างน้อยก็ยืมจากที่ทางการสิ ยืมเงินคนพวกนั้น ค่อนข้างที่จะไม่สมเหตุสมผลเลย
“ฉันเองก็ไม่มีทางเลือก” จาเจียเล่อยิ้มอย่างเบื่อหน่าย “ตอนนั้นฉันก็กดดันจนบ้าแล้ว ใครจะไปรู้ว่ายังขาดเงินเยอะขนาดนั้น”
“ไอ้หนุ่ม นายเป็นใคร ใครบอกว่าพวกเราไม่ทางการกัน? พวกเรามีบริษัทนะ” ชาคนนั้นไม่พอใจในทันที แล้วก็เอาใบสัญญาที่ประทับตราอย่างเป็นทางการออกมาพูด
“นายดูถูกพวกเรางั้นหรอ ถ้าหากว่านายดูถูกพวกเรา พวกเราก็ไม่พูดมาก รับประกันว่าหมัดเดียว ทำเอานายอัมพาตครึ่งซีกแน่นอน”
ชายหนุ่มคนอื่นก็พูดตามด้วย
“พี่ครับ เขาดื่มเยอะไปหน่อย พวกพี่อย่าใส่ใจเลยนะครับ” จาเจียเล่อพูดขอโทษคนพวกนั้นแทนหลี่โม่
คนนั้นไม่ให้เกียรติจาเจียเล่อ แต่กลับพูดข้อตกลงอย่างหนักมาว่า “ตอนนี้ไม่เอาคืนครึ่งหนึ่งแล้ว แต่จะเอา 70%”
“อะไรนะ?” สีหน้าของจาเจียเล่อเปลี่ยนไปและพูดอย่างตกใจ
อย่าว่าแต่ 70% เลย แม้แต่ 50% เขาก็คืนไม่ไหว ตอนนี้เขาไม่มีเงินสักบาท เขาสนใจแค่สิ่งตรงหน้า ลืมที่จะให้หนทางกับตัวเองไปแล้ว
“อย่ามาเล่นไม้นี้กับพวกเรา เงินพวกนี้ ห้ามขาดสักนิด ขาดไม่ได้เด็ดขาด” หนุ่มใหญ่หยิบเอามีดพกออกมาเล่นและพูดออกมา
“ผมไม่มีเงิน” จาเจียเล่อถอนหายใจ พูดเสียงเบา “แต่ว่าพวกพี่ให้เวลากับผมไม่กี่วันได้มั้ย วันมะรืนผมเอาให้พวกพี่”
“ให้เวลานาย? แล้วใครจะให้เวลาพวกเรา?” คนพวกนั้นเยาะเย้ย และปฏิเสธคำขอของอีกฝ่าย
จาเจียเล่อแทบจะสติแตกแล้ว คนพวกนี้เห็นได้ชัดเลยว่าเกินไปสักหน่อย นี่มันเป็นการรังแกกันชัดๆ
“คือ ตอนนี้ผมก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว” จาเจียเล่อพูดอย่างปวดหัวมาก
ชายคนนั้นยิ้มชั่วร้าย “วิธีก็ยังมีอยู่ เอามือนายมาข้างหนึ่ง”
จาเจียเล่อเหงื่อแตกในทันที สุดท้ายก็กัดฟันพูดว่า “ตกลง”
ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ถ้าหากว่าอย่างนี้สามารถยืดเวลาไปได้ เขาคิดว่าคุ้ม ก็ยังดีกว่าเสียชีวิตเข้าไปกับเรื่องนี้
ชายคนนั้นพูดเยาะเย้ยว่า “งั้นก็ไปกับพวกเราเถอะ”
“เดี๋ยวก่อน เขาติดหนี้พวกนายเท่าไหร่ ฉันคืนแทนเขาเอง” จู่ๆหลี่โม่ก็พูดออกมา เดิมทีเขาอยากจะขัดขวาง แต่ว่าจาเจียเล่อนั้นเป็นคนยืมเงินเอง ในเรื่องนี้ เขาไม่เห็นด้วย