จักรพรรดิมังกร - บทที่ 803 หลบหนี
เมื่อหลี่โม่รับรู้ถึงความอันตรายแล้ว ก็ไม่ได้สนใจลี่จุน ช่วยกู้หยุนหลันสำคัญกว่า ขณะเดียวกันเขาก็พูดกับลี่จุนว่า “นายมีช่องทางติดต่อมันมั้ย?”
“อันนี้ฉันมี”
“ตอนนี้นายติดต่อมันซะ ถามมันว่าอยู่ที่ไหน” หลี่โม่ใช้คำพูดแบบสั่งการ
ลี่จุนตกใจกลัวกับความน่าเกรงขามของหลี่โม่ เขากลัวว่าถ้าตัวเองไม่ทำตามที่หลี่โม่บอกก็จะมีจุดจบที่น่าเวทนา
“ฉันจะไปติดต่อมันเดี๋ยวนี้” ลี่จุนรีบร้อนหยิบเอาวิทยุสื่อสารออกมา
ต่อมาหลี่โม่ได้รู้ว่าหม่าติงกำลังกลับองค์กรนักฆ่า ลี่จุนบอกตำแหน่งให้กับหลี่โม่ ถึงได้จากไปอย่างหวาดกลัว
หลี่โม่เรียกรถแท็กซี่คันหนึ่ง ตอนที่เตรียมจะลงจากรถ คนขับรถคนนั้นเอาแต่คอยหันมาสำรวจมองหลี่โม่ เหมือนว่ามีเจตนาอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเขาก็จอดรถลงข้างทาง
“ไอ้หนุ่ม รีบส่งเงินในตัวทั้งหมดออกมาซะ” คนขับรถพูดด้วยสีหน้าดุร้าย
หลี่โม่เบื่อหน่ายมาก เมื่อคนซวยแล้ว ทำอะไรนิดหน่อยก็ซวยไปหมดจริงๆ แท็กซี่ยังเริ่มทำการปล้นตัวเองแล้ว เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “เงินอยู่ที่ตัวของฉัน นายมาเอาสิ”
คนขับรถแท็กซี่คนนั้นดีใจใหญ่ คิดว่าหลี่โม่ถูกตัวเองขู่จนกลัว เขารีบถอดเข็มขัดนิรภัยออก เขาเพิ่งจะเปิดประตู ก็ถูกหลี่โม่ต่อยหนึ่งหมัด หมัดนี้ทำเอาคนขับรถเซถอยหลังไปหลายก้าว
“ตอนนี้ถึงคิวฉันมาปล้นนายบ้างแล้ว” หลี่โม่แย่งกุญแจรถของอีกฝ่ายมา จากนั้นก็ขับรถจากไปภายใต้การมองของคนขับรถที่กำลังงุนงงอยู่
“เหี้ยเอ้ย” เมื่อคนขับรถแท็กซี่ได้สติ ก็ลองตบหน้าตัวเองหนึ่งที รู้สึกเหมือนตาลายจนเกิดภาพลวงตาแล้ว
นี่มันอะไรกัน เขาปล้นคนอื่น แต่ใครจะรู้ว่ากลับกลายเป็นว่าเขาถูกคนอื่นปล้นแทน
หลี่โม่ไม่มีเวลามาสนใจความรู้สึกของอีกฝ่าย แล้วมุ่งตรงมายังองค์กรนักฆ่า องค์กรนักฆ่าอยู่ที่อาคารแห่งหนึ่ง คล้ายๆกับอาคารบริษัท ไม่ใช่สถานที่ที่เก่าผุพังแบบนั้น
หลี่โม่คิดว่าพวกองค์กรนักฆ่าพวกนี้ต่างก็อยู่ที่อาคารที่พักเก่าๆผุพังซะอีก ไม่คิดเลยว่าแม้แต่รังของพวกนักฆ่าก็อยู่ดีขนาดนี้แล้ว
หม่าติงผลักกู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถง รู้สึกดีใจสุดๆ ครั้งนี้เขาได้ชนะบ้างแล้ว ถ้าหากว่าลูกพี่ใหญ่เห็น จะต้องชื่นชมเขาอย่างมากแน่นอน เขาอดไม่ได้ที่จะฝันหวานขึ้นมา
ในตอนที่หลี่โม่เข้าไป นักฆ่าหน้าประตูที่ใส่ชุดสูทได้ขวางเขาไว้ พวกเขาจำแต่คนหน้าคุ้นเคยเท่านั้น พวกเขาเห็นว่าหลี่โม่หน้าใหม่ ก็แสดงสีหน้าการป้องกันตัวออกมา
“นายมาทำอะไร” นักฆ่าสองคนนั้นถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “พวกนายมานี่ ฉันมีของดีจะให้พวกนายดู”
นักฆ่าสองคนนั้นมองตากัน จากนั้นก็ขยับเข้าไป ทันใดนั้นหลี่โม่ก็ต่อยเข้าใส่สองคนนี้คนละหมัด นักฆ่าสองคนนั้นก็ล้มตัวสลบลงกับพื้น
ในตอนที่หม่าติงกำลังจะมาถึงห้องทำงานของเทพสังหาร เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆที่โถงทางเดิน เขาอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมอง ไม่มองยังดี เมื่อหันไปมองก็ตกใจจนแทบฉี่ราด
ไม่คิดเลยว่าหลี่โม่จะไล่ตามมาแล้ว สีหน้าของเขาหวาดกลัว ตกใจจนรีบมาเคาะประตูห้องทำงานของลูกพี่ใหญ่
เทพสังหารกำลังออกกำลังกายแนบชิดอยู่กับเลขา แต่เมื่อตอนนี้ถูกรบกวน ในใจเขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เมื่อเขาออกมา สายตาก็ถูกกู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงดึงดูดทันที
รูปร่างของกู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงสามารถพูดได้ว่าสมบูรณ์ดีมาก ตีให้ตายเขาก็ไม่คิดว่ากู้หยุนหลันละเฉินเสี่ยวถงจะสวยงามขนาดนี้ เขาอดไม่ไหวถึงกับน้ำลายไหลออกมา
“เจ้านายครับ คุณสงบใจก่อน ไอ้หนุ่มนั่นมันไล่ตามมาแล้วครับ” เมื่อหม่าติงเห็นว่าความสนใจของลูกพี่สนใจผิดที่ จึงอดไม่ได้ที่จะกระแอมทีหนึ่ง
เทพสังหารขมวดคิ้ว เมื่อเขาเห็นหลี่โม่ที่กำลังก้าวเดินมา ใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มดูถูกออกมา “แค่นี้?”
หม่าติงพูดประจบ “ลูกพี่ครับ หลายปีมานี้คุณเอาแต่เก็บตัว หรือว่าวันนี้คุณจะเอาพลังที่แท้จริงออกมาแล้วใช่มั้ยครับ?”
ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นลูกพี่สู้กับคนสิบกว่าคน สถานการณ์ดุเดือด ในวันนี้เมื่อเขาเห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของลูกพี่แล้ว ก็เหมือนกับว่าเห็นภาพในวันนั้น
“ฉันเป็นถึงลูกพี่ใหญ่ขององค์กรนักฆ่า ผู้คนเรียกเทพสังหาร นายเอาชนะสองพี่น้องลี่เสียงเฟยได้ ทำให้ฉันชื่นชมอย่างมาก ฉันอยากจะเจอกับนายสักหน่อย” พูดจบเทพสังหารก็ตั้งท่าเตรียมต่อสู้ ในตอนที่โจมตีก็เกิดภาพลวงตา ทำให้ผู้คนจับต้องไม่ถูก
หม่าติงตกตะลึง แล้วก็กลายร่างเป็นแฟนคลับของเทพสังหารอีกครั้ง
เทพสังหารไม่พูดอะไรก็โจมตีเข้าใส่ ยังไม่ทันรอเขาลงมือ เวลาต่อมาก็เกิดภาพแหกหน้าขึ้น เพียงฝ่ามือเดียวของหลี่โม่ ก็ตบเทพสังหารล้มลงกับพื้น
หม่าติงตกตะลึง นี่มันอะไรกัน? เก่งได้ไม่เกินสามวิ เขาเห็นท่าทางของลูกพี่ใหญ่เก่งกาจขนาดนั้น ใครจะไปคิดว่าจะพ่ายแพ้รวดเร็วขนาดนี้
หลี่โม่พูดนิ่งๆว่า “ต่างก็เป็นแค่พวกอ่อนหัดทั้งนั้น”
สีหน้าของเทพสังหารอับอายมาก อย่างน้อยเขาก็เป็นถึงหัวหน้าขององค์กรนักฆ่า แต่กลับถูกเย้ยหยันแบบนี้ ในตอนที่เขามองยังหลี่โม่ ก็ต้องป้องกันตัวไว้
กำลังของหลี่โม่ ทำให้เขารู้สึกถึงความอันตราย เขาเริ่มหดหู่ ในเมืองฮ่าน มียอดฝีมือแบบนี้ได้ยังไง ในเมืองฮ่านคนที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ มีจำนวนน้อยมาก แต่ว่าหลี่โม่ เขานั้นไม่เคยได้ยินชื่อเสียงมาก่อนเลย
“กำลังของนายแข็งแกร่งมาก แต่ว่าฉันก็ไม่กลัวนาย” เทพสังหารพูด “ฉันยังมีไพ่ไม้ตายอยู่”
ในเวลานี้เอง เขาดีดนิ้วทีหนึ่ง จากนั้นในโถงทางเดินก็มีคนสิบกว่าคนโผล่มาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ คนพวกนี้ใส่ชุดพรางตัว หาตัวได้ไม่ง่าย
หลี่โม่รู้สึกถึงการมีตัวตนอยู่ของคนพวกนี้ตั้งแต่แรกแล้ว ถึงแม้ว่าลมหายใจการซ่อนตัวของคนพวกนี้จะอ่อนเบามาก แต่ก็ไม่สามารถหลบซ่อนสายตาของเขาไปได้
หม่าติงตกใจอย่างหนัก เขาอยู่ในองค์กรนักฆ่ามานานหลายปีขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้รับรู้ว่ามีคนหลบซ่อนตัวอยู่ในองค์การนักฆ่า ภาพนี้ ทำให้เขามีความรู้เพิ่มขึ้นมากเลย
หม่าติงถาม “ลูกพี่ครับ พวกเขาเป็นใครกัน”
“พวกเขาคือนักสู้ที่ฉันจ้างมาจากญี่ปุ่น ความสามารถของนักสู้พวกนี้ ต่างก็เป็นยอดฝีมือของพวกนักสู้ทั้งนั้น” เทพสังหารยิ้มชั่วร้าย “ไม่คิดเลยว่า ในที่สุดวันนี้ก็ได้ใช้งานสักที”
หลี่โม่เองก็ได้ยินคำพูดพวกนั้นที่เทพสังหารพูด เขาสำรวจดูนักสู้ญี่ปุ่นพวกนี้ นักสู้ญี่ปุ่นพวกนี้แต่งตัวชุดนักสู้ แล้วยังไว้หนวด ใส่รองเท้าไว้ ที่เอวมีดาบนักสู้แขวนไว้ เป็นท่าทางรูปแบบของนักสู้จริงๆ
“มอบหมายให้พวกนายละ” เทพสังหารพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป
“ลูกพี่ครับ คุณไม่อยู่ดูหน่อยหรอว่าเขาจะถูกจัดการยังไง?” หม่าติงพูดอย่างสงสัย
เทพสังหารไอแห้งทีหนึ่ง “ฉันไม่ดูละ ฉันยังมีธุระ”
เหตุผลที่เขาให้พวกนักสู้พวกนี้ออกมา ก็เพื่อยื้อเวลาให้กับเขาเพียงเท่านั้น เขาใช้เวลานี้ รีบหนีเอาตัวรอดก่อนแล้วค่อยว่ากัน
หม่าติงงุนงงไม่เข้าใจ แล้วยังอยู่ดูอย่างโง่ๆ นักสู้พวกนั้นชักดาบออกมาพุ่งใส่หลี่โม่ ทุกครั้งที่ฟาดฟัน ก็เป็นการทำให้ผู้คนไม่สามารถหลบได้ และความน่ากลัวการฟาดฟันของดาบนักสู้นั้นน่าตกใจมาก แม้แต่กำแพง ยังถูกฟันเป็นรอย